อาหารเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะอาหารเช้าที่เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ ที่จะส่งผลต่อการควบคุมปริมาณแคลอรีในมื้ออื่น ๆ ได้อีก แต่ก็มีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับกับการกินอาหารมื้อเช้าจนทำให้เกิดข้อผิดพลาดจนลดน้ำหนักไม่สำเร็จได้ วันนี้เราจึงมี 5 ข้อผิดพลาดของมื้อเช้าที่ขัดขวางการลดน้ำหนักมาให้ทุกคนได้ระวังกัน
-
การงดอาหารเช้า
หลายคนคิดว่าการไม่กินอาหารเช้าจะช่วยประหยัดแคลอรี เมื่อได้แคลอรีน้อยร่างกายก็จะไม่มีพลังงานส่วนเกิน ซึ่งความจริงแล้วอาหารเช้ามีความสำคัญกับการใช้ชีวิตและลดน้ำหนักอย่างมาก เพราะอาหารเช้าจะทำให้เราไม่รู้สึกหิวระหว่างวัน โดยเฉพาะการหิวอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลที่เป็นอาหารพลังงานสูงและสามารถเปลี่ยนเป็นไขมันส่วนเกินได้หากเผาผลาญพลังงานได้ไม่หมด
-
กินช้าเกินไป
พยายามกินภายในหนึ่งถึงสองชั่วโมงหลังจากตื่นนอน เพราะหลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง ระดับความหิวก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก นำไปสู่การกินมากเกินไป กินเร็วเกินไป และหยิบกินระหว่างเดินทางหรือกินอาหารที่ร้านสะดวกซื้อที่มีแคลอรีสูงได้ ซึ่งหากเราไม่หิวเกินไปเราจะสามารถตัดสินใจเลือกมื้อเช้าได้อย่างเหมาะสม แต่ หากไม่มีเวลาจริง ๆ ก็ลองทำอาหารเช้าสูตรที่ง่ายและรวดเร็วแทนก็ได้
-
มีโปรตีนไม่เพียงพอ
โปรตีนช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อที่ลดลงตามธรรมชาติ และถ้าได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะทำการสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อออกมาใช้ ส่งผลให้อ้วนได้ง่ายขึ้นและลดน้ำหนักไม่สำเร็จ ซึ่งแทนที่เราจะเน้นกินคาร์โบไฮเดรตเพียงอย่างเดียวให้อิ่มท้อง เราลองเปลี่ยนมามาสนใจโปรตีนแทนเพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อและช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นกันดีกว่า
-
ขาดใยอาหาร
ใยอาหารเป็นสารอาหารที่ช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มจนสามารถลดน้ำหนักได้ โดยควรตั้งเป้าที่จะได้รับใยอาหารหนึ่งในสามของความต้องการสำหรับมื้อเช้าของวัน หรือความต้องการใยอาหารสำหรับผู้หญิง ประมาณ 8 กรัม และความต้องการใยอาหารสำหรับผู้ชาย 13 กรัม
-
กินแต่อาหารที่มีไขมันต่ำ
หลายคนมีความเชื่อว่าการกินอาหารที่มีไขมันต่ำจะช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผล แต่จริง ๆ แล้ว ไขมันเป็นอาหารที่มีปรัะโยชน์กับร่างกาย เ็นแหล่งพลังงานอย่างดีในอาหารมื้อเช้า แต่อาหารที่มีไขมันต่ำบางชนิด มีระดับน้ำตาลสูงเพื่อเพิ่มรสชาติให้แก่อาหาร เราจึงไม่ควรกินอาหารเพื่อสุขภาพที่มีไขมันต่ำมากจนเกินไป เพราะนั่นอาจทำให้ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลสูงและทำให้อ้วนโดยไม่รู้ตัวได้
โปรแกรมลดน้ำหนักกระชับสัดส่วน
-
ปากกาลดน้ำหนัก Slim Shape น้ำหนักลง เราก็รู้สึกได้ผลเร็วดี
เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที
กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape
- Slim Shape ใช้เทคโนโลยีเปปไทด์ลดหิว (Liraglutide) ซึ่งเป็นสารโปรตีนสกัดที่สามารถเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ตามธรรมชาติของร่างกาย โดยจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณความอิ่มไปที่ “สมองส่วนกลาง” ทำให้รู้สึกอิ่มได้ยาวนานถึง 24 ชม.
- ลดการบีบตัวของ “กระเพาะอาหาร“ จึงช่วยทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น การย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้นานขึ้น จึงทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง
- Slim Shape ยังช่วยกระตุ้นให้ “ตับอ่อน” ซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เพื่อดึงน้ำตาลเข้าเซลล์มีคุณภาพดีขึ้น จึงทำให้สามารถเก็บและนำพลังงานที่สะสมออกมาใช้ได้มีคุณภาพมากขึ้น
ผลลัพธ์หลังการใช้ Slim Shape
สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10%
นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน
Slim Shape เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
- ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
- ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป
โยโย่ เอฟเฟค
เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา
ความปลอดภัย
ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา
-
IV WEIGHT LOSS
จะเพิ่มการเผาผลาญไขมัน เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยควมคุมความหิวและลดความอยากอาหาร ฟื้นตัวได้รวดเร็วจากการออกกำลังกาย ไม่ดูเหนื่อย ไม่โทรม ช่วยให้ดูสดใส และมีชีวิตชีวา รวมส่วนผสมที่เป็นสูตรเฉพาะของ Apex ซึ่งประกอบไปด้วย
Vitamin B Complex : ช่วยลดภาวะเครียด เพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้ ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน หากขาดจะทำให้เกิดการเหนื่อยล้า ความหงุดหงิด สมาธิไม่ดี มีความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
Vitamin C : ช่วยให้ร่างกายนำไขมันมาใช้ประโยชน์ ลดความเหนื่อยล้า ออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น ช่วยการทำงานของต่อมหมวกไต ลดความเครียดและความเหนื่อยล้า
Lipotropic : ช่วยสลายไข เปลี่ยนไขมันสะสมไปเป็นพลังงานส่งเสริมการสร้างกล้ามเนื้อ
Vitamin B 12 : เป็นขุมพลังสำหรับร่างกาย ช่วยสร้าง DNA เส้นประสาท และเซลล์เม็ดเลือด ระบบเผาผลาญไม่สามารถทำงานได้หากไม่มีวิตามิน Vitamin B 12 หากขาดจะทำให้อ่อนเพลียเหนื่อยล้า
L-carnitine : ช่วยการเผาผลาญ สลายไขมันส่วนเกิน (ไตรกลีเซอร์ไรด์) ในเลือด ทำให้การเผาผลาญกลูโคสดีขึ้น ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการอัตราการเผาผลาญ ช่วยลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักด้วย IV Weight Loss ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนได้อย่างรวดเร็ว และดูดซึมได้ถึง 100 % สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ จึงเป็นผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และรวดเร็ว และสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ นอกจากนี้สารอาหารต่าง ๆ อย่างกรดอะมิโนแอซิดและวิตามินหลายชนิด เมื่อต้องผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร ก็อาจจะทำให้เกิดแก๊สหรืออาการปวดกระเพราะ และอีกหลาย ๆ ปัญหาตามมา ในขณะที่ทำการให้สารอาหารผ่านทาง IV จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหล่านั้น
สามารถกระชับผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ใช้เวลาเพียง 30 นาที เป็นเทคโนโลยีแรก และเทคโนโลยีเดียวที่ผสมผสานพลังงานคลื่นวิทยุเข้ากับพลังเสียงอัตร้าซาวด์ ส่งพลังงานเข้าถึงเนื้อเยื่อผิวในหลายระดับความลึก จึงสามารถกำจัดไขมันและฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวตั้งแต่ในระดับลึกจนถึงระดับผิวชั้นบน มีหัวส่งความเย็นที่ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมสอดคล้องกับการทำงานตลอดเวลา จึงปลอดภัยสูงสุด ไม่เจ็บ ตลอดการทำทรีทเมนท์
ทำสัปดาห์ละครั้ง ต่อเนื่องทั้งหมด 4 ครั้งต่อเดือน ผลลัพธ์หลังทำกระชับทันที และผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำครั้งสุดท้าย 1-3 เดือน ทำได้ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ทั่วใบหน้า ลำคอ แขน ขา ก้น หน้าท้อง และอวัยวะเพศหญิง ซึ่งมีหลายหัวที่ใช้ทำ เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบริเวณ