ข้าวดอกกะหล่ำเป็นอาหารลดน้ำหนักที่ได้รับนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนกินคีโตหรือกลุ่มคนกินอาหารคลีน เนื่องจากอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้เราสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จ ซึ่งข้าวดอกกะหล่ำนั้นจะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร ไปอ่านกัน
ข้าวดอกกะหล่ำคืออะไร
ข้าวดอกกะหล่ำเป็นการนำดอกกะหล่ำมาประกอบอาหารให้มีรูปร่างและสัมผัสคล้ายข้าวสวย แม้รสชาติจริง ๆ จะเป็นดอกกะหล่ำ แต่เวลาที่กินกับกับข้าวต่าง ๆ หรือเอาไปทำเป็นข้าวผัดก็จะให้ความรู้สึกคล้ายกับการได้กินข้าวสวยจริง ๆ อยู่ไม่น้อย
ข้าวดอกกะหล่ำดีกว่าข้าวสวยอย่างไร
ดอกกะหล่ำ 100 กรัม จะให้พลังงานเพียง 12 กิโลแคลอรีเท่านั้น ซึ่งต่างจากข้าวขาว 100 กรัม จะให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี ทำให้ลดโอกาสการได้รับแคลอรีเกินความจำเป็นของร่างกายได้ และดอกกะหล่ำยังมีคาร์โบไฮเดรตต่ำเพียงคาร์โบไฮเดรต 2 กรัม ต่างจากข้าวสวยที่มีคาร์โบไฮเดรต 28.2 กรัม นอกจากนี้ ดอกกะหล่ำยังมีโปรตีน 1 กรัม ซึ่งแม้จะน้อยกว่าข้าวสวยที่มีโปรตีน 2.7 กรัม แต่หากลองเทียบแคลอรีที่จะได้รับแล้ว ดอกกะหล่ำก็ยังคงเป็นทางเลือกสำหรับการลดน้ำหนักที่ดีกว่าข้าวสวย
ผลการศึกษา
อาสาสมัครชายหญิงชาวอเมริกัน 133,468 คนกินดอกกะหล่ำเป็นเวลา 24 ปี พบว่าการกินดอกกะหล่ำสามารถช่วยลดน้ำหนักลงได้ดีกว่าการกินผักผลไม้ที่มีกากใยน้อย มีน้ำตาลและแป้งสูง อย่างข้าวโพด ถั่วลันเตา และมันเทศ
วิธีการทำข้าวดอกกะหล่ำ
นำดอกกะหล่ำ 1 หัว หรือ 600 กรัม มาแช่ด้วยผงเบคกิ้งโซดา ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที แล้วล้างน้ำซ้ำอีก 1-2 น้ำ ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำแล้วนำมาขูดด้วยที่ขูดชีส โดยขูดที่ตัวดอกก่อน สำหรับก้านค่อยนำมาสับด้วยมีดอีกที หรือสับด้วยมีดให้ละเอียด จากนั้นตั้งกระทะหรือหม้อที่มีฝาปิด เติมน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะลงไป แล้วนำดอกกะหล่ำที่ขูดแล้วลงผัด คลุกเล้าไปมาให้เข้ากัน เติมเกสรเกลือลงไปเล็กน้อย ผัดต่อจนเข้ากันดี เปิดไฟแล้วปิดฝา ทิ้งไว้ 3-5 นาที แล้วนำขึ้นเสิร์ฟได้เลย โดยสูตรนี้จะสามารถแบ่งกินได้ 3-4 ครั้ง สามารถอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน ด้วยการเก็บรักษาลงในกล่องชนิดฝาล็อคและใส่ตู้เย็นช่องปกติ
ประโยชน์
ดอกกะหล่ำมีสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ วิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด และมีกรดทาร์ทาริกช่วยยับยั้งกระบวนการเปลี่ยนแป้งและน้ำตาลให้กลายเป็นไขมันส่วนเกิน มีไฟเบอร์สูงช่วยกระตุ้นการขับถ่าย นับว่าเป็นอาหารแคลอรีต่ำที่เหมาะมากกับสาว ๆ ที่อยากลดน้ำหนัก
ตัวช่วยลดหิว ควบคุมแคลลอรี่
ปากกา Slim Shape เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด เปปไทด์ลดหิว Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที
กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape
สมองส่วนกลาง : ทำให้รู้สึกไม่หิว อิ่มนาน ทนน้อย
กระเพาะอาหาร : ย่อยและดูดซึมได้นานขึ้น เพราะหลังทานอาหาร ลำไส้เล็กจะหลั่ง GLP-1 ออกมา เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมอง โดยจะออกฤทธิ์ 24 ชั่วโมง ทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน สามารถลดความหิวและความอยากอาหาร ทำให้ทานได้น้อยลง
ตับอ่อน : ผลิตฮอร์โมนอินซูลินดึงน้ำตาลเข้าเซลล์ Slim Shape ช่วยการหลั่งฮอร์โมนนี้มีคุณภาพดีขึ้น
ผลลัพธ์หลังการใช้ Slim Shape
สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10% นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน
Slim Shape เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
- ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
- ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป
โยโย่ เอฟเฟค
เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา
ความปลอดภัย
ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา