บทความเกี่ยวกับ : ฟิลเลอร์หน้าใส
ฟิลเลอร์หน้าใส คืออะไร ฉีดฟิลเลอร์งานผิว หน้าโกลว์ฉ่ำวาว
ผิวหน้ากระจ่างใส หน้าโกลว์ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี เป็นผิวที่ใคร ๆ ก็ต้องการ เพราะการมีผิวหน้าใสช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดี ดูสะอาดสะอ้าน หัตถการความงามที่ทำให้ผิวหน้าใสจึงได้รับความนิยม หนึ่งในนั้นคือ การฉีดฟิลเลอร์หน้าใส หรือ การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ที่หลายคนให้ความสนใจ แต่ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรรู้อะไรบ้าง ในบทความนี้ขอแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับ Filler หน้าใส ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว หรือฟิลเลอร์งานผิว ที่นิยมเรียกกัน เพื่อความปลอดภัยและเห็นผลดีตรงตามความต้องการ
ฟิลเลอร์หน้าใสคืออะไร
ฟิลเลอร์หน้าใส หรือ ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เป็นการใช้ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ฉีดเติมเต็มเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้น ลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นเล็ก ๆ กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียน เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี รวมถึงทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ชะลอการเกิดริ้วรอย แก้ปัญหาหน้าแก่กว่าวัยอันควร
ฟิลเลอร์หน้าใสเหมาะกับใครบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์หน้าใสเหมาะกับคนหลากหลายกลุ่มที่ต้องการฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพผิวให้ดูดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้
• ฟิลเลอร์หน้าใสเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น ช่วยเติมความชุ่มชื้นในชั้นผิว ทำให้ผิวดูสดใสและสุขภาพดีขึ้น
• ฟิลเลอร์หน้าใสเหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ จากการขาดความชุ่มชื้นหรือความเหนื่อยล้า ช่วยลดเลือนและทำให้ผิวดูเนียนขึ้น
• ฟิลเลอร์หน้าใสเหมาะกับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ ผิวดูเหนื่อยล้า หรือมีความหมองคล้ำ ช่วยทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและมีความสว่างขึ้น
• ฟิลเลอร์หน้าใสเหมาะกับผู้ที่มีผิวขาดความยืดหยุ่น ต้องการให้ผิวหน้ามีความกระชับ ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
• ฟิลเลอร์หน้าใสเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวหน้าโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน ไม่ต้องเจ็บตัว หรือไม่มีเวลาบำรุงผิว
• ฟิลเลอร์หน้าใสเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด รังสียูวี ฝุ่นควันหรือมลภาวะ ที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ
• ฟิลเลอร์หน้าใสเหมาะกับผู้ที่ต้องการเตรียมผิวที่เห็นผลเร็วกว่าการทาครีมบำรุงผิวทั่วไป ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งดูสุขภาพดี
ฟิลเลอร์หน้าใสช่วยอะไรบ้าง
ฟิลเลอร์หน้าใสมีประโยชน์หลากหลายสำหรับการปรับสภาพผิว โดยเฉพาะเรื่องของการฟื้นฟูและบำรุงผิวจากภายใน โดยสามารถช่วยในหลายด้านดังนี้
• ฟิลเลอร์หน้าใสช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวหน้าดูสดใสและเนียนนุ่มขึ้น
• ฟิลเลอร์หน้าใสช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ช่วยลดความหมองคล้ำของผิว
• ฟิลเลอร์หน้าใสช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้นหรืออายุที่เพิ่มขึ้น
• ฟิลเลอร์หน้าใสช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ จากแสงแดดหรือมลภาวะ ให้ผิวดูสดใสและมีสุขภาพดีขึ้น
• ฟิลเลอร์หน้าใสช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวมีความกระชับมากขึ้น และลดความหย่อนคล้อยของผิว
• ฟิลเลอร์หน้าใสช่วยทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ฟื้นฟูผิวหน้าให้มีสุขภาพดี เติมเต็มความชุ่มชื้น และผิวดูเรียบเนียนขึ้น
• ฟิลเลอร์หน้าใสช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ลดความหยาบกระด้างของผิว ทำให้ผิวสัมผัสที่ดีขึ้น
• ฟิลเลอร์หน้าใสช่วยเตรียมผิวให้พร้อมก่อนวันสำคัญ ทำให้ผิวให้ดูสดใสและสุขภาพดีในระยะสั้น เช่น งานแต่งงาน
ฟิลเลอร์หน้าใส คืออะไร ฉีดกี่ CC ราคาเท่าไหร่
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฟิลเลอร์หน้าใสฉีดตรงจุดไหนบนใบหน้า
ฟิลเลอร์หน้าใสหรือฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้าเพื่อฟื้นฟูผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว โดยทั่วไปจะฉีดในบริเวณที่มีปัญหาความแห้งกร้าน ริ้วรอยเล็ก ๆ หรือผิวที่ขาดความกระจ่างใส โดยจุดที่นิยมฉีดฟิลเลอร์หน้าใส มีดังนี้
1.ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสทั่วใบหน้า สามารถฉีดกระจายทั่วใบหน้า เพื่อฟื้นฟูความชุ่มชื้นและความกระจ่างใสให้ผิวทั้งหมด
2.ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสบริเวณแก้ม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ผิวแก้มดูเต่งตึง กระจ่างใส
3.ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสรอบดวงตา ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา และเพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณที่ผิวบางและแห้งได้ง่าย
4.ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสที่หน้าผาก ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอยพับ รอยย่น บริเวณหน้าผาก ที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้น
5.ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสรอบปาก บริเวณรอบปากมักมีริ้วรอยเล็ก ๆ จากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ จึงช่วยให้ผิวบริเวณนี้ดูเรียบเนียนมากขึ้น
6.ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสบริเวณคาง สามารถใช้เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว และทำให้ผิวบริเวณคางดูเต่งตึงมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสใช้กี่ CC
ปริมาณฟิลเลอร์หน้าใสที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปปริมาณฟิลเลอร์หน้าใสที่ใช้ในการฉีดจะอยู่ที่ประมาณ 2-4 CC สำหรับการฉีดทั่วใบหน้า แต่จำนวน CC ที่ใช้สามารถแตกต่างกันไปตามพื้นที่ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์หน้าใส และระดับความรุนแรงของปัญหาผิวในแต่ละบุคคล
ตัวอย่างของปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์หน้าใส
• ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสทั่วใบหน้า ส่วนมากจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2-3 CC ซึ่งเพียงพอสำหรับการฟื้นฟูผิวในบริเวณทั้งหมด
• ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสเฉพาะจุด เช่น รอบดวงตาหรือรอบปาก อาจใช้เพียง 1-2 CC ขึ้นอยู่กับความต้องการ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมากหรือมีผิวแห้งมาก แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ปริมาณมากขึ้นหรือทำฟิลเลอร์หน้าใสหลายครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคล
ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสกี่วันเห็นผล
การฉีดฟิลเลอร์หน้าใสจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงเบื้องต้นภายใน 3-7 วัน หลังจากฉีด โดยผิวจะเริ่มดูชุ่มชื้นขึ้น และมีความเรียบเนียนมากขึ้น และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 2-4 สัปดาห์ หลังจากการฉีด เนื่องจากฟิลเลอร์จะค่อย ๆ เข้าที่ ฟื้นฟูผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นไปยังชั้นผิวหนังเต็มประสิทธิภาพ ในบางกรณีผลลัพธ์อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ และวิธีการดูแลผิวหลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าใส
ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสอยู่ได้นานไหม
การฉีดฟิลเลอร์หน้าใสมีผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
1.ประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์บางชนิดมีความคงทนมากกว่าชื่ออื่น ๆ โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) ถูกออกแบบมาเพื่อเติมความชุ่มชื้นจะมีผลลัพธ์อยู่ในช่วง 6-12 เดือน
2.การดูแลผิวหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใส ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานขึ้นหากมีการดูแลผิวที่ดีหลังการฉีด เช่น การทาครีมบำรุงหลีกเลี่ยงแสงแดด และดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
3.สภาพผิวของแต่ละบุคคลหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใส สำหรับคนที่มีผิวแห้งหรือขาดน้ำมาก ผลลัพธ์อาจอยู่ได้ไม่นานเท่าผู้ที่มีสภาพผิวชุ่มชื้น
4.การฟิลเลอร์หน้าใสต่อเนื่อง หากมีการทำซ้ำทุก 6-12 เดือน ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานขึ้นและดูเป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์หน้าใส อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อเห็นผลดีที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสยี่ห้อไหนดี
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์หน้าใสที่ดีควรคำนึงถึงคุณภาพ ความปลอดภัย และการได้รับการรับรองความปลอดภัย โดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียง ในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าใส ได้แก่
1.ฟิลเลอร์หน้าใส ยี่ห้อ Restylane
ฟิลเลอร์จากแบรนด์ Restylane มีสูตรเฉพาะที่เหมาะสำหรับการเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวได้อย่างดีเยี่ยม โดยรุ่นแนะนำ คือ Restylane Vital เน้นให้ความชุ่มชื้นในชั้นผิวลึก และ Restylane Vital Light จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับผิวในชั้นตื้น
2.ฟิลเลอร์หน้าใส ยี่ห้อ Juvederm
เป็นฟิลเลอร์จากแบรนด์ Juvederm ที่ออกแบบมาเพื่อการฟื้นฟูความชุ่มชื้นของผิวอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 9 เดือนถึง 1 ปี โดยจะช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ กระจ่างใส และลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ รุ่นฟิลเลอร์ที่แนะนำคือ Juvederm Volite
3.ฟิลเลอร์หน้าใส ยี่ห้อ Belotero
ฟิลเลอร์จากแบรนด์ Belotero มีสูตรที่เน้นการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยฟื้นฟูความเรียบเนียนและกระจ่างใสของผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับปรุงโทนสีผิว รุ่นฟิลเลอร์ที่แนะนำคือ Belotero Hydro
4.ฟิลเลอร์หน้าใส ยี่ห้อ Teoxane
ฟิลเลอร์จากแบรนด์ Teosyal เน้นการเติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเปล่งประกาย ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนผสมของวิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนที่ช่วยบำรุงผิวในระยะยาว รุ่นฟิลเลอร์ที่แนะนำคือ Teoxane Redensity I
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์หน้าใสควรปรึกษาแพทย์ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เพื่อพิจารณาสภาพผิวและความเหมาะสมเฉพาะบุคคล
ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสราคาเท่าไหร่
ราคาของการฉีดฟิลเลอร์หน้าใส ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องการฉีด รวมถึงสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ให้บริการ โดยทั่วไปราคาฉีดฟิลเลอร์หน้าใส จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้
• ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์หน้าใส ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง เช่น Restylane, Juvederm หรือ Belotero จะมีราคาสูงกว่า
• ปริมาณที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์หน้าใส การฉีดทั่วทั้งใบหน้าอาจต้องใช้ฟิลเลอร์มากกว่า การฉีดเฉพาะจุด ซึ่งจะส่งผลต่อราคาที่แตกต่างกัน
• คลินิกหรือสถานพยาบาล คลินิกความงามที่มีชื่อเสียง หรือมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาจมีราคาที่สูงกว่า
• โปรโมชันหรือแพ็คเกจ คลินิกบางแห่ง อาจมีโปรโมชัน หรือแพ็คเกจ ที่รวมการฉีดฟิลเลอร์หน้าใสหลายครั้ง ในราคาพิเศษ
แนะนำให้สอบถามราคาและรายละเอียดเพิ่มเติมจากคลินิกหรือสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ และควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ และได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสที่ไหนดี
การเลือกสถานที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าใส ควรคำนึงถึงความปลอดภัย คุณภาพ และประสบการณ์ของแพทย์ผู้ให้บริการเป็นสำคัญ โดยมีข้อควรพิจารณาในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์หน้าใส ดังนี้
1.คลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาต ควรเลือกสถานที่ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจในมาตรฐานด้านความปลอดภัยและคุณภาพ
2.แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ควรทำการฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ตรวจสอบว่าแพทย์ได้รับการรับรองและมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์มาก่อน
3.ฟิลเลอร์ของแท้ ควรตรวจสอบว่าใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น อย.และเป็นของแท้จากบริษัทผู้ผลิต ไม่ควรเลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์ราคาถูกหรือไม่ได้รับการรับรอง
4.รีวิวจากผู้ใช้บริการ ควรดูรีวิวและผลลัพธ์จากผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกนั้น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
5.อุปกรณ์และสถานที่สะอาดปลอดภัย ควรเลือกคลินิกที่มีอุปกรณ์และสถานที่ที่สะอาด มีมาตรการป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด
แนะนำให้ทำการปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีด เพื่อประเมินความเหมาะสมและเลือกแผนการรักษาที่ดีที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์หน้าใสอันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์หน้าใสถือเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์หน้าใสยังคงมีความเสี่ยง หากไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย ดังนั้นความเสี่ยงและข้อควรระวังที่ควรพิจารณามีดังนี้
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
• การติดเชื้อ หากสถานพยาบาลไม่สะอาดหรืออุปกรณ์ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อที่ถูกต้อง อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณที่ฉีดได้
• อาการแพ้ ฟิลเลอร์บางชนิดอาจทำให้เกิดการแพ้ในผู้ที่ไวต่อสารบางประเภท แม้ว่าจะไม่พบบ่อย แต่การแพ้สามารถทำให้เกิดอาการบวม แดง หรือคันได้
• รอยช้ำหรือบวม อาจมีอาการช้ำหรือบวมเล็กน้อยหลังการฉีด แต่จะหายไปในเวลาไม่กี่วัน อาการบวมอาจมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
• การฉีดผิดตำแหน่ง หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้ฟิลเลอร์เข้าไปในชั้นผิวหนังที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการบวมผิดปกติหรือมีรอยย่นได้
• การอุดตันของหลอดเลือด กรณีที่ฟิลเลอร์ฉีดเข้าไปใกล้หลอดเลือดมากเกินไป อาจทำให้หลอดเลือดถูกอุดตัน ซึ่งเป็นภาวะที่ร้ายแรงและอาจต้องทำการรักษาโดยด่วน แต่เป็นความเสี่ยงที่พบน้อยมากหากฉีดโดยแพทย์
• การเกิดก้อนใต้ผิว หากใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไปหรือฉีดไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้เกิดก้อนใต้ผิวหนังที่ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนได้
ฟิลเลอร์หน้าใส คืออะไร ฉีดกี่ CC ราคาเท่าไหร่
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าใส
การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์หน้าใสเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน ขอแนะนำข้อควรปฏิบัติก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ ดังนี้
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสภาพผิวของคุณ และผลลัพธ์ที่ต้องการ
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว และยาหรืออาหารเสริมที่ทานอยู่
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพรินและยาลดการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการช้ำหรือเลือดออกง่าย
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมบางชนิดที่มีผลต่อการไหลเวียนของเลือด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, โสม หรือแปะก๊วย ประมาณ 1 สัปดาห์
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและลดความเครียดบนผิว ทำให้ผิวมีสภาพที่พร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดในวันที่จะเข้ารับการฉีด โดยไม่ต้องทาครีมบำรุงหรือแต่งหน้า เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของสารต่าง ๆ เข้าสู่ผิวในระหว่างการฉีด
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ การขัดผิว หรือการทำทรีตเมนต์ใบหน้าอื่น ๆ ที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง ก่อนการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์หน้าใส คืออะไร ฉีดกี่ CC ราคาเท่าไหร่
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใส
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าใส การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน นี่คือแนวทางการดูแลตัวเองหลังจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าใส
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดนวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการกระจายตัวของฟิลเลอร์ไปในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสไม่ควรนอนคว่ำหรือนอนตะแคงในคืนแรกหลังฉีด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวได้ แนะนำให้นอนหงายและนอนหนุนหมอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าระดับอก
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสไม่ควรแต่งหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการอุดตันและการติดเชื้อที่บริเวณที่ฉีด
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น การออกกำลังกายหรือการใช้ซาวน่า อย่างน้อย 48 ชั่วโมง หลังการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการบวมและการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรหลีกเลี่ยงการตากแดดจัด หรือการสัมผัสความร้อน เช่น ซาวน่า หรืออ่างน้ำร้อน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมคุณภาพได้เร็วขึ้นและอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือบวม
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้กรดไฮยาลูรอนิกในฟิลเลอร์ทำงานได้เต็มที่ และช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสหากมีอาการบวมแดงหรือเจ็บเล็กน้อย สามารถทานยาแก้ปวดทั่วไป เช่น พาราเซตามอลได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงยากลุ่มแอสไพริน ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยช้ำหรือเลือดออกได้
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสในกรณีที่มีอาการบวมมาก แพทย์อาจแนะนำให้ใช้เจลเย็นประคบเบา ๆ บริเวณที่ฉีด เพื่อลดอาการบวม
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง หลังจากการฉีด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและชะลอการฟื้นตัวของผิว
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรเข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลลัพธ์ และหากมีอาการผิดปกติ เช่น อาการบวมแดงหรืออาการเจ็บที่ไม่หายไปในเวลาที่เหมาะสม ควรปรึกษาแพทย์ทันที
• หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าใสควรงดทำหัตถการอื่นๆ ที่กระทบกับผิวหน้า เช่น การเลเซอร์ ขัดหน้า หรือทรีตเมนต์ ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ หลังฉีด
สรุปเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าใส
สรุปว่า การฉีดฟิลเลอร์หน้าใส หรือ การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เป็นหัตถการที่ช่วยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่น ฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูสุขภาพดี ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์หน้าใส APEX คลินิกความงามมาตรฐานระดับเอเชีย พร้อมดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้จากยี่ห้อชั้นนำ เช่น Restylane, Juvederm และ Belotero มั่นใจได้ในความปลอดภัยและคุณภาพดี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ได้ที่ APEX เพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวและประเมินปริมาณฉีดฟิลเลอร์หน้าใสที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล