บทความเกี่ยวกับ : ริ้วรอยใต้ตา




ริ้วรอยใต้ตา แก้ยังไงได้บ้าง รวมวิธีลดเลือนริ้วรอยใต้ตา
ริ้วรอยใต้ตา วิธีแก้ปัญหามีอะไรบ้าง ลดริ้วรอยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
ริ้วรอยใต้ตาเป็นปัญหาผิวที่หลายคนกังวล ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยในอายุมาก หรือริ้วรอยใต้ตา อายุน้อย ส่งผลต่อความมั่นใจและทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้น โชคดีที่ปัจจุบันมีวิธีแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตามากมายโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึง สาเหตุของริ้วรอยใต้ตา ผลกระทบที่เกิดขึ้น และวิธีแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตาทั้งแบบธรรมชาติและแบบทางการแพทย์ในการลดริ้วรอยรอบดวงตา

ริ้วรอยใต้ตา คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด วิธีลดริ้วรอยให้หายถาวรได้ไหม
ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาริ้วรอยใต้ตา หรือ ริ้วรอยใต้ดวงตา ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลริ้วรอยใต้ตา เกิดจากอะไร
ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวบริเวณรอบดวงตาโดยตรง ซึ่งริ้วรอยตีนกาใต้ตาสามารถแบ่งออกเป็นสาเหตุต่าง ๆ ได้ดังนี้
• ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากอายุ เมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวจะลดลง ส่งผลให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาที่เป็นส่วนที่บอบบางและมีชั้นไขมันบางกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันตามธรรมชาติลดลงยังทำให้ผิวแห้ง และเกิดร่องริ้วรอยที่เด่นชัดขึ้น
• ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากแสงแดด รังสียูวีจากแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพราะรังสียูวีสามารถทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ ยังทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและเกิดจุดด่างดำได้ง่าย การไม่ปกป้องผิวจากแสงแดดจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ริ้วรอยใต้ตาปรากฏเด่นชัดมากขึ้น
• ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากการแสดงสีหน้า การแสดงสีหน้าที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น การยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว หรือแม้แต่การหรี่ตาเพื่อมองสิ่งต่าง ๆ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยแบบ "Dynamic Wrinkles" ซึ่งเป็นริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง เมื่อแสดงสีหน้าซ้ำๆ เป็นเวลานาน เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ใต้ผิวก็จะเสื่อมลง ทำให้ริ้วรอยลึกขึ้นและคงอยู่ถาวรแม้ในขณะที่ใบหน้าอยู่ในภาวะผ่อนคลาย
• ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับมีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการฟื้นฟูผิวในแต่ละวัน หากพักผ่อนไม่เพียงพอหรืออดนอนเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดที่ทำลายคอลลาเจนในผิว นอกจากนี้ การไหลเวียนโลหิตที่ลดลงเมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอ ยังส่งผลให้ผิวรอบดวงตาหมองคล้ำและดูอ่อนล้า ทำให้ริ้วรอยใต้ตาดูเด่นชัดขึ้น
• ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากความเครียด ความเครียดส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย และทำให้เกิดการอักเสบภายในเซลล์ผิว นอกจากนี้ คนที่มีความเครียดมักจะขยี้ตาบ่อยๆ หรือมีพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อผิว เช่น การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
• ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากกรรมพันธุ์ ปัจจัยทางพันธุกรรมมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพผิวของแต่ละคน บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอยก่อนวัยมากกว่าคนอื่นเนื่องจากโครงสร้างผิวและพันธุกรรมของตระกูล หากพ่อแม่หรือสมาชิกในครอบครัวมีริ้วรอยใต้ตาชัดเจนตั้งแต่อายุยังน้อย ลูกหลานก็อาจได้รับอิทธิพลจากพันธุกรรมนี้ได้
ริ้วรอยใต้ตา ส่งผลอย่างไรต่อใบหน้า
ริ้วรอยใต้ตาส่งผลต่อใบหน้าในหลายด้าน ดังนี้
• ริ้วรอยใต้ตาทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้น ริ้วรอยใต้ตาเป็นสัญญาณของความเสื่อมของผิวที่เกิดขึ้นตามอายุ เมื่อเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวลดลง ผิวใต้ตาจึงสูญเสียความกระชับและเกิดริ้วรอยที่มองเห็นได้ชัดเจน ซึ่งทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยโดยเฉพาะหากริ้วรอยลึกและเกิดร่วมกับปัญหาผิวอื่น เช่น ผิวหย่อนคล้อย ร่องลึก หรือถุงใต้ตา นอกจากนี้ การมีริ้วรอยใต้ตาตั้งแต่อายุยังน้อยอาจทำให้บุคคลดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริง แม้ว่าส่วนอื่นของใบหน้ายังดูอ่อนเยาว์ การป้องกันและลดเลือนริ้วรอยบริเวณใต้ตาจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยคงความอ่อนเยาว์ของใบหน้า
• ริ้วรอยใต้ตาทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ริ้วรอยใต้ตาสามารถทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำและเหนื่อยล้า เนื่องจากผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางและไวต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด และการขาดความชุ่มชื้น เมื่อริ้วรอยเกิดขึ้นร่วมกับรอยคล้ำใต้ตาหรือถุงใต้ตา ก็จะทำให้ใบหน้าดูอิดโรยและไม่สดใส แม้ว่าจะมีสุขภาพดีหรือรู้สึกสดชื่นก็ตาม บางครั้งริ้วรอยใต้ตาอาจทำให้ดูเหมือนมีอารมณ์เศร้าหรืออ่อนล้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความประทับใจแรกของผู้อื่นที่มีต่อบุคคลนั้น
• ริ้วรอยใต้ตาทำให้ขาดความมั่นใจ หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาริ้วรอยใต้ตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โซเชียลมีเดียและการถ่ายภาพเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ริ้วรอยใต้ตาที่เห็นได้ชัดอาจทำให้รู้สึกไม่พอใจกับรูปลักษณ์ของตนเอง และบางคนอาจพยายามหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนหรือใช้เครื่องสำอางปกปิดริ้วรอยอยู่เสมอ สำหรับบางคน ริ้วรอยใต้ตาอาจส่งผลต่อการทำงาน เช่น อาชีพที่ต้องใช้ภาพลักษณ์เป็นจุดขาย เช่น ดารา นักแสดง หรือพนักงานที่ต้องพบปะลูกค้า ทำให้ต้องหาวิธีดูแลและลดเลือนริ้วรอยเพื่อเสริมความมั่นใจและความน่าเชื่อถือในการทำงาน
• ริ้วรอยใต้ตาทำให้การแต่งหน้าดูไม่เรียบเนียน การมีริ้วรอยใต้ตาทำให้การแต่งหน้าเป็นไปได้ยากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้รองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ เนื่องจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอาจตกไปตามร่องริ้วรอย ทำให้ดูเป็นคราบหรือทำให้ริ้วรอยใต้ตาดูชัดขึ้นแทนที่จะช่วยปกปิด ผู้ที่มีริ้วรอยใต้ตาลึกอาจพบว่าการแต่งหน้าไม่ติดทนหรือดูไม่เป็นธรรมชาติ ส่งผลให้ต้องใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่มีคุณสมบัติลดเลือนริ้วรอย หรือเปลี่ยนวิธีการแต่งหน้าเพื่อให้ดูเรียบเนียนขึ้น
• ริ้วรอยใต้ตาทำให้ดูมีอารมณ์ที่เปลี่ยนไป ริ้วรอยใต้ตาสามารถทำให้สีหน้าโดยรวมเปลี่ยนแปลงไป เช่น ทำให้ดูเครียด เหนื่อย หรือแม้แต่ดูเศร้า แม้ว่าบุคคลนั้นจะมีอารมณ์ปกติหรือรู้สึกสดชื่นอยู่ก็ตาม สิ่งนี้อาจส่งผลต่อปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เนื่องจากคนรอบข้างอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับอารมณ์หรือความรู้สึกของเจ้าตัว
ริ้วรอยใต้ตา แก้ยังไงด้วยวิธีธรรมชาติ
• แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิว พยายามนอนหงายและใช้หมอนสูงเพื่อป้องกันของเหลวสะสมบริเวณใต้ตา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมและริ้วรอย หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจออาจรบกวนการผลิตเมลาโทนิน ทำให้คุณภาพการนอนลดลง
• แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ (ประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน) ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น ลดการเกิดริ้วรอย และทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ เช่น แอลกอฮอล์ และคาเฟอีน เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น สามารถเพิ่มน้ำจากแหล่งธรรมชาติ เช่น การรับประทานแตงโม แตงกวา และผลไม้ที่มีน้ำเยอะ
• แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี โอเมก้า-3 ไลโคปีน
• แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยการใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา เลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ เรตินอล (ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน), เปปไทด์ (ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว), และ วิตามินซี (ช่วยให้ผิวกระจ่างใส) ควรทาครีมบำรุงรอบดวงตาเบาๆ โดยใช้ปลายนิ้วนาง เพื่อลดแรงกดบนผิวที่บอบบาง ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน เพื่อให้ความชุ่มชื้นและลดการเกิดริ้วรอย
• แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดด ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน แม้ในวันที่ไม่มีแดด เพราะรังสี UVA และ UVB สามารถทำลายคอลลาเจนในผิวได้ ใส่แว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดทำลายผิวรอบดวงตา และลดการหรี่ตาซึ่งอาจทำให้เกิดริ้วรอย หลีกเลี่ยงการออกแดดช่วงเวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่รังสี UV เข้มข้นที่สุด
• แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและริ้วรอย ใช้ผ้าเย็นหรือถุงชาเขียวแช่เย็นประคบใต้ตาประมาณ 10-15 นาที ช่วยลดอาการบวมและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ใช้แตงกวาหรือว่านหางจระเข้แช่เย็นมาวางบนเปลือกตา ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิว สามารถใช้ช้อนสเตนเลสแช่เย็นมานวดเบาๆ รอบดวงตาเพื่อช่วยลดความหมองคล้ำและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
• แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้เซลล์ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็น ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น การทำโยคะหน้า (Face Yoga) สามารถช่วยกระชับกล้ามเนื้อรอบดวงตา ลดอาการหย่อนคล้อย และลดการเกิดริ้วรอยได้ ฝึกหายใจลึก ๆ และฝึกสมาธิเพื่อลดความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของริ้วรอยใต้ตา
• แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ เพราะอาจทำให้เส้นใยคอลลาเจนในผิวฉีกขาดและเกิดริ้วรอย หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีสารเคมีรุนแรงหรือการเช็ดล้างเครื่องสำอางอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ผิวรอบดวงตาระคายเคือง ควบคุมระดับความเครียดโดยการทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง นั่งสมาธิ หรืออ่านหนังสือ

ริ้วรอยใต้ตา คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด วิธีลดริ้วรอยให้หายถาวรได้ไหม
ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาริ้วรอยใต้ตา หรือ ริ้วรอยใต้ดวงตา ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ ลดริ้วรอยใต้ตา
โดยโปรแกรมฟิลเลอร์ลดริ้วรอยใต้ตา จะถูกฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังในบริเวณที่มีริ้วรอยหรือร่องลึกใต้ตา ซึ่งโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาจะเข้าไปเติมเต็มร่องที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียความชุ่มชื้นและคอลลาเจนเมื่ออายุเพิ่มขึ้น การทำโปรแกรม ฉีดฟิลเลอร์จะทำให้ผิวดูเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวใต้ตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
ข้อดีของโปรแกรม ฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยใต้ตา
• โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยใต้ตาทำให้เห็นผลชัดเจน การฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์หลังการทำ โดยริ้วรอยและร่องลึกจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
• โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยใต้ตาทำแล้วไม่ต้องพักฟื้น หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ผู้รับบริการสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที โดยไม่ต้องการการพักฟื้นยาวนาน
• โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยใต้ตาดูเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์ที่ใช้ในบริเวณใต้ตามักจะเป็นธรรมชาติ โดยที่ร่างกายสามารถดูดซึมและย่อยสลายได้ดี ทำให้มีความปลอดภัย
• โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยใต้ตาไม่เจ็บปวดมาก โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามักจะใช้ยาชาเฉพาะที่ร่วมด้วย ทำให้กระบวนการไม่เจ็บปวดหรือเจ็บน้อย
ข้อจำกัดของโปรแกรม ฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยใต้ตา
• โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยใต้ตาผลลัพธ์ไม่ถาวร โปรแกรมฟิลเลอร์ไม่สามารถอยู่ในร่างกายได้ถาวร ผลลัพธ์จะค่อย ๆ หายไปภายใน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ใช้
• โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยใต้ตาอาจเกิดอาการบวมและช้ำ หลังจากการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวมและช้ำบริเวณที่ได้รับการฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปภายในไม่กี่วัน
• โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ริ้วรอยใต้ตาต้องฉีดซ้ำ เนื่องจากโปรแกรมฟิลเลอร์จะสลายตัวตามเวลา การรักษาอาจต้องทำซ้ำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง
แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยโปรแกรมโบท็อกซ์ ลดริ้วรอยใต้ตา
โปรแกรมโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการลดเลือนริ้วรอยใต้ตา โดยการฉีดสารนี้เข้าไปในกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อและทำให้ริ้วรอยใต้ตาที่เกิดจากการแสดงสีหน้า (เช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว) ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
หลักการทำงานของโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ทำงานโดยการยับยั้งการส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่เกิดริ้วรอยหรือรอยย่นคลายตัว
• โดยเฉพาะในบริเวณรอบดวงตา ซึ่งมีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมากในระหว่างการแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว หรือการขยี้ตา โบท็อกซ์จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อเหล่านี้ ทำให้ริ้วรอยดูจางลงและผิวดูเรียบเนียนขึ้น
• โปรแกรมโบท็อกซ์จะช่วยลดการปรากฏของริ้วรอยที่มีสาเหตุจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เช่น ริ้วรอยหัวเราะ (laugh lines) หรือ ริ้วรอยรอบดวงตา (crow's feet)
ข้อดีของการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา ช่วยลดเลือนริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์มักจะเห็นได้ทันทีหลังการฉีดภายในไม่กี่วัน
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา ไม่ต้องพักฟื้นนาน หลังจากการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์สามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา เป็นกระบวนการที่รวดเร็วและสะดวก การทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ใช้เวลาไม่นานและสามารถทำได้ในระหว่างการพักเบรกจากงานหรือชีวิตประจำวัน
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อได้ โปรแกรมโบท็อกซ์ช่วยให้ผู้ที่มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าสามารถควบคุมได้มากขึ้น
ข้อจำกัดของการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา ผลลัพธ์ไม่ถาวร ผลลัพธ์ที่ได้จากโปรแกรมโบท็อกซ์จะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นริ้วรอยอาจกลับมาใหม่และจำเป็นต้องฉีดซ้ำ
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา อาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น หนังตาตกหรือการกระตุกของกล้ามเนื้อในบางครั้ง ถ้าเกิดการฉีดผิดตำแหน่งหรือปริมาณมากเกินไป
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา ต้องระมัดระวังในผู้ที่มีภาวะเฉพาะ ผู้ที่มีประวัติของโรคทางระบบประสาทหรือแพ้โปรแกรมโบท็อกซ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีด
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา อาจเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย อาจเกิดอาการบวม, แดง หรือเขียวที่บริเวณที่ฉีด แต่ส่วนใหญ่จะหายไปเองในเวลาไม่นาน
แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยเครื่องยกกระชับ
ริ้วรอยใต้ตาเป็นปัญหาที่หลายคนเผชิญเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากผิวรอบดวงตามักจะบางและอ่อนแอ ทำให้เกิดการย่นและริ้วรอยได้ง่าย การใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอยใต้ตาจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเทคโนโลยี RF, โปรแกรม Hifu, และ โปรแกรม Ulthera ซึ่งมีหลักการทำงานและข้อดีที่แตกต่างกันไป ดังนี้
แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วย Radio Frequency
การลดริ้วรอยใต้ตาด้วยคลื่น RF (Radio Frequency) หรือคลื่นความถี่วิทยุ เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว คลื่น RF จะส่งพลังงานความร้อนลงสู่ผิวชั้นลึก ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินหดตัวและกระตุ้นการสร้างใหม่ ส่งผลให้ผิวใต้ตากระชับขึ้นและริ้วรอยลดลง
แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยโปรแกรม HIFU
โปรแกรม HIFU ลดริ้วรอยใต้ตา ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว คลื่นอัลตราซาวด์ จะส่งพลังงานลงสู่ผิวชั้นลึก ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวบริเวณใต้ตากระชับขึ้นและริ้วรอยลดลง
แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยโปรแกรม Ulthera
โปรแกรม Ulthera ลดริ้วรอยใต้ตา เป็นเครื่องยกกระชับผิวที่ใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ ที่มีความแม่นยำสูง โดยสามารถกำหนดจุดโฟกัสของคลื่นอัลตราซาวด์ได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ทำให้การส่งพลังงานลงสู่ผิวชั้นลึกช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ผลลัพธ์คือผิวใต้ตากระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง และช่วยยกกระชับผิวโดยรวม

ริ้วรอยใต้ตา คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด วิธีลดริ้วรอยให้หายถาวรได้ไหม
ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาริ้วรอยใต้ตา หรือ ริ้วรอยใต้ดวงตา ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาด้วยโปรแกรม Plinest
ใครที่กำลังตัดสินใจว่า ริ้วรอยใต้ตา ฉีดอะไรดี โปรแกรม Plinest จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวบริเวณใต้ตา เมื่อคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้น ผิวจะเริ่มกระชับขึ้น ริ้วรอยใต้ตา จะค่อยๆ ลดเลือน และทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น
ข้อดีของการใช้โปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา
• โปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ริ้วรอยใต้ตาดูตื้นขึ้น
• โปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ไม่เจ็บและไม่ต้องพักฟื้น กระบวนการทำงานของโปรแกรม Plinest ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดมาก และสามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ทันที
• โปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา เหมาะกับผิวบอบบาง การใช้สารที่มีความปลอดภัยสูงทำให้เหมาะกับผิวใต้ตาที่บอบบาง โดยไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง
• โปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน การกระตุ้นคอลลาเจนจะช่วยทำให้ผิวใต้ตากระชับและลดริ้วรอยในระยะยาว
ข้อเสียของการใช้โปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา
• โปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ต้องทำการรักษาหลายครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืน อาจต้องทำการรักษาหลายครั้ง
• โปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน การตอบสนองต่อการรักษาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาริ้วรอยที่มี
การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา
• ก่อนทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวหน้าและริ้วรอยใต้ตา
• ก่อนทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงการทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ยากลุ่ม NSAIDs, วิตามินอี, หรือยาละลายลิ่มเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด
• ก่อนทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา การนอนหลับให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืนก่อนวันทำการฉีดจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี
• ก่อนทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำโปรแกรม Plinest
• ก่อนทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ควรหยุดใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารเคมีแรงหรือระคายเคืองต่อผิวหน้า เช่น สารเปลือกไม้หรือกรดต่างๆ อย่างน้อย 3-5 วันก่อนการทำ
• ก่อนทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา หากคุณมีโรคประจำตัว เช่น โรคผิวหนัง, โรคเกี่ยวกับการเลือด หรือโรคภูมิแพ้ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบเพื่อให้การรักษาปลอดภัย
วิธีดูแลหลังทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา
• หลังทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการนวดบริเวณที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ใน 24 ชั่วโมงแรก
• หลังทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากหรือการออกกำลังกายหนักใน 48 ชั่วโมงหลังการฉีด
• หลังทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเพื่อป้องกันแสงแดดที่จะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น
• หลังทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ใน 48 ชั่วโมงหลังการฉีด เนื่องจากแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดบวมและช้ำได้
• หลังทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อนสูง เช่น การอบซาวน่า หรือการทำทรีตเมนต์ที่มีความร้อนใน 48 ชั่วโมงแรก
• หลังทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา หากมีอาการบวม ควรใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบเบาๆ บริเวณที่ฉีดเพื่อบรรเทาอาการบวม
• หลังทำโปรแกร Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา หลีกเลี่ยงการประคบเย็นที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง
• หลังทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา ควรติดตามผลกับแพทย์ตามที่นัดหมายเพื่อประเมินผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์
• หลังทำโปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา หากพบอาการผิดปกติ เช่น บวมมากเกินไป หรือความรู้สึกผิดปกติ ควรแจ้งแพทย์ทันที
APEX ขอเป็นตัวเลือกหนึ่งในการลดริ้วรอยใต้ตา เรามีทางเลือกให้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมฟิลเลอร์ ลดริ้วรอยใต้ตา โปรแกรมโบท็อกซ์ ลดริ้วรอยใต้ตา รวมถึง โปรแกรม Plinest ลดริ้วรอยใต้ตา เทคโนโลยีใหม่ในการฟื้นฟูผิวและคอลลาเจน เรามีแพทย์เฉพาะทางในด้านผิวหนัง สามารถรับรองในผลลัพธ์ที่ดีได้ หากสนใจสามารถสอบถามเข้ามาได้เลยค่ะ

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต
ริ้วรอยใต้ตา ปัญหาที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย หน้าตาดูไม่สดใส รวบรวมวิธีต่าง ๆ ในการลดเลือนริ้วรอยใต้ตา ตาคล้ำ ตาบวม



