บทความเกี่ยวกับ : ปลูกผม Meso Hair , ปลูกผม , Meso Hair
ปลูกผม Meso Hair ดียังไง? เคล็ดลับบอกลาผมร่วง ผมบาง แบบไม่ต้องผ่าตัด
วิธีปลูกผมด้วย Meso Hair คืออะไร มีข้อดีอะไรบ้าง ที่ช่วยให้การบำรุงฟื้นฟูตรงจุด เสริมความแข็งแรง เปลี่ยนผมร่วง ผมบาง ให้ดูหนาอย่างเป็นธรรมชาติ
จัดเต็มกับทุกเรื่องน่ารู้ พร้อมเจาะลึกข้อดีของการปลูกผม Meso Hair ช่วยบำรุงฟื้นฟูลึกถึงราก หยุดผมร่วง ผมบาง เปลี่ยนผมให้แข็งแรง หนาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด
แม้ว่าการปลูกผมด้วย Meso Hair จะเป็นทางเลือกสำหรับแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมล้าน ซึ่งช่วยบำรุงฟื้นฟูเส้นผมให้มีความแข็งแรง หนาสวยได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกวิธีปลูกผมที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผม และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด วันนี้ APEX ได้รวมทุกเรื่องราวน่ารู้ เกี่ยวกับการปลูกผม Meso Hair ปลูกผมตำแหน่งไหนเพื่อเสริมความมั่นใจได้บ้าง รวมถึงข้อดีและข้อเสีย พร้อมเปรียบเทียบวิธีปลูกผมแต่ละแบบ ให้เห็นกันชัด ๆ ก่อนตัดสินใจปลูกผมให้แล้วแบบจัดเต็ม
ผมร่วง ผมบาง ผมล้าน เกิดจากอะไร ?
ปัญหาผมร่วง ผมบาง และผมล้าน เป็นปัญหาที่สร้างความปวดหัวได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทั้งยังเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจ และบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าใครที่เริ่มมีสัญญาณบ่งบอกว่าผมกำลังร่วงมากผิดปกติ ก็ยิ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัว ดังนั้นเพื่อช่วยให้การปลูกผมเห็นผล และทันท่วงที เราควรทำความเข้าใจกับสาเหตุเบื้องต้นกันก่อนปลูกผม ว่าผมร่วง ผมล้าน ที่กำลังเป็นอยู่เกิดจากอะไรได้บ้าง ดังนี้
บทความน่ารู้ รักษาผมร่วง ผมบาง สาเหตุหลักในผู้ชายและผู้หญิงมีขั้นตอนอย่างไร
พันธุกรรม
พันธุกรรมคือปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่เสี่ยงศีรษะล้านแบบพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) ซึ่งคนที่พบว่าสมาชิกในครอบครัวเคยมีปัญหาเกี่ยวกับผมมาก่อน ก็มีโอกาสที่จะเกิดอาการผมร่วง ผมล้าน ได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นการดูแลและมองหาวิธีปลูกผมเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงช่วยให้การรักษาเห็นผล และลดระดับความรุนแรงในระยะยาวได้ด้วย
ฮอร์โมน DHT
ฮอร์โมน DHT หรือ Dihydrotestosterone คือฮอร์โมนประจำตัวของเพศชาย ทำหน้าที่เกี่ยวกับการพัฒนาอวัยวะ รวมถึงเส้นขนต่าง ๆ ทำให้ผู้ชายมีโอกาสเกิดปัญหาผมร่วง ผมล้าน มากกว่าผู้หญิง ซึ่งเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย ฮอร์โมนตัวนี้ทำให้รากผมหดตัวลง ทำให้ผมหลุดร่วง ขาดความแข็งแรง ขณะเดียวกันแม้ผู้หญิงจะมีฮอร์โมนที่คอยควบคุม DHT ตัวนี้อยู่ แต่ก็อาจจะทำให้มีปัญหาจนต้องปลูกผมได้เช่นกัน หากมีระดับฮอร์โมน DHT สูงกว่าปกติ
ความเครียด
ความเครียดคือปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนและการไหลเวียนเลือด ทำให้รากผมได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ นอกจากนั้นขณะที่ร่างกายอยู่ในสภาวะเครียด มันก็จะทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงได้ง่ายขึ้น รวมทั้งกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ชื่อว่าคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมาในปริมาณสูงกว่าปกติ เพื่อจัดการกับความเครียดดังกล่าว จนกระทบกับการทำงานของฮอร์โมนตัวอื่นๆ รวมถึงฮอร์โมน DHT ด้วย
ขาดสารอาหาร
เส้นผมและหนังศีรษะของคนเรา ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของร่างกายที่ต้องการสารอาหารอย่างเพียงพอ เพื่อใช้ในการเจริญเติบโตและฟื้นฟูตัวเองอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อขาดสิ่งเหล่านี้ก็อาจทำให้รากผมและเส้นผมจะอ่อนแอลง ขาด และหลุดร่วงได้ง่ายขึ้น โดยสารอาหารสำคัญที่มีผลต่อการบำรุงผม ได้แก่
• โปรตีน ช่วยเสริมความแข็งแรงและสุขภาพของผม ทำให้ผมใหม่ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดี
• ธาตุเหล็ก ช่วยให้การลำเลียงออกซิเจนไปยังรากผมทำได้ดี มีประสิทธิภาพ
• วิตามินบีรวม เสริมความแข็งแรงของโครงสร้างเส้นผม และรากผม
• วิตามินซี มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเพิ่มความแข็งแรงให้กับรากผมได้
• สังกะสี มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเซลล์และสร้างโปรตีน ลดปัญหาผมร่วง ผมล้าน
• กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของเส้นผม ช่วยไม่ให้ผมแห้ง และเปราะบางเกินไป
ปัญหาสุขภาพและการใช้ยาบางชนิด
โรคบางชนิดมีผลข้างเคียง ที่ทำให้เกิดอาการผมร่วงได้ง่าย เนื่องจากระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานไม่สมดุล เช่น โรคไทรอยด์ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง โรคเบาหวาน หรือภาวะซึมเศร้า ในขณะเดียวกันใครที่ต้องใช้ยาในกลุ่มยาคุมกำเนิด เคมีบำบัด (คีโม) ยาลดความดัน หรือยาโรคข้ออักเสบอย่างเมโธเทรกเซต ก็มีโอกาสทำให้เส้นผมขาดหลุดร่วงได้เช่นกัน
บทความน่ารู้ ปลูกผมผู้ชาย ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ปลูกผมเทคนิคแขนกลแก้ไขได้
สารเคมี
หลายคนที่ต้องเผชิญกับปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมล้าน จนต้องรีบปลูกผมกันอย่างเร่งด่วน อาจไม่เคยเอะใจกันมาก่อนเลยว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านั้น อาจมาจากสารเคมีซึ่งปะปนอยู่กับของใช้ในชีวิตประจำวัน หรือผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงามต่าง ๆ มากมาย เช่น น้ำยากัดหรือฟอกสีผอม ทรีตเมนต์ แชมพู ครีมนวดผม ผลิตภัณฑ์บำรุงผมบางชนิด สเปรย์แต่งทรงผม รวมถึงมลพิษและฝุ่นควันในอากาศด้วย
อุบัติเหตุ
การประสบอุบัติเหตุหรือผลข้างเคียงจากอุบัติเหตุ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ต้องรับการปลูกผมได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่ส่งกระทบโดยตรงต่อหนังศีรษะ ถูกไฟไหม้ การผ่าตัด หรือการใช้ยาบางชนิดหลังผ่าตัดที่ทำให้ผมหลุดร่วงง่ายมากขึ้น เช่น ยาต้านการอักเสบ, ยาแก้ปวด, หรือยารักษาแผลเป็น เป็นต้น
บทความน่ารู้ ปลูกผมสำหรับผู้หญิง คืออะไร ปลูกผมปรับรูปหน้าละมุนได้จริงไหม
เหตุผลที่ควรเลือกปลูกผม
อย่างที่รู้กันดีว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือผมล้าน เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้นการปลูกผม หรือทำ Meso Hair จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์กับผู้ที่มีปัญหาผมอย่างครอบคลุม เช่น
• การปลูกผมช่วยเพิ่มความมั่นใจและเสริมบุคลิกภาพให้ดีมากขึ้น
• การปลูกผมช่วยให้ตัวเองได้มั่นใจ โดยไม่ต้องพึ่งวิกผม
• การปลูกผมเพื่อช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
• การปลูกผมช่วยแก้ปัญหาผมบางและผมล้านได้อย่างตรงจุด
• การปลูกผมสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน แม้ผู้ที่มีผมบางจากพันธุกรรมหรือโรคประจำตัว
• การปลูกผมช่วยคาดหวังผลลัพธ์ที่แน่นอนได้ จากเทคนิคและกระบวนการปลูกผมที่เลือกใช้
ปลูกผม Meso Hair คืออะไร ต่างจากการปลูกผมอื่นๆอย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลปลูกผมตำแหน่งไหนได้บ้าง ช่วยเสริมความมั่นใจ
การปลูกผมในปัจจุบัน สามารถเลือกทำได้ในหลายตำแหน่งตามความต้องการ ซึ่งในหัวข้อนี้เราจะมาดูกันว่ามีตำแหน่งไหนของศีรษะบ้างที่สามารถปลูกผม เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและเสริมลุคให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นได้
ปลูกผมบริเวณแนวผมด้านหน้า (Hairline)
การปลูกผมบริเวณแนวผมด้านหน้า ถือเป็นตำแหน่งยอดฮิต ที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้คนที่รู้สึกว่าตัวเองหัวเถิก หัวเหม่ง หรือรากผมสูงได้ ซึ่งนอกจากมันจะช่วยปรับแนวผมให้ดูเต็มแน่นขึ้นได้แล้ว ก็ยังเป็นการปรับกรอบหน้าให้คมชัดและดูเป็นธรรมชาติ แลดูอ่อนเยาว์ เพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้นอีกด้วย
ปลูกผมบริเวณกลางศีรษะ (Crown Area)
บริเวณกลางศีรษะหรือกลางกระหม่อม คือตำแหน่งเกิดปัญหาผมบาง ผมล้าน ได้บ่อย พบมากโดยเฉพาะผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นรอยเว้าโค้ง หรือผมล้านเป็นวงกลม ถ้าไม่ได้ทำการรักษาหรือปลูกผม ก็จะเริ่มมองเห็นได้ชัดขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพของหนังศีรษะระยะยาว และอาจต้องใช้วิธีการปลูกผมที่ยากและซับซ้อนมากขึ้น
ปลูกผมบริเวณด้านข้างของศีรษะ (Sideburns)
การปลูกผมบริเวณด้านข้างของศีรษะ จะช่วยให้ผมข้างศีรษะดูเต็มแน่น และเชื่อมต่อเป็นแนวเดียวกันกับทรงผมด้านหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นก็ยังช่วยปรับกรอบหน้าให้มีความคมชัด เข้ารูป ช่วยเสริมลุค และทำให้บุคลิกภาพดูดี มีความมั่นใจมากขึ้นได้
ปลูกผมบริเวณด้านหลังของศีรษะ (Donor Site)
แม้ว่าผมบริเวณด้านหลังจะมีความแข็งแรงมากกว่าบริเวณอื่น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นตำแหน่งที่พบปัญหาผมร่วง ผมบาง ได้บ่อยไม่แพ้ตำแหน่งอื่น ๆ เลยเช่นกัน ซึ่งการปลูกผมในบริเวณนี้จะทำให้ผมถูกเติมเต็ม จัดทรงง่าย และทำให้ศีรษะมีความเข้าทรงสวยได้รูปมากขึ้น
ปลูกผมบริเวณขมับ (Temporal Region)
สำหรับใครที่ต้องการปรับกรอบหน้าให้ดูเข้ารูป สมบูรณ์ และเป็นสัดเป็นส่วนมากยิ่งขึ้น มักจะเลือกปลูกผมกันในบริเวณขมับ ซึ่งการปลูกผมบริเวณนี้อาจต้องอาศัยความชำนาญ และเครื่องมือที่มีความทันสมัย แม่นยำ เนื่องจากบริเวณจะมีเส้นผมที่บาง และมีขนาดรูขุมขนเล็กกว่าส่วนอื่น ๆ
ปลูกผมบริเวณเหนือหู (Above the Ears)
ผมบริเวณเหนือหู ถือเป็นส่วนสำคัญที่เชื่อมต่อกับกรอบผมด้านหน้าและด้านหลัง เพราะฉะนั้นการปลูกผมในบริเวณนี้ จึงช่วยเติมเต็มผมให้มีความหนา และเป็นธรรมชาติสวยงามมากขึ้น ซึ่งผมบริเวณเหนือหูมักบางลงตามอายุหรือพันธุกรรม ดังนั้นการสังเกตและเริ่มปลูกผมตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
ปลูกผมบริเวณหนวด เครา และจอน (Facial Hair)
การปลูกผมหรือขนบริเวณใบหน้า ถือเป็นรสนิยมและความต้องการที่ผู้ชายหลายคนมักเลือกทำ เพราะต้องการเสริมลุคให้มีความน่าเกรงขาม คมเข้ม และดูเท่มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นหลายคนก็ยังใช้การปลูกผมบริเวณนี้เพื่อเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อด้วย
ปลูกผมด้วย Meso Hair คืออะไร ?
วิธีปลูกผมด้วย Meso Hair คือการกระตุ้นให้เส้นผมเจริญเติบโต และแข็งแรงมากขึ้น โดยทำการฉีดสารบำรุงและวิตามินหลากหลายชนิด ซึ่งจำเป็นต่อการบำรุงเส้นผมเข้าไป เพื่อบำรุง ฟื้นฟู รวมถึงแก้ไขปัญหาแบบลงลึกถึงรากขน เปลี่ยนผมร่วง ผมล้าน ให้กลับมาเต็มแน่น อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผม แต่ไม่อยากผ่านตัดปลูกผมแบบถาวร ซึ่งถ้าทุกคนทำ Meso Hair เป็นประจำตามที่แพทย์กำหนด ก็จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์จากการปลูกผมได้เต็มที่ มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ปลูกผมด้วย Meso Hair ดีไหม? กี่วันเห็นผล?
หนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด ก็คือการปลูกผมด้วย Meso Hair เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เห็นผลจริง ทั้งยังช่วยให้การบำรุงและฟื้นฟูเส้นผมลงลึกตรงจุดได้ถึงราก โดยหลังฉีดเมโสบำรุงผม จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้นเรื่อย ๆ หลังผ่านไปแล้วประมาณ 3-6 เดือน และจะเห็นผลได้ดีขึ้นเมื่อทำการฉีดเมโสบำรุงผมซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ ในทุก ๆ 2-4 สัปดาห์ อย่างน้อย 4-6 ครั้ง
สารสกัดสำคัญของ Meso Hair ปลูกผมมีอะไรบ้าง
Meso Hair เป็นเทคนิคการปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด แต่จะฉีดสารสกัดและวิตามินต่าง ๆ เข้าสู่หนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม สารสกัดใน Meso Hair ถูกคัดสรรมาเพื่อใช้บำรุงรากผมโดยเฉพาะ ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรงและหนาแน่นขึ้น โดยสารสกัดและวิตามินที่พบใน Meso Hair ก็จะมีอยู่หลายชนิด ดังนี้
• ไบโอติน (Biotin) เสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น
• วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) เช่น วิตามินบี 3, วิตามินบี 5, วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ให้รากผมได้รับสารอาหารจากการปลูกผม Meso Hair เต็มที่
• สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผม ป้องกันการถูกทำร้ายจากสารอนุมูลอิสระ
• สารสกัดจากธรรมชาติ (Natural Plant Extracts) เช่น โสม หรือชาเขียว ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม
• เปปไทด์ (Peptides) ใน Meso Hair ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์รากผมใหม่ ทำให้ผมดูหนาขึ้น
• กรดอะมิโน (Amino Acids) ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม ลดปัญหาผมขาด ผมร่วง หรือผมแตกปลาย
• แร่ธาตุ (Essential Minerals) เช่น สังกะสี หรือธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงรากผม เสริมสร้างความแข็งแรง และลดอาการผมร่วง
ปลูกผม Meso Hair คืออะไร ต่างจากการปลูกผมอื่นๆอย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลMeso Hair ปลูกผมมีข้อดีอย่างไร
การปลูกผมด้วย Meso Hair เป็นวิธีที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยม สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมขาดง่าย ซึ่งก่อนตัดสินใจปลูกผมด้วยวิธีนี้ เรามาเช็กกันดีกว่าว่าข้อดีของการ ปลูกผม Meso Hair มีอะไรบ้าง ดังนี้
ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผล
มาเริ่มกันที่ข้อดีของการปลูกผมแบบ Meso Hair ซึ่งเห็นได้ชัด คือมันเป็นวิธีการปลูกผมซึ่งใช้การฉีดสารบำรุงและวิตามินเข้าสู่หนังศีรษะโดยตรง โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด หรือใช้เครื่องมือใด ๆ ในการดึงรากผมเพื่อปลูกผม ซึ่งอาจทำให้ต้องพักฟื้น เกิดอาการเจ็บหลังปลูกผม หรือทิ้งรอยแผลเอาไว้ได้ ดังนั้นการปลูกผม Meso Hair จึงมีความปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น
ฟื้นตัวเร็ว
การปลูกผมด้วย Meso Hair หรือเมโสบำรุงผม จะเน้นการเติมเต็มสารสกัดและวิตามินหลายชนิด เข้าไปฟื้นฟูและเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผม โดยการฉีดเข้าไปสู่หนังศีรษะ ซึ่งจะไม่มีการผ่าตัดหรือใช้เครื่องมืออื่นใด ที่อาจทำให้เกิดรอยแผล หรือผลข้างเคียงที่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานานเหมือนวิธีการปลูกผมหลาย ๆ วิธี ดังนั้นเมื่อฉีด Meso Hair ปลูกผมแล้ว จึงสามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตปกติได้เลยทันทีไม่ต้องพักฟื้น
บำรุงและฟื้นฟูรากผมได้ตรงจุด
ด้วยหลักการทำงานของ Meso Hair ซึ่งจะต้องฉีดสารเหล่านั้นเข้าสู่หนังศีรษะ ทำให้สารสกัดและวิตามินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไบโอติน วิตามินบีรวม หรือกรดอะมิโน สามารถเข้าไปกระตุ้นการทำงานของรากผม และเสริมความแข็งแรงรากผมได้ตรงจุด เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดอาการผมร่วง ซึ่งอาจลุกลามเป็นปัญหาผมบาง ผมล้าน ในอนาคตได้นั่นเอง
ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
Meso Hair เป็นวิธีการปลูกผม ซึ่งเน้นการฟื้นฟูเส้นผมเดิมให้แข็งแรง โดยการบำรุงรากผมจากภายใน ทำให้ผมเดิมแข็งแรง ผมที่ขึ้นใหม่ก็มีสุขภาพดีมากยิ่ง เปลี่ยนผมบางให้กลับมาเติมเต็ม จนดูหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แตกต่างจากการใช้วิกหรือการต่อผมที่อาจจะดูไม่สมจริง หนาหรือบางเกินไป รวมถึงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างอาการแพ้ คัน หรือเป็นเชื้อราได้
เป็นทางเลือกสำหรับคนไม่อยากผ่าตัด
สำหรับคนที่เริ่มมีสัญญาณเตือน ว่าผมกำลังร่วง ผมบาง จนเครียดว่าอาจทำให้ผมล้านเข้าสักวัน การปลูกผมแบบ Meso Hair ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะหลายคนอาจต้องการปลูกผม แต่ยังไม่พร้อมผ่าตัด กลัวว่าจะต้องรู้สึกเจ็บปวดจากการผ่าตัด หรือเสี่ยงเกิดแผลเป็น ดังนั้นการปลูกผมแบบ Meso Hair จึงช่วยสร้างความสบายใจ และช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการพักฟื้นหรือผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดได้
Meso Hair ปลูกผมมีข้อเสียอย่างไร
แม้ว่าการปลูกผมด้วย Meso Hair จะมีข้อดีหลายข้อ ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์และน่าสนใจ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีข้อจำกัด รวมถึงข้อเสียที่ควรพิจารณาอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เช่น
ผลลัพธ์ไม่ถาวร
เนื่องจากสารสกัดที่อยู่ในเมโสบำรุงผม เป็นเพียงสารที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และเสริมความแข็งแรงให้กับรากผมเท่านั้น ไม่ใช่การปลูกผมถาวร ผลลัพธ์ของ Meso Hair จึงอยู่ได้นานเพียง 6-12 เดือนเท่านั้น (ทำซ้ำประมาณ 4-6 ครั้ง) ดังนั้นหากต้องการคงสภาพผลลัพธ์เอาไว้ให้นานขึ้น จึงจำเป็นต้องทำการปลูกผมด้วย Meso Hair ซ้ำอยู่เสมอ ตามที่แพทย์แนะนำ
อ่านข้อมูลปลูกผมถาวรเพิ่มเติม ปลูกผมถาวร คืออะไร เทคนิคการปลูกผมถาวรมีกี่แบบ
ต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
การปลูกผมด้วย FUT หรือ FUE มักจะเห็นผลได้ในครั้งแรกที่ทำการปลูกผม แต่กับ Meso Hair นั้นไม่เหมือนกัน เพราะวิธีการปลูกผมแบบนี้จะต้องทำซ้ำหลายครั้ง อย่างน้อย 4-6 ครั้ง ถึงจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง โดยเส้นผมจะค่อย ๆ หลุดร่วงน้อยลง ผมหนาขึ้น มีความแข็งแรงมากขึ้น และสุขภาพดีขึ้นเมื่อทำ Meso Hair เป็นประจำ
อ่านข้อมูลปลูกผมด้วย FUT เพิ่มเติม ปลูกผม FUE คืออะไร แก้ปัญหาผมร่วงผมบางศีรษะล้านได้อย่างไร
ค่าใช้จ่ายสะสมสูง
แม้ว่าการปลูกผมด้วยเมโสบำรุงผม หรือ Meso Hair จะมีราคาที่ค่อนข้างถูก เริ่มต้นเพียงหลักไม่กี่พันบาท เมื่อเทียบกับการปลูกผมแบบอื่น ๆ ที่มีราคาหลายหมื่นจึงค่อนข้างได้เปรียบ แต่ด้วยความที่มันไม่ใช่การปลูกผมแบบถาวร ทั้งยังต้องทำซ้ำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในระยะยาวจึงอาจมีค่าใช้จ่ายสะสมที่สูงกว่าได้
ไม่เหมาะกับปัญหาผมรุนแรง
หลักการทำงานสำคัญของวิธีปลูกผมด้วย Meso Hair คือเน้นบำรุงและเติมสารอาหารซึ่งมีประโยชน์ให้กับรากผมอย่างตรงจุด ล้ำลึก ดังนั้นใครที่มีปัญหาผมบางหรือผมล้านเป็นวงกว้างรุนแรง หรือไม่มีรากผมอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่สามารถปลูกผมด้วย Meso Hair ได้ แต่จำเป็นต้องเลือกการปลูกผมด้วย FUT, FUE, DHI แทน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละคน
ปลูกผม Meso Hair คืออะไร ต่างจากการปลูกผมอื่นๆอย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลปลูกผมด้วย Meso Hair ต่างจากการปลูกผมถาวรยังไง ?
วิธีการทำศัลยกรรมปลูกผมที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน มีอยู่หลายเทคนิค หลายวิธีการ โดยการปลูกผมแต่ละแบบก็จะมีหลักการทำงานและข้อดี-ข้อเสียต่างกันออกไป ซึ่งใครที่สนใจปลูกผมด้วย Meso Hair ในหัวข้อนี้เราจะมาเทียบให้เห็นกันชัด ๆ เลยว่าการปลูกผมแบบนี้ ต่างกับวิธีการอื่น ที่นิยมใช้กันทั่วไปตรงไหนบ้าง เพื่อช่วยในการตัดสินใจปลูกผม เช็กได้เลย
1.ไม่ต้องผ่าตัด
Meso Hair เป็นวิธีการปลูกผม ซึ่งทำงานโดยฉีดสารสกัดและวิตามินต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงผม เข้าสู่หนังศีรษะโดยตรง ต่างจากการปลูกผมด้วยเทคนิค FUT หรือ FUE ซึ่งต้องใช้การผ่าตัดและเครื่องมือเพื่อดึงรากผม ซึ่งอาจทิ้งรอยแผลเอาไว้ ต่างจากการปลูกผมด้วย Meso Hair
2.ราคาถูกกว่า
หากเทียบกันที่ราคา Meso Hair ถือเป็นวิธีการปลูกผมที่ค่อนข้างถูกกว่าเมื่อเทียบกับการปลูกผมแบบอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเริ่มต้นกันที่หลักหลายหมื่นบาท แต่ยังคงให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เพราะฉะนั้นใครที่มีงบประมาณจำกัด และมีปัญหาผมบางผมล้านที่ไม่ได้รุนแรงมากนัก การเลือกปลูกผมด้วย Meso Hair จึงคุ้มค่าและเป็นวิธีปลูกผมที่ตอบโจทย์กว่านั่นเอง
3.ต้องทำซ้ำหลายครั้ง
สิ่งที่ Meso Hair ค่อนข้างแตกต่างจากวิธีปลูกผมอื่น ๆ คือมันไม่ใช่การปลูกผมแบบถาวร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องทำซ้ำประมาณ 4-6 ครั้ง ถึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจน และผมจะหนาขึ้นภายใน 3-6 เดือน ต่างจากการปลูกผมถาวรแบบอื่นซึ่งเห็นผลภายใน 6-12 เดือนหลังการปลูกผมเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
4.เหมาะกับปัญหาผมบางระยะเริ่มต้น
แม้ว่าการปลูกผมแบบ Meso Hair จะมีผลลัพธ์น่าพอใจ ช่วยให้ผมหนาสวยอย่างเป็นธรรมชาติขึ้นได้ แต่มันก็เป็นเพียงการฟื้นฟูบำรุงเพื่อให้เส้นผมกลับมาแข็งแรง และขาดหลุดร่วงน้อยลงเท่านั้น เพราะฉะนั้น Meso Hair จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงในระยะเริ่มต้น และยังคงมีรากผมที่แข็งแรงอยู่บ้าง ต่างจากวิธีการปลูกผมอื่น ๆ
สรุปแล้วการปลูกผมด้วย Meso Hair ถือเป็นตัวเลือกสำหรับลดปัญหาผมร่วง ผมบาง ซึ่งมีความคุ้มค่า เพราะนอกจากจะไม่ต้องจ่ายเงินทำหัตถการปลูกผมถาวร ซึ่งอาจมีราคาสูงกว่า ก็ยังให้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติ ช่วยบำรุงเส้นผมให้มีความแข็งแรง และดูหนามากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ Meso Hair อาจจะเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาเรื่องผมในระยะเริ่มต้นเท่านั้น ดังนั้นถ้าเห็นปัญหาเร็ว ก็อย่ารอช้า รีบจัดการปัญหา และเลือกวิธีปลูกผมซึ่งเหมาะสมกับตัวเองเลยก็จะดีที่สุด
Meso Hair กับ PRP ต่างกันยังไง
การปลูกผมด้วย Meso Hair มีความแตกต่างจาก PRP (Platelet-Rich Plasma) อยู่พอสมควร แม้ว่าทั้งสองวิธีจะมีหลักการเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม เพื่อลดปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมขาดความแข็งแรง แต่เนื่องจาก PRP จะใช้เกล็ดเลือดของตัวเอง ฉีดเข้าสู่หนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการทำงานของรากผม ต่างจาก Meso Hair ที่จะใช้สารสกัดและวิตามินที่มีประโยชน์แทน
ขั้นตอนปลูกผม Meso Hair แบบบำรุงลึกถึงรากผม
1.ปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางปลูกผมที่เหมาะสม
2.แพทย์ทำการประเมินสภาพเส้นผม และวางแผนทำ Meso Hair ปลูกผม
3.ทำความสะอาดหนังศีรษะให้สะอาดก่อนปลูกผม
4.เริ่มฉีดสารสกัดและวิตามินของเมโสบำรุงผมเข้าสู่หนังศีรษะ
5.ให้คำแนะนำ เกี่ยวกับวิธีดูแลตัวเองหลังปลูกผม
6.สามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น
ปลูกผม Meso Hair คืออะไร ต่างจากการปลูกผมอื่นๆอย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลวิธีดูแลตัวเองหลังปลูกผมด้วย Meso Hair เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลังจากปลูกผมด้วย Meso Hair ไปแล้ว ถึงแม้จะไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แต่เพื่อให้สารสกัดต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ผลลัพธ์จากการปลูกผมเห็นผลได้ดี คงสภาพได้ยาวนาน ทุกคนจำเป็นจะต้องดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ดังนี้
• หลังจากปลูกผมด้วย Meso Hair ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น สเปรย์ หรือเจลจัดแต่งทรงผม
• หลังจากปลูกผมด้วย Meso Hair ควรหลีกเลี่ยงการสระผมในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังปลูกผม
• หลังจากปลูกผมด้วย Meso Hair ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
• หลังจากปลูกผมด้วย Meso Hair ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก หรือออกกำลังกายหนัก
• หลังจากปลูกผมด้วย Meso Hair ควรหลีกเลี่ยงการ ถู หรือสัมผัสหนังศีรษะบ่อย ๆ หลังปลูกผม
• หลังจากปลูกผมด้วย Meso Hair ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดจัด หรือทำให้หนังศีรษะสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังปลูกผม
ผลข้างเคียงหลังปลูกผมด้วย Meso Hair
สำหรับใครที่ทำการปลูกผมด้วย Meso Hair ในช่วงแรกหลังจากฉีดสารสกัดต่าง ๆ เข้าไปแล้ว ก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้เล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีอาการบวมแดง ระบม หรือเกิดอาการระคายเคืองบริเวณหนังศีรษะ หลังจากนั้นประมาณ 1-3 วันก็อาจจะเริ่มมีอาการคันเนื่องจากปฏิกิริยาตามธรรมชาติของหนังศีรษะที่ตอบสนองต่อสารที่อยู่ใน Meso Hair ได้
ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองได้ หากดูแลตัวเองหลังปลูกผมอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของแพทย์ หากใครที่มีอาการรุนแรงและไม่หายไปเอง ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาโดยด่วน
ปลูกผมด้วย Meso Hair เหมาะกับใคร ? และไม่เหมาะกับใครบ้าง ?
วิธีปลูกผมด้วย Meso Hair สามารถฉีดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยแพทย์ผู้ให้บริการจะเลือกเมโสบำรุงผมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงหรือผมบางในระยะเริ่มต้น และผู้ที่ต้องการเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผม ต้องการให้ผมหนาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ แต่จะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมถาวร หรือมีปัญหาผมล้านรุนแรง
เนื่องจากตัวสารสกัดของ Meso Hair ไม่สามารถสร้างรากผมขึ้นมาใหม่ได้ ดังนั้นผู้เข้ารับบริการจำเป็นจะต้องมีรากผมเดิม เพื่อรับการบำรุงด้วยนั่นเอง ซึ่งใครที่สนใจปลูกผมด้วย Meso Hair หรืออยากหาแนวทางปลูกผมอื่น ๆ ที่เหมาะกับตัวเอง ให้ลองปรึกษากับแพทย์ผู้มีประสบการณ์เรื่องปลูกผมโดยตรงก่อนตัดสินใจก็จะดีที่สุด
บทความน่ารู้ ปลูกผมเทคนิคแขนกล คืออะไร แตกต่างจากปลูกผมวิธีอื่นอย่างไร
สรุปปลูกผมด้วย Meso Hair ดียังไง ช่วยเรื่องไหนบ้าง
ข้อดีสำคัญของการปลูกผมด้วย Meso Hair คือความสามารถในการบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผมได้อย่างล้ำลึก ตรงจุด ด้วยสารสกัดและวิตามินอันทรงคุณประโยชน์มากมาย ช่วยทำให้ผมมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดการหลุดร่วง ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมล้าน โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด แต่ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ปัญหาผมที่รุนแรง หรือคนที่ต้องการปลูกผมถาวร
บทความที่เกี่ยวข้อง ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ LLLT คืออะไร รักษาผมร่วงได้อย่างไร
บทความที่เกี่ยวข้อง เลเซอร์รักษาผมร่วง Hair Restart คืออะไร