บทความเกี่ยวกับ : ร้อยไหมคอลลาเจน , ไหมคอลลาเจน , ไหม mono
ร้อยไหม ร้อยไหมคอลลาเจน ไหม mono ให้มากกว่าแค่ความยกกระชับ
ปัจจุบันการร้อยไหมได้รับความนิยมอย่างมากในวงการความสวยความงาม เนื่องจากเป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยยกกระชับผิวหน้า ให้กลับมาดูอ่อนเยาว์และเต่งตึงได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการร้อยไหมคอลลาเจน ไหม Mono
ซึ่งเป็นไหมคอลลาเจนที่มีลักษณะเป็นไหมละลายที่ใช้ในการร้อยไหมซึ่งมีคุณสมบัติเด่นด้านการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน และสร้างเส้นใยอีลาสตินใต้ชั้นผิวขึ้นใหม่ ช่วยให้ผิวแน่นกระชับและแข็งแรงขึ้น โดยผลลัพธ์จากการร้อยไหมคอลลาเจนจะเห็นได้ชัดเจนหลังทำประมาณ 4 สัปดาห์ และสามารถฟื้นฟูผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพักฟื้นนาน ทั้งยังมีความปลอดภัยสูง เพราะการร้อยไหมคอลลาเจนจะสลายเอง เมื่อถึงเวลาระยะหนึ่ง จึงจะไม่ตกค้างในร่างกาย
โดยหนึ่งในชนิดของเส้นไหมที่นิยมในการร้อยไหมคอลลาเจน คือ "ไหม mono" ซึ่งเป็นเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยง แต่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสำหรับแก้ปัญหาผิว
ในบทความนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักเพิ่มเติมเกี่ยวกับการร้อยไหมคอลลาเจน ด้วยการใช้ไหม mono รวมถึงสิ่งสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับการร้อยไหมคอลลาเจน ไหม mono เพื่อให้คุณได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้องก่อนตัดสินใจร้อยไหมคอลลาเจนค่ะ
ร้อยไหมคอลลาเจนคืออะไร ?
ร้อยไหมคอลลาเจนเป็นเทคนิคฟื้นฟูผิวหน้าโดยใช้ไหมละลายชนิดเรียบ หรือที่เรียกกันว่าไหม mono ซึ่งเป็นไหมเส้นเล็ก เรียบและไม่มีเงี่ยง โดยการร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono ถูกพัฒนามาจากไหมที่ใช้ในการเย็บเส้นเลือดในร่างกาย ทำจากวัสดุอย่าง PDO (Polydioxanone) และ PLLA (Poly-L-lactic acid) โดยเมื่อร้อยไหมคอลลาเจน ด้วยไหม mono ที่ใต้ผิวชั้นตื้นแล้ว จะช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง คุณสมบัติคล้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ ส่งผลให้ผิวกระชับ เรียบเนียน ลดริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหน้าค่ะ
อย่างไรก็ตามการร้อยไหมคอลลาเจน ไม่ได้เป็นไหมที่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน แต่การร้อยไหมคอลลาเจนชนิดนี้ เป็นการใช้ไหมละลายในการยกกระชับ ซึ่งสรรพคุณของการไหมละลายนั้นสามารถช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนได้เหมือนกัน
แต่ถูกเรียกแบบนี้เพราะประสิทธิภาพในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนหลังการร้อยไหมคอลลาเจนนั่นเอง ทั้งนี้การใช้ร้อยไหมคอลลาเจน ด้วยไหมเรียบหรือไหม mono ในการร้อยไหมคอลลาเจน จะไม่ให้ผลด้านการยกกระชับชัดเจนเหมือนไหมที่มีเงี่ยง แต่จะให้ผลลัพธ์ในด้านการฟื้นฟูผิวหน้าช่วยให้ผิวอิ่มฟู ลดปัญหาหลุมสิวหรือรูขุมขนกว้าง ส่วนเรื่องของความกระชับนั้นการร้อยไหมคอลลาเจนจะช่วยยกกระชับเพียงเล็กน้อย
ร้อยไหมบริเวณไหนได้บ้าง ?
• ร้อยไหมบริเวณจมูก ร้อยไหมจมูก
• ร้อยไหมบริเวณปีกจมูก ร้อยไหมปีกจมูก
• ร้อยไหมบริเวณร่องแก้ม ร้อยไหมร่องแก้ม
• ร้อยไหมหน้า เพื่อยกกระชับปรับหน้าเรียว ร้อยไหมหน้าเรียว
• ร้อยไหมบริเวณเหนียง เพื่อลดเหนียง ร้อยไหมเหนียง
• ร้อยไหมบริเวณหางตา เพื่อยกหางตา ร้อยไหมยกหางตา (Foxy Eyes)
• ร้อยไหมบริเวณกรอบหน้า ร้อยไหมกรอบหน้า
การทำงานของไหมคอลลาเจน
ในการทำงานของไหมคอลลาเจน ไหม mono นั้นเมื่อร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono เข้าสู่ใต้ผิวหนัง ไหม mono นี้จะกระตุ้นสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่รอบ ๆ ไหม ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น หลังร้อยไหมคอลลาเจนเสร็จสิ้นจะสามารถเห็นผลความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีประมาณ 20 - 30% ทันที และจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากขึ้นในช่วง 1 - 2 เดือนหลังจากผิวเข้าที่ ทั้งนี้ผลลัพธ์จากการร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จะคงอยู่ได้ประมาณ 6 - 18 เดือน
แม้ว่าไหมคอลลาเจนจะให้ผลดีในแง่การฟื้นฟูผิวหน้า แต่เนื่องจากไหมเส้นเล็กจำเป็นต้องร้อยในปริมาณมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ดังนั้นหากร้อยไหมคอลลาเจนมากเกินไปอาจเกิดพังผืดได้ในระยะยาว ปัจจุบันจึงมีการพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เช่น ไหมเงี่ยง เพื่อให้ผลยกกระชับชัดเจนยิ่งขึ้น
ร้อยไหมคอลลาเจน ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง ?
ร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพผิวหน้าในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้ค่ะ
• กระตุ้นสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน การร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นแก่ผิวหน้า ทำให้ผิวดูเต่งตึงและมีสุขภาพดีมากขึ้น
• ช่วยให้ผิวหน้ากระชับมากขึ้น การร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จะช่วยยกกระชับใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเฟิร์มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณกรอบหน้า
• แก้ปัญหารูขุมขนกว้างและหลุมสิว สำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างหรือรอยหลุมสิว การร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จะช่วยเติมเต็มและฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนขึ้น ทำให้ปัญหานี้ลดลงอย่างชัดเจน
• ผิวหน้าดูอิ่มฟู ลดริ้วรอยเล็ก ๆ การร้อยไหมคอลลาเจนสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า ซึ่งทำให้ผิวหน้าดูอิ่มฟูและเรียบเนียนมากขึ้น
ร้อยไหมคอลลาเจน เหมาะกับใครบ้าง ?
• การร้อยไหมคอลลาเจนเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า เช่น ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก หรือมุมปาก สามารถใช้ไหม mono เพื่อช่วยเติมเต็มและลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• สำหรับคนที่ไม่สามารถฉีดฟิลเลอร์ในบางจุดได้ เช่น บริเวณใกล้ลักยิ้ม หรือจุดที่ฟิลเลอร์ทำงานได้ไม่ดี การร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ค่ะ
• เทคนิคร้อยไหมคอลลาเจนเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวบางหรือดื้อโบท็อกซ์ ดังนั้นการร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จึงช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น และลดโอกาสการเกิดริ้วรอยในจุดที่ผิวมักมีการเคลื่อนไหวบ่อย ๆ
• ผู้ที่ต้องการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิว การร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวหน้าให้มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อายุมากและเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิว
• ผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของผิวหย่อนคล้อย สำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือผิวไม่กระชับ การร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จะช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้แน่นขึ้น และช่วยยกกระชับผิวได้เล็กน้อย
ร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากการกระตุ้นคอลลาเจนจะช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ดูแปลกหรือเปลี่ยนแปลงมากเกินพอดี
ร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม monoไม่เหมาะกับใคร
แม้วิธีร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จะเป็นการปรับรูปหน้าและยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยม ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะสมกับการร้อยไหมค่ะ ต่อไปนี้คือคนที่ควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono
• ผู้ที่มีผิวหลวมมากเกินไปหรือผิวบางเกินไปอาจไม่เหมาะกับการร้อยไหมคอลลาเจน เนื่องจากเส้นไหม mono อาจไม่สามารถยึดเกาะผิวได้ดีพอ ทำให้ไม่สามารถได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจหลังจากร้อยไหมด้วยไหม mono
• หลีกเลี่ยงการร้อยไหมคอลลาเจนหากมีโรคผิวหนัง เช่น ผิวอักเสบ หรือมีการติดเชื้อบริเวณที่จะร้อยไหม mono ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการนี้ค่ะ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือการติดเชื้อที่รุนแรงขึ้น อีกทั้งการร้อยไหมคอลลาเจนในสภาพนี้ย่อมสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพผิว
• หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหมคอลลาเจน ดังนั้นควรเลือกวิธีการดูแลผิวที่ปลอดภัย กว่าจนกว่าจะผ่านช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร หรือจนกว่าที่แพทย์จะเห็นว่าสามารถร้อยไหมคอลลาเจนได้
• ปรึกษาแพทย์หากมีประวัติแพ้เส้นไหมที่ใช้ในการร้อยไหมคอลลาเจนหรือประวัติแพ้ยาชา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายหรือผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากการร้อยไหม
• การร้อยไหมคอลลาเจนไม่ใช่วิธีที่ให้ผลลัพธ์ถาวร โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6 - 18 เดือน ดังนั้นหากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า อาจต้องพิจารณาวิธีการอื่น เช่น การผ่าตัดดึงหน้าค่ะ
แม้ร้อยไหมคอลลาเจนเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับหลายคน แต่ควรพิจารณาความเหมาะสมของตนเองก่อนตัดสินใจ หากคุณอยู่ในกลุ่มที่ไม่เหมาะกับการร้อยไหมคอลลาเจน ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีดูแลผิวที่ปลอดภัย และเหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณมากที่สุดค่ะ
ลักษณะของไหมคอลลาเจน
การร้อยไหมคอลลาเจน ด้วยไหม mono เป็นกระบวนการที่ใช้ไหมชนิดพิเศษในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง โดยไหมที่ใช้ในการร้อยไหมคอลลาเจนมีลักษณะหลากหลาย ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิกจะตั้งชื่อและเลือกใช้งาน ดังนี้ค่ะ
• ขนาดและความยาวของเส้นไหม ไหมคอลลาเจนมักมีขนาดสั้น โดยมีความยาวไม่เกิน 10 เซนติเมตร ซึ่งช่วยให้การร้อยไหมคอลลาเจนง่ายและสะดวก
• ขนาดเส้นไหม mono เส้นไหมมีขนาดเล็ก โดยมักมีขนาดอยู่ในช่วง 27G - 30G ทำให้มีความเหมาะสมในการร้อยไหมคอลลาเจน โดยไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดมากนัก
• วัสดุ ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมคอลลาเจนทำจากวัสดุที่สามารถสลายได้เอง เช่น PDO (Polydioxanone), PLLA (Poly-L-lactic acid), และ PCL (Polycaprolactone) ซึ่งมีความปลอดภัยและไม่ตกค้างในร่างกาย
• ลักษณะของเส้นไหม mono ไหมที่เน้นสำหรับร้อยไหมคอลลาเจนจะมีความเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือปุ่มเกลียวแยกออกมาจากเส้นไหม ซึ่งแตกต่างจากไหมชนิดอื่น ๆ ที่อาจมีเงี่ยงเพื่อการยกกระชับ
• รูปแบบ ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมคอลลาเจนอาจมีรูปแบบต่าง ๆ เช่น แบบเส้นเดี่ยว (Single thread), แบบเกลียวพันรอบเข็ม (Twisted thread) หรือแบบคล้ายดอกไม้ (Blooming) ซึ่งแต่ละรูปแบบมีการใช้งานที่แตกต่างกันไปค่ะ
เส้นไหมสำหรับร้อยไหมมีกี่แบบ ?
ไหมสำหรับการร้อยไหม นอกจากแบ่งประเภทตามวัสดุแล้ว ยังสามารถแบ่งตามลักษณะของเส้นไหม ได้ 4 ชนิด ดังนี้ค่ะ
• ไหมเรียบ
ไหมเรียบเป็นไหมละลายที่ไม่มีเงี่ยงหรือเกลียว มักมีชื่อเรียกแตกต่างกันในแต่ละคลินิก เช่น ไหมคอลลาเจน หรือไหม mono นิยมใช้ในการร้อยไหมคอลลาเจนเพื่อกระตุ้นสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวฟูขึ้น ช่วยลดริ้วรอยในบางจุด เช่น ร่องใต้ตาหรือหน้าผาก โดยจะใช้ประมาณ 10 - 20 เส้นต่อจุด และเห็นผลในช่วง 1 - 3 เดือน โดยอยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
• ไหมเงี่ยง
ไหมเงี่ยงหรือที่เรียกว่าไหมก้างปลา หรือเรียกว่า ร้อยไหมก้างปลา มีเงี่ยงเหมือนตะขอ ซึ่งสามารถดึงรั้งเนื้อเยื่อผิวได้ดี เป็นที่นิยมในการยกกระชับแก้มและลดแก้มตอบ ใช้ประมาณ 6 - 12 เส้นต่อการยกกระชับแก้มทั้งสองข้าง มีอายุการใช้งานอยู่ได้ 4 - 12 เดือน
• ไหมเกลียว
ไหมเกลียวเป็นไหมที่มีลักษณะบิดเป็นเกลียว และมักถูกใช้เพื่อเติมเต็มผิวที่ยุบเป็นแอ่งให้เรียบตึงขึ้น โดยใช้ประมาณ 6 - 8 เส้นต่อจุด การร้อยไหมประเภทนี้จะช่วยปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย มีอายุการใช้งานประมาณ 8 เดือน
• ไหมกรวย
ไหมกรวยมีปมติดเป็นระยะ ๆ คล้ายกรวยหรือโคน มักใช้ในการยกกระชับใบหน้า โดยเห็นผลทันทีหลังร้อยไหมเสร็จสิ้น แต่ต้องใช้เข็มขนาดใหญ่ จึงมีโอกาสบวมช้ำสูงกว่าไหมเงี่ยง และมีราคาสูงกว่าด้วย ใช้ประมาณ 2 - 8 เส้นต่อการทำในแต่ละบริเวณ และอยู่ได้ประมาณ 8 - 10 เดือนค่ะ
ไหมคอลลาเจน ต่างจากเส้นไหมชนิดอื่นอย่างไร ?
ไหมคอลลาเจน หรือไหม mono จะเป็นเส้นไหมเรียบ ไม่มีเงี่ยง ซึ่งนิยมใช้ร้อยไหมคอลลาเจนเพื่อกระตุ้นสร้างคอลลาเจนและช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ทว่าไม่เหมาะสำหรับการยกกระชับมากนัก เนื่องจากการร้อยไหมคอลลาเจนจะช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูผิวมากกว่า
โดยส่วนใหญ่การร้อยไหมคอลลาเจนจะนิยมใช้บริเวณร่องใต้ตาและหน้าผาก การร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จะเห็นผลในช่วง 1 - 3 เดือน และมีอายุการใช้งานประมาณ 8 เดือนหรือมากกว่านั้น โดยใช้ไหมประมาณ 10 - 20 เส้นต่อจุดที่ทำ
ในขณะที่ไหมชนิดอื่น เช่น ไหมเงี่ยงและไหมเกลียว มีลักษณะพิเศษซึ่งช่วยในการยึดเกาะกับผิวและทำให้เกิดการยกกระชับที่เห็นผลชัดเจน ไหมเงี่ยงมีเงี่ยงที่ช่วยในการล็อกผิวให้อยู่กับที่ และไหมเกลียวบิดเป็นเกลียวเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ไหมเงี่ยงและไหมเกลียวสามารถให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและนานขึ้น จึงเหมาะสำหรับการร้อยไหมคอลลาเจนเพื่อปรับรูปหน้า และลดความหย่อนคล้อยได้ดีกว่าไหม mono ค่ะ
ข้อดีของการร้อยไหมคอลลาเจน ไหม mono
1.เห็นผลรวดเร็ว ผลลัพธ์หลังร้อยไหมคอลลาเจนเริ่มเห็นได้ภายในไม่กี่สัปดาห์
2.ปลอดภัย เส้นไหมทุกชนิด รวมทั้งไหม mono ที่ใช้ในการร้อยไหมคอลลาเจน สามารถละลายได้เองและไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย
3.ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังการร้อยไหมคอลลาเจน
4.ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ หลังร้อยไหมคอลลาเจนจะช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นเรื่อย ๆ
ข้อเสียของการร้อยไหมคอลลาเจน
1.หลังจากร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono อาจมีอาการบวมและฟกช้ำบริเวณที่เพิ่งผ่านการร้อยไหมคอลลาเจน ซึ่งมักหายเป็นปกติในประมาณ 1 - 2 สัปดาห์
2.หลังการร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อ หรืออักเสบ หากไม่ได้ทำหัตถการโดยคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
3.ผลลัพธ์จากการร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono ไม่คงทนถาวร โดยต้องทำซ้ำทุก 6 เดือน – 1 ปี
4.หากร้อยไหมคอลลาเจนไม่ถูกวิธี หรือรับการร้อยไหมคอลลาเจนจากผู้ไม่เชี่ยวชาญ อาจทำให้เกิดการยุบตัวหรือผิวหนังไม่เรียบเนียน
5.ค่าใช้จ่ายในการร้อยไหมคอลลาเจนค่อนข้างสูง จึงต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการทำซ้ำในอนาคตด้วย
ร้อยไหมคอลลาเจน ใช้กี่เส้น เห็นผลลัพธ์เมื่อไร ?
การร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono มักเห็นผลลัพธ์ภายใน 1 - 3 เดือนหลังทำ โดยผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 3 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและสภาพผิวของแต่ละคน
ขณะจำนวนไหมที่ใช้ในการร้อยไหมคอลลาเจนจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ที่ต้องทำและสภาพโครงสร้างผิวและใบหน้าของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปอาจใช้ประมาณ 10 - 40 เส้น แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและจำนวนไหม mono ที่ต้องใช้ในแต่ละกรณีค่ะ
ร้อยไหมคอลลาเจน อยู่ได้นานไหม ?
ร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จะให้ผลลัพธ์ที่ประมาณ 6 - 18 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของไหมที่ใช้ การดูแลหลังร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono รวมถึงสภาพผิวของแต่ละคนค่ะ ผลลัพธ์จะชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เพราะไหมคอลลาเจนจะกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง
ทำให้ผิวดูอิ่มและยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ หากดูแลอย่างเหมาะสมผลลัพธ์อาจยาวนานกว่าปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายจะเริ่มละลายเส้นไหมและผิวจะกลับสู่สภาพเดิม จึงจำเป็นต้องร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono ซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ไว้
เตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono
1.หยุดยาและวิตามินที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า ควรหยุดการใช้ยาแอสไพริน, ยาแก้อักเสบ และวิตามินอีอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono เพราะยาเหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
2.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงของอาการอักเสบหรือบวมในช่วงหลังการร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono
3.การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายพร้อมรับการรักษาและฟื้นตัวได้ดีขึ้นหลังการร้อยไหมคอลลาเจนค่ะ
วิธีปฏิบัติตัวหลังร้อยไหมคอลลาเจน
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสแรง ๆ บนใบหน้า หลังร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono เสร็จสิ้น ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ เพราะอาจทำให้เส้นไหมด้วยไหม mono เคลื่อนหรือก่อให้เกิดอาการอักเสบได้
2.งดการออกกำลังกายหนัก การออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงในต่อการอักเสบ ฉะนั้นควรพักผ่อน และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความเครียดต่อผิวหน้าประมาณ 1 - 2 สัปดาห์หลังการร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono ค่ะ
3.งดใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของสารเคมี หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของสารเคมี ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ในช่วงแรกของการร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จึงควรเน้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูและมีความอ่อนโยนต่อผิวแทนค่ะ
การร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono คือวิธีที่ใช้ในการฟื้นฟูผิวและยกกระชับใบหน้า โดยใช้ไหมละลายที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวเต่งตึงและดูอ่อนเยาว์ขึ้น ทั้งนี้การร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono ได้รับความนิยมเพราะเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว มีความปลอดภัยสูง และไม่ต้องพักฟื้นนาน นอกจากนี้ร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono ยังช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ดี
อย่างไรก็ตามวิธีร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดหรือปัญหาผิวหนังอักเสบ โดยควรเตรียมตัวและดูแลตัวเองหลังการร้อยไหมคอลลาเจนอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ของหัตถการร้อยไหมคอลลาเจนอยู่ได้นาน และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ด้านยกกระชับและปรับรูปหน้าด้วยการร้อยไหมคอลลาเจน
ที่ APEX Medical Center มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono เพื่อฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับคืนสู่ความตึงกระชับ และอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เราใช้เทคนิคร้อยไหมคอลลาเจนที่ทันสมัยและปลอดภัยที่สุด พร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ที่ APEX เราคัดสรรเฉพาะเส้นไหม mono คุณภาพสูงที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกหลังทำ ปลอดภัย และฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว สามารถติดต่อที่ APEX ทุกสาขาเพื่อขอรับคำปรึกษาได้เลยค่ะ
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการร้อยไหมคอลลาเจน
การร้อยไหมคอลลาเจนคืออะไร ?
การร้อยไหมคอลลาเจนเป็นหัตถการเสริมความงามที่ช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นสร้างคอลลาเจนรวมถึงเส้นใยอีลาสตินใหม่แก่ชั้นผิว โดยใช้เส้นไหมละลายชนิดพิเศษในการร้อยไหม เพื่อช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และแข็งแรงยิ่งขึ้น
ร้อยไหมคอลลาเจนปลอดภัยไหม ?
การร้อยไหมคอลลาเจนถือว่ามีความปลอดภัยสูงค่ะ เพราะเส้นไหมสำหรับใช้ร้อยไหมสามารถละลายได้เอง เพียงแต่ต้องทำหัตถการร้อยไหมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ไหมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากอย. ไทยเท่านั้น
ไหม mono คืออะไร ?
ไหม mono เป็นไหมเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยง ทั้งนี้ไหม mono มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ดังนั้นหลังร้อยไหมคอลลาเจนด้วยไหม mono จะช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการร้อยไหมคอลลาเจนเพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูแข็งแรงขึ้นโดยไม่เน้นไปที่การยกกระชับ
ในระหว่างร้อยไหมคอลลาเจนจะรู้สึกเจ็บมากไหม ?
ก่อนร้อยไหมคอลลาเจนแพทย์จะใช้ยาชาเสมอค่ะ ทำให้ความรู้สึกเจ็บในระหว่างร้อยไหมคอลลาเจนลดลงอย่างมาก แต่หลังทำอาจมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วันค่ะ
ร้อยไหมคอลลาเจนช่วยยกกระชับได้ทันทีหรืไหมอไม่ ?หลังจากร้อยไหมคอลลาเจนสามารถเห็นผลลัพธ์เบื้องต้นได้ทันทีหลังทำค่ะ แต่จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นภายใน 4 สัปดาห์ เนื่องจากไหมจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว ทำให้ผิวค่อย ๆ ยกกระชับและดูเต่งตึงขึ้น
ร้อยไหมคอลลาเจนเหมาะกับทุกคนหรือไม่ ?
การร้อยไหมคอลลาเจนเหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้เต่งตึงเรียบเนียนโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน อย่างไรก็ตามผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด หรือมีการติดเชื้อที่ผิวหน้าควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหมคอลลาเจน เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้ค่ะ
ร้อยไหมคอลลาเจนสามารถทำซ้ำได้บ่อยแค่ไหน ?
ผลลัพธ์จากการร้อยไหมคอลลาเจนจะอยู่ได้ประมาณ 6 - 18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษาหลังร้อยไหมคอลลาเจน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำให้ร้อยไหมคอลลาเจนซ้ำทุก 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อรักษาผลลัพธ์ของการร้อยไหมคอลลาเจนให้อยู่ในระดับที่ต้องการเสมอค่ะ
หลังร้อยไหมคอลลาเจนแต่งหน้าได้เลยหรือไม่ ?
หลังจากร้อยไหมคอลลาเจน ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วง 24 ชั่วโมงแรกค่ะ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
ต้องพักฟื้นหลังการร้อยไหมคอลลาเจนหรือไม่ ?
การร้อยไหมคอลลาเจนไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน หลังจากรักษาเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ผิวหน้าต้องเผชิญแรงกดหรือความร้อนสูงในช่วงแรกหลังการร้อยไหมคอลลาเจนค่ะ