5 ฮอร์โมน มีผลกับการลดน้ำหนัก ที่ควรรู้จัก

“ฮอร์โมน” ไม่ได้มีผลกับอารมณ์และผิวเพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบกับการลดน้ำหนักโดยตรงอีกด้วย ซึ่งหากเราสามารถรักษาสมดุลของฮอร์โมนที่เกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอาหาร อารมณ์ ความเครียด และอื่น ๆ ได้ ก็จะเป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยทำให้ลดน้ำหนักสำเร็จได้ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 5 ฮอร์โมน มีผลกับการลดน้ำหนักกัน

 

5 ฮอร์โมน มีผลกับการลดน้ำหนัก ที่ควรรู้จัก

  1. ฮอร์โมนอินซูลิน

Free photo hand holding a blood glucose meter measuring blood sugar, the background is a stethoscope and chart file

ฮอร์โมนอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างโดยตับอ่อน จะมีหน้าที่จับกับอินซูลินรีเซปเตอร์ที่อยู่ในผิวของเซลล์ เพื่อนำน้ำตาลกลูโคสที่อยู่ในกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ของร่างกายไปใช้เป็นพลังงาน จึงสามารถช่วยเรื่องการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมันที่เป็นสาเหตุของความอ้วนได้ อย่างไรก็ตามถ้าตับอ่อนไม่สามารถหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมาได้หรือร่างกายเราไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะสูงตลอดเวลา และจะเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวาน น้ำหนักเกิน และร่างกายสะสมไขมันเยอะเกินไปอีกด้วย

 

  1. ฮอร์โมนเมลาโทนิน

Free photo beauty blonde woman reading tablet in the bed in the morning

ฮอร์โมนเมลาโทนินหลั่งโดยต่อมไพเนียลในสมองเพื่อช่วยควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ การหลั่งเมลาโทนินทำให้เรารู้สึกเหนื่อยและนอนหลับได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth hormone) จนอาจเพิ่มการเผาผลาญและสามารถลดน้ำหนักได้ โดยจะหลั่งออกมาเมื่อพระอาทิตย์ตกหรือใกล้เวลานอน เมลาโทนินจะถึงระดับสูงสุดในตอนกลางคืนขณะที่เรากำลังนอนหลับ และเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นระดับเมลาโทนินจะลดลงพร้อมส่งสัญญาณให้ร่างกายตื่นขึ้น 

 

  1. ฮอร์โมนเลปติน

Free photo pleased cheerful asian woman keeps hand on belly feels full after delicious dinner dressed casually stands thoughtful

ฮอร์โมนเลปตินหรือฮอร์โมนความอิ่มจะผลิตขึ้นจากเซลล์ไขมัน โดยฮอร์โมนชนิดนี้ทำหน้าที่ในการส่งสัญญาณจากเซลล์ไขมันไปยังเซลล์สมองในส่วนไฮโปธาลามัส (Hypothalamus) เพื่อบอกว่ามีพลังงานเพียงพอแล้ว หยุดความอยากอาหาร ไม่ต้องหิวอีก และช่วยกระตุ้นการเผาผลาญเพิ่มมากขึ้น

 

  1. ฮอร์โมนเกรลิน

Free photo woman having stomach ache, bending and with hands on belly, discomfort from menstrual cramps.

ฮอร์โมนเกรลินหรือฮอร์โมนความหิว เป็นฮอร์โมนที่หลั่งมาจากเซลล์กระเพาะอาหาร โดยทำหน้าที่กระตุ้นสมองว่าตอนนี้ร่างกายต้องการอาหาร ซึ่งถ้ากินอาหารเข้าไปฮอร์โมนตัวนี้จะลดลง การควบคุมฮอร์โมนประเภทนี้จึงทำได้โดยการกินอาหารที่มีไขมันดีและโปรตีนในปริมาณพอเหมาะ เลือกคาร์โบไฮเดรตชนิดที่มีเส้นใย ทั้งนี้อย่าลืมไฟเบอร์และแร่ธาตุจากผักและผลไม้ และหลีกเลี่ยงน้ำตาลขัดขาว หรือสารให้ความหวานชนิด corn syrup เพราะจะทำให้เกรลินลดลงในระดับน้อยซึ่งไม่พอที่จะส่งสัญญาณความอิ่มไปถึงสมอง

 


  1. ฮอร์โมนอดิโพรเนคติน

Free photo beautiful torso of young woman in fitwear

เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญต่อการเผาผลาญไขใน ยิ่งเรามีมากเท่าไหร่ ร่างกายของเราก็จะยิ่งเผาผลาญไขมันได้ดี และที่สำคัญอาหารที่มีธาตุแม็กนีเซียมเช่นผักใบเขียว อโวคาโด และปลา สามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนอดิโพรเนคตินให้เราได้

 

โปรแกรมลดน้ำหนักกระชับสัดส่วน 

  1. ปากกาลดน้ำหนัก Slim Shape น้ำหนักลง เราก็รู้สึกได้ผลเร็วดี

เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1  ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที

 

กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape

  • Slim Shape ใช้เทคโนโลยีเปปไทด์ลดหิว (Liraglutide) ซึ่งเป็นสารโปรตีนสกัดที่สามารถเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ตามธรรมชาติของร่างกาย โดยจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณความอิ่มไปที่ “สมองส่วนกลาง”  ทำให้รู้สึกอิ่มได้ยาวนานถึง 24 ชม.
  • ลดการบีบตัวของ “กระเพาะอาหาร“ จึงช่วยทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น การย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้นานขึ้น จึงทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง
  • Slim Shape ยังช่วยกระตุ้นให้ “ตับอ่อน” ซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เพื่อดึงน้ำตาลเข้าเซลล์มีคุณภาพดีขึ้น จึงทำให้สามารถเก็บและนำพลังงานที่สะสมออกมาใช้ได้มีคุณภาพมากขึ้น 

 

ผลลัพธ์หลังการใช้  Slim Shape  

สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80%  เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10%  

 

นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน

 

Slim Shape เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
  2. ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
  3. ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
  4. ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
  5. ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
  6. ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป

โยโย่ เอฟเฟค

เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา

 

ความปลอดภัย

ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา 

 

  1. IV WEIGHT LOSS

จะเพิ่มการเผาผลาญไขมัน เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยควมคุมความหิวและลดความอยากอาหาร ฟื้นตัวได้รวดเร็วจากการออกกำลังกาย ไม่ดูเหนื่อย ไม่โทรม ช่วยให้ดูสดใส และมีชีวิตชีวา รวมส่วนผสมที่เป็นสูตรเฉพาะของ Apex ซึ่งประกอบไปด้วย

Vitamin B Complex : ช่วยลดภาวะเครียด เพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้ ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน หากขาดจะทำให้เกิดการเหนื่อยล้า ความหงุดหงิด สมาธิไม่ดี มีความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

Vitamin C : ช่วยให้ร่างกายนำไขมันมาใช้ประโยชน์ ลดความเหนื่อยล้า ออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น ช่วยการทำงานของต่อมหมวกไต ลดความเครียดและความเหนื่อยล้า 

Lipotropic : ช่วยสลายไข เปลี่ยนไขมันสะสมไปเป็นพลังงานส่งเสริมการสร้างกล้ามเนื้อ

Vitamin B 12 : เป็นขุมพลังสำหรับร่างกาย ช่วยสร้าง DNA เส้นประสาท และเซลล์เม็ดเลือด ระบบเผาผลาญไม่สามารถทำงานได้หากไม่มีวิตามิน Vitamin B 12 หากขาดจะทำให้อ่อนเพลียเหนื่อยล้า

L-carnitine : ช่วยการเผาผลาญ สลายไขมันส่วนเกิน (ไตรกลีเซอร์ไรด์) ในเลือด ทำให้การเผาผลาญกลูโคสดีขึ้น ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการอัตราการเผาผลาญ ช่วยลดน้ำหนัก

 

การลดน้ำหนักด้วย IV Weight Loss ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนได้อย่างรวดเร็ว และดูดซึมได้ถึง 100 % สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ จึงเป็นผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และรวดเร็ว และสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระดับเซลล์ นอกจากนี้สารอาหารต่าง ๆ อย่างกรดอะมิโนแอซิดและวิตามินหลายชนิด เมื่อต้องผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร ก็อาจจะทำให้เกิดแก๊สหรืออาการปวดกระเพราะ และอีกหลาย ๆ ปัญหาตามมา ในขณะที่ทำการให้สารอาหารผ่านทาง IV จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหล่านั้น 

 

  1. Fit Firm ทรีทเมนต์มที่ทำให้เรารู้สึกเฟิร์มและมี curve มากขึ้น

สามารถกระชับผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ใช้เวลาเพียง 30 นาที เป็นเทคโนโลยีแรก และเทคโนโลยีเดียวที่ผสมผสานพลังงานคลื่นวิทยุเข้ากับพลังเสียงอัตร้าซาวด์ ส่งพลังงานเข้าถึงเนื้อเยื่อผิวในหลายระดับความลึก จึงสามารถกำจัดไขมันและฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวตั้งแต่ในระดับลึกจนถึงระดับผิวชั้นบน มีหัวส่งความเย็นที่ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมสอดคล้องกับการทำงานตลอดเวลา จึงปลอดภัยสูงสุด ไม่เจ็บ ตลอดการทำทรีทเมนท์

 

ทำสัปดาห์ละครั้ง ต่อเนื่องทั้งหมด 4 ครั้งต่อเดือน ผลลัพธ์หลังทำกระชับทันที และผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำครั้งสุดท้าย 1-3 เดือน ทำได้ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ทั่วใบหน้า ลำคอ แขน ขา ก้น หน้าท้อง และอวัยวะเพศหญิง ซึ่งมีหลายหัวที่ใช้ทำ เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบริเวณ

 

👉ปรึกษาลดน้ำหนักและส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
▪️𝐓𝐞𝐥 : 080-5000-123
▪️𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
▪️𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
▪️𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/