บทความเกี่ยวกับ : ใต้ตาดำ

ฟิลเลอร์ใต้ตา
Radiesse
Skinvive
Filler 12900

บอกต่อ 11 วิธีแก้ปัญหาใต้ตาดำเพิ่มความสดใส แลดูอ่อนเยาว์
11 วิธีแก้ใต้ตาดำเปลี่ยนหน้าโทรม ให้สดใส ดูอ่อนกว่าวัย
ใต้ตาดำเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนกังวล เพราะนอกจากจะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส ส่งผลต่อความมั่นใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้หลายคนมักต้องหาวิธีปกปิด ซึ่งอาการดังกล่าวสามารถเกิดได้ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งยังมีสาเหตุหลากหลาย ดังนั้นการจะช่วยให้ผิวรอบดวงตากลับมาดูกระจ่างใส จึงต้องทำความเข้าใจกับต้นตอ รวมถึงวิธีป้องกันที่เหมาะสม ดังนั้นวันนี้ APEX จะมาแชร์ 11 วิธีลดใต้ตาดำฉบับอัปเดต เพื่อแก้ปัญหาขอบตาดำได้อย่างตอบโจทย์

ใต้ตาดำ

ใต้ตาดำเกิดจากอะไร 11 วิธีแก้ขอบตาดำคล้ำ เห็นผลเร็วเร่งด่วน

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาดำ ขอบตาดำคล้ำ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ใต้ตาดำคืออะไร ?
ใต้ตาดำหรือรอยคล้ำใต้ดวงตา (Periorbital Dark Circles) คือภาวะที่ผิวหนังบริเวณใต้ดวงตามีสีคล้ำกว่าปกติ ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นสีน้ำตาล, สีม่วง, หรือสีดำ ขึ้นอยู่กับสีผิว สาเหตุ และความรุนแรงของอาการ ส่งผลทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส และดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริง โดยอาการใต้ตาดำนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบริเวณใต้ตาที่บางลง ทำให้มองเห็นเส้นเลือดฝอยและเม็ดสีเมลานินชัดเจนขึ้น จนเห็นเป็นสีที่คล้ำเข้มกว่าสีผิวปกติ หรืออาจมีลักษณะคล้ายอาการช้ำได้ในบางกรณี

ทำไม "ใต้ตาดำ" ถึงเป็นปัญหากวนใจที่ต้องจัดการ
ปัญหาใต้ตาดำไม่ได้ส่งผลกระทบแค่เรื่องของความสวยความงามเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจในตัวเอง ทำให้หลายคนรู้สึกกังวลเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้คน เพราะกลัวว่าการมีใต้ตาดำจะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย ขาดความสดใส นอกจากนั้นสาว ๆ หลายคนก็ยังรู้สึกปวดหัว เมื่อต้องแต่งหน้าเพื่อปกติใต้ตาที่ดำคล้ำมากกว่าปกติ ทำให้การหาวิธีลดใต้ตาดำเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยปัญหาที่พบบ่อยของการมีใต้ตาดำก็ได้แก่

• ใต้ตาดำส่งผลต่อความมั่นใจ
• ใต้ตาดำทำให้ดูแก่กว่าวัย
• ใต้ตาดำส่งผลต่อบุคลิกภาพ
• ใต้ตาดำทำให้ใบหน้าดูขาดความสดใส
• ใต้ตาดำทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย หรือเครียดตลอดเวลา
• ใต้ตาดำทำให้วิตกกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์
• ใต้ตาดำอาจส่งผลต่อสุขภาพจิต

ใต้ตาดำ

ใต้ตาดำเกิดจากอะไร 11 วิธีแก้ขอบตาดำคล้ำ เห็นผลเร็วเร่งด่วน

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาดำ ขอบตาดำคล้ำ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

11 วิธีแก้ใต้ตาดำลดความหมองคล้ำ ให้ใบหน้าดูสดใส
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์และหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดำลดความหมองคล้ำบริเวณใต้ตาอยู่หลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีข้อดี และข้อจำกัดที่ต่างกันออกไป ซึ่งวิธีไหนที่จะตอบโจทย์ และเหมาะสำหรับการแก้ปัญหาขอบตาดำของแต่ละคนได้บ้าง มาเช็กพร้อมกันได้เลย

1.มาส์กใต้ตาดำ
มาส์กใต้ตาดำเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาบริเวณรอบดวงตา โดยมีส่วนผสมที่ช่วยลดรอยคล้ำ ลดบวม และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี เรตินอล หรือไฮยาลูรอนิก ซึ่งเมื่อใช้เป็นประจำจะช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาสดใสขึ้น ลดความหมองคล้ำ ใต้ตาดำและทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดชื่นขึ้นได้

ข้อดี
• ใช้งานง่าย สะดวก สามารถทำได้เองที่บ้าน
• มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว แก้ใต้ตาดำเช่น ไฮยาลูรอนิก แอซิด, วิตามินซี, หรือสารสกัดจากธรรมชาติ
• หาซื้อได้ง่าย มีราคาไม่แพง

ข้อควรระวัง
• ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าการรักษาด้วยหัตถการลดใต้ตาดำ
• บางคนอาจแพ้ส่วนผสมบางชนิดในมาส์ก ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้
• ควรเลือกมาส์กที่ได้มาตรฐานและมี อย. รับรอง
• อาจต้องใช้ระยะเวลานานในการแก้ปัญหาใต้ตาดำ

2.ครีมทาใต้ตาดำ
ครีมทาใต้ตาดำเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยลดรอยคล้ำ ลดใต้ตาดำและปรับสีผิวใต้ดวงตาให้สม่ำเสมอขึ้น มักมีส่วนผสมที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ชะลอการเกิดริ้วรอยใต้ดวงตา และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว อย่างกรดไฮยาลูรอน ไนอะซินาไมด์ เปปไทด์ เรตินอล หรือวิตามินซี ดังนั้น การใช้ครีมทาใต้ตาดำอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตากระจ่างใส รอยคล้ำจางลง ผิวดูสุขภาพดีขึ้น

ข้อดี
• มีส่วนผสมที่ช่วยลดรอยคล้ำและบำรุงผิวรอบดวงตา เช่น วิตามินเค, เรตินอล, หรือเปปไทด์
• ช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาชุ่มชื้นและดูสุขภาพดีขึ้น
• สามารถทาครีมใต้ตาดำได้บ่อยตามต้องการ
• ไม่ต้องทาทิ้งไว้ เหมือนการมาส์กใต้ตาดำ

ข้อควรระวัง
• ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอในการเห็นผลลัพธ์
• บางคนอาจแพ้ส่วนผสมบางชนิดในครีม ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้
• ควรเลือกครีมที่ได้มาตรฐานและมี อย. รับรอง

3.โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดำ
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดำเป็นหัตถการเพื่อลดใต้ตาดำด้วยการเติมเต็มกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เข้าไปในบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตา ถุงใต้ตาเทียม ความหย่อนคล้อย หรือใต้ตาดำโดยฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยเติมเต็ม Volume ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาดูเรียบเนียน อิ่มฟู และรอยคล้ำดูจางลง นอกจากนั้นก็ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ด้วย

ข้อดี
• เห็นผลลัพธ์ค่อนข้างรวดเร็ว เมื่อเทียบวิธีแก้ปัญหาใต้ตาดำอื่น ๆ
• ช่วยแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตา ใต้ตาดำและถุงใต้ตาเทียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ช่วยปรับให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใสขึ้น

ข้อควรระวัง
• อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือแดง บริเวณที่ฉีดหลังทำ
• ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำเมื่อฟิลเลอร์สลายตัว
• ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความรู้

4.โปรแกรม PRP (Platelet-Rich Plasma)
PRP หรือ Platelet-Rich Plasma คือการนำเลือดของตัวเองมาปั่น เพื่อแยกเอาส่วนประกอบของเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูง แล้วนำมาฉีดกลับเข้าไปในบริเวณใต้ตา โดยเกล็ดเลือดเหล่านี้จะปล่อยสาร Growth Factors ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ฟื้นฟูผิว และช่วยลดใต้ตาดำได้

ข้อดี
• ใช้องค์ประกอบจากเลือดของตัวเอง จึงลดอาการแพ้ หรือผลข้างเคียงรุนแรง
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ
• ฟื้นฟูผิวบริเวณใต้ตาให้แข็งแรง ลดใต้ตาดำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

ข้อควรระวัง
• ต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
• อาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำ บริเวณที่ฉีดหลังแก้ปัญหาใต้ตาดำ

5.โปรแกรม Exosome Therapy
Exosome Therapy ช่วยลดใต้ตาดำได้ โดยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิวใต้ตาให้แข็งแรงและสุขภาพดีขึ้น โดย Exosome Therapy เป็นอนุภาคขนาดเล็ก ที่สามารถส่งสารที่ช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งช่วยให้ผิวใต้ตาดูหนาขึ้นและกระชับมากขึ้น เมื่อผิวใต้ตาได้รับการฟื้นฟูและเสริมสร้างคอลลาเจนแล้ว ก็จะช่วยลดความหมองคล้ำ ลดใต้ตาดำและทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น

ข้อดี
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ลดใต้ตาดำ
• ลดการอักเสบ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

ข้อควรระวัง
• ราคาค่อนข้างสูง
• อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้
• อาจปวดระบมตามรอยเข็ม
• หากทำบ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดอาการบวมและระคายเคืองผิว

6.โปรแกรม Meso Brightening
Meso Brightening คือโปรแกรมฉีดวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ และสารบำรุงผิวต่าง ๆ เข้าไปในบริเวณใต้ตา เพื่อช่วยลดรอยคล้ำและปัญหาขอบตาดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ รวมทั้งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว สารที่ฉีดเข้าไปจะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ใต้ตาดำดูสว่างขึ้นและสดใสขึ้น

ข้อดี
• ช่วยลดรอยคล้ำ ใต้ตาดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอขึ้น
• เพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวบริเวณใต้ตา
• เห็นผลลัพธ์ได้ค่อนข้างเร็ว

ข้อควรระวัง
• ต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
• อาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำ บริเวณที่ฉีดหลังทำ
• อาจมีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งต้องทำโดยผู้ที่ชำนาญการ

7.โปรแกรม Picosecond Laser
โปรแกรม Picosecond Laser เป็นเลเซอร์ที่มีความเร็วในการปล่อยพลังงานสูง (ระดับ Picosecond) ทำให้สามารถทำลายเม็ดสีเมลานิน ที่เป็นสาเหตุของใต้ตาดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ ซึ่หัตถการลดใต้ตาดำนี้จะช่วยลดรอยคล้ำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสขึ้น โดยที่ใช้เวลาในการทำหัตถการไม่นาน จึงค่อนข้างสะดวกสบาย

ข้อดี
• ช่วยลดรอยคล้ำ ใต้ตาดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสขึ้น
• ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน

ข้อควรระวัง
• อาจมีอาการแดง บวม หรือรู้สึกแสบร้อนหลังทำ
• ต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

8.โปรแกรม HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)
โปรแกรม Hifu หรือ High-Intensity Focused Ultrasound เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ช่วยในยกกระชับผิวบริเวณรอบดวงตา ลดริ้วรอย ลดความหย่อนคล้อย แก้ปัญหาใต้ตาดำและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งในบางกรณีการยกกระชับผิวบริเวณรอบดวงตา อาจช่วยลดความหมองคล้ำใต้ตาได้

ข้อดี
• ช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และลดความหย่อนคล้อย
• ลดใต้ตาดำ
• ไม่ต้องผ่าตัด
• ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน

ข้อควรระวัง
• ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการผิวแพ้ง่ายหรือการอักเสบของผิวใต้ตา
• ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับเลือดหรือโรคผิวหนังบางชนิด
• อาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกตึง ๆ บริเวณที่ทำ

9.โปรแกรมฉีดไขมันตัวเอง (FAT TRANSFER)
โปรแกรมฉีดไขมัน หรือ Fat Transfer เป็นการนำไขมันจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก มาผ่านกระบวนการคัดกรองและเติมเต็มเข้าไปในบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ไขปัญหาร่องลึก ถุงใต้ตาเทียม และปรับสภาพผิวให้ดูอิ่มเอิบขึ้น ไขมันที่ฉีดเข้าไปจะทำหน้าที่เป็นฟิลเลอร์ ที่ทำให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น ช่วยลดเลือนรอยคล้ำ แก้ไขปัญหาใต้ตาดำ

ข้อดี
• ใช้ไขมันจากร่างกายตัวเอง ลดความเสี่ยงต่อการแพ้
• ช่วยลดใต้ตาดำ
• ผลลัพธ์ค่อนข้างถาวร

ข้อควรระวัง
• ต้องทำโดยแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
• อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือเจ็บ บริเวณที่ดูดไขมันและฉีดไขมัน
• อาจต้องฉีดซ้ำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
• อาจเกิดการเคลื่อนตัวของไขมัน (Fat Graft Migration) ในบางกรณี

10.ผ่าตัดถุงใต้ตา
การผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นการผ่าตัดเพื่อนำไขมันส่วนเกินและผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณใต้ตาออก การผ่าตัดจะช่วยแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย เมื่อนำไขมันส่วนเกินออกไปแล้ว รอยคล้ำใต้ตาอาจดูจางลงได้ในบางกรณี ซึ่งแต่ละคลินิกอาจจะมีเทคนิคในการผ่าตัดเพื่อลดใต้ตาดำต่างกัน แนะนำให้สอบถามก่อนใช้บริการ เพื่อทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมก่อนใช้บริการ

ข้อดี
• ช่วยแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้ค่อนข้างยาวนาน
• แก้ปัญหาใต้ตาดำหมองคล้ำ
• ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใสขึ้น

ข้อควรระวัง
• การผ่าตัดอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน หรือเกิดแผลหลังผ่าตัด
• ต้องใช้เวลาพักฟื้น
• อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือเจ็บ บริเวณที่ผ่าตัดหลังทำ
• ต้องทำโดยศัลยแพทย์เท่านั้น

11.โปรแกรม PLINEST
โปรแกรม Plinest คือการฉีดสาร Polynucleotides ซึ่งสกัดจากปลาเทราต์ (Trout) เป็นแหล่ง DNA ที่เข้ากันได้ดีกับผิวมนุษย์ มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว รวมถึงกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์และการผลิตคอลลาเจน ตอบโจทย์การฟื้นฟูผิวในบริเวณที่บอบบาง เช่น รอบดวงตา ช่วยลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูความสดใสให้กับใต้ตาดำและดูเหนื่อยล้า ให้กลับมาดูมีสุขภาพดียิ่งขึ้น

ข้อดี
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง
• ลดเลือนริ้วรอยและรอยหมองคล้ำใต้ตา
• ช่วยให้ผิวใต้ตาแข็งแรงและดูสดใสขึ้น
• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน

ข้อควรระวัง
• ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
• อาจมีอาการบวม แดง หรือเจ็บ บริเวณที่ฉีดหลังทำ

ใต้ตาดำเกิดจากอะไรได้บ้าง
ปัญหาใต้ตาดำเป็นสิ่งที่หลายคนมีโอกาสเจอได้ และอาจทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ ขาดความสดชื่น โดยสาเหตุของใต้ตาดำมีได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะมาจากกรรมพันธุ์ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และปัญหาสุขภาพ ดังนั้นการทำความเข้าใจกับต้นเหตุที่แท้จริง ก็จะช่วยให้สามารถหาทางแก้ไขได้อย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้

• พันธุกรรม ลักษณะผิวรอบดวงตาที่บาง หรือมีเม็ดสีผิวมากกว่าปกติสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้บางคนมีใต้ตาดำตั้งแต่เด็ก แม้จะพักผ่อนเพียงพอก็ยังคงมีรอยคล้ำอยู่
• อายุ เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนและไขมันใต้ตาจะลดลง ทำให้ผิวบางลงและเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังชัดขึ้น นอกจากนี้ กระบวนการไหลเวียนเลือดที่ช้าลงยังส่งผลให้ใต้ตาดำขอบตาดำ และหมองกว่าเดิม
• นอนหลับไม่เพียงพอ การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ร่างกายฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ไม่เต็มที่ เลือดไหลเวียนไม่ดี ส่งผลให้ใต้ตาดำนอกจากนั้นการนอนดึกยังทำให้เส้นเลือดขยายตัวมากขึ้น ทำให้เห็นรอยคล้ำใต้ตาชัดขึ้น
• สภาพแวดล้อม การสัมผัสแสงแดดและรังสียูวีเป็นเวลานาน กระตุ้นให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น ทำให้ใต้ตาดำขึ้น อีกทั้งมลภาวะ ฝุ่น ควัน และสารก่อภูมิแพ้ ยังทำให้ผิวอักเสบและเร่งให้ใต้ตาหมองคล้ำมากขึ้น
• ความเครียด เมื่อร่างกายเผชิญกับความเครียด จะกระตุ้นให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานผิดปกติ ทำให้ผิวซีดเซียวแลใต้ตาดำมากขึ้น นอกจากนี้ความเครียดยังทำให้คุณนอนหลับไม่สนิท ยิ่งส่งผลให้ใต้ตาดำหนักกว่าเดิม
• อาการป่วยบางชนิด ปัญหาใต้ตาดำขอบตาดำ ในบางกรณีอาจเป็นผลข้างเคียงจากโรคบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ทำให้เส้นเลือดใต้ตาขยายตัวและมีการคั่งของเลือด ส่งผลให้ใต้ตาดำคล้ำขึ้น นอกจากนี้โรคเกี่ยวกับตับ ไต หรือโรคโลหิตจาง อาจส่งผลให้ผิวซีดและใต้ตาดำคล้ำมากกว่าปกติได้ด้วย
• ฮอร์โมน ในช่วงตั้งครรภ์ หรือช่วงที่มีประจำเดือน อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้อาจไปกระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินใต้ตาให้เพิ่มขึ้น ทำให้รอยคล้ำดูเข้มขึ้น รวมไปถึงคนที่มีภาวะไทรอยด์ผิดปกติ ก็อาจพบปัญหาใต้ตาดำร่วมกับอาการบวมหรือผิวซีดได้
• อาหารและโภชนาการ การขาดสารอาหาร เช่น วิตามิน C, วิตามิน K และธาตุเหล็ก ทำให้ผิวพรรณขาดความกระจ่างใสและใต้ตาดูคล้ำขึ้น นอกจากนั้นก็ยังรวมถึงการดื่มน้ำน้อยเกินไปก็ส่งผลให้ผิวใต้ตาแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และเกิดรอยหมองคล้ำหรือใต้ตาดำได้ง่าย

ใต้ตาดำ

ใต้ตาดำเกิดจากอะไร 11 วิธีแก้ขอบตาดำคล้ำ เห็นผลเร็วเร่งด่วน

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาดำ ขอบตาดำคล้ำ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

วิธีดูแลผิว เพื่อลดปัญหาใต้ตาดำ
ปัญหาใต้ตาดำอาจเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ใต้ตาดำก็คือพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนั้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน รวมทั้งอาศัยการดูแลผิวรอบดวงตาอย่างถูกวิธี ร่วมกับการทำหัตถการลดขอบตาดำ ก็จะช่วยลดความหมองคล้ำและทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ซึ่งจะมีวิธีอะไรในการดูแลผิวในเบื้องต้นบ้าง มาเช็กกันได้เลย

ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
การทำความสะอาดผิวหน้า รวมถึงบริเวณรอบดวงตา เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการดูแลผิว และช่วยลดปัญหาใต้ตาดำโดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพื่อป้องกันการระคายเคือง หากแต่งหน้า ควรใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางสำหรับดวงตาโดยเฉพาะ และเช็ดอย่างเบามือ

บำรุงผิวใต้ตาสม่ำเสมอ
หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ควรบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข สำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาดำควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดรอยคล้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เช่น

• แก้ปัญหาใต้ตาดำด้วยวิตามินซี (Vitamin C) ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน และต้านอนุมูลอิสระ
• แก้ปัญหาใต้ตาดำด้วยวิตามินเค (Vitamin K) ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด และลดรอยคล้ำ
• แก้ปัญหาใต้ตาดำด้วยเรตินอล (Retinol) ช่วยผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดริ้วรอย
• แก้ปัญหาใต้ตาดำด้วยเปปไทด์ (Peptides) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
• แก้ปัญหาใต้ตาดำด้วยไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

ปกป้องผิวจากแสงแดด
แสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวคล้ำเสียและเกิดริ้วรอย ดังนั้นการทาครีมกันแดด ซึ่งมีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากรังสียูวี หรือปกป้องผิวรอบดวงตาด้วยแว่นกันแดดที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV จึงเป็นอีกหนึ่งทริคง่าย ๆ ที่ช่วยลดปัญหาใต้ตาดำได้ในเบื้องต้น

พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับที่เพียงพอช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ผิว ทำให้ผิวรอบดวงตาดูสดใสขึ้น ขณะหลับ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและลดการอักเสบ ช่วยให้ใต้ตาดำลดลง นอกจากนี้การนอนหลับลึกยังช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของผิวหมองคล้ำใต้ตาดำและริ้วรอยก่อนวัย

ดื่มน้ำเพื่อเติมความชุ่มชื้น
การดื่มน้ำอย่างเพียงพอช่วยรักษาสมดุลของความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและลดความแห้งกร้าน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของใต้ตาดำเพราะหากร่างกายขาดน้ำ ผิวจะดูหมองคล้ำ เส้นเลือดใต้ตาจะเห็นชัดขึ้น ทำให้ใต้ตาดำคล้ำมากกว่าเดิม ที่สำคัญน้ำก็ยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวดูสดใสขึ้น

เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่สำคัญในการบำรุงผิว เช่น วิตามิน C, E และ K ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและลดการอักเสบ การเลือกทานผักและผลไม้สด เช่น เบอร์รี่ ส้ม และผักใบเขียว จะช่วยเติมเต็มสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวแข็งแรง ลดความหมองคล้ำและปัญหาใต้ตาดำ

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว
พฤติกรรมบางอย่างที่เราอาจคาดไม่ถึง อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาใต้ตาดำได้อย่างไม่น่าเชื่อ อย่างการขยี้ตาหรือสัมผัสบริเวณรอบดวงตาบ่อย ๆ จะทำให้ผิวใต้ตาบางลงและเกิดการระคายเคือง ซึ่งอาจทำให้ใต้ตาดำขึ้น การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี และลดความสามารถในการฟื้นฟูของผิว ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุในการเกิดปัญหาใต้ตาดำได้ด้วย

สรุปใต้ตาดำแก้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง
นอกเหนือจากการดูแลตนเองด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อผิวพรรณแล้ว การทำหัตถการต่าง ๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในการแก้ไขปัญหาใต้ตาดำอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดำเพื่อเติมเต็มร่องลึกใต้ตา การทำเลเซอร์เพื่อลดเม็ดสีเมลานิน หรือการฉีด PRP เพื่อฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งวิธีแก้ใต้ตาดำแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้ให้บริการ เพื่อเลือกวิธีการรักษาใต้ตาดำ ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการแก้ปัญหาใต้ตาดำหรือสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX

Apex

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

ใต้ตาดำทำยังไงดี Apex ชวนอัปเดต 11 วิธีลดใต้ตาดำง่าย ๆ ช่วยเปลี่ยนขอบตาดำ หน้าโทรม ให้ดูสดใส อ่อนเยาว์ พร้อมเผยสาเหตุและวิธีป้องกันรอยคล้ำใต้ตาอย่างตรงจุด

430
ฟิลเลอร์ใต้ตา
Radiesse
Skinvive
Filler 12900
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
รับโปรโมชั่นพิเศษ
รับโปรโมชั่นพิเศษ
ปรึกษาฟรี
ปรึกษาฟรี
โทรสอบถามโปรโมชั่น
โทรสอบถามโปรโมชั่น