5 ข้อผิดพลาดของมื้อเช้าที่ขัดขวางการลดน้ำหนัก

อาหารเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะอาหารเช้าที่เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ ที่จะส่งผลต่อการควบคุมปริมาณแคลอรีในมื้ออื่น ๆ ได้อีก แต่ก็มีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับกับการกินอาหารมื้อเช้าจนทำให้เกิดข้อผิดพลาดจนลดน้ำหนักไม่สำเร็จได้ วันนี้เราจึงมี 5 ข้อผิดพลาดของมื้อเช้าที่ขัดขวางการลดน้ำหนักมาให้ทุกคนได้ระวังกัน

 

  1. การงดอาหารเช้า 

Free photo funny woman with straight black hair eating croissant during breakfast in cozy apartments

หลายคนคิดว่าการไม่กินอาหารเช้าจะช่วยประหยัดแคลอรี เมื่อได้แคลอรีน้อยร่างกายก็จะไม่มีพลังงานส่วนเกิน ซึ่งความจริงแล้วอาหารเช้ามีความสำคัญกับการใช้ชีวิตและลดน้ำหนักอย่างมาก เพราะอาหารเช้าจะทำให้เราไม่รู้สึกหิวระหว่างวัน โดยเฉพาะการหิวอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลที่เป็นอาหารพลังงานสูงและสามารถเปลี่ยนเป็นไขมันส่วนเกินได้หากเผาผลาญพลังงานได้ไม่หมด

 

  1. กินช้าเกินไป

Free photo medium shot blurred man having breakfast at 8 a.m.

พยายามกินภายในหนึ่งถึงสองชั่วโมงหลังจากตื่นนอน เพราะหลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง ระดับความหิวก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก นำไปสู่การกินมากเกินไป กินเร็วเกินไป และหยิบกินระหว่างเดินทางหรือกินอาหารที่ร้านสะดวกซื้อที่มีแคลอรีสูงได้ ซึ่งหากเราไม่หิวเกินไปเราจะสามารถตัดสินใจเลือกมื้อเช้าได้อย่างเหมาะสม แต่ หากไม่มีเวลาจริง ๆ ก็ลองทำอาหารเช้าสูตรที่ง่ายและรวดเร็วแทนก็ได้ 

 

  1. มีโปรตีนไม่เพียงพอ

Free photo flat lay arrangement with seeds and frame

โปรตีนช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อที่ลดลงตามธรรมชาติ และถ้าได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะทำการสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อออกมาใช้ ส่งผลให้อ้วนได้ง่ายขึ้นและลดน้ำหนักไม่สำเร็จ ซึ่งแทนที่เราจะเน้นกินคาร์โบไฮเดรตเพียงอย่างเดียวให้อิ่มท้อง เราลองเปลี่ยนมามาสนใจโปรตีนแทนเพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อและช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นกันดีกว่า 

 

  1. ขาดใยอาหาร

Free photo high angle of plate with keto diet food and golden fork and knife

ใยอาหารเป็นสารอาหารที่ช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มจนสามารถลดน้ำหนักได้ โดยควรตั้งเป้าที่จะได้รับใยอาหารหนึ่งในสามของความต้องการสำหรับมื้อเช้าของวัน หรือความต้องการใยอาหารสำหรับผู้หญิง  ประมาณ 8 กรัม และความต้องการใยอาหารสำหรับผู้ชาย 13 กรัม 

 

  1. กินแต่อาหารที่มีไขมันต่ำ

Photo ingredients for ketogenic diet healthy eating dieting good fats and proteins

หลายคนมีความเชื่อว่าการกินอาหารที่มีไขมันต่ำจะช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผล แต่จริง ๆ แล้ว ไขมันเป็นอาหารที่มีปรัะโยชน์กับร่างกาย เ็นแหล่งพลังงานอย่างดีในอาหารมื้อเช้า แต่อาหารที่มีไขมันต่ำบางชนิด มีระดับน้ำตาลสูงเพื่อเพิ่มรสชาติให้แก่อาหาร เราจึงไม่ควรกินอาหารเพื่อสุขภาพที่มีไขมันต่ำมากจนเกินไป เพราะนั่นอาจทำให้ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลสูงและทำให้อ้วนโดยไม่รู้ตัวได้

 

โปรแกรมลดน้ำหนักกระชับสัดส่วน 

  1. ปากกาลดน้ำหนัก Slim Shape น้ำหนักลง เราก็รู้สึกได้ผลเร็วดี

เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1  ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที

 

กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape

  • Slim Shape ใช้เทคโนโลยีเปปไทด์ลดหิว (Liraglutide) ซึ่งเป็นสารโปรตีนสกัดที่สามารถเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ตามธรรมชาติของร่างกาย โดยจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณความอิ่มไปที่ “สมองส่วนกลาง”  ทำให้รู้สึกอิ่มได้ยาวนานถึง 24 ชม.
  • ลดการบีบตัวของ “กระเพาะอาหาร“ จึงช่วยทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น การย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้นานขึ้น จึงทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง
  • Slim Shape ยังช่วยกระตุ้นให้ “ตับอ่อน” ซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เพื่อดึงน้ำตาลเข้าเซลล์มีคุณภาพดีขึ้น จึงทำให้สามารถเก็บและนำพลังงานที่สะสมออกมาใช้ได้มีคุณภาพมากขึ้น 

 

ผลลัพธ์หลังการใช้  Slim Shape  

สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80%  เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10%  

 

นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน

 

Slim Shape เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
  2. ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
  3. ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
  4. ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
  5. ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
  6. ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป

โยโย่ เอฟเฟค

เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา

 

ความปลอดภัย

ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา 

 

  1. IV WEIGHT LOSS

จะเพิ่มการเผาผลาญไขมัน เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยควมคุมความหิวและลดความอยากอาหาร ฟื้นตัวได้รวดเร็วจากการออกกำลังกาย ไม่ดูเหนื่อย ไม่โทรม ช่วยให้ดูสดใส และมีชีวิตชีวา รวมส่วนผสมที่เป็นสูตรเฉพาะของ Apex ซึ่งประกอบไปด้วย

Vitamin B Complex : ช่วยลดภาวะเครียด เพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้ ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน หากขาดจะทำให้เกิดการเหนื่อยล้า ความหงุดหงิด สมาธิไม่ดี มีความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

Vitamin C : ช่วยให้ร่างกายนำไขมันมาใช้ประโยชน์ ลดความเหนื่อยล้า ออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น ช่วยการทำงานของต่อมหมวกไต ลดความเครียดและความเหนื่อยล้า 

Lipotropic : ช่วยสลายไข เปลี่ยนไขมันสะสมไปเป็นพลังงานส่งเสริมการสร้างกล้ามเนื้อ

Vitamin B 12 : เป็นขุมพลังสำหรับร่างกาย ช่วยสร้าง DNA เส้นประสาท และเซลล์เม็ดเลือด ระบบเผาผลาญไม่สามารถทำงานได้หากไม่มีวิตามิน Vitamin B 12 หากขาดจะทำให้อ่อนเพลียเหนื่อยล้า

L-carnitine : ช่วยการเผาผลาญ สลายไขมันส่วนเกิน (ไตรกลีเซอร์ไรด์) ในเลือด ทำให้การเผาผลาญกลูโคสดีขึ้น ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการอัตราการเผาผลาญ ช่วยลดน้ำหนัก

 

การลดน้ำหนักด้วย IV Weight Loss ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนได้อย่างรวดเร็ว และดูดซึมได้ถึง 100 % สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ จึงเป็นผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และรวดเร็ว และสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ นอกจากนี้สารอาหารต่าง ๆ อย่างกรดอะมิโนแอซิดและวิตามินหลายชนิด เมื่อต้องผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร ก็อาจจะทำให้เกิดแก๊สหรืออาการปวดกระเพราะ และอีกหลาย ๆ ปัญหาตามมา ในขณะที่ทำการให้สารอาหารผ่านทาง IV จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหล่านั้น 

 

  1. Fit Firm ทรีทเมนต์มที่ทำให้เรารู้สึกเฟิร์มและมี curve มากขึ้น

สามารถกระชับผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ใช้เวลาเพียง 30 นาที เป็นเทคโนโลยีแรก และเทคโนโลยีเดียวที่ผสมผสานพลังงานคลื่นวิทยุเข้ากับพลังเสียงอัตร้าซาวด์ ส่งพลังงานเข้าถึงเนื้อเยื่อผิวในหลายระดับความลึก จึงสามารถกำจัดไขมันและฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวตั้งแต่ในระดับลึกจนถึงระดับผิวชั้นบน มีหัวส่งความเย็นที่ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมสอดคล้องกับการทำงานตลอดเวลา จึงปลอดภัยสูงสุด ไม่เจ็บ ตลอดการทำทรีทเมนท์

 

ทำสัปดาห์ละครั้ง ต่อเนื่องทั้งหมด 4 ครั้งต่อเดือน ผลลัพธ์หลังทำกระชับทันที และผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำครั้งสุดท้าย 1-3 เดือน ทำได้ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ทั่วใบหน้า ลำคอ แขน ขา ก้น หน้าท้อง และอวัยวะเพศหญิง ซึ่งมีหลายหัวที่ใช้ทำ เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบริเวณ

👉ปรึกษาลดน้ำหนักและส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
▪️𝐓𝐞𝐥 : 080-5000-123
▪️𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
▪️𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
▪️𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/