Sculptra หัตถการ of the year 2024
Sculptra ได้รับการยกย่องให้เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2024 บอกเลยว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์อย่างแน่นอน เพราะว่า Sculptra แก้ปัญหาได้แบบตรงจุด กระตุ้นคอลลาเจนของผิว เติมเต็มช่องว่างของผิวที่เป็นริ้วรอย
1.Sculptra นวัตกรรมเพื่อการฟื้นฟูผิวหน้าที่มาแรงในปี 2024
2.Sculptra ทางเลือกใหม่สำหรับการฟื้นฟูผิวหน้า
3.Sculptra ทำไมถึงรักษาริ้วรอยลึก ได้ผลดีเยี่ยม ?
4.Sculptra เหมาะกับทุกสภาพผิวหรือไม่ ?
5.อายุเท่าไหร่ถึงควรเริ่มใช้ Sculptra ?
6.สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด Sculptra
7.การตรวจสอบว่า Sculptra เป็นของแท้ดูยังไง
8.การเตรียมตัวก่อนการฉีด Sculptra
9.เทียบเคียง Sculptra กับ Filler อื่นๆ เลือกอะไรดี ?
10.Sculptra ฟื้นฟูผิวในผู้ชายหรือผู้หญิงดีกว่ากัน ?
11.ฉีด Sculptra กี่วันถึงเห็นผล
12.หลังฉีด Sculptra ต้องดูแลยังไง
13.บทสรุป ทำไม Sculptra ถึงเป็นเทรนด์ความงามในปี 2024
Sculptra นวัตกรรมเพื่อการฟื้นฟูผิวหน้าที่มาแรงในปี 2024
Sculptra เป็นหนึ่งในนวัตกรรมด้านความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2024 ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ แต่ยังเสริมสร้างความมั่นใจ หน้าเด็กลงแบบปลอดภัย ไร้สิ่งแปลกปลอม ช่วยฟื้นฟูผิวชั้นลึก ปรับโครงสร้างผิวจากภายใน ช่วยให้ผิวแข็งแรง
Sculptra อีกหนึ่งนวัตกรรมที่เป็นที่นิยมเพราะว่า Sculptra ช่วยให้ผิวดูอ่อนวัย เนื่องจาก Sculptra เป็นสารที่กระตุ้นให้ร่างกายของเราสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเองตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องใช้สารสังเคราะห์อื่นๆ อาทิเช่น ฟิลเลอร์เป็นต้น
Sculptra คืออะไร กระตุ้นคอลลาเจนผิวได้อย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลSculptra ทางเลือกใหม่สำหรับการฟื้นฟูผิวหน้า
Sculptra เป็นตัวเลือกที่ดีในการฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และสดใสในระยะยาวเพราะมีข้อดีต่างๆมากมาย ที่บอกได้เลยว่าทำถึง ได้แก่
1.ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
การที่เราทำการดูแลผิวด้วย Sculptra ผลลัพธ์ของการรักษาสามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปีหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่ง Sculptra จะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์สดใสได้ในระยะยาว
2.กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
ตัวของ Sculptra ต่างจากฟิลเลอร์อื่น ๆ ตรงที่มีการเติมสารเติมเต็มผิว Sculptra จะใช้ poly-L-lactic acid (PLLA) ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายของเราสามารถ ผลิตคอลลาเจนได้เอง ทำให้ผิวหน้าจะดูเป็นธรรมชาติและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นไม่โป๊ะเกิน
3.Sculptra ช่วยลดร่องลึกและรอยย่น
Sculptra ช่วยเติมเต็มร่องลึกและรอยย่นบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยรอบปาก และริ้วรอยที่เกิดจากการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว
4.Sculptra ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
Sculptra จะช่วยกระตุ้นให้ผิวของเราดูมีสุขภาพดีและกระจ่างใสมากขึ้น เพราะ Sculptra สร้างเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังให้ดูสดใสอ่อนเยาวน์
5.ปรับรูปหน้า
ตอบโจทย์มากๆสำหรับคนที่มีใบหน้าตอบ เพราะคุณสมบัติของ Sculptra จะช่วยปรับปรุงรูปหน้าทำให้ใบหน้าดูสมดุลละมุนและได้รูปมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีใบหน้าตอบหรือสูญเสียมวลกล้ามเนื้อดูโทรม ดูไม่เต็มอิ่ม
6.ใช้เวลาพักฟื้นน้อย
หลังการรักษาด้วย Sculptra ไม่ต้องการการดูแลพิเศษมากมาย ซึ่งสะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา
ผิวของเรามีการผลัดเซลล์ผิวในทุกๆวัน เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ดูแล หรือบำรุงอะไรเลยจะทำให้ผิวของเราสูญเสียคอลลาเจนและจะทำให้เสื่อมสภาพไปตามวัยอย่างแน่นอน
Sculptra คืออะไร กระตุ้นคอลลาเจนผิวได้อย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลSculptra ทำไมถึงรักษาริ้วรอยลึก ได้ผลดีเยี่ยม?
หลายคนอาจจะสงสัยว่า Sculptra สามารถรักษาริ้วรอยร่องลึกได้ผลขนาดนั้นจริงๆหรือไม่ เรามาดูวิธีการทำงานของ Sculptra กัน
หลักการทำงานของ Sculptra
• Sculptra คือสาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวของเรา
• ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกาว่าความปลอดภัยต่อร่างกายของเรา
ขั้นตอนการฉีด Sculptra
• Sculptra จะถูกผสมกับน้ำปราศจากเชื้อ (Sterile water) ก่อนนำไปฉีดเข้าชั้นผิวใต้ผิวหนัง (Subcutaneous)
ผลลัพธ์ในช่วงแรกหลังการฉีด Sculptra
• ในช่วง 2-3 วันแรก ผิวบริเวณที่ฉีดจะดูเต็มอิ่มฟูทันที
กระบวนการสร้างคอลลาเจนของ Sculptra
• Sculptra จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงาน โดยส่งสัญญาณให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งมีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนมารวมตัวและเพิ่มจำนวน
• ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนมากขึ้น งานวิจัยพบว่า Sculptra สามารถเพิ่มการสร้างคอลลาเจนได้มากถึง 66.5%
ผลลัพธ์ระยะยาว
• ผิวบริเวณที่ฉีดจะมีความกระชับ อิ่มฟู และโครงสร้างชั้นผิวแข็งแรงขึ้น
• เมื่อเวลาผ่านไป Sculptra จะค่อย ๆ สลายไปหมด เหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้น
ระยะเวลาของผลลัพธ์
• Sculptra สามารถช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรงได้ในระยะยาว
• ผลลัพธ์ในการยกกระชับและฟื้นฟูผิวสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 2 ปี
Sculptra คืออะไร กระตุ้นคอลลาเจนผิวได้อย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลSculptra เหมาะกับทุกสภาพผิวหรือไม่?
ถึงแม้ Sculptra มีคุณประโยชน์กับผิวมากมายทำให้หน้าอ่อนเยาว์ เติมเต็มคอลลาเจน แต่ Sculptra อาจไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว เรามาดูกันว่า สภาพผิวแบบไหนควรหลีกเลี่ยงการฉีด Sculptra
1.สภาพผิวที่ควรหลีกเลี่ยงการฉีด Sculptra
• ผิวที่มีการติดเชื้อ ผู้ที่มีผิวหนังติดเชื้อหรือมีการอักเสบอย่างรุนแรงควรหลีกเลี่ยงการใช้ Sculptra จนกว่าจะรักษาผิวหนังที่ติดเชื้อให้หายขาด
• ผิวหนังไม่ปกติ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น โรคลูปัส หรือโรคผิวหนังที่ต้องรักษาด้วยการใช้ยาต้านการอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้
• ผิวที่บอบบางเกินไป ผู้ที่มีผิวบางมากๆ หรือผิวบอบบางเกินไปอาจมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงมากกว่าผิวปกติ
2.สภาพผิวที่เหมาะสม
ในการฉีด Sculptra สามารถใช้ได้กับผิวที่มีรอยเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย หรือสูญเสียความยืดหยุ่น เพราะ Sculptra ทำงานโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกลับมาเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น
แต่ยังไงก็ตามการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจเลือกฉีด Sculptra เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นวิธีการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับสภาพผิวของคุณและข้อสำคัญ ต้องเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวที่ใช้จริง และต้องมั่นใจว่าเป็นของแท้ เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อสุขภาพของเราในอนาคต
Sculptra คืออะไร กระตุ้นคอลลาเจนผิวได้อย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลอายุเท่าไหร่ถึงควรเริ่มใช้ Sculptra?
การใช้ Sculptra ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ไม่มีอายุที่แน่นอนเหมาะสม สามารถฉีด Sculptra เพื่อบำรุงผิวและเติมเต็มคอลลาเจนให้ใบหน้าดูอิ่มฟู แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะมีการใช้ในช่วงอายุที่เริ่มมีการสูญเสียคอลลาเจนและเกิดริ้วรอย ซึ่งช่วงอายุที่สูญเสียคอลลาเจนแล้วควรจะเสริมได้แก่
1.ช่วงอายุ 30-40 ปี
คนในช่วงอายุนี้มักเริ่มสังเกตเห็นการสูญเสียคอลลาเจนและการเกิดริ้วรอยเล็กน้อย การใช้ Sculptra ในช่วงนี้สามารถช่วยป้องกันและชะลอการเกิดริ้วรอยให้ช้าลงได้ เหมือนยืดเวลาอายุให้หน้าเด็กเหมือน 20 ต้นๆ
2.ช่วงอายุ 40-50 ปีขึ้นไป
คนในช่วงอายุนี้มักมีการสูญเสียคอลลาเจนมากขึ้นและเริ่มมีการหย่อนคล้อยของผิวอย่างชัดเจน การใช้ Sculptra สามารถช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด Sculptra
การฉีด Sculptra เป็นวิธีการที่ช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของผิวด้วยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งก่อนการตัดสินใจฉีด ควรทราบข้อมูลสำคัญ ดังนี้
1.ใช้ของแท้
• ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ Galderma โดยการสแกน QR code
• ตรวจสอบรายชื่อแพทย์และคลินิกที่ได้รับการรับรองการฉีด Sculptra ได้ที่ Galderma Thailand
2.แพทย์ที่ผ่านการอบรม
• เลือกแพทย์ที่เป็น Certified Injector จาก Galderma Thailand
• ตรวจสอบรายชื่อแพทย์และคลินิกที่ได้รับรองการฉีด Sculptra ได้จากเว็บไซต์ข้างต้น
3.การตรวจสอบยา
• ตรวจเช็คยาและขั้นตอนการผสมทั้งหมดเพื่อความมั่นใจว่าเป็นของแท้
4.คลินิกที่มีเครื่องมือหลากหลาย
• เลือกคลินิกที่มีเครื่องมือที่หลากหลาย เช่น Thermage, Ulthera, Potenza, Picosecond Laser, Filler หรือ Botox
• เนื่องจากไม่ใช่ทุกปัญหาจะแก้ไขได้ด้วย Sculptra เพียงอย่างเดียว หลายปัญหาอาจต้องมีการรักษาร่วมกับเครื่องมือกลุ่มพลังงาน
5.การวิเคราะห์และออกแบบการรักษา
• เลือกคลินิกที่เน้นการวิเคราะห์สาเหตุและสามารถออกแบบการรักษาแบบเฉพาะบุคคล
• ผสมผสานการรักษาเพื่อให้ได้รับผลลัพธ์จากตัวยาและการรักษาสูงสุด
• การวางแผนการรักษาและเทคนิคที่ตรงกับสาเหตุเป็นสิ่งสำคัญ
การเตรียมตัวและเลือกคลินิกที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ช่วยให้การฉีด Sculptra มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด
Sculptra คืออะไร กระตุ้นคอลลาเจนผิวได้อย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลการตรวจสอบว่า Sculptra เป็นของแท้ดูยังไง
1.บรรจุภัณฑ์ ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ของ Sculptra ว่ามีการพิมพ์และการปิดผนึกที่ถูกต้องหรือไม่ มีเลขทะเบียนหรือไม่ และฉลากทั้งหมดจะต้องชัดเจน
2.ข้อมูลผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ของ Sculptra ควรมีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อย่างครบถ้วน เช่น ส่วนประกอบ วันผลิต วันหมดอายุ และคำแนะนำในการใช้
3.เลข Lot และหมายเลข Serial ผลิตภัณฑ์ของ Sculptra ของแท้มักจะมีเลข Lot และหมายเลข Serial ที่สามารถตรวจสอบกับบริษัทผู้ผลิตได้
4.ซื้อและใช้บริการการฉีด Sculptra จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ซื้อ Sculptra จากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น คลินิกที่มีใบอนุญาต หรือสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรอง
5.ราคาสมเหตุสมผล หากราคาถูกเกินไป อาจเป็นของปลอม ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่งเพื่อให้แน่ใจว่าราคาของ Sculptra อยู่ในระดับที่เหมาะสม
6.การตรวจสอบผ่านบริษัทผู้ผลิต สามารถติดต่อบริษัทผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายของ Sculptra ในพื้นที่ของคุณเพื่อตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือไม่
7.ฉลาก QR Code บางผลิตภัณฑ์อาจมี QR Code ที่สามารถสแกนเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ได้
การเตรียมตัวก่อนการฉีด Sculptra
1.ปรึกษาแพทย์
• ประวัติการแพ้ แจ้งแพทย์หากมีประวัติการแพ้หรือเคยมีปฏิกิริยาต่อสารเติมเต็มอื่นๆ
• ยาที่ใช้ แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่กำลังใช้อยู่ รวมถึงยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ เช่น ยาแก้ปวดแอสไพริน, ยากลุ่ม NSAIDs, วิตามินอี และอาหารเสริมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำ
2.งดการใช้ยาและอาหารเสริมบางประเภท
• หลีกเลี่ยงยาแก้ปวดและอาหารเสริม ควรงดการใช้ยาแอสไพริน, ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs), วิตามินอี และอาหารเสริมบางชนิด เช่น โสม และกระเทียม ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนการฉีดเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
3.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
• งดการดื่มแอลกอฮอล์ ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนการฉีด Sculptra เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและบวม
4.การดูแลผิว
• หลีกเลี่ยงการทำทรีทเมนต์ผิว ควรหลีกเลี่ยงการทำทรีทเมนต์ผิวที่รุนแรง เช่น การลอกผิวด้วยสารเคมีหรือการทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด Sculptra
• ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนและหลีกเลี่ยงการขัดผิวอย่างรุนแรง
5.เตรียมความพร้อมทางจิตใจ
• ทำความเข้าใจกระบวนการ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีด Sculptra และทำความเข้าใจในกระบวนการ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และข้อควรระวังหลังการฉีด
• ตั้งคำถาม หากมีข้อสงสัยใดๆ ควรถามแพทย์ให้เข้าใจก่อนการตัดสินใจ ฉีด Sculptra
6.การพักผ่อน
• พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการฉีด Sculptra เพื่อให้ร่างกายและผิวพร้อมที่สุด
7.สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย
• เลือกเสื้อผ้าที่สบาย สวมเสื้อผ้าที่สบายในวันฉีด Sculptra เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังบริเวณที่ฉีด Sculptra
การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมจะช่วยให้การฉีด Sculptra เป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
เทียบเคียง Sculptra กับ Filler อื่นๆ เลือกอะไรดี?
หลายคนอาจจะสงสัยว่า Sculptra จะต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ยังไง ตารางนี้รวมคำตอบไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ความแตกต่างของส่วนประกอบระหว่าง Sculptra และฟิลเลอร์ , หลักการทำงานของ Sculptra และฟิลเลอร์ , ผลลัพธ์ของ Sculptra และฟิลเลอร์ , ข้อดีของ Sculptra และ ฟิลเลอร์ ต่างกันยังไง , บริเวณที่ฉีดของ Sculptra และ ฟิลเลอร์ สุดท้ายคือ จำนวนครั้งที่ควรจะฉีดเพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด ระหว่าง Sculptra และฟิลเลอร์
หัวข้อ |
Sculptra |
Filler |
---|---|---|
ส่วนประกอบหลัก |
Poly-L-Lactic-Acid |
Hyaluronic Acid (HA), CaHA, PMMA |
หลักการทำงาน |
กระตุ้นการสร้าง Collagen type 1 ใต้ผิวหนัง โดยที่คอลเจนจะสร้างขึ้นตามธรรมชาติเป็นไปตามกระบวนการของร่างกาย |
เติมเต็มร่องลึกและเพิ่มปริมาตรใต้ผิวทันทีหลังจากฉีด เพราะตัวของฟิลเลอร์ ทดแทนส่วนที่หายไป ที่ผสานกับเนื้อเยื่อจริงได้ |
ระยะเวลาของผลลัพธ์ |
ใช้เวลาอยู่ที่ 2 – 3 ปี หรือ 25 เดือน เพราะเป็นคอลลาเจนจริงตามธรรมชาติ แต่ก็จะเสื่อมลงตามอายุและวิธีดูแลรักษา |
ใช้เวลาอยู่ที่ 6-18 เดือน |
ข้อดี |
ผลลัพธ์จะเป็นไปตามธรรมชาติ อยู่ได้นาน จะเป็นการช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ผิวจะดูแน่นและฟูขึ้น ริ้วรอยจะตื้นขึ้น ผิวจะแข็งแรงอย่างเห็นได้ชัด |
ช่วยปรับรูปหน้าได้เลยทันทีตามต้องการ จมูก คาง รับกับหน้า อีกทั้งยังลดเลือนริ้วรอย ต่างๆได้อีกด้วย |
บริเวณที่ฉีด |
สามารถฉีดได้ทั่วใบหน้าเลย ตามบริเวณ ที่เราต้องการให้ผิวมีความ ฟู แน่น เฟิร์ม แต่บริเวณที่ควรยกเว้นคือ หน้าผาก จมูก ฝีปาก และร่องแก้ม |
บริเวณที่อยากเติมเต็ฒ หรือ |
จำนวนครั้งที่ฉีด |
ฉีด 2-3 ครั้ง เว้นระยะห่าง 4-6 สัปดาห์ โดยจะฉีดบริเวณใต้หนังแท้ |
ฉีด 1 ครั้ง (แต่อาจมีการปรับแต่งเพิ่มเติม) ฉีดซ้ำทุก 6-18 เดือน (ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์) |
Sculptra ฟื้นฟูผิวในผู้ชายหรือผู้หญิงดีกว่ากัน ?
Sculptra สามารถใช้ฟื้นฟูผิวในทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้หมดเลย ซึ่งการฉีด Sculptra จะขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ไม่ได้มีข้อจำกัดทางเพศในการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ แต่มีปัจจัยบางอย่างที่อาจทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกันบ้าง
ภาพก่อน - หลังทำ Sculptra (กระตุ้นคอลลาเจนผิวได้อย่างไร)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลปัจจัยที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ในการฉีด Sculptra
1.สภาพผิวในการฉีด Sculptra สภาพผิวของผู้ชายและผู้หญิงอาจแตกต่างกัน เช่น ผู้ชายอาจมีผิวที่หนากว่าและมีการผลิตน้ำมันมากกว่า
2.ความต้องการ ผู้ชายและผู้หญิงอาจมีความต้องการในการฟื้นฟูผิวที่แตกต่างกัน เช่น ผู้ชายอาจเน้นการลดริ้วรอยลึกและการปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม ในขณะที่ผู้หญิงอาจเน้นการเติมเต็มร่องลึกและการยกกระชับ
3.ฮอร์โมน ฮอร์โมนสามารถมีผลต่อการเสื่อมสภาพของผิวหนังและการตอบสนองต่อการรักษา
4.วิถีชีวิต การดูแลผิว การออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารสามารถมีผลต่อผลลัพธ์ที่ได้รับ
ภาพก่อน - หลังทำ Sculptra (กระตุ้นคอลลาเจนผิวได้อย่างไร)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลการใช้งาน Sculptra ในผู้ชายและผู้หญิง
• ผู้ชาย มักจะใช้ Sculptra เพื่อปรับปรุงโครงหน้าที่ลึกและสร้างโครงสร้างใหม่ เน้นการลดริ้วรอยลึกและการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
• ผู้หญิง มักจะใช้ Sculptra เพื่อเติมเต็มร่องลึก การยกกระชับผิว และปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว
Sculptra เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคลและการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ภาพก่อน - หลังทำ Sculptra (กระตุ้นคอลลาเจนผิวได้อย่างไร)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฉีด Sculptra กี่วันถึงเห็นผล
Sculptra เป็นการแก้ปัญหา โดยแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญจะใช้เข็มขนาดเล็กฉีด
กรดโพลิ-L-แลกติกเข้าไปในผิวหนัง การฉีดแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผลลัพธ์ของ Sculptra จะค่อยๆ ปรากฏขึ้น โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์จึงจะเห็นผลเต็มที่ และผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี
หลังฉีด Sculptra ต้องดูแลยังไง
• การนวดบริเวณที่ฉีด หลังฉีด Sculptra ต้องนวดบริเวณที่ฉีดเบาๆ เป็นเวลา 5 นาที วันละ 5 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน เพื่อช่วยให้สาร Sculptra กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
• การหลีกเลี่ยงความร้อน หลังฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนสูง เช่น การอาบแดด ซาวน่า หรือการออกกำลังกายหนัก ที่อาจทำให้เกิดการบวมแดง
• การหลีกเลี่ยงการกดทับ หลังฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณที่ฉีด เช่น การนอนคว่ำ หรือการสวมหมวกที่รัดแน่นในช่วงแรกๆ
• การใช้ยาแก้ปวด หลังฉีด Sculptra ถ้าหากมีอาการปวดหรือบวมเล็กน้อย สามารถใช้ยาแก้ปวดที่ไม่มีสเตียรอยด์ เช่น พาราเซตามอล หลีกเลี่ยงยาแอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดช้ำ
• การติดตามผล หลังฉีด Sculptra ควรเข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลและปรึกษาหากมีปัญหาหรือข้อสงสัย
• การดูแลผิว หลังฉีด Sculptra ควรดูแลผิวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรงหรือมีส่วนผสมของกรดที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง
• การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีน หลังฉีด Sculptra ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนในช่วงแรกๆ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการบวมและช้ำเพิ่มขึ้น
Sculptra คืออะไร กระตุ้นคอลลาเจนผิวได้อย่างไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลบทสรุป ทำไม Sculptra ถึงเป็นเทรนด์ความงามในปี 2024
Sculptra เป็น Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลกที่กู้ผิว ปลุกคอลลาเจน Type 1 ได้เอง เพิ่มขึ้นถึง 66.5% และเป็นตัวเดียวที่ผ่าน US FDA ต้อง Sculptra® ผลลัพธ์ต่อเนื่องยาวนานได้ถึง 2 ปี ช่วยปรับปรุงคุณภาพของผิวหน้า ให้ยกกระชับ และลดเลือนริ้วรอย ผิวยกกระชับหลังฉีด Sculptra ริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ปลอดภัยผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
ใครที่รู้สึกสนใจอยากฉีด Sculptra สามารถทักมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ APEX เพื่อดูว่ารูปหน้าของเราเหมาะสมในการฉีด Sculptra หรือไม่ ซึ่งเรามีบริการระดับพรีเมี่ยม และรับรองในคุณภาพของยาทุกตัวว่าของแท้แน่นอน
บอกเลยว่าฉีด Sculptra ปุ๊ป ผิวกระชับ หน้าส่ง ออร่าออก อ่อนเยาวน์แบบเดาอายุไม่ถูกเลย ด้วยข้อดีที่มีเยอะขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไม Sculptra ถึงเป็นเทรนด์ความงามในปี 2024 สมมงมากค่ะ