Apex Pro

บทความเกี่ยวกับ : มาส์กใต้ตา

apex โปรโมชั่นพิเศษ
Apex โปรโมชั่น 2
Apex โปรโมชั่น 1
ฟิลเลอร์ใต้ตา
Radiesse
Profhilo 25000

มาส์กใต้ตากับหัตถการแก้ใต้ตาดำ คล้ำ มีริ้วรอย เลือกอะไรดี ?
มาส์กใต้ตาหรือหัตถการแก้ปัญหาผิวรอบดวงตา เลือกแบบไหนดี ?
วิธีการแก้ไขปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาคล้ำ และดูแลผิวรอบดวงตาซึ่งมีความละเอียดอ่อน ในปัจจุบันจะมีทางเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่การบำรุงด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ เช่น การใช้แผ่นมาส์กใต้ตาเฉพาะจุดเพื่อฟื้นฟูใต้ตาให้สดใส ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่น โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ หรือการร้อยไหมเพื่อกระชับผิวใต้ตา ซึ่งแต่ละวิธีล้วนมีกลไก จุดเด่น และให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งคำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ “แล้วเราควรเลือกแบบไหน” มาส์กใต้ตาเพียงพอหรือไม่ หรือจำเป็นต้องพึ่งหัตถการ เพื่อแก้ปัญหาของเราได้ตรงจุด คุ้มค่า และตอบโจทย์กับการใช้งาน บทความนี้เปรียบเสมือนคู่มือที่จะพาทุกคนไปเจาะลึกถึงประสิทธิภาพ ข้อดีและข้อจำกัดของทั้งมาส์กใต้ตาและหัตถการยอดนิยมต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวิธีที่ใช่ และเหมาะสมกับปัญหาผิวรอบดวงตาของตัวเองได้ มาเช็กไปพร้อมกันได้เลย

ทำความเข้าใจปัญหาผิวรอบดวงตาที่พบบ่อย
ผิวบอบบางรอบดวงตา สามารถแสดงสัญญาณความกังวลได้หลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละปัญหาก็อาจมีสาเหตุและต้องการแนวทางการดูแลที่แตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนที่จะด่วนตัดสินใจเลือกวิธีแก้ปัญหาด้วยมาส์กใต้ตา หรือวิธีการใดก็ตาม การทำความเข้าใจลักษณะปัญหาที่เราเผชิญอยู่ เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เพื่อให้สามารถเลือกวิธีที่ตรงจุด โดยปัญหาผิวรอบดวงตาที่มักพบได้บ่อย ได้แก่

รอยคล้ำใต้ตา (Dark Circles)
หนึ่งในปัญหาผิวรอบดวงตาที่พบได้บ่อยและสร้างความกังวลใจให้ใครหลายคนคือรอยคล้ำใต้ตา ซึ่งทำให้บริเวณใต้ดวงตาดูหมองคล้ำ ไม่สดใส บดบังความเปล่งปลั่ง และอาจทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนล้ากว่าความเป็นจริง ปัญหานี้มีความซับซ้อนและสามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยที่หลากหลาย

• ลักษณะ บริเวณผิวหนังใต้ดวงตาปรากฏเป็นสีที่เข้มกว่าผิวส่วนอื่นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจมีเฉดสีแตกต่างกันไปตั้งแต่สีน้ำตาลคล้ำ สีเทาหม่น ไปจนถึงสีม่วงอมน้ำเงิน ทำให้ดูไม่สดใส โดยความเข้มของสีและขอบเขตอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล บางคนอาจคล้ำเป็นวงกว้าง ในขณะที่บางคนอาจเห็นชัดเฉพาะบริเวณหัวตาหรือร่องน้ำตา

• สาเหตุ อาจเกิดจากพันธุกรรม (ผิวบางเห็นเส้นเลือดฝอยชัด) เม็ดสีสะสม (จากการขยี้ตา ภูมิแพ้ แสงแดด) โครงสร้างกระดูก (เกิดเงาใต้ตา) การพักผ่อนน้อย หรือการไหลเวียนเลือดไม่ดี

ริ้วรอยเล็กๆ และร่องลึก (Fine Lines & Wrinkles)
ริ้วรอยและร่องลึกบริเวณใต้ตาเป็นสัญญาณแห่งวัยที่พบได้ทั่วไปและเป็นสิ่งที่หลายคนกังวล เนื่องจากทำให้ผิวใต้ดวงตาดูไม่เรียบเนียน สูญเสียความอ่อนเยาว์ และส่งผลให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้น ริ้วรอยเหล่านี้สามารถปรากฏได้ตั้งแต่เส้นบางๆ จางๆ ไปจนถึงร่องที่ลึกและชัดเจน

• ลักษณะ ปรากฏเป็นเส้นหรือรอยย่นบนผิวหนังใต้ดวงตา โดยริ้วรอยเล็ก ๆ จะมีลักษณะตื้นและเล็ก ส่วนร่องลึก จะมีความลึกและเห็นได้ชัดเจนกว่า บางครั้งอาจเห็นเป็นเส้นที่กระจายออกบริเวณหางตาซึ่งอาจลามมาถึงใต้ตาได้

• สาเหตุ เกิดจากกระบวนการชราตามธรรมชาติ (การสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน) การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ (เช่น การยิ้ม การหยีตา) ความเสียหายจากแสงแดด (รังสี UV ทำลายคอลลาเจน) ภาวะผิวขาดน้ำ การสูบบุหรี่ และปัจจัยทางพันธุกรรม

รอบดวงตาหย่อนคล้อยตามวัยหรือพันธุกรรม
ความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณรอบดวงตา เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มักมาพร้อมกับวัยที่เพิ่มขึ้น หรืออาจเป็นลักษณะทางพันธุกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสวยงามอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ดวงตาดูไม่สดใสเหมือนเดิม ดูเหนื่อยล้า หรือดูเศร้า และในบางกรณีอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้

• ลักษณะ ผิวหนังบริเวณเปลือกตาบนดูตกลงมาเป็นชั้น อาจหย่อนลงมาบดบังชั้นตาหรือขอบตา ทำให้ตาดูเล็กลง หรือดูเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา ในส่วนของใต้ตา อาจเห็นเป็นถุงใต้ตาที่นูนออกมา หรือผิวหนังที่ดูย่นและไม่กระชับ มีลักษณะเป็นเนื้อเกินที่ห้อยลงมา

• สาเหตุ เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังตามธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและกระชับ นอกจากนี้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืดที่ช่วยพยุงโครงสร้างรอบดวงตาก็อ่อนแอลงตามวัยได้ด้วย

ผิวใต้ตาแห้งกร้าน
ปัญหาผิวใต้ตาแห้งกร้านเป็นภาวะที่ผิวบริเวณรอบดวงตาขาดความชุ่มชื้น ซึ่งพบได้บ่อยและอาจสร้างความรู้สึกไม่สบายผิวได้ ผิวที่แห้งมักจะดูไม่สดใส หมองคล้ำ และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ริ้วรอยเล็กๆ หรือรอยย่นต่างๆ ดูชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้การแต่งหน้าเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเครื่องสำอางอาจเกาะเป็นคราบหรือไม่เรียบเนียน

• ลักษณะ ผิวบริเวณใต้ตาจะรู้สึกตึง อาจมีอาการคัน ลอกเป็นขุย หรือเป็นสะเก็ดเล็กๆ ผิวสัมผัสจะหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน ขาดความยืดหยุ่นและดูไม่เปล่งปลั่งเหมือนผิวที่มีสุขภาพดี

• สาเหตุ เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การขาดน้ำในร่างกาย สภาพอากาศที่แห้งและเย็น การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือบำรุงผิวที่รุนแรงเกินไป การเช็ดถูผิวบริเวณนั้นบ่อย ๆ โรคผิวหนังบางชนิด เช่น ผิวหนังอักเสบ ภูมิแพ้ หรือแม้แต่การพักผ่อนไม่เพียงพอ

ซึ่งปัญหาผิวบริเวณใต้ตาในแต่ละแบบ ก็จะมีข้อกำจัดในการบำรุงรักษาต่างกันออกไป ดังนั้นการจะเลือกว่าควรใช้มาส์กใต้ตา หรือหัตถการที่ออกแบบมาเพื่อการฟื้นฟูอย่างล้ำลึก แบบไหนเหมาะสมกว่า ควรสอบถามแพทย์ หรือประเมินความรุนแรงของอาการอย่างรอบคอบด้วย

มาส์กใต้ตา

มาส์กใต้ตา คืออะไร วิธีใช้ กี่นาที แบบไหนดีที่สุด

ผลลัพธ์หลังรับบริการ มาส์กใต้ตา ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

มาส์กใต้ตาคืออะไร ?
Eyes Mask หรือมาส์กใต้ตา คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเฉพาะจุด ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานกับผิวบอบบางบริเวณใต้ดวงตา มักมีลักษณะเป็นแผ่นแปะ (Patches) รูปทรงโค้งมนคล้ายพระจันทร์เสี้ยวหรือหยดน้ำ ช่วยให้สามารถวางทาบไปตามส่วนโค้งใต้ตาได้อย่างพอดี ช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น มุ่งเน้นจัดการปัญหาเฉพาะจุด เช่น ความหมองคล้ำ และอาการบวมใต้ตา

โดยแผ่นมาส์กใต้ตาเหล่านี้ จะถูกชุบหรืออัดแน่นไปด้วยสารสกัด รวมถึงส่วนผสมบำรุงเข้มข้นที่มีส่วนช่วยในเรื่องของใต้ตาดำหรือใต้ตาคล้ำ ซึ่งอาจจะมีคุณสมบัติหรือให้ผลลัพธ์แตกต่างกันไปบ้างตามสูตรของมาส์กใต้ตาแต่ละแบบ ที่สามารถเลือกใช้งานได้ตามปัญหาผิวที่พบ

มาส์กใต้ตาทำงานอย่างไร
หลักการทำงานของมาส์กใต้ตานั้นอาศัยกลไกหลัก คือการนำส่งสารบำรุงเข้มข้น ควบคู่ไปกับการสร้างสภาวะปิดกั้น (Occlusion) บนผิวหนังบริเวณใต้ตา เมื่อวางแผ่นมาส์กใต้ตาที่ชุ่มไปด้วยเซรั่มหรือเอสเซนส์ลงบนผิว แผ่นมาส์กเหล่านี้จะทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันชั่วคราว ช่วยลดการระเหยของความชุ่มชื้น ทั้งจากตัวเซรั่มในมาส์กเองและจากความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว (Trans-Epidermal Water Loss - TEWL)

ทำให้สารบำรุงต่าง ๆ ที่อยู่ในมาส์กใต้ตา เช่น ไฮยาลูรอนิกแอซิด วิตามินซี เปปไทด์ คาเฟอีน หรือสารสกัดจากธรรมชาติอื่น ๆ มีเวลาและโอกาสในการซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี มากกว่าการทาครีมหรือใช้เซรั่มบำรุงผิวทั่วไปที่อาจระเหยหรือถูกเช็ดออกไปได้ง่าย นอกจากนั้นการที่ผิวถูกปิดกั้น ยังอาจช่วยเพิ่มอุณหภูมิผิวเล็กน้อย ซึ่งส่งเสริมการดูดซึมสารสำคัญได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ผิวใต้ตาได้รับการบำรุงอย่างเร่งด่วนและตรงจุดตามคุณสมบัติของสารสกัดในมาส์กใต้ตาที่ใช้

ประเภทของมาส์กใต้ตา
การดูแลผิวรอบดวงตากลายเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนให้ความสำคัญ มาส์กใต้ตาจึงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป เพราะปัจจุบันมาส์กใต้ตาเหล่านี้ได้รับการพัฒนาให้มีหลากหลายประเภท ทั้งเนื้อสัมผัสและวัสดุ เพื่อเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาผิว ความสะดวกสบาย และรองรับกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของผู้ใช้ได้อย่างครอบคลุม เช่น

• มาส์กใต้ตาชนิดไฮโดรเจล (Hydrogel Eye Masks) เป็นมาส์กใต้ตาประเภทที่นิยมมากที่สุด มีลักษณะเป็นแผ่นเจลลี่นุ่มๆ ยืดหยุ่น เกาะติดผิวได้ดี ให้ความรู้สึกเย็นสบายขณะมาส์ก ช่วยเติมความชุ่มชื้นและลดอาการบวมได้ดีเยี่ยม

• มาส์กใต้ตาชนิดแผ่น (Sheet/Fabric Eye Masks) คล้ายกับแผ่นมาส์กหน้าทั่วไป แต่มีขนาดเล็กกว่า และมีรูปทรงโค้งรับใต้ตา โดยมาส์กใต้ตาแบบนี้นิยมทำจากวัสดุต่างๆ เช่น คอตตอน หรือเส้นใยอื่น ๆ ที่ชุ่มไปด้วยเอสเซนส์หรือเซรั่ม เน้นการส่งผ่านสารบำรุงสู่ผิว

• มาส์กใต้ตาชนิดครีม/เจล (Cream/Gel Eye Masks) มาในรูปแบบมาส์กใต้ตาที่มีเนื้อครีมหรือเจลเข้มข้น ที่ต้องทาทิ้งไว้บริเวณใต้ตาตามระยะเวลาที่กำหนด แล้วเช็ดหรือล้างออก (Wash-off) หรือบางชนิดอาจเป็นแบบทาทิ้งไว้ข้ามคืน (Leave-on/Sleeping Mask)

• มาส์กใต้ตาแบบซิลิโคน (Silicone Patches) มักไม่มีสารบำรุงในตัวเอง แต่ใช้มาส์กใต้ตาแปะทับอายครีมหรือเซรั่ม เพื่อช่วยล็อกความชุ่มชื้นและส่งเสริมการซึมซาบของผลิตภัณฑ์ที่ทาก่อนหน้า

• มาส์กใต้ตาแบบเจล/เม็ดบีดส์ (Gel/Bead Masks) สามารถนำมาส์กใต้ตาไปแช่เย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมและความอ่อนล้า หรือนำไปอุ่นเล็กน้อยเพื่อช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตา

มาส์กใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
มาส์กใต้ตาได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาผิวรอบดวงตาที่พบบ่อยหลายประการ โดยอาศัยการนำส่งสารบำรุงเข้มข้น ให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวโดยตรง แม้ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและผลิตภัณฑ์ แต่โดยทั่วไปแล้ว มาส์กใต้ตาสามารถช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้

• มาส์กใต้ตาช่วยเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก (Deep Hydration) ปัญหาผิวใต้ตาแห้งกร้าน ขาดน้ำ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ริ้วรอยเล็กๆ ดูชัดเจนขึ้น ซึ่งมาส์กใต้ตามักอุดมไปด้วยสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) กลีเซอรีน (Glycerin) จะทำหน้าที่เข้าไปช่วยเติมน้ำให้ผิวอย่างตรงจุด ทำให้ผิวใต้ตาดูอิ่มฟูและเรียบเนียนขึ้นหลังใช้• มาส์กใต้ตา ช่วยลดอาการบวม (Reducing Puffiness) สำหรับอาการบวมใต้ตาที่เกิดจากการสะสมของเหลวชั่วคราว เช่น หลังตื่นนอน มาส์กใต้ตาที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน (Caffeine) หรือสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนอย่างชาเขียว รวมถึงความเย็นจากตัวมาส์กใต้ตาเอง สามารถช่วยลดอาการบวม ทำให้ใต้ตาดูยุบลงและสดใสขึ้นได้

• มาส์กใต้ตาช่วยลดเลือนรอยคล้ำ (Brightening / Reducing Dark Circles) ปัญหาใต้ตาดำหรือใต้ตาคล้ำที่เกิดจากเม็ดสีสะสม หรือการไหลเวียนเลือดไม่ดี อาจดูจางลงได้ด้วยมาส์กใต้ตาที่มีส่วนผสมช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส เช่น วิตามินซี ไนอะซินาไมด์ อาร์บูติน หรือสารสกัดจากชะเอมเทศ อย่างไรก็ตามมาส์กใต้ตา อาจไม่สามารถช่วยลดเลือนรอยคล้ำที่เกิดจากโครงสร้างกระดูกได้มากนัก

• มาส์กใต้ตาช่วยช่วยให้ริ้วรอยดูจางลง (Smoothing Fine Lines) การเติมความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น ช่วยให้ผิวใต้ตาที่แห้งดูอิ่มฟูขึ้นชั่วคราว ทำให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากความแห้งกร้านดูตื้นและจางลง นอกจากนี้มาส์กใต้ตาบางสูตรอาจมีส่วนผสมกลุ่มเปปไทด์ (Peptides) หรือเรตินอล (Retinol) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาวได้ในระดับหนึ่ง

• มาส์กใต้ตาช่วยฟื้นฟูความสดใสและลดความอ่อนล้า (Revitalizing & Refreshing) การใช้มาส์กใต้ตา โดยเฉพาะชนิดไฮโดรเจลที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย สามารถช่วยปลอบประโลมผิวและมอบความรู้สึกสดชื่น ลดความรู้สึกอ่อนล้าบริเวณดวงตา ทำให้ดวงตาดูตื่นตัวและสดใสขึ้นได้

ส่วนผสมสำคัญที่ควรมองหาในมาส์กใต้ตา
เพื่อให้มาส์กใต้ตาสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกสูตรของมาส์กใต้ตาที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ (Active Ingredients) ซึ่งเหมาะสมกับปัญหาที่กังวลก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลากหลาย เช่น

มาส์กใต้ตาที่มีกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid)
กรดไฮยาลูรอนิกในมาส์กใต้ตา ทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) ที่มีความสามารถโดดเด่นในการดึงดูดและอุ้มน้ำไว้ในผิวได้ปริมาณมาก ส่งผลให้ผิวรอบดวงตาที่แห้งกร้านกลับมาชุ่มชื้น ดูอิ่มฟู และช่วยฟื้นฟูใต้ตา ให้สามารถลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ ที่เกิดจากภาวะขาดน้ำได้มากขึ้น

มาส์กใต้ตาที่มีคาเฟอีน (Caffeine)
คาเฟอีนในมาส์กใต้ตา มีคุณสมบัติเด่นในการช่วยให้หลอดเลือดฝอยบริเวณใต้ตาหดตัวลง พร้อมกับช่วยขับของเหลวส่วนเกินออกได้เล็กน้อย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ส่งผลโดยตรงในการช่วยลดอาการบวมหรือถุงใต้ตาที่เกิดจากการคั่งของน้ำหรือการไหลเวียนที่ไม่ดี และอาจช่วยให้รอยคล้ำที่เกิดจากเส้นเลือดที่ขยายตัวดูจางลงได้

มาส์กใต้ตาที่มีเซราไมด์ (Ceramides)
เซราไมด์เป็นลิปิดตามธรรมชาติที่เปรียบเสมือนโครงสร้างสำคัญของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) การเติมเซราไมด์ด้วยมาส์กใต้ตา จึงช่วยเสริมความแข็งแรงให้ปราการผิวรอบดวงตา ส่งผลให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ดียิ่งขึ้น ลดการสูญเสียน้ำ และปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง

มาส์กใต้ตาที่มีวิตามินซี (Vitamin C)
วิตามินซีในมาส์กใต้ตา ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินส่วนเกิน อันเป็นสาเหตุของรอยคล้ำ จึงช่วยลดเลือนรอยคล้ำที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสี ปกป้องผิวจากความเสียหายของแสงแดดและมลภาวะ พร้อมปรับให้ผิวรอบดวงตาโดยรวมดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น

มาส์กใต้ตาที่มีไนอะซินาไมด์ (Niacinamide - Vitamin B3)
ไนอะซินาไมด์ (วิตามินบี 3) เป็นส่วนผสมที่โดดเด่นในการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และยังสามารถยับยั้งการส่งผ่านเม็ดสีเมลานินขึ้นสู่ชั้นผิว ส่งผลให้มาส์กใต้ตาที่มีส่วนผสมนี้ช่วยลดเลือนปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองหรือมีรอยแดง พร้อมทั้งช่วยให้ผิวรอบดวงตาแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้น

มาส์กใต้ตา ที่มีเปปไทด์ (Peptides)
เปปไทด์ในมาส์กใต้ตาคือสายของกรดอะมิโนขนาดเล็กที่ทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณสำคัญ กระตุ้นให้เซลล์ผิวเร่งสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน หรือช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเล็กๆ ใต้ผิว ผลลัพธ์ที่ได้คือการช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ รอบดวงตา ดังนั้นหากใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ จะสามารถช่วยเพิ่มความกระชับยืดหยุ่นให้กับผิวบริเวณนั้นได้

มาส์กใต้ตา ที่มีเรตินอยด์ (Retinoids)
เรตินอยด์ซึ่งเป็นอนุพันธ์วิตามินเอในมาส์กใต้ตา มีความสามารถโดดเด่นในการเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ พร้อมส่งสัญญาณกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใหม่ เพื่อผิวแข็งแรงยืดหยุ่น ส่งผลให้สามารถลดเลือนริ้วรอยเล็กและร่องตื้น ปรับสีผิวหมองคล้ำให้สม่ำเสมอและสว่างขึ้น พร้อมมอบผิวสัมผัสที่เรียบเนียนยิ่งขึ้นผ่านการใช้งานมาส์กใต้ตา

มาส์กใต้ตา ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ (Natural Extracts)
สารสกัดจากธรรมชาติในมาส์กใต้ตา เช่น แตงกวาและว่านหางจระเข้ มอบความชุ่มชื้นพร้อมปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน ในขณะที่ชาเขียวช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ นอกจากนี้สารสกัดจากชะเอมเทศยังเข้ามาช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสี ทำให้รอยคล้ำใต้ตาแลดูจางลง เผยผิวรอบดวงตาที่สดใสและรู้สึกสบายขึ้นได้

ข้อดีของมาส์กใต้ตา
มาส์กใต้ตาถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม ด้วยคุณสมบัติอันหลากหลายที่พร้อมดูแลผิวบริเวณที่บอบบาง รวมถึงฟื้นฟูใต้ตาในเบื้องต้นได้ โดยมีข้อดีดังนี้

• มาส์กใต้ตาช่วยเติมความชุ่มชื้นเข้มข้นและรวดเร็ว ช่วยฟื้นฟูผิวใต้ตาที่แห้งกร้านให้กลับมาอิ่มฟูได้หลังใช้งาน
• มาส์กใต้ตาช่วยลดอาการบวมและถุงใต้ตาชั่วคราว ส่วนผสมและความเย็นจากมาส์กใต้ตาช่วยลดการสะสมของเหลว ทำให้ใต้ตาดูยุบลง
• มาส์กใต้ตาช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ตา เพราะมาส์กใต้ตาส่วนใหญ่มักมีสารสกัดหลายชนิด ที่มีส่วนช่วยปรับสีผิวและกระตุ้นการไหลเวียน ทำให้รอยคล้ำดูจางลง
• มาส์กใต้ตาช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง มีการเติมความชุ่มชื้นทำให้ผิวฟูขึ้น ริ้วรอยตื้นๆ จากความแห้งจึงดูเรียบเนียนขึ้น
• มาส์กใต้ตาใช้งานง่ายและสะดวกสบาย เพียงแค่แปะทิ้งไว้ ไม่ต้องล้างออก เหมาะกับการดูแลเร่งด่วน ทั้งยังสามารถพกพาง่าย สามารถนำติดตัวเพื่อไปใช้ได้ทุกที่
• มาส์กใต้ตามอบความรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น ความเย็นและสัมผัสของมาส์กใต้ตาในบางรุ่น จะช่วยปลอบประโลมผิวและลดความอ่อนล้าได้ดี

ข้อจำกัดของมาส์กใต้ตา
แม้ว่ามาส์กใต้ตาจะเป็นตัวเลือกในการฟื้นใต้ตา และช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาได้ดีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะการให้ความชุ่มชื้นและลดอาการบวมชั่วคราว แต่ก็มีข้อจำกัดสำคัญที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวที่ซับซ้อนหรืออยู่ในชั้นลึกได้ทั้งหมด การทำความเข้าใจข้อจำกัดเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

• มาส์กใต้ตาให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราว การลดบวม ลดคล้ำ หรือทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น มักเห็นผลชัดเจนหลังใช้ แต่ผลอาจไม่คงอยู่ยาวนานตลอดวันหรือหลายวัน
• มาส์กใต้ตาไม่สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยลึก ไม่สามารถแก้ไขริ้วรอยถาวร (Static Wrinkles) ที่เกิดจากการเสื่อมของคอลลาเจนหรือการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ ได้อย่างมีนัยสำคัญ
• มาส์กใต้ตาไม่สามารถแก้ปัญหาถุงใต้ตาจากไขมัน หากถุงใต้ตาเกิดจากไขมันที่ปูดนูนออกมา มาส์กใต้ตาไม่สามารถทำให้ไขมันนั้นยุบลงได้ อาจจำเป็นต้องอาศัยหัตถการเพื่อฟื้นฟูใต้ตาแทน
• มาส์กใต้ตาไม่สามารถแก้รอยคล้ำจากโครงสร้างหรือพันธุกรรม รอยคล้ำที่เกิดจากเงาของกระดูกเบ้าตาลึก หรือผิวบางเห็นเส้นเลือดชัดจากพันธุกรรม มาส์กใต้ตาอาจช่วยได้น้อยมาก
• มาส์กใต้ตาอาจเกิดการระคายเคืองหรือแพ้ ส่วนผสมบางอย่างหรือน้ำหอมในมาส์กใต้ตาอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ แสบ แดง หรือคัน ในผู้ที่มีผิวบอบบางได้
• มาส์กใต้ตาอาจสิ้นเปลืองหากใช้เป็นประจำ การใช้มาส์กใต้ตาทุกวันหรือบ่อยครั้ง อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาในระยะยาว
• มาส์กใต้ตาอาจสร้างขยะ (กรณีใช้แบบแผ่น) มาส์กใต้ตาแบบแผ่นส่วนใหญ่เป็นแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทำให้เกิดขยะทั้งจากตัวแผ่นมาส์กและบรรจุภัณฑ์
• มาส์กใต้ตาให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปตามคุณภาพและชนิดของสารสกัดที่ใช้ในแต่ละยี่ห้อ/สูตร
• มาส์กใต้ตาไม่สามารถทดแทนการดูแลพื้นฐานได้ การใช้มาส์กใต้ตาไม่สามารถทดแทนการพักผ่อนให้เพียงพอ การดื่มน้ำ การทาครีมกันแดด หรือการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพได้
• มาส์กใต้ตาอาจให้ความรู้สึกเหนอะหนะ เซรั่มหรือเอสเซนส์ที่เข้มข้นในมาส์กใต้ตาอาจทิ้งความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิวหลังลอกออกในบางผลิตภัณฑ์

มาส์กใต้ตาเหมาะกับใครบ้าง
มาส์กใต้ตาถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลผิวรอบดวงตาเบื้องต้น หรือแก้ปัญหาที่ไม่รุนแรง เช่น ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ หรือริ้วรอยเล็ก ๆ ทั้งยังมีความสะดวกสบาย ทำให้มาส์กใต้ตาเป็นที่นิยมและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนจำนวนมาก เช่น

• มาส์กใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีผิวใต้ตาแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ต้องการการเติมน้ำให้ผิวอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ผิวดูอิ่มฟูและสดใสขึ้น
• มาส์กใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดอาการบวมใต้ตาอย่างรวดเร็ว เช่น หลังตื่นนอน หลังร้องไห้ หรือทานอาหารรสเค็มจัด ต้องการให้ใต้ตายุบลงเพื่อความสดใส
• มาส์กใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตาจากความเหนื่อยล้า การพักผ่อนน้อยหรือการไหลเวียนไม่ดี ทำให้ใต้ตาดูหมองคล้ำ ต้องการความกระจ่างใสเร่งด่วน
• มาส์กใต้ตาเหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องริ้วรอยเล็กๆ ตื้นๆ (Fine Lines) โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดจากความแห้งกร้าน การมาส์กช่วยให้ผิวฟูขึ้น ทำให้ริ้วรอยเหล่านี้ดูจางลงชั่วคราว
• มาส์กใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ต้องการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า หรือก่อนวันสำคัญ เพื่อให้ผิวใต้ตาเรียบเนียน ชุ่มชื้น และกระจ่างใสขึ้น ทำให้แต่งหน้าติดทนและดูดีขึ้น
• มาส์กใต้ตาเหมาะกับผู้ที่เดินทางบ่อยครั้ง ต้องการฟื้นฟูผิวรอบดวงตาจากความเหนื่อยล้า ความกดอากาศ หรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
• มาส์กใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ต้องการการผ่อนคลายและปรนนิบัติผิวเป็นพิเศษ การมาส์กให้ความรู้สึกเย็นสบาย ช่วยลดความอ่อนล้าและมอบความรู้สึกสดชื่น
• มาส์กใต้ตาเหมาะกับผู้ที่ต้องการการบำรุงเพิ่มเติม นอกเหนือจากการใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาเป็นประจำ เพื่อเป็นการดูแลอย่างเข้มข้นเป็นครั้งคราว

มาส์กใต้ตา

มาส์กใต้ตา คืออะไร วิธีใช้ กี่นาที แบบไหนดีที่สุด

ผลลัพธ์หลังรับบริการ มาส์กใต้ตา ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

มาส์กใต้ตา VS หัตถการแก้ปัญหาผิวรอบดวงตาต่างกันอย่างไร ?
กลไกการทำงาน
• มาส์กใต้ตา มาส์กใต้ตาทำงานโดยส่งผ่านสารบำรุง (เช่น ไฮยาลูรอน, วิตามิน, สารสกัดธรรมชาติ) จากแผ่นมาส์กที่ชุ่มเซรั่ม ให้ซึมเข้าสู่ผิวหนังชั้นนอกบริเวณใต้ตา สารเหล่านี้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดอาการบวม หรือทำให้ผิวดูสดใสขึ้นชั่วคราว เป็นการบำรุงผิวจากภายนอกเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุดในระยะสั้น

• หัตถการแก้ปัญหาผิวรอบดวงตา หัตถการรอบดวงตา มักทำงานลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ไขมัน หรือกล้ามเนื้อ เพื่อแก้ปัญหาโครงสร้าง โดยมีหลากหลายหัตถการให้เลือก เช่น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ โปรแกรมเลเซอร์ การร้อยไหม หรือการผ่าตัดศัลยกรรม ตามสาเหตุของปัญหา ซึ่งอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันไป

การแก้ปัญหาผิว
• มาส์กใต้ตา เหมาะสำหรับแก้ปัญหาผิวรอบดวงตาที่ไม่รุนแรงและเป็นครั้งคราว เช่น อาการบวมเล็กน้อย ใต้ตาคล้ำชั่วคราว ผิวแห้ง หรือริ้วรอยตื้น ๆ โดยมาส์กใต้ตาช่วยเติมความชุ่มชื้นชั่วคราวแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ถุงใต้ตาแท้ หรือรอยคล้ำถาวรได้

• หัตถการแก้ปัญหาผิวรอบดวงตา ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่ชัดเจนและคงอยู่ถาวร เช่น รอยคล้ำ ถุงใต้ตา ริ้วรอยลึก และความหย่อนคล้อย เป็นการแก้ไขที่ตรงจุดกว่าสำหรับปัญหาเชิงโครงสร้าง เม็ดสี ไขมันสะสม หรือความเสื่อมของผิวบริเวณนั้น

ระดับการทำงาน
• มาส์กใต้ตา มาส์กใต้ตาออกฤทธิ์จำกัดอยู่เพียงผิวชั้นนอกสุด หรือชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เท่านั้น ซึ่งสารบำรุงที่อยู่ในมาส์กใต้ตาหรือเนื้อครีมสามารถซึมผ่านลงไปได้ในระดับตื้น ๆ หน้าที่หลักคือการให้ความชุ่มชื้น เติมสารอาหารแก่ผิวชั้นบน และปลอบประโลมผิวเพียงชั่วคราว

• หัตถการแก้ปัญหาผิวรอบดวงตา มักทำงานลงลึกไปถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นที่อยู่ของคอลลาเจนและอีลาสติน ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ชั้นกล้ามเนื้อ หรือในบางกรณีอาจช่วยในการปรับโครงสร้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาจากภายในสู่ภายนอก

ผลลัพธ์ที่ได้
• มาส์กใต้ตา ให้ผลลัพธ์ที่มองเห็นได้ค่อนข้างเร็วหลังใช้ โดยเฉพาะเรื่องความชุ่มชื้นและความรู้สึกสดชื่น ผิวอาจดูสว่างขึ้นเล็กน้อยและอาการบวมลดลง แต่ผลลัพธ์ของมาส์กใต้ตาเหล่านี้มักจะอยู่ได้ไม่นาน เป็นเพียงการปรับปรุงสภาพผิวชั่วคราว ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างผิวอย่างถาวรได้

• หัตถการแก้ปัญหาผิวรอบดวงตา ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า สามารถลดปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาคล้ำ ร่องลึก ถุงใต้ตา หรือยกกระชับผิวได้ค่อนข้างชักเจน ที่สำคัญผลลัพธ์ในการฟื้นฟูใต้ตามักจะอยู่ได้นานกว่า ซึ่งอาจยาวนานตั้งแต่หลักหลายเดือนไปจนถึงหลายปี ขึ้นอยู่กับประเภทของหัตถการและการดูแลตัวเองหลังทำ

มาส์กใต้ตา

มาส์กใต้ตา คืออะไร วิธีใช้ กี่นาที แบบไหนดีที่สุด

ผลลัพธ์หลังรับบริการ มาส์กใต้ตา ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ควรเลือกวิธีแก้ปัญหา ใต้ตาดำ ใต้ตาคล้ำ มีริ้วรอยใต้ตาอย่างไรดี
การเลือกวิธีแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำและริ้วรอยใต้ตาให้ได้ผลดีที่สุด หรือตัดสินใจว่าจะเลือกมาส์กใต้ตาหรือหัตถการฟื้นฟูผิวใต้ตาดี ควรพิจารณาจากสาเหตุ ความรุนแรงของปัญหา และผลลัพธ์ที่คาดหวัง ซึ่งใครที่กำลังสับสน และไม่รู้ว่าควรเลือกวิธีแก้ปัญหาแบบไหนดี หัวข้อนี้ Apex มีแนวทางการตัดสินใจในเบื้องต้นมาแชร์ให้ลองไปปรับใช้กันได้ ดังนี้

• วิเคราะห์ปัญหาและหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อจะได้รู้ว่าปัญหาที่เป็นควรเลือกมาส์กใต้ตาดีไหม
• ประเมินความรุนแรงของปัญหา เพราะมาส์กใต้ตาอาจไม่ได้ตอบโจทย์ทุกปัญหา
• พิจารณาเรื่องงบประมาณ เวลาพักฟื้น และความคาดหวัง
• ปรึกษาแพทย์หรือผู้ให้บริการ เพื่อประเมินแนวทางการทำหัตถการ หรือเลือกการแก้ปัญหาด้วยมาส์กใต้ตา

สรุปมาส์กใต้ตาตอบโจทย์การแก้ปัญหาผิวใต้ตาได้ไหม
แม้ว่ามาส์กใต้ตาสูตรต่างๆ ในปัจจุบันจะช่วยดูแลผิวรอบดวงตาได้ดีระดับหนึ่ง แต่ก็มักมีข้อจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานกว่าการบำรุงชั่วคราว หรือเมื่อต้องการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนกว่าแค่ความชุ่มชื้น เช่น รอยคล้ำฝังลึก หรือริ้วรอยที่ชัดเจน

ในขณะเดียวกันหัตถการทางการแพทย์ เช่น โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ หรือการร้อยไหม อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุดกว่าสำหรับปัญหาเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ตามการตัดสินใจเลือกวิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำหรือริ้วรอยที่ดีที่สุด ควรมาจากการพิจารณาความต้องการส่วนบุคคล ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ควบคู่ไปกับปัจจัยอื่น ๆ อย่างความสะดวก งบประมาณ และระดับความรุนแรงของปัญหา เพื่อให้ได้แนวทางที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาในการแก้ปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาคล้ำ หรือสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ค่ะ

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ มาส์กใต้ตา คืออะไร แก้ใต้ตาดำ วิธีใช้แบบไหนดีที่สุด,มาส์กใต้ตา หรือสอบถามรายละเอียด โปรโมชั่นพิเศษ หรือ หัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ

Apex

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

มาส์กใต้ตาหรือหัตถการ เลือกวิธีไหนแก้ปัญหาผิวรอบดวงตาดีที่สุด Apex เปรียบเทียบ ทั้งข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสม เพื่อช่วยคุณตัดสินใจฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน

1442
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
รับโปรโมชั่นพิเศษ
รับโปรโมชั่นพิเศษ
ปรึกษาฟรี
ปรึกษาฟรี
โทรสอบถามโปรโมชั่น
โทรสอบถามโปรโมชั่น