คนที่มีปัญหานอนกรนเสียงดังหรือกรนจนมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับคงจะรู้จักกับ CPAP กันเป็นอย่างดี หลาย ๆ คนก็อาจจะเคยใช้เครื่องนี้ในการช่วยแก้ปัญหานอนกรนกันมาบ้างแล้ว ซึ่งแม้ว่า CPAP จะดีอย่างไร แต่ก็มีข้อจำกัดและสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนไม่อยากใส่เหมือนกับคุณโจ้ พ่อบ้านเกมมิ่ง ที่เปลี่ยนมาจัดการปัญหานอนกรนด้วย SnoreLase ที่ Apex แทน ใครอยากรู้ว่าเพราะอะไร และการทำ SnoreLase จะช่วยแก้ปัญหานอนกรนได้อย่างไร ตามไปอ่านกันเลย
คุณโจ วรวุฒิ ศิริวัฑฒนะ นักสตรีมเมอร์ชื่อดังเจ้าของช่อง “พ่อบ้านเกมมิ่ง” ที่มีปัญหานอนกรนเสียงดังมานานแล้ว ซึ่งเคยตรวจการนอนหลับหรือทำ Sleep Test แล้ว จนได้มาใช้เครื่อง CPAP ที่ใช้การอัดแรงดันอากาศให้กับผู้ใช้ในขณะหายใจเข้า เพื่อเปิดช่องทางเดินหายใจส่วนต้นให้กว้างขึ้น แต่เนื่องจากวิธีการใช้เครื่องต้องนำครอบจมูกเหมือเครื่องช่วยหายใจ ทำให้คุณโจไม่สามารถใช้เครื่องนี้ได้ตลอด
“ใช้มานานมากแล้ว แต่รู้สึกรำคาญครับ และก็นอนไม่ค่อยหลับด้วย ผมก็เลยใช้บ้างไม่ใช้บ้าง”
ซึ่งตอนแรกคุณโจก็คิดว่าการนอนกรนเป็นเรื่องขำ ๆ แต่หลังจากได้ไปทำการศึกษาอย่างจริงจังพบว่าการนอนกรนทำให้เราได้ออกซิเจนไปเลี้ยงในสมองไม่เพียงพอจนทำให้มีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้เลย นอกจากนี้ เวลาคุณโจไปนอนต่างจังหวัดกับเพื่อน ๆ ก็มักจะจองห้องนอนเดี่ยวเพราะเกรงใจเพื่อน ๆ จากการนอนกรนเสียงดังของตัวเอง แล้วด้วยเป็นคนที่ทำงานทุกวัน ถ้าจะให้ใช้วิธีผ่าตัดที่ต้องมานั่งพักฟื้นหรือใช้เวลาทำนาน ๆ ก็อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ จนคุณโจได้มาเจอกับ “เลเซอร์แก้นอนกรน SnoreLase” ที่ Apex
“ตอนแรกเราคิดว่าผ่าตัดหรือเปล่า จะเจ็บไหม
แต่คุณหมอบอกไม่ต้องพักฟื้น ทำ 30 นาทีกลับบ้านได้เลย”
โดยก่อนที่จะเข้ามาทำการรักษากับคุณหมอคุณโจได้ติดต่อเข้ามาก่อน โดยทาง Apex ได้แนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SnoreLab ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับติดตามและให้คะแนนการนอนกรนของเรา โดยจะเปิดไว้ตอนนอนแล้วแอปพลิเคชันจะวัดค่าความดังในการนอนกรน สำหรับคุณโจนั้นมีการนอนแบบไม่มีเสียง 5.30 ชั่วโมง, เสียงกรนเบา 1.30 ชั่วโมง, เสียงกรนดัง 38 นาที และดังมาก ๆ 9 นาที โดยได้รับคะแนนการกรน 25 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่เกินเกณฑ์มาแล้ว
ซึ่งคุณโจได้เข้ามาปรึกษากับคุณหมอก่อนเริ่มทำ คุณหมอได้อธิบายสาเหตุของการนอนกรนว่าเกิดได้จากหลายปัจจัย อย่างแรกต้องดูว่าเราช่องคอแคบหรือเปล่า หรือน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นจนทำให้ส่วนในคอใหญ่ขึ้นจนช่องเลยแคบลง หรืออายุที่มากขึ้นก็จะทำให้ลิ้นไก่ของเราหย่อนลง คนที่อายุมากจึงมีแนวโน้มนอนกรนสูง และท่านอนที่ทำให้นอนกรนซึ่งจะแล้วแต่คน แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือยิงเลเซอร์ให้หดลง แม้อาจจะไม่ได้หายนอนกรน 100% แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยทำให้การนอนกรนดีขึ้น
สำหรับการประเมินอาการนอนกรนของคุณโจ จาก 25 คะแนนของแอปฯ SnoreLab บ่งบอกว่าเป็นการนอนกรนดังเฉย ๆ ยังไม่มีการหยุดหายใจขณะหลับหรืออันตรายมาก โดยการวัดผลลัพธ์คุณหมอจะแนะนำให้ดูเป็นเดือน ถ้าคะแนนเดือนถัดไปลดลง ก็หมายถึงการรักษาเป็นไปได้ดี หรือวัดจากการที่เราตื่นนอนขึ้นมาแล้วไม่เพลียหรือเพลียน้อยลงก็ได้เช่นกัน โดยจะทำเป็นรอบ ๆ รอบละ 1.30 นาที 10 รอบ หลังทำตั้งแต่ครั้งแรกอาการจะดีขึ้น ซึ่งแนะนำให้ทำ 3 ครั้งขึ้นไป จะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ความรู้สึกหลังทำชิวมากครับ รู้สึกไม่เจ็บเลย
แค่รู้สึกอุ่น ๆ และอาจจะรู้สึกคอแห้งเล็กน้อย
คุณหมอเลยจะให้ดื่มน้ำเป็นระยะ ๆ เพื่อลดอาการคอแห้ง”
Snorelase แก้นอนกรนได้อย่างไร
SnoreLase นวัตกรรมใหม่ล่าสุดในรักษาอาการนอนกรนด้วยการใช้เลเซอร์ ซึ่งได้รับการออกแบบและพัฒนาให้สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวที่บอบบางภายในช่องปาก ทำให้เกิดการหดกระชับของกล้ามเนื้อ ลดการปิดกั้นทางเดินหายใจ
หลังจากทำครั้งแรกจะช่วยแก้ไขอาการนอนกรนได้ 20-30% ซึ่งหากยิงอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยทำให้อาการกรนลดลงอย่างชัดเจน สามารถขยับ Class ได้พอสมควร นอกจากนี้ ยังเป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาชา ไม่ต้องฉีดยา ไม่เจ็บ อีกทั้งยังไม่ต้องเตรียมตัวก่อนการรักษา ไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
ใช้เวลาในการทำนานหรือไม่?
การรักษาอาการนอนกรนด้วยวิธีนี้จะใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งประมาณ 45-60 นาที เพียงเดือนละ 1 ครั้ง โดยผลการรักษาจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นหลังจากการทำในครั้งที่ 3-6 ขึ้นอยู่กับอาการและสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล
ผลลัพธ์หลังทำอยู่ได้นานหรือไม่?
โดยปกติแล้วควรทำซ้ำอย่างน้อย 3-6 ครั้ง ขึ้น อยู่กับอาการและสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล โดยหลังจากทำครบคอร์สแล้ว จะสามารถเห็นผลความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ประมาณ 50% และผลของการรักษาจะคงอยู่ได้ 6-12 เดือน หลังจากนั้นอาจมีการนัดเพิ่มเติม ตามคำแนะนำของแพทย์