บทความเกี่ยวกับ : ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา , โบลดริ้วรอยใต้ตา
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง ต่างจากฟิลเลอร์ยังไง
บริเวณใต้ตาถือเป็นตำแหน่งบนใบหน้าที่พบปัญหาผิวได้ง่าย เช่น ริ้วรอยใต้ตา รอยเหี่ยวย่น ถุงใต้ตา และปัญหาตาดำคล้ำ เนื่องจากผิวใต้ตามีความบอบบาง ทำให้คนตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป ก็สามารถพบปัญหาริ้วรอยใต้ตาได้ ดังนั้นหัตถการลดเลือนริ้วรอยอย่าง การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา จึงได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณใต้ตาที่เห็นผลเร็ว เมื่อเทียบกับการใช้ครีมบำรุงผิวทั่วไป แต่ก่อนตัดสินใจฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ควรศึกษาข้อมูลเพื่อความปลอดภัย ในบทความนี้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโบลดริ้วรอยใต้ตา เช่น คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง ฉีดโบยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไหร่ อันตรายไหม และฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาต่างจากฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไร
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา คืออะไร ต่างจากฟิลเลอร์ยังไง
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลริ้วรอยใต้ตาเกิดจากอะไร
ก่อนที่จะไปรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา มารู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยใต้ตา เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้มีริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณใต้ตา ได้แก่
• อายุที่มากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังจะสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ส่งผลให้ผิวบางและมีริ้วรอยเพิ่มขึ้น
• ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวใต้ตาเป็นบริเวณที่บอบบางและมีต่อมไขมันน้อย ทำให้แห้งง่าย เมื่อขาดความชุ่มชื้น ผิวบริเวณนี้จะมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอย
• การแสดงอารมณ์ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ หรือการหรี่ตา ทำให้ผิวขยับบ่อยตามไปด้วย จึงเกิดริ้วรอย รอยย่น หรือริ้วรอยร่องลึก
• แสงแดดและรังสียูวี ผิวใต้ตาเป็นบริเวณที่บอบบาง เมื่อถูกทำร้ายจากแสงแดดและรังสียูวี ส่งผลให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นเร็วขึ้น
• การสูบบุหรี่ สารเคมีในบุหรี่ทำลายคอลลาเจนและทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ส่งผลให้ผิวแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
• การพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับไม่เพียงพอหรือความเครียดสะสม อาจทำให้ผิวใต้ตาดูหมองคล้ำและเกิดริ้วรอย
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา คืออะไร
การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา คือ การฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินเอ (Botulinum toxin A) เข้าไปที่บริเวณริ้วรอยใต้ตา รอยย่นใต้ตา หรือริ้วรอยรอบดวงตา ให้ดูตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียน โดยโบทูลินัมท็อกซินเอเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียชื่อว่า Clostridium Botulinum ซึ่งมีฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อลดลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อขยับน้อยลงตามไปด้วย
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาช่วยอะไรบ้าง
• ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาช่วยลดเลือนริ้วรอยใต้ตา รวมถึงรอยย่น รอยพับ บริเวณใต้ตา
• ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณรอบดวงตาให้ดูจางลง
• ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาและผิวรอบดวงตาเรียบเนียนขึ้น
• ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาช่วยชะลอการเกิดใหม่ของริ้วรอย และไม่ทำให้เป็นริ้วรอยร่องลึก
• ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้นเมื่อแสดงสีหน้า โดยเฉพาะเวลายิ้มหัวเราะ
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาใช้กี่ยูนิต
ปริมาณยูนิตของการฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัญหาริ้วรอยของแต่ละบุคคล ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์ปัญหาและประเมินให้เหมาะสม อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วปริมาณที่ใช้ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา จะอยู่ที่ประมาณ 2-4 ยูนิตต่อข้าง รวมเป็นประมาณ 4-8 ยูนิต สำหรับทั้งสองข้าง
ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณยูนิตที่ใช้ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ได้แก่
• ความลึกของริ้วรอย หากริ้วรอยมีความลึกมาก อาจต้องใช้ยูนิตมากกว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
• ความยืดหยุ่นของผิว ในบางคนที่ผิวยังมีความยืดหยุ่นดี อาจใช้ปริมาณน้อยกว่าคนที่มีผิวสูญเสียความยืดหยุ่นมากขึ้น
• การตอบสนองของกล้ามเนื้อ แพทย์จะพิจารณาการตอบสนองของกล้ามเนื้อใต้ตาเพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม
เนื่องจากบริเวณใต้ตามีความบอบบางมาก การฉีดโบควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำหัตถการ
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตากี่วันเห็นผล
การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาโดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 3-7 วัน หลังจากการฉีดโบ โดยริ้วรอยจะค่อย ๆ จางลง เมื่อกล้ามเนื้อใต้ตาคลายตัวชั่วคราว และเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนที่สุดภายใน 10-14 วัน หลังการฉีดโบ ซึ่งเป็นช่วงที่กล้ามเนื้อคลายตัวเต็มที่ และริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาอยู่ได้นานไหม
การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาโดยทั่วไปจะให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
• สภาพผิวและการตอบสนองของร่างกาย หลังฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาแต่ละคนอาจตอบสนองต่อตัวยาแตกต่างกัน บางคนอาจเห็นผลนานกว่า 4 เดือน แต่บางคนอาจเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อเร็วกว่า
• ปริมาณที่ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ปริมาณยูนิตที่ใช้และความเหมาะสมของการฉีดโบก็มีผลต่อระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่
• การดูแลหลังการฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา การปฏิบัติตัวและดูแลผิวหลังการฉีด เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัด การนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด จะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ได้นานขึ้น
หลังจากผลลัพธ์เริ่มลดลง กล้ามเนื้อจะกลับมาทำงานตามปกติ และริ้วรอยอาจกลับมาอีกครั้ง การฉีดโบซ้ำอย่างต่อเนื่องสามารถช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดโบ เพื่อเว้นระยะห่างการฉีดโบที่เหมาะสม ป้องกันเกิดอาการดื้อโบหลังฉีดโบหลายครั้ง
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตายี่ห้อไหนดี
การเลือกยี่ห้อฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตานั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความทนทานต่อผลลัพธ์หลังการฉีดโบ ยี่ห้อฉีดโบที่ได้รับความนิยมมีดังนี้
1.Allergan เป็นโบต้นตำรับจากสหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยใต้ตา ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
2.Dysport เป็นโบจากยุโรปที่กระจายตัวได้ดีกว่าในเนื้อเยื่อ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการผลลัพธ์เป็นธรรมชาติเช่นใต้ตา ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-6 เดือนเช่นกัน
3.Xeomin เป็นโบท็อกซ์จากเยอรมัน จุดเด่นคือไม่มีโปรตีนเจือปนซึ่งอาจลดโอกาสการดื้อโบท็อกซ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ฉีดโบมานานหรือมีความเสี่ยงต่อการดื้อยา
4.Nabota เป็นโบจากเกาหลีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในไทยช่วงระยะหลัง เนื่องจากมีราคาไม่แพงมากและมีผลลัพธ์ที่ดี
ก่อนตัดสินใจเลือกยี่ห้อฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาใดก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดโบ เพราะผลลัพธ์ของแต่ละยี่ห้ออาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาราคาเท่าไหร่
ราคาการฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ ปริมาณฉีดโบที่ใช้ และคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ให้บริการ ทำให้มีราคาจะต่างกันไปตามปัจจัยเหล่านี้ อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา รวมถึงฉีดโบถุงใต้ตา เพื่อประเมินความเหมาะสมในการฉีดและปริมาณที่ต้องใช้ เนื่องจากราคาขึ้นอยู่กับจำนวนยูนิตของโบที่ฉีดและยี่ห้อที่ใช้ฉีดโบ
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาที่ไหนดี
การเลือกคลินิกฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ปัจจัยที่ควรพิจารณามีดังนี้
1.คลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีใบอนุญาต
ควรเลือกสถานที่ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขและมีความน่าเชื่อถือ โดยสามารถตรวจสอบใบอนุญาตได้จากเว็บไซต์ของคลินิกหรือสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนทำการรักษา
2.เลือกคลินิกที่มีแพทย์มีประสบการณ์
การฉีดโบต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดโบโดยเฉพาะบริเวณใต้ตา เพราะเป็นบริเวณที่มีความบอบบางและเสี่ยงต่อผลข้างเคียงมาก
3.ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ฉีดโบเป็นของแท้และผ่าน อย.
ควรเลือกคลินิกที่ฉีดโบแท้จากผู้ผลิต ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เช่น Allergan, Dysport, Xeomin, หรือ Nabota ตรวจสอบได้โดยขอให้คลินิกแสดงกล่องและฉลากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ก่อนทำการฉีดโบ
4.รีวิวฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาและความน่าเชื่อถือ
การดูรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริงเป็นวิธีที่ดีในการตรวจสอบคุณภาพของคลินิก โดยสามารถค้นหารีวิวจากเว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, หรือเว็บไซต์ของคลินิก ที่มีรีวิวฉีดโบลดริ้วรอยจากผู้ใช้บริการจริง
5.ราคาและโปรโมชันฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา
แม้ราคาจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ไม่ควรเลือกคลินิกจากราคาที่ถูกเกินไป ควรดูที่ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยเป็นหลัก นอกจากนี้คลินิกหลายแห่งมักมีโปรโมชัน แต่ต้องระวังการฉีดโบปลอมจากคลินิกที่มีราคาต่ำเกินจริง
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาอันตรายไหม
การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาถือว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัย ถ้าดำเนินการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ แต่เนื่องจากบริเวณใต้ตามีความบอบบางมาก จึงมีความเสี่ยงบางอย่างที่ควรรู้และควรระมัดระวัง
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดโบ
• อาการบวมและรอยช้ำหลังฉีดโบ บางคนอาจมีอาการบวม รอยแดง หรือรอยช้ำในบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักหายไปเองในไม่กี่วัน
• อาการตาแห้งหรือระคายเคืองหลังฉีดโบ หากโบแพร่กระจายไปยังกล้ามเนื้อรอบดวงตา อาจทำให้เกิดอาการตาแห้งหรือระคายเคืองได้
• กล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแรงหลังฉีดโบ ในบางกรณีที่ฉีดโบไม่ถูกต้อง อาจทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแรงชั่วคราว ส่งผลให้มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวของตา เช่น หนังตาตก
• ปัญหาการมองเห็นได้ไม่ชัดชั่วคราวหลังฉีดโบ การฉีดโบผิดตำแหน่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดชั่วคราว แต่พบได้น้อยมาก
• อาการแพ้หลังฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา บางคนอาจมีอาการแพ้ เช่น มีผื่นคัน หายใจลำบาก หรือบวม ซึ่งเป็นเหตุฉุกเฉินที่ต้องพบแพทย์ทันที
ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ต่างจาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อย่างไร
การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาและการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นสองวิธีที่ใช้ในการลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น แต่ทั้งสองวิธีนี้มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ดังนี้
1.หลักการทำงาน
• การฉีดโบ เป็นสารที่ช่วยคลายตัวของกล้ามเนื้อที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย เช่น ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ การหรี่ตาหรือการยิ้ม โดยทำให้กล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอยหยุดการทำงานชั่วคราว ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
• ฟิลเลอร์ (Filler) ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม เช่น ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ถูกฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มร่องลึกหรือบริเวณที่ผิวบางหรือสูญเสียปริมาตร เช่น ถุงใต้ตาหรือรอยลึก ทำให้ผิวดูฟูและเรียบเนียนขึ้น
2.การใช้สำหรับริ้วรอยใต้ตา
• การฉีดโบ มักใช้สำหรับลดริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ เช่น ริ้วรอยเส้นละเอียดที่เกิดจากการหรี่ตาหรือการแสดงอารมณ์ โบท็อกซ์จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดริ้วรอยเส้นเล็กๆ
• ฟิลเลอร์ มักใช้เพื่อแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาหรือร่องลึกใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและหมองคล้ำ ฟิลเลอร์จะเติมเต็มร่องลึกและปรับรูปทรงของบริเวณใต้ตาให้ดูอิ่มขึ้นและอ่อนเยาว์
3.ผลลัพธ์หลังฉีด
• การฉีดโบ ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์มักจะเริ่มเห็นภายใน 3-7 วัน และคงอยู่ประมาณ 3-4 เดือน เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
• ฟิลเลอร์ ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์มักจะเห็นได้ทันทีและสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ เหมาะสำหรับการเติมเต็มและแก้ไขร่องลึกใต้ตา
4.การแก้ไขปัญหาใต้ตาที่ต่างกัน
• การฉีดโบ เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยเส้นเล็กๆ จากการแสดงอารมณ์ แต่ไม่เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาถุงใต้ตาหรือร่องลึก
• ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาถุงใต้ตา ร่องลึกใต้ตา หรือการสูญเสียปริมาตรใต้ตา แต่ไม่ได้ช่วยแก้ไขริ้วรอยจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ
5.ความเสี่ยงและผลข้างเคียง
• การฉีดโบ อาจมีอาการบวม รอยช้ำ หรืออาการกล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแรงชั่วคราว หากฉีดไม่ถูกต้อง
• ฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวม รอยช้ำ หรือปฏิกิริยาต่อสารฟิลเลอร์ เช่น ก้อนใต้ผิวหนัง หรือฟิลเลอร์เคลื่อนที่ถ้าฉีดไม่ถูกวิธี
6.เหมาะสำหรับใครบ้าง
• การฉีดโบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเส้นละเอียดใต้ตาที่เกิดจากการแสดงอารมณ์
• ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีถุงใต้ตาหรือร่องลึกใต้ตา และต้องการปรับรูปทรงบริเวณใต้ตาให้ดูสดใสและเต็มขึ้น
สรุปว่าการฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาและฟิลเลอร์ใต้ตา มีความแตกต่างกัน คือ การฉีดโบเหมาะกับริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ ใต้ตาที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา ร่องลึก หรือใต้ตายุบลง ดังนั้นการเลือกวิธีใดขึ้นอยู่กับปัญหาและผลลัพธ์ที่คุณต้องการ
ข้อดีของการฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา
• การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาจะช่วยคลายกล้ามเนื้อใต้ตาที่ทำให้เกิดริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ เช่น การหรี่ตาหรือการยิ้ม เมื่อกล้ามเนื้อผ่อนคลาย ริ้วรอยเส้นละเอียดจะดูจางลง
• การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาสามารถช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยร่องลึกได้ เพราะช่วยลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยในอนาคต
• การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาผิวบริเวณใต้ตาจะดูเรียบเนียนและสดใสขึ้น ทำให้ดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม
• การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาสามารถช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและลดความเหนื่อยล้า ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนกว่าวัย
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้มีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยควรทำตามคำแนะนำดังนี้
1.ก่อนฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตางดใช้ยาบางประเภท
งดยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ยากลุ่ม NSAIDs (เช่น ibuprofen), วิตามิน E หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด เช่น โสม, น้ำมันปลา อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการฉีดโบ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออก
2.ก่อนฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีดโบ เพราะแอลกอฮอล์สามารถทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำได้
3.ก่อนฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตางดการบำบัดหรือการทรีทเม้นต์ที่ผิวหน้า
ควรงดทำเลเซอร์ ทรีทเม้นต์ผิวหน้า หรือการขัดผิว อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีดโบ เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการอักเสบของผิว
4.ก่อนฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรพักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนอย่างเพียงพอก่อนการฉีดโบ จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีหลังการรักษา และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
5.ก่อนฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรงดการออกกำลังกายหนัก
ควรงดออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงหนักอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพราะการออกกำลังกายสามารถทำให้เลือดไหลเวียนเร็วและอาจทำให้เกิดรอยช้ำได้
6.ก่อนฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรแจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ทราบ
หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยาบางชนิด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการฉีดโบ เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงและเตรียมการที่เหมาะสม
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา
การดูแลตัวเองหลังการฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ โดยมีคำแนะนำดังนี้
1.หลังฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือถูใบหน้า
ไม่ควรนวด กด หรือถูบริเวณที่ฉีดโบประมาณ 24 ชั่วโมงหลังจากฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของโบไปยังจุดอื่นที่ไม่ต้องการ
2.หลังฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรงดการก้มศีรษะต่ำหรือการนอนราบทันที
ควรงดการก้มศีรษะหรือการนอนราบภายใน 4-6 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบ เพื่อป้องกันการไหลของสารโบเข้าสู่บริเวณอื่นที่ไม่พึงประสงค์
3.หลังฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรงดออกกำลังกายหนัก
ไม่ควรออกกำลังกายหนักหรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบ เพราะการออกกำลังกายสามารถทำให้เลือดไหลเวียนเร็วขึ้น และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของโบ
4.หลังฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรงดสัมผัสความร้อนสูง
หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนจากแสงแดด, ซาวน่า, การทำเลเซอร์ หรือการบำบัดความร้อนใด ๆ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้โบสลายเร็วขึ้น
5.หลังฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรดื่มน้ำให้เพียงพอ
ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดี และช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว หลังจากฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา
6.หลังฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดโบ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ
7.หลังฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาควรติดตามผลกับแพทย์
หากมีอาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติหลังฉีดโบ ที่สามารถเกิดขึ้นได้และจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน แต่หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดมากหรือมีอาการแพ้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เหมาะสมกับปัญหาริ้วรอยใต้ตาของแต่ละบุคคล และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดโบ
บทความน่ารู้ : ฉีดโบลดกราม
สรุปเกี่ยวกับฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา
สรุปว่า การฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา หรือ ฉีด BO ลดริ้วรอยใต้ตา เป็นการใช้สารโบทูลินัมท็อกซินเอ (Botulinum Toxin A) ในการช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราวและขยับน้อยลง ส่งผลให้ผิวบริเวณใต้ตาเรียบเนียนขึ้น ชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ และใบหน้าดูสดใส ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ฉีดโบ)
สำหรับผู้ที่สนใจฉีดโบลดริ้วรอย APEX คลินิกความงามชั้นนำ พร้อมให้การดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และฉีดโบของแท้ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจาก อย. เท่านั้น สะดวกสบายในการใช้บริการฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา มีหลายสาขาทั่วประเทศ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายเพื่อเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ ได้ผ่านช่องทางออนไลน์
บทความน่ารู้ : ฉีดโบรักแร้