Hifu คืออะไร ยกกระชับอัพหน้าเด็ก

Hifu ยกกระชับ UP หน้าเด็ก

ยุคนี้เป็นยุคที่วงการความงามเติบโตขึ้นเรื่องๆ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ตัวเลขไม่ใช่อุปสรรคของความหน้าเด็กเลยค่ะ เพราะเรามีนวัตกรรมที่เรียกกันว่า Hifu ที่จะคอยฟื้นฟูคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความเต่งตึง ลดริ้วรอย หน้าเด็กกว่าอายุ

หัวข้อเคล็ดไม่ลับความหน้าเด็กของ Hifu
1.Hifu คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยมในวงการความงาม
2.ประโยชน์ของ Hifu ในการเสริมความ
3.ข้อดีและข้อควรระวังของการทำ Hifu
4.การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา Hifu
5.ข้อควรปฏิบัติหลังทำ Hifu เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
6.การทำ Hifu เปรียบเทียบกับการทำศัลยกรรมยกกระชับ
7.Hifu สามารถยกกระชับส่วนใดของใบหน้าได้บ้าง
8.ระยะเวลาและความถี่ในการทำ Hifu เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน
9.คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ Hifu
10.รีวิวจริงจากผู้ใช้บริการ Hifu
11.แนวโน้มและเทรนด์การทำ Hifu ในปี 2024
12.การเลือกคลินิกและผู้เชี่ยวชาญสำหรับการทำ Hifu

Hifu คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยมในวงการความงาม
Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการเสริมความงาม โดยเฉพาะในเรื่องการฟื้นฟูคอลลาเจน Hifu ทำให้ผิวหน้าเต่งตึง และลดริ้วรอย

เทคโนโลยี Hifu ถูกพัฒนาให้สามารถให้การรักษาที่มีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ Hifu อย่างละเอียด ทั้งวิธีการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย และผลลัพธ์ของความอ่อนเยาว์ที่ Hifu สามารถสร้างให้ได้

เทคโนโลยี Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) มีจุดเริ่มต้นจากการวิจัยในทางการแพทย์เพื่อนำไปใช้ในการรักษาโรค โดยเฉพาะการรักษามะเร็ง ต่อมาได้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในวงการเสริมความงามเพื่อการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย

ความเป็นมาของ Hifu
Hifu กับการพัฒนาในทางการแพทย์
1.ต้นกำเนิดจากการใช้คลื่นเสียงในทางการแพทย์
แนวคิดการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการรักษาเริ่มต้นมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ในช่วงปี 1940s และ 1950s นักวิจัยได้ทดลองใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการรักษาโรคมะเร็ง โดยทำการทดลองในห้องปฏิบัติการและสัตว์ทดลอง

2.การพัฒนา Hifu ในการรักษามะเร็ง: ในช่วงปี 1980s และ 1990s
Hifu ถูกพัฒนาและใช้ในการรักษามะเร็งอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดได้หรือในกรณีที่ต้องการทางเลือกในการรักษาที่ไม่รุกราน การใช้ Hifu ช่วยทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง

3.การปรับปรุงเทคโนโลยีของ Hifu
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 และต้นศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยี Hifu ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้มีความแม่นยำและประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการใช้ระบบโฟกัสแบบหลายมิติและเทคโนโลยีภาพเพื่อให้สามารถตรวจสอบและควบคุมการทำงานได้ดีขึ้น

การนำ Hifu มาใช้ในวงการเสริมความงาม
1.การนำ Hifu มาประยุกต์ใช้ในวงการเสริมความงาม
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 นักวิจัยและแพทย์เริ่มเห็นถึงศักยภาพของ Hifu ในการใช้เพื่อการเสริมความงาม โดยเฉพาะการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย เทคโนโลยี Hifu ถูกปรับเปลี่ยนให้สามารถใช้ในทางเสริมความงามได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

2.การเปิดตัว Hifu ในวงการเสริมความงาม
ในปี 2004 Hifu ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ให้ใช้ในทางการเสริมความงามเพื่อการยกกระชับผิวใบหน้าและลำคอ นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Hifu เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในวงการเสริมความงาม

3.การพัฒนาของเทคโนโลยี Hifu
นับตั้งแต่การเปิดตัวในวงการเสริมความงาม Hifu ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถใช้กับส่วนอื่นของร่างกาย เช่น การยกกระชับหน้าท้อง แขน ขา และการลดเซลลูไลท์
ปัจจุบัน Hifu ได้รับความนิยมทั่วโลกและมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูคอลลาเจนและยกกระชับผิว

4.ประโยชน์ของการทำ Hifu
เทคโนโลยี Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพในการรักษาหลายด้าน ทั้งในทางการแพทย์และการเสริมความงาม Hifu ครอบคลุมตั้งแต่การรักษาโรคมะเร็งไปจนถึงการยกกระชับผิวหน้าและลำตัว โดยไม่ต้องผ่าตัด

ประโยชน์ของ Hifu ในการเสริมความงาม
1.Hifu ยกกระชับผิว (Facial Lifting and Tightening)
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
Hifu ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นลึกของผิวหนัง ความร้อนที่เกิดจากการส่งพลังงานคลื่นเสียงจะกระตุ้นเซลล์คอลลาเจนให้สร้างใหม่ ทำให้ผิวดูเต่งตึงและยืดหยุ่นมากขึ้น

• ลดความหย่อนคล้อยของผิว
การยกกระชับผิวด้วย Hifu สามารถช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัว โดยเฉพาะในบริเวณที่การยกกระชับด้วยวิธีธรรมดาไม่ได้ผล

• ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
ผลลัพธ์จากการยกกระชับผิวด้วย Hifu สามารถคงอยู่ได้ยาวนานถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

2.ลดริ้วรอย (Wrinkle Reduction)
• ริ้วรอยบนใบหน้า
Hifu ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยบนหน้าผาก และร่องแก้ม โดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและการยกกระชับผิว

• ริ้วรอยรอบปาก
การรักษาด้วย Hifu สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบปากและบริเวณริมฝีปาก ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์มากขึ้น

3.ปรับรูปร่างและกระชับสัดส่วน (Body Contouring and Tightening)
• กระชับหน้าท้อง
Hifu สามารถใช้ในการยกกระชับผิวบริเวณหน้าท้อง ลดความหย่อนคล้อยหลังจากการลดน้ำหนักหรือการตั้งครรภ์

• กระชับต้นแขนและต้นขา
การใช้ Hifuในการกระชับผิวบริเวณต้นแขนและต้นขาสามารถช่วยลดเซลลูไลท์และทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น

• กระชับสะโพกและบั้นท้าย
Hifu ยังสามารถใช้เพื่อยกกระชับผิวบริเวณสะโพกและบั้นท้าย ทำให้สัดส่วนดูดีขึ้น

4.การกระชับผิวหลังจากการลดน้ำหนัก
ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหลังจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วสามารถใช้ Hifu ในการกระชับผิว ทำให้ผิวกลับมาเต่งตึงและดูเรียบเนียนมากขึ้น

5.การรักษามะเร็ง (Cancer Treatment)
• การรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก
Hifu ถูกใช้ในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากโดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีนี้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งอย่างแม่นยำโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง

• การรักษามะเร็งเต้านม
Hifu ยังถูกใช้ในการรักษามะเร็งเต้านม โดยสามารถทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งได้โดยไม่ต้องมีการผ่าตัดใหญ่

6.การรักษาเนื้องอกที่ไม่เป็นมะเร็ง (Benign Tumors)
• การรักษาเนื้องอกของมดลูก (Uterine Fibroids)
Hifu ใช้ในการรักษาเนื้องอกของมดลูกที่ไม่เป็นมะเร็ง โดยการส่งพลังงานคลื่นเสียงไปทำลายเนื้องอกที่ต้องการ

• การรักษาเนื้องอกในตับและไต
Hifu ยังถูกใช้ในการรักษาเนื้องอกที่ไม่เป็นมะเร็งในตับและไต ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน

7.การบำบัดความเจ็บปวด (Pain Management)
• การบำบัดความเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบ
Hifu ถูกใช้ในการบำบัดความเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบโดยการส่งพลังงานคลื่นเสียงไปยังบริเวณที่มีการอักเสบ ทำให้ลดความเจ็บปวดและการอักเสบได้

• การบำบัดความเจ็บปวดจากกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
Hifu ยังสามารถใช้ในการบำบัดความเจ็บปวดจากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นฟื้นฟูได้เร็วขึ้น

ข้อดีและข้อควรระวังของการทำ Hifu

ข้อดีในการทำ Hifu
1.การทำ Hifu ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น
หนึ่งในข้อดีที่สำคัญที่สุดของ Hifu คือการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งหมายความว่าไม่มีแผลเป็น ไม่มีการเสียเลือด และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นเหมือนการทำศัลยกรรมแบบดั้งเดิม ผู้ที่ทำ Hifu สามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันทีหลังการรักษา

2.การทำ Hifu กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
Hifu ใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวที่ลึก การเพิ่มคอลลาเจนในผิวจะช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น ช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น

3.การทำ Hifu ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
การทำ Hifu จะไม่ให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนทันที แต่ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นในช่วงเวลา 2-3 เดือนหลังการรักษา และสามารถคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษาหลังการทำ Hifu

4.การทำ Hifu เจ็บน้อยมาก
การรักษาด้วย Hifu มักไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด ผู้เข้ารับการรักษาอาจรู้สึกถึงการอุ่นหรือแรงกระตุ้นเบาๆ ในบริเวณที่ทำการรักษาเท่านั้น ทำให้การทำ Hifu เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัดหรือไม่ต้องการเจ็บปวด

5.การทำ Hifu เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
Hifu สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับการรักษาให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคลได้อีกด้วย

6.การทำ Hifu ช่วยให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
การทำ Hifu จะช่วยให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ทำให้ใบหน้าดูเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติและไม่เกินจริง ซึ่งทำให้ผู้คนสามารถรักษาความงามของตนเองได้อย่างไม่ต้องกังวล

7.การทำ Hifu สามารถทำเฉพาะจุดได้
Hifu สามารถปรับระดับการรักษาให้เจาะจงไปยังบริเวณที่ต้องการได้ เช่น ยกกระชับแก้ม กรอบหน้า ลำคอ หรือแม้แต่บริเวณรอบดวงตา ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงและตอบสนองความต้องการของผู้เข้ารับการรักษาได้อย่างดี

ข้อควรระวังในการทำ Hifu
แม้ว่า Hifu จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อเสียและความเสี่ยงที่ควรพิจารณา:

1.ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
หลังการทำ Hifu บางคนอาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำ แต่ส่วนใหญ่จะหายไปในเวลาไม่นาน

2.ผลลัพธ์ที่ไม่เท่ากัน
ผลลัพธ์ของการทำ Hifu อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองต่อการรักษา

การเตรียมตัวก่อนการทำ Hifu
การเตรียมตัวก่อนการทำ Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนการทำ Hifu

1.ศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์
• ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Hifu และวิธีการทำงาน
• ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อประเมินสภาพผิวและรับคำแนะนำเกี่ยวกับความเหมาะสมในการทำ Hifu

2.หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือการรักษาผิวอื่นๆ
• หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ การลอกผิว (Peeling) หรือการรักษาผิวที่รุนแรงก่อนทำ Hifu อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือผลข้างเคียง

3.การดูแลผิว
• ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง
• ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื่นและมีสุขภาพดี

4.หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
• หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดหรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำให้ผิวถูกแสงแดดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ Hifu
• ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเพื่อป้องกันการเกิดรอยแดงหรือผิวไหม้

5.หยุดใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เลือดแข็งตัว
• หยุดใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เลือดแข็งตัว เช่น แอสไพริน (Aspirin) หรือยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการทำ Hifu เพื่อป้องกันการเกิดรอยช้ำ

6.แจ้งประวัติการแพ้หรือปัญหาผิว
• แจ้งแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประวัติการแพ้หรือปัญหาผิวที่เคยมี เพื่อให้แพทย์สามารถปรับแผนการรักษาให้เหมาะสม

7.หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในวันที่ทำ Hifu
• ในวันที่ทำ Hifu ควรล้างหน้าให้สะอาดและหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้า เพื่อให้ผิวสะอาดและพร้อมสำหรับการรักษา

ข้อควรปฏิบัติหลังทำ Hifu เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การดูแลผิวหลังการทำ Hifu เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

1.หลีกเลี่ยงแสงแดด
• หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ทำให้ผิวโดนแสงแดดโดยตรง
• ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงอย่างน้อย 30 ขึ้นไปเมื่อออกนอกบ้าน เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV

2.หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง
• หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น เรตินอล (Retinol) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
• ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนและมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น

3.รักษาความชุ่มชื้นของผิว
• ใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและสุขภาพดี
• ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นจากภายใน

4.หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือการรักษาผิวอื่นๆ
• หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ การลอกผิว (Peeling) หรือการรักษาผิวอื่น ๆ ที่รุนแรงเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังการทำ Hifu เพื่อป้องกันการระคายเคือง

5.หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดแรงๆ บนใบหน้า
• หลีกเลี่ยงการนวดหน้า หรือการกดแรงๆ บนบริเวณที่ทำ Hifu อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นฟู

6.ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
• ปฏิบัติตามคำแนะนำและข้อควรระวังที่แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญให้ไว้
• หากมีอาการผิดปกติ เช่น รอยแดง บวม หรือเจ็บปวด ควรปรึกษาแพทย์ทันที

7.พักผ่อนให้เพียงพอ
• พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายและผิวหน้ามีเวลาฟื้นฟู
• หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วงแรกหลังทำ Hifu

8.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อลดการอักเสบและช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้น

9.รักษาการดูแลผิวประจำวัน
• รักษาการดูแลผิวประจำวันด้วยการทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ใช้โทนเนอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และใช้เซรั่มหรือครีมบำรุงที่เหมาะสม

การทำ Hifu เปรียบเทียบกับการทำศัลยกรรมยกกระชับ
การทำ Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) และการทำศัลยกรรมยกกระชับ (Facelift Surgery) ต่างมีวัตถุประสงค์ในการยกกระชับผิวหน้าและลดริ้วรอย แต่มีความแตกต่างกันอย่างมากในหลายด้าน ทั้งในด้านกระบวนการ ผลลัพธ์ และระยะเวลาในการฟื้นตัว ต่อไปนี้คือการเปรียบเทียบระหว่าง Hifu และการทำศัลยกรรมยกกระชับ

Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound)

1.ขั้นตอนการทำงาน
• ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อส่งพลังงานความร้อนลึกลงไปในชั้นผิว
• กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด

2.ระยะเวลาการรักษา
• ใช้เวลาประมาณ 30-90 นาทีต่อการรักษา
• สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันทีหลังการรักษา

3.ผลลัพธ์
• ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนภายใน 2-3 เดือนหลังการรักษา และคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
• ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและไม่รุนแรงเท่าการผ่าตัด

4.ความเสี่ยงและผลข้างเคียง
• ความเสี่ยงต่ำ มีเพียงรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยที่อาจเกิดขึ้นหลังการรักษา
• ไม่มีการเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือรอยแผลเป็น

5.ค่าใช้จ่าย
• ค่าใช้จ่ายในการทำ Hifu ต่ำกว่าการทำศัลยกรรมยกกระชับ

การทำศัลยกรรมยกกระชับ (Facelift Surgery)
1.ขั้นตอนการทำงาน
• ผ่าตัดยกกระชับผิวหน้าโดยการตัดและยกกระชับเนื้อเยื่อผิวหนังและกล้ามเนื้อ
• สามารถปรับรูปหน้าและลดริ้วรอยได้อย่างชัดเจน

2.ระยะเวลาการรักษา
• ใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงในการผ่าตัด
• ต้องพักฟื้นระยะเวลานาน (ประมาณ 2-4 สัปดาห์) ก่อนกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้เต็มที่

3.ผลลัพธ์
• ผลลัพธ์เห็นได้ทันทีหลังการผ่าตัดและคงอยู่ได้นานหลายปี
• ผลลัพธ์สามารถปรับรูปหน้าและลดริ้วรอยได้อย่างชัดเจนและถาวรมากขึ้น

4.ความเสี่ยงและผลข้างเคียง
• ความเสี่ยงสูงกว่าการทำ Hifu เช่น การติดเชื้อ การเกิดแผลเป็น รอยช้ำ และการบวม
• อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบหรือการผ่าตัด

5.ค่าใช้จ่าย
• ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการทำ Hifu เนื่องจากเป็นการผ่าตัดและต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การเลือกใช้ หรือการทำศัลยกรรมยกกระชับขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล หากต้องการผลลัพธ์ที่ไม่ต้องพักฟื้นและมีความเสี่ยงต่ำ Hifu อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวร การทำศัลยกรรมยกกระชับอาจเหมาะสมกว่า การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับสภาพผิว และความต้องการของแต่ละบุคคลค่ะ

Hifu สามารถยกกระชับส่วนใดของใบหน้าได้บ้าง
Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) สามารถยกกระชับและปรับปรุงสภาพผิว ในหลายบริเวณของใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือบริเวณหลัก ๆ ของใบหน้าที่ Hifu สามารถช่วยยกกระชับได้

1.หน้าผากและคิ้ว
• ยกกระชับหน้าผาก ลดริ้วรอยบนหน้าผาก
• ยกคิ้วที่ตกให้ดูสดชื่นและเป็นธรรมชาติ

2.รอบดวงตา
• ลดริ้วรอยรอบดวงตาและถุงใต้ตา
• ยกกระชับผิวบริเวณเปลือกตาบนและล่าง

3.แก้ม
• ยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อย ให้ดูเต็มและสดใสขึ้น
• ลดรอยพับร่องแก้ม (Nasolabial folds)

4.กรอบหน้าและคาง
• ยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้าและคาง ให้ใบหน้าดูเรียวและมีมิติชัดเจน
• ลดเหนียงใต้คาง (Double chin)

5.รอบปาก
• ลดรอยย่นรอบปากและรอยยิ้ม (Smile lines)
• ยกกระชับมุมปากที่ตก

6.ลำคอ
• ยกกระชับผิวบริเวณลำคอที่หย่อนคล้อย
• ลดริ้วรอยและรอยพับบริเวณลำคอ

ระยะเวลาและความถี่ในการทำ Hifu เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน

ระยะเวลาในการทำ Hifu

• ระยะเวลาการทำ Hifu ต่อครั้ง
โดยทั่วไปแล้ว การทำ Hifu แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 30-90 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ความถี่ในการทำ Hifu

• ครั้งแรก
หลังจากทำ Hifu ครั้งแรก จะเห็นผลลัพธ์ที่เริ่มปรากฏขึ้นในช่วง 2-3 เดือน เนื่องจากการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่

• ทำซ้ำ
แนะนำให้ทำ Hifu ซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อรักษาผลลัพธ์และคงสภาพผิวที่ยกกระชับและลดริ้วรอย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ Hifu

Hifu คืออะไร ?
คำตอบ Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิว โดยไม่ต้องผ่าตัด คลื่นเสียงจะถูกส่งไปยังชั้นลึกของผิวหนังเพื่อสร้างความร้อนที่เฉพาะเจาะจงและกระตุ้นการฟื้นฟูคอลลาเจน

Hifu ทำงานอย่างไร ?
คำตอบ Hifu ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงที่สามารถโฟกัสได้อย่างแม่นยำเพื่อส่งพลังงานลงไปที่ชั้นผิวหนังระดับลึก ความร้อนที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นให้คอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นและทำให้ผิวมีความเต่งตึงและกระชับขึ้น

ใครที่เหมาะสมในการทำ Hifu ?
คำตอบ Hifu เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด รวมถึงผู้ที่มีผิวหน้าที่มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง

Hifu สามารถใช้กับส่วนไหนของร่างกายได้บ้าง?
คำตอบ Hifu สามารถใช้ได้กับหลายส่วนของร่างกาย เช่น ใบหน้า ลำคอ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และบั้นท้าย เพื่อการยกกระชับและปรับรูปร่าง

ต้องทำ Hifu กี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
คำตอบ ส่วนใหญ่การทำ Hifu จะเห็นผลหลังจากทำครั้งแรก แต่บางครั้งอาจต้องทำซ้ำ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล

ผลลัพธ์ของ Hifu สามารถคงอยู่ได้นานแค่ไหน?
คำตอบ ผลลัพธ์ของ Hifu มักจะคงอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

การทำ Hifu เจ็บหรือไม่?
คำตอบ: ระดับความเจ็บปวดที่รู้สึกได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่ผู้รับบริการจะรู้สึกได้ถึงความอุ่นหรือรู้สึกตึงที่บริเวณที่ทำ Hifu หากมีความรู้สึกไม่สบายสามารถใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อบรรเทาอาการได้

ต้องพักฟื้นหลังจากทำ Hifu หรือไม่?
คำตอบ ไม่ต้องพักฟื้นหลังการทำ Hifu ผู้รับบริการสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันทีหลังจากการรักษา

มีผลข้างเคียงหรือไม่หลังจากทำ Hifu ?
คำตอบ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยในบริเวณที่ทำ ซึ่งมักจะหายไปในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน นอกจากนี้อาจมีความรู้สึกตึงหรืออาการชาเล็กน้อยในบางบริเวณ

ใครไม่ควรทำ Hifu ?
คำตอบ ผู้ที่มีโรคทางผิวหนังเรื้อรัง ผู้ที่มีแผลเปิด หรือผู้ที่มีอาการแพ้แสงควรหลีกเลี่ยงการทำ Hifu นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษา

Hifu ต่างจากการยกกระชับด้วยวิธีอื่นอย่างไร?
คำตอบ Hifu ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงที่สามารถโฟกัสได้อย่างแม่นยำเพื่อสร้างความร้อนในชั้นผิวหนังระดับลึก ซึ่งแตกต่างจากการยกกระชับด้วยวิธีอื่น ๆ ที่อาจใช้แสงเลเซอร์หรือพลังงานวิทยุ (RF) ที่ทำงานบนผิวระดับพื้นผิว

Hifu สามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ ได้หรือไม่?
คำตอบ ใช่ Hifu สามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ เช่น การใช้เลเซอร์หรือการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับและลดริ้วรอยได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อแผนการรักษาที่เหมาะสม

หลังการทำ Hifu ต้องดูแลอย่างไร?
คำตอบ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงและใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง และควรใช้ครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Hifu เหมาะสำหรับทุกประเภทผิวหรือไม่?
คำตอบ Hifu เหมาะสำหรับทุกประเภทผิว แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่าสภาพผิวของคุณมีความเหมาะสมสำหรับการทำ Hifu หรือไม่

การทำ Hifu มีความปลอดภัยไหม มีอันตรายหรือเปล่า?
คำตอบ Hifu เป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูงและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการใช้ในด้านการเสริมความงามและการรักษาทางการแพทย์

การทำ Hifu มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
คำตอบ ค่าใช้จ่ายในการทำ Hifu จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานที่ การรักษา และบริเวณที่ทำ โดยทั่วไปการทำ Hifu สำหรับใบหน้าจะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท

Hifu สามารถใช้ในการรักษารอยแตกลายได้หรือไม่?
คำตอบ Hifu สามารถช่วยลดเลือนรอยแตกลายได้ โดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวที่ลึกลงไป ทำให้รอยแตกลายดูจางลงและผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น

Hifu สามารถใช้ลดไขมันได้หรือไม่?
คำตอบ ใช่ Hifu สามารถใช้ลดไขมันในบางบริเวณของร่างกาย เช่น หน้าท้อง แขน และขา โดยการส่งพลังงานคลื่นเสียงเข้าไปทำลายเซลล์ไขมันในบริเวณที่ต้องการ

หลังจากทำ Hifu ผิวจะดูเต่งตึงขึ้นทันทีหรือไม่?
คำตอบ ผลลัพธ์จากการทำ Hifu บางส่วนจะเห็นได้ทันทีหลังจากการรักษา แต่ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์จะปรากฏในเวลา 2-3 เดือน เมื่อคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นและทำให้ผิวกระชับมากขึ้น

ต้องหลีกเลี่ยงการทำ Hifu ในช่วงเวลาใดบ้าง?
คำตอบ ควรหลีกเลี่ยงการทำ Hifu ในช่วงที่ผิวมีการอักเสบหรือมีแผลเปิด นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรก็ควรหลีกเลี่ยงการทำ Hifu และควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรักษา

แนวโน้มและเทรนด์การทำ Hifu ในปี 2024

การพัฒนาเทคโนโลยี Hifu
• การพัฒนาเครื่องมือ Hifu ที่มีความแม่นยำสูงขึ้นและสามารถเจาะลึกในชั้นผิวได้มากขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
• การใช้เทคโนโลยี AI ในการประเมินและปรับแต่งการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

การรวม Hifu กับการรักษาอื่นๆ
• การรวม Hifu เข้ากับการรักษาอื่นๆ เช่น การทำเลเซอร์ หรือการใช้ฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครบวงจรและยาวนานขึ้น
• การใช้ Hifu ร่วมกับการบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนหรือเปปไทด์

การทำ Hifu สำหรับบริเวณร่างกายอื่นๆ
• การนำ Hifu ไปใช้ในการยกกระชับและลดเซลลูไลท์ในบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา และแขน
• การขยายการใช้ Hifu ในการรักษาปัญหาผิวอื่นๆ เช่น รอยแผลเป็นและรอยแตกลาย

ความนิยมในกลุ่มผู้ชาย
• การทำ Hifu กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ชายที่ต้องการรักษาความอ่อนเยาว์และกระชับผิวหน้า

การรักษาที่รวดเร็วและฟื้นตัวไว
• การพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้การทำ Hifu ใช้เวลาน้อยลงและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้ที่รับการรักษาสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที

การเลือกคลินิกและผู้เชี่ยวชาญสำหรับการทำ Hifu
การทำ Hifu ที่ APEX เป็นการตัดสินใจที่ดีเพื่อรับบริการยกกระชับผิวจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญและใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ต่อไปนี้คือเหตุผลและข้อควรพิจารณาในการเลือกคลินิกและผู้เชี่ยวชาญที่ APEX

1.ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทีมแพทย์
• APEX มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนานในการทำ Hifu และการรักษาผิวพรรณ
• แพทย์ที่ APEX ได้รับการฝึกฝนและมีใบรับรองในการใช้เทคโนโลยี Hifu อย่างถูกต้องและปลอดภัย

2.เทคโนโลยีที่ทันสมัย
• APEX ใช้เครื่อง Hifu ที่มีความทันสมัยและได้รับการรับรองมาตรฐานสากล
• การใช้อุปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูงและมีความสามารถในการเจาะลึกในชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.การให้บริการที่ครบวงจร
• APEX มีบริการที่ครบวงจรในการดูแลผิวพรรณ ตั้งแต่การประเมินสภาพผิว การรักษา และการดูแลหลังการรักษา
• การให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่เป็นส่วนตัวจากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ

4.รีวิวและผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้
• APEX มีรีวิวและผลลัพธ์จากลูกค้าที่ผ่านมาเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้
• ลูกค้าที่เคยใช้บริการ Hifu ที่ APEX ต่างแสดงความคิดเห็นในแง่บวกเกี่ยวกับผลลัพธ์และการบริการ

5.ความสะอาดและความปลอดภัย
• คลินิก APEX มีมาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัยที่สูงในการให้บริการ
• การดูแลเรื่องการทำความสะอาดและการป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด

6.การติดตามผลและการดูแลหลังการรักษา
• APEX ให้บริการติดตามผลและการดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าผิวพรรณของลูกค้าได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
• มีการนัดหมายตรวจซ้ำเพื่อประเมินผลลัพธ์และให้คำแนะนำเพิ่มเติม

7.การให้ข้อมูลและการให้ความรู้
• APEX ให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ละเอียดและชัดเจนเกี่ยวกับการทำ Hifu และการดูแลผิวพรรณ
• การให้ความรู้และการตอบคำถามที่เป็นประโยชน์สำหรับลูกค้า

ใครที่กำลังสนใจอยากจะทำ Hifu แต่ยังไม่มั่นใจว่าตัวเองเหมาะมั้ย สามารถปรึกษาที่เราก่อนได้เลยนะคะ เพราะเรามีแพทย์ผู้ช่วยชาญที่จะคอยประเมิณรูปหน้าและเลือกหัตถการที่เหมาะสมกับเรา ให้ดูละมุน สวยปัง ในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิม