เช็ค 8 สัญญาณบ่งบอกว่าเรานอนกรน

“นอนกรน” หากเรานอนกับคู่ชีวิตหรือกับเพื่อนคงจะมีคนได้ยินเสียงเรากรนบ้าง แต่หากเรานอนคนเดียวจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อคืนเรานอนกรนหรือเปล่า จริง ๆ แล้วการนอนกรนมีสัญญาณอาการต่าง ๆ ที่ช่วยทำให้เรารู้ได้ ใครมีอาการต่อไปนี้ เช็คด่วน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ 

 

การนอนกรนสำคัญอย่างไร

Asian woman dreaming while sleeping on bed in bedroom

การนอนกรนเกิดจากการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอหอย และผนังลำคอขณะหลับ ทำให้เกิดการอุดกั้นระบบทางเดินหายใจในบางจุดจนเกิดการสั่นสะเทือนของกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ เพดานอ่อน ผนังคอหอย โคนลิ้น รวมไปถึงลิ้นไก่ เมื่อระบบทางเดินหายใจแคบลงการหายใจผ่านบริเวณดังกล่าวจึงทำให้เกิดเสียงกลายเป็นการนอนกรนในที่สุด โดยจะรุนแรงทำให้ไม่สามารถหายใจได้ชั่วขณะหรือ “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ” จนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง,  โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด, อัตราการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ และโรคหลอดเลือดในสมองได้อีกด้วย

 

จริง ๆ แล้วในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันเช็กการนอนหลับ ที่สามารถช่วยเช็กได้ในเบื้องต้นว่า มีอาการนอนกรนไหม ซึ่งถ้าหากพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีอาการนอนกรน ก็ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือทำการรักษาทันที

 

เช็ค 8 สัญญาณบ่งบอกว่าเรานอนกรน

Lifestyle, people emotions and casual concept. annoyed reluctant asian woman standing bored and disappointed at party, lean on palm and looking up irritated, white background

การนอนกรนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่จะมีบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงนอนกรนได้มากกว่า ดังนี้

  • ตื่นมาแล้วไม่สดชื่น อ่อนเพลียง่าย 
  • มึนหัว คล้ายนอนไม่พอ
  • สะดุ้งตื่นตอนนอน
  • ง่วงตอนกลางวัน ทั้งที่นอนหลายชั่วโมง
  • วูบหลับไม่รู้ตัว
  • ฝันร้าย
  • หงุดหงิดง่าย
  • ไม่มีสมาธิ

 

SnoreLase บอกลาปัญหานอนกรน โดยไม่ต้องผ่าตัด

 

Q : SnoreLase คืออะไร?

A : SnoreLase นวัตกรรมใหม่ล่าสุดในรักษาอาการนอนกรนด้วยการใช้เลเซอร์ ซึ่งได้รับการออกแบบและพัฒนาให้สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวที่บอบบางภายในช่องปาก ทำให้เกิดการหดกระชับของกล้ามเนื้อ ลดการปิดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้อาการกรนลดลงอย่างชัดเจน ตั้งแต่การรักษาครั้งแรก นอกจากนี้ยังเป็นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาชา ไม่ต้องฉีดยา ไม่เจ็บ อีกทั้งยังไม่ต้องเตรียมตัวก่อนการรักษา ไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที

 

Q : ข้อควรระวังก่อนทำมีอะไรบ้าง?

A : การทำ SnoreLase สามารถทำได้กับคนทุกเพศทุกวัยที่มีอาการนอนกรน  ขึ้นอยู่กับอาการและสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล ทว่าผู้ที่มีประวัติของอาการเริมกำเริบภายใน 1 ปีก่อนทำ และผู้ที่มีแผลในปากควรหลีกเลี่ยงการทำ เนื่องจากเลเซอร์อาจไปกระตุ้นให้เกิดเริม หรือทำให้แผลในปากยิ่งระคายเคืองได้

 

Q : ใช้เวลาในการทำนานหรือไม่?

A : การรักษาอาการนอนกรนด้วยวิธีนี้จะใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งประมาณ 45-60 นาที เพียงเดือนละ 1 ครั้ง โดยผลการรักษาจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นหลังจากการทำในครั้งที่ 3-6 ขึ้นอยู่กับอาการและสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล

 

Q : ผลลัพธ์ที่ได้จากโปรแกรม SnoreLase เป็นอย่างไร?

A : วิธีนี้สามารถแก้ปัญหานอนกรนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยหลังจากทำครั้งแรกจะช่วยแก้ไขอาการนอนกรนได้ 20-30% ทำให้การนอนหลับกลับสู่ภาวะปกติ หลับสนิทมากขึ้น ผู้เข้ารับการรักษาจะสามารถรู้สึกได้ถึงความรู้สึกสดชื่นหลังตื่นนอนในวันรุ่งขึ้นทันที ไม่มีอาการปากแห้งในตอนเช้า อีกทั้งยังช่วยให้เสียงกรนในขณะนอนหลับลดลงอย่างชัดเจน

 

Q : ผลลัพธ์หลังจากการทำอยู่ได้นานหรือไม่?

A : โดยปกติแล้วการทำ ควรทำซ้ำอย่างน้อย 3-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับอาการและสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล โดยหลังจากทำครบคอร์สแล้ว จะสามารถเห็นผลความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ประมาณ 50% และผลของการรักษาจะคงอยู่ได้ 6-12 เดือน หลังจากนั้นอาจมีการนัดเพิ่มเติม ตามคำแนะนำของแพทย์

 

APEX Life Center : ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและชะลอวัยเอเพ็กซ์ 
เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา เพื่อการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับคุณ
Line : @apexlifecenter https://lin.ee/somJkar
Facebook : Apex Life Anti-Aging
Tel. : 0850000855

 

apex