บทความเกี่ยวกับ : Moisturizer

Pico หลุมสิว 6990 ซื้อ 1 แถม 1
AviClear Laser

Moisturizer แบบไหนเหมาะกับคุณ รวมทุกประเภทพร้อมวิธีเลือกให้ตรงผิว
Moisturizer มีกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร เลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับผิว
ทุกสภาพผิวล้วนต้องการความชุ่มชื้นเป็นพื้นฐานในการดูแลผิวให้แข็งแรงและสุขภาพดี Moisturizer หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ จึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ในกิจวัตรประจำวัน ทว่าในท้องตลาดมี Moisturizer หลากหลายประเภท ทั้งในแง่ของเนื้อสัมผัสและส่วนประกอบ ซึ่งแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผิวที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจถึงประเภทและคุณสมบัติที่แตกต่างกันของ Moisturizer แต่ละแบบ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย เพื่อเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและคงความสมดุลของน้ำในผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ APEX จะพาคุณไปเจาะลึกว่ามอยเจอร์ไรเซอร์มีกี่ประเภท แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร และมีแนวทางในการเลือกใช้ให้เหมาะกับผิวของคุณอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านเพื่อค้นพบเคล็ดลับการบำรุงผิวที่ถูกต้องได้เลย

ทำไมผิวถึงต้องการความชุ่มชื้นจาก Moisturizer
ผิวของเรามีเกราะป้องกันตามธรรมชาติ (Skin Barrier) ที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากมลภาวะและเชื้อโรคต่าง ๆ พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกจากผิวเร็วเกินไป แต่ในทุก ๆ วัน เกราะป้องกันผิวของเราต้องเจอกับปัจจัยทำร้ายมากมาย เช่น แสงแดด อากาศแห้ง การล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือแม้แต่อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่อเกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง สิ่งที่เกิดขึ้นคือผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว นำไปสู่ปัญหาผิวมากมาย นี่คือเหตุผลที่ผิวต้องการ Moisturizer เข้ามาช่วยเหลือ

• Moisturizer ช่วยเติมน้ำให้ผิว ส่วนประกอบใน Moisturizer จะช่วยดึงน้ำจากอากาศเข้าสู่ผิว หรือเติมความชุ่มชื้นที่ผิวสูญเสียไปกลับคืนมา
• Moisturizer ช่วยล็อกความชุ่มชื้น Moisturizer ที่ดีจะมีสารที่ช่วยเคลือบผิวเป็นฟิล์มบางๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกจากผิว เปรียบเสมือนการปิดฝาภาชนะเพื่อเก็บน้ำเอาไว้
• Moisturizer ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว การใช้ Moisturizer เป็นประจำจะช่วยซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวกลับมาสุขภาพดีและทนทานต่อปัจจัยภายนอกได้ดียิ่งขึ้น

Moisturizer ทำงานอย่างไร
เพื่อให้เข้าใจการทำงานของ Moisturizer ต้องมองไปที่ส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ Moisturizer สามารถมอบและกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถแบ่งกลไกการทำงานออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ได้แก่

• Moisturizer มีสารดึงดูดความชุ่มชื้น (Humectants) สารกลุ่มนี้ทำหน้าที่เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่คอยดึงดูดความชื้นจากอากาศ และจากชั้นผิวหนังแท้ขึ้นมาสู่ผิวชั้นบนสุด ทำให้ผิวได้รับน้ำอย่างรวดเร็วเมื่อทา Moisturizer ลงไป ผิวจึงรู้สึกชุ่มชื้นขึ้นมาแทบจะทันที ซึ่ง Moisturizer ที่มีสารกลุ่มนี้มักจะให้ความรู้สึกที่บางเบา สบายผิว
• Moisturizer มีสารเติมเต็มร่องผิว (Emollients) หลังจากผิวได้รับความชุ่มชื้นแล้ว สารกลุ่มนี้จะเข้าไปเติมเต็มช่องว่าง ระหว่างเซลล์ผิวที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ช่วยลดความหยาบกร้านลง นี่คือเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกว่าผิวเรียบเนียนและนุ่มลื่นขึ้นทันทีหลังใช้ Moisturizer ส่วนผสมใน Moisturizer กลุ่มนี้จึงสำคัญมากในการปรับสภาพผิว
• Moisturizer มีสารเคลือบผิว (Occlusives) กลไกสุดท้ายที่สำคัญอย่างยิ่งคือการสร้างชั้นฟิล์มบาง ๆ ขึ้นมาเคลือบบนผิว เพื่อทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันทางกายภาพ ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว การมีสารกลุ่มนี้ใน Moisturizer จึงเป็นการล็อกความชุ่มชื้นที่ได้มาทั้งหมดเอาไว้ ทำให้ Moisturizer สามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างยาวนาน

สัญญาณบ่งบอกว่าผิวของคุณขาดความชุ่มชื้น
การสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวขาดความชุ่มชื้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนั่นหมายถึงผิวของคุณกำลังส่งเสียงร้องขอการดูแลเป็นพิเศษ การบำรุงด้วย Moisturizer ที่เหมาะสมจะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงและอิ่มน้ำอีกครั้ง และการใช้ Moisturizer เป็นประจำก็เป็นสิ่งสำคัญสู่ผิวสุขภาพดี ได้แก่

ผิวแห้งตึงและเป็นขุย
ผิวที่ขาดน้ำอย่างรุนแรงมักจะรู้สึกแห้งตึงหลังการล้างหน้าหรือเมื่ออยู่ในสภาพอากาศเย็นจัด และอาจเริ่มสังเกตเห็นการหลุดลอกเป็นขุยเล็ก ๆ โดยเฉพาะบริเวณแก้ม หน้าผาก หรือรอบปาก สภาพเช่นนี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่าเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) กำลังอ่อนแอลงและสูญเสียน้ำออกจากผิวได้ง่าย ซึ่งถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเพิ่มขั้นตอนการบำรุงด้วย Moisturizer ชนิดเข้มข้นเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ภายในผิวให้ยาวนานตลอดวัน การเลือกใช้ Moisturizer ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์หรือกรดไฮยาลูรอนิกจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว และทา Moisturizer ในขณะที่ผิวยังหมาด ๆ เพื่อให้การบำรุงมีประสิทธิภาพ

ผิวหมองคล้ำและขาดความสดใส
เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้น เซลล์ผิวชั้นนอกจะเริ่มสะสมและเรียงตัวอย่างไม่เป็นระเบียบ ทำให้แสงสะท้อนออกจากผิวได้ไม่ดี ผิวจึงดูหม่นหมอง ไม่เปล่งประกายหรือดูมีชีวิตชีวาเหมือนเดิม การที่ผิวดูไม่สดใสนั้นไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องสีผิวเท่านั้น แต่บ่งบอกถึงความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวที่เริ่มทำงานได้ไม่เต็มที่ หากคุณรู้สึกว่าผิวดูเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา นั่นคือสัญญาณเตือนว่าผิวต้องการการบำรุงด้วย Moisturizer ที่มีคุณสมบัติช่วยเติมน้ำให้เซลล์ผิว การใช้ Moisturizer ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและมีสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยให้ผิวกลับมาดูอิ่มฟูและกระจ่างใสขึ้น การทา Moisturizer เป็นประจำจะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและแลดูสุขภาพดีอยู่เสมอ

ริ้วรอยเล็ก ๆ หรือรอยย่นชัดขึ้น
ความชุ่มชื้นทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำ ที่ช่วยให้เซลล์ผิวอิ่มน้ำและดูเต่งตึง เมื่อผิวขาดน้ำ เส้นริ้วรอยเล็ก ๆ โดยเฉพาะรอบดวงตาและหน้าผากจะปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นกว่าปกติ ซึ่งเป็นริ้วรอยชั่วคราว ที่เกิดจากความแห้งกร้าน ไม่ใช่ริ้วรอยถาวรที่มาจากอายุที่เพิ่มขึ้น หากคุณพบว่ารอยย่นเหล่านี้ดูชัดเจนขึ้นในตอนเช้าหรือตอนบ่ายแก่ ๆ นั่นแสดงว่าผิวของคุณกำลังขาดน้ำอย่างหนัก และคุณควรให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ Moisturizer ที่มีเนื้อสัมผัสที่ซึมซาบเร็วแต่ให้ความชุ่มชื้นสูง การบำรุงด้วย Moisturizer ที่เหมาะสมจะช่วย อวบอิ่มผิว ทำให้ริ้วรอยเหล่านี้ดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเพิ่ม Moisturizer ในการดูแลผิวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว

รู้สึกคันหรือระคายเคืองง่าย
ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นจะสูญเสียความสามารถในการปกป้องตนเอง ทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลงและมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น มลภาวะ สารเคมี หรือแม้แต่อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง ผิวจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการคัน แดง หรือรู้สึกระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่าผิวของคุณต้องการการปลอบประโลมและการฟื้นฟู การใช้ Moisturizer สูตรอ่อนโยนที่ออกแบบมาเพื่อผิวแพ้ง่ายและปราศจากน้ำหอมจะช่วยลดการอักเสบและการระคายเคืองได้ การทา Moisturizer เป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวทนทานต่อปัจจัยภายนอกได้ดีขึ้น และ Moisturizer ยังช่วยเติมน้ำและไขมันที่จำเป็นคืนสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้นอย่างผิดปกติ
เป็นความเข้าใจผิดที่หลายคนคิดว่าผิวมันจะไม่ขาดน้ำ แต่แท้จริงแล้วเมื่อผิวขาดน้ำ (Dehydrated Skin) ร่างกายจะพยายามชดเชยด้วยการผลิตน้ำมัน (Sebum) ออกมามากเกินความจำเป็น เพื่อทำหน้าที่เป็นเกราะปิดกั้นการสูญเสียน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงรู้สึกแห้งตึงอยู่ข้างใต้ หากคุณมีอาการผิวมันที่มาพร้อมกับการแต่งหน้าที่ไม่ติดทน นั่นคืออาการของผิวที่ต้องการน้ำ ไม่ใช่น้ำมัน การเลือกใช้ Moisturizer สูตรน้ำ (Water-based) หรือเนื้อเจลที่ให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่เพิ่มความมันจะช่วยปรับสมดุลผิวได้ การใช้ Moisturizer ที่เหมาะสมจะส่งสัญญาณให้ต่อมไขมันทราบว่าผิวได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอแล้ว และคุณควรเลือก Moisturizer ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน

รู้จักส่วนผสมหลักใน Moisturizer ที่ช่วยบำรุงผิว
การจะเลือก Moisturizer ที่ตอบโจทย์สภาพผิวของเราได้ดีที่สุดนั้น การทำความเข้าใจส่วนผสมสำคัญที่อยู่เบื้องหลังเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะส่วนผสมแต่ละชนิดใน Moisturizer จะช่วยดูแลผิวในมิติที่แตกต่างกันไป ส่วนผสมหลัก ๆ ที่ควรรู้จัก มีดังนี้

• กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) กรดไฮยาลูรอนิกคือราชินีแห่งความชุ่มชื้น สามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่า การมีส่วนผสมนี้ใน Moisturizer จึงช่วยดึงและเติมน้ำให้ผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอยจากความแห้งกร้านได้เป็นอย่างดี และเป็นส่วนผสมที่เหมาะกับทุกสภาพผิวที่ควรมีใน Moisturizer ที่ดี
• เซราไมด์ (Ceramides) เซราไมด์เป็นไขมันตามธรรมชาติที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว การเลือก Moisturizer ที่มีเซราไมด์จะช่วยซ่อมแซมและเสริมเกราะผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดการสูญเสียความชุ่มชื้น และป้องกันการระคายเคือง นับเป็นส่วนผสมที่จำเป็นอย่างยิ่งใน Moisturizer สำหรับผิวแห้งและแพ้ง่าย
• ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ไนอะซินาไมด์ หรือวิตามินบี 3 เป็นส่วนผสมอเนกประสงค์ที่โดดเด่นมาก นอกจากจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ในผิวแล้ว Moisturizer ที่มีส่วนผสมนี้ยังช่วยลดรอยแดง ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และควบคุมความมันส่วนเกินจึงเป็นส่วนผสมที่ทำให้ Moisturizer หนึ่งขวดมอบประโยชน์ให้ผิวได้รอบด้าน
• กลีเซอรีน (Glycerin) กลีเซอรีนเป็นสารให้ความชุ่มชื้นพื้นฐานที่พบได้บ่อยและมีประสิทธิภาพ Moisturizer ที่มีส่วนผสมนี้จะทำหน้าที่ดึงดูดน้ำจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ผิว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและยืดหยุ่นได้ดี ไม่รู้สึกแห้งกร้านระหว่างวัน จึงเป็นส่วนผสมที่สำคัญและขาดไม่ได้ใน Moisturizer สำหรับทุกสภาพผิว
• เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) เชียบัตเตอร์คือไขมันธรรมชาติที่อุดมไปด้วยวิตามินและกรดไขมันที่จำเป็น ทำหน้าที่เป็นทั้งสารเติมเต็มร่องผิวและสารเคลือบผิวใน Moisturizer ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่แห้งกร้านเป็นพิเศษให้กลับมาเนียนนุ่มและลดการระคายเคือง นับเป็นส่วนผสมชั้นยอดที่ทำให้ Moisturizer มีเนื้อเข้มข้นเหมาะกับผิวแห้งมาก
• แพนทีนอล (Panthenol) แพนทีนอล หรือที่รู้จักกันในชื่อ โปรวิตามินบี 5 มีคุณสมบัติเด่นในการปลอบประโลม ส่วนผสมนี้ใน Moisturizer จะช่วยลดการอักเสบ รอยแดง และอาการคันได้ดี พร้อมทั้งช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและส่งเสริมกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ทำให้เป็นส่วนผสมที่ดีใน Moisturizer สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

Moisturizer
Moisturizer มีกี่ประเภท ช่วยเรื่องอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
ผลลัพธ์หลังรับบริการ Moisturizer ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Moisturizer มีกี่ประเภท
สกินแคร์ Moisturizer ไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว แต่ถูกพัฒนาให้มีเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์สภาพผิวและความต้องการที่แตกต่างกันไป การเลือก Moisturizer ที่ใช่จึงเริ่มต้นจากการรู้จักประเภทของมัน ซึ่งโดยทั่วไปสามารถแบ่งตามเนื้อสัมผัสหลัก ๆ ดังนี้

Moisturizer เนื้อครีม
Moisturizer ชนิดเนื้อครีมเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายเนื่องจากมีความเข้มข้น มักมีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำในสัดส่วนที่ทำให้เนื้อครีมมีความหนักและหนาแน่น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งถึงแห้งมาก (Dry to Very Dry Skin) เพราะให้การบำรุงที่ล้ำลึกและสร้างชั้นเกราะป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิวได้ดีกว่าชนิดอื่น ๆ เนื้อครีมนี้จะช่วยเคลือบผิวไว้ ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้ยาวนานตลอดวัน การใช้ Moisturizer เนื้อครีมเป็นประจำจะช่วยลดปัญหาผิวแห้งแตก ลอกเป็นขุย และคืนความยืดหยุ่นให้แก่ผิวได้ดี ข้อเสียคืออาจมีความเหนอะหนะเล็กน้อย แต่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นสูงสุดจาก Moisturizer

Moisturizer เนื้อโลชั่น
Moisturizer ชนิดเนื้อโลชั่นจะมีเนื้อสัมผัสที่เบาบางและเหลวกว่าเนื้อครีม เนื่องจากมีสัดส่วนของน้ำมากกว่าน้ำมัน ทำให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ไม่ทิ้งความรู้สึกหนักหรือเหนียวเหนอะหนะบนผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวธรรมดาถึงผิวผสม หรือใช้ในช่วงอากาศร้อนชื้นที่ผิวต้องการความชุ่มชื้นแต่ไม่ต้องการความหนักของเนื้อครีม Moisturizer เนื้อโลชั่นให้ความชุ่มชื้นที่ดีในระดับปานกลางและสามารถใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอน เนื้อสัมผัสที่บางเบาทำให้รู้สึกสบายผิวและสามารถลงเครื่องสำอางต่อได้โดยไม่เป็นคราบ ถือเป็น Moisturizer ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างความชุ่มชื้นและการซึมซาบอย่างรวดเร็ว Moisturizer ชนิดนี้ยังเหมาะกับการใช้ทาผิวกายในชีวิตประจำวันอีกด้วย

Moisturizer เนื้อเจล
Moisturizer ชนิดเนื้อเจลเป็นสูตรที่เบาบางที่สุดในบรรดา Moisturizer ทั้งหมด เพราะมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำและไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม (Oil-Free) ทำให้มีลักษณะโปร่งใสและให้ความรู้สึกเย็นสบายผิวเมื่อทา ซึมซาบเร็วมากจนแทบจะกลืนหายไปกับผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวมันและเป็นสิวง่าย (Oily and Acne-Prone Skin) ที่ต้องการความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมันให้กับผิว เนื้อสัมผัสที่เบาหวิวของ Moisturizer เนื้อเจลทำให้รูขุมขนไม่อุดตันและช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดสิวอุดตัน การใช้ Moisturizer แบบเจลช่วยเติมน้ำให้ผิวโดยไม่ทำให้ผิวมันวาว แต่ให้ความรู้สึกสดชื่นและ Matte Finish ดังนั้นหากคุณมีผิวมันและกำลังมองหา Moisturizer ที่ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่รู้สึกหนัก เนื้อเจลคือคำตอบ

Moisturizer เนื้อขี้ผึ้ง/บาล์ม
Moisturizer ชนิดเนื้อขี้ผึ้งหรือบาล์มเป็นรูปแบบที่เข้มข้นและมีส่วนผสมของน้ำมันในสัดส่วนที่สูงมาก บางสูตรแทบไม่มีน้ำเลย เนื้อสัมผัสจะมีความเหนียว หนืด และหนาแน่นคล้ายปิโตรเลียมเจลลี่หรือขี้ผึ้ง เหมาะสำหรับใช้ในบริเวณผิวที่แห้งแตกมากเป็นพิเศษ เช่น ข้อศอก หัวเข่า หรือริมฝีปาก หรือใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังที่ต้องการการปกป้องและกักเก็บความชุ่มชื้นขั้นสูงสุด

Moisturizer ชนิดนี้สร้างเกราะป้องกันความชุ่มชื้นได้ดีและยาวนาน แต่ไม่นิยมใช้ทาทั่วใบหน้าในชีวิตประจำวัน เนื่องจากมีความเหนอะหนะสูงมาก และอาจทำให้ผิวมันเกิดการอุดตันได้ง่าย Moisturizer เนื้อบาล์มนี้มักใช้เป็น Treatment สำหรับผิวที่ต้องการการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนเท่านั้น การใช้ Moisturizer ชนิดนี้ควรใช้ในปริมาณน้อย

เลือก Moisturizer ให้เหมาะกับสภาพผิว
การเลือก Moisturizer ที่เหมาะสมกับสภาพผิวเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะ Moisturizer แต่ละชนิดถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้น การทำความเข้าใจประเภทผิวของตนเองจะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและมอบความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

Moisturizer ที่เหมาะกับผิวมัน
• ลักษณะผิว ผิวมีการผลิตน้ำมัน (Sebum) ออกมามากเกินไปทำให้ผิวดูมันเงา โดยเฉพาะบริเวณทีโซน เช่น หน้าผาก จมูก คาง และรูขุมขนมักกว้างเห็นได้ชัดเจน หลายคนเข้าใจผิดว่าผิวมันไม่ต้องการ Moisturizer แต่ความเป็นจริงคือผิวอาจขาดน้ำได้ การขาด Moisturizer ที่เหมาะสม อาจกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่หายไป
• Moisturizer ที่แนะนำ Moisturizer เนื้อสัมผัสแบบเจล (Gel Moisturizer) หรือเนื้อบางเบาแบบน้ำ (Water-based Moisturizer) สูตรปราศจากน้ำมัน (Oil-free Moisturizer) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
• ทำไมถึงควรเลือก Moisturizer เนื้อสัมผัสนี้ Moisturizer เนื้อบางเบาจะซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งความมันหรือความรู้สึกหนักผิว เหมาะกับผิวที่ผลิตน้ำมันเยอะ การใช้ Moisturizer ที่เหมาะสมช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิว ป้องกันไม่ให้ผิวขาดน้ำและผลิตน้ำมันมากเกินไป Moisturizer ที่มีส่วนผสมช่วยควบคุมความมัน (เช่น Niacinamide) จะช่วยลดความมันวาวและกระชับรูขุมขน แม้ผิวมันก็ยังต้องการ Moisturizer เพื่อเสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ให้แข็งแรงและสุขภาพดี Moisturizer ที่ดีสำหรับผิวมันจะไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ ดังนั้นการเลือกใช้ Moisturizer ที่ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผิวมัน

Moisturizer ที่เหมาะกับผิวแห้ง
• ลักษณะผิว ผิวขาดความชุ่มชื้นและน้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้ผิวรู้สึกแห้งตึง หยาบกร้าน และลอกเป็นขุยได้ง่าย ผิวอาจมีอาการคัน แดง หรือระคายเคืองง่าย เนื่องจากเกราะป้องกันผิวอ่อนแอ ผิวแห้งมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย หากไม่ได้รับการบำรุงด้วย Moisturizer ที่เข้มข้น
• Moisturizer ที่แนะนำ Moisturizer เนื้อครีม (Cream Moisturizer) หรือบาล์ม (Balm Moisturizer) ที่มีความเข้มข้นสูง มีส่วนผสมของสารที่ช่วยเคลือบผิว (Occlusives Moisturizer) และสารดึงดูดน้ำ (Humectants Moisturizer)
• ทำไมถึงควรเลือก Moisturizer เนื้อสัมผัสนี้ Moisturizer เนื้อครีมเข้มข้นให้ความชุ่มชื้นสูง ช่วยเติมน้ำมันและไขมันที่ผิวขาดไปได้อย่างล้ำลึกและยาวนาน ส่วนผสมใน Moisturizer เช่น Ceramide Hyaluronic Acid Shea Butter ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว Moisturizer กลุ่ม Occlusives เช่น Petrolatum หรือ Dimethicone ช่วยสร้างชั้นฟิล์มเคลือบผิวลดการสูญเสียน้ำ การใช้ Moisturizer เป็นประจำจะช่วยลดอาการแห้งตึง อาการคัน และทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น Moisturizer ที่มีคุณสมบัติสูงช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ทำให้ผิวอิ่มฟูและดูสุขภาพดีตลอดวัน ผิวแห้งต้องพึ่งพา Moisturizer อย่างมากในการฟื้นฟูและรักษาความยืดหยุ่นของผิว

Moisturizer ที่เหมาะกับผิวผสม
• ลักษณะผิว มีลักษณะผิวแตกต่างกันในแต่ละบริเวณ โดยเฉพาะบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก คาง) มักจะมันและรูขุมขนกว้าง ส่วนบริเวณแก้มและกรอบหน้ามักจะแห้งหรือเป็นผิวธรรมดา ทำให้ต้องดูแลด้วย Moisturizer ที่แตกต่างกัน ผิวผสมต้องการ Moisturizer ที่สร้างสมดุลความชุ่มชื้นให้กับผิวทั้งหมด โดยไม่เพิ่มความมันในบริเวณที-โซน
• Moisturizer ที่แนะนำ Moisturizer เนื้อโลชั่น (Lotion Moisturizer) หรือเนื้อเจล-ครีม (Gel-Cream Moisturizer) ที่บางเบา หรือใช้ Moisturizer สองชนิด (Multi-Moisturizing) แยกตามบริเวณผิวที่ต่างกัน
• ทำไมถึงควรเลือก Moisturizer เนื้อสัมผัสนี้ Moisturizer เนื้อกลางๆ สามารถให้ความชุ่มชื้นที่เพียงพอสำหรับส่วนที่แห้ง โดยไม่ทำให้ส่วนที่มันเยิ้มเกินไป สำหรับส่วนที่มัน การใช้ Moisturizer ที่มีคุณสมบัติควบคุมความมันและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนที่แห้งอาจต้องใช้ Moisturizer ที่เข้มข้นกว่าทาทับเฉพาะจุดหากรู้สึกว่ายังไม่ชุ่มชื้นพอ การเลือก Moisturizer ที่ปราศจากน้ำมันหนัก ๆ เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวผสมให้สมดุล Moisturizer ที่มีส่วนผสมปรับสมดุลผิวช่วยให้ผิวบริเวณต่างๆ มีความชุ่มชื้นที่เหมาะสม ไม่แห้งไปหรือมันไป ผิวผสมต้องการ Moisturizer ที่ช่วยให้ผิวทั้งใบหน้ามีความสบายและดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ

Moisturizer ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
• ลักษณะผิว ผิวมีความบอบบาง ไวต่อปัจจัยกระตุ้นภายนอก เช่น สารเคมี น้ำหอม แอลกอฮอล์ อุณหภูมิ ทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง ผิวอาจมีอาการแดง คัน แสบ หรือมีผื่นขึ้นได้ง่าย เนื่องมาจากเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) อ่อนแอ การใช้ Moisturizer ที่ไม่เหมาะสมอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้ง่าย
• Moisturizer ที่แนะนำ Moisturizer สูตรอ่อนโยนพิเศษ ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ สารกันเสียพาราเบน และสี มีส่วนผสมหลักที่เน้นการเสริมเกราะป้องกันผิวและลดการระคายเคือง (Barrier Repair Moisturizer)
• ทำไมถึงควรเลือก Moisturizer เนื้อสัมผัสนี้ Moisturizer สำหรับผิวแพ้ง่ายเน้นส่วนผสมที่ช่วยฟื้นฟูและเสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอ ส่วนผสมสำคัญใน Moisturizer เช่น Ceramide Squalane Niacinamide ช่วยลดอาการระคายเคืองและอักเสบ Moisturizer ที่ปราศจากสารก่อการแพ้จะช่วยให้ผิวไม่ถูกกระตุ้น ลดโอกาสเกิดอาการแพ้และผื่นแดง การให้ความชุ่มชื้นด้วย Moisturizer อย่างต่อเนื่องช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ไม่ไวต่อสิ่งเร้าภายนอก Moisturizer ที่เลือกใช้ควรได้รับการทดสอบทางการแพทย์ว่าเหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ ดังนั้น Moisturizer จึงเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Moisturizer
Moisturizer มีกี่ประเภท ช่วยเรื่องอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
ผลลัพธ์หลังรับบริการ Moisturizer ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ส่วนผสมใน Moisturizer ที่ควรหลีกเลี่ยง
แม้ว่า Moisturizer จะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่จำเป็น แต่ส่วนผสมบางชนิดใน Moisturizer อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง อุดตัน หรือทำลายเกราะป้องกันผิวได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรตรวจสอบส่วนประกอบใน Moisturizer อย่างละเอียด ดังนี้

Moisturizer ที่มีน้ำหอม
น้ำหอมเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง และผื่นแดงสำหรับผิวบอบบาง มักเป็นสารที่ไม่จำเป็นและเพิ่มความเสี่ยงต่อผิวอักเสบเมื่อใช้ Moisturizer ต่อเนื่อง แม้ว่า Moisturizer จะมีกลิ่นหอมน่าใช้ แต่ควรหลีกเลี่ยงในทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย การเลือกใช้ Moisturizer สูตรที่ระบุว่า Fragrance-Free เป็นทางเลือกที่ดี ส่วนผสมนี้ใน Moisturizer ไม่มีประโยชน์ต่อการทำงานของผิว แต่เพียงเพื่อความพึงพอใจด้านกลิ่นเท่านั้น ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยง Moisturizer ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมเพื่อรักษาสุขภาพผิวให้แข็งแรง

Moisturizer ที่มีแอลกอฮอล์ชนิดระเหยเร็ว
แอลกอฮอล์เช่น Ethanol Denatured Alcohol Isopropyl Alcohol จะทำลายเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ส่วนผสมเหล่านี้ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง และกระตุ้นให้ผิวมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่หายไป แม้จะให้ความรู้สึกเย็นสบายและแห้งเร็ว แต่ Moisturizer ที่มีแอลกอฮอล์เหล่านี้ไม่เป็นมิตรต่อผิวในระยะยาว การทำลายเกราะป้องกันผิวด้วยแอลกอฮอล์จะลดประสิทธิภาพของ Moisturizer ในการกักเก็บน้ำ มองหา Moisturizer ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ชนิดแห้งเหล่านี้เพื่อป้องกันผิวเสียสมดุล การใช้ Moisturizer ที่ปราศจากแอลกอฮอล์จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นและสุขภาพผิวที่ดีกว่า

Moisturizer ที่มีสีสังเคราะห์
สีที่เติมเข้ามาใน Moisturizer มีจุดประสงค์เพียงเพื่อความสวยงามของผลิตภัณฑ์เท่านั้น เช่นเดียวกับน้ำหอม สีสังเคราะห์ไม่มีประโยชน์ในการบำรุงผิวและเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ ผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยง Moisturizer ที่มีการเติมสีเพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคือง การเลือกใช้ Moisturizer ที่มีสีตามธรรมชาติของส่วนผสมหลัก หรือไม่มีสีเลยเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า สีสังเคราะห์ใน Moisturizer อาจเป็นสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้ในบางกรณี ดังนั้น หากต้องการ Moisturizer ที่อ่อนโยนและปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสีสังเคราะห์

Moisturizer ที่มีน้ำมันปิโตรเลียม/มิเนอรัลออยล์เข้มข้น
แม้จะมีคุณสมบัติเป็นสารเคลือบผิว (Occlusive) ที่ดี แต่น้ำมันเหล่านี้อาจหนักเกินไปสำหรับผิวมันและผิวผสม Moisturizer ที่มีน้ำมันหนักเข้มข้นอาจทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะและเพิ่มโอกาสในการอุดตันรูขุมขน สำหรับคนผิวมัน การใช้น้ำมันปิโตรเลียมใน Moisturizer อาจทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น ควรเลือก Moisturizer ที่ใช้สาร Occlusive ที่บางเบากว่า เช่น Dimethicone หรือ Squalane แทน น้ำมันหนักเหล่านี้ใน Moisturizer อาจไม่ซึมเข้าสู่ผิว แต่ทำหน้าที่เพียงเคลือบผิวไว้เท่านั้น ดังนั้น ผิวมันควรเลือก Moisturizer สูตร Oil-free เพื่อให้ผิวหายใจได้สะดวกและไม่อุดตัน

Moisturizer ที่มีสารกันเสียกลุ่มพาราเบน
พาราเบน (เช่น Methylparaben Propylparaben) ใช้เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคใน Moisturizer แม้จะมีปริมาณที่กำหนด แต่ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกที่จะหลีกเลี่ยงสารกลุ่มนี้ใน Moisturizer เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อระบบต่อมไร้ท่อและสุขภาพในระยะยาว สำหรับผิวที่แพ้ง่ายมาก สารกันเสียใน Moisturizer อาจกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองได้ ปัจจุบันมี Moisturizer จำนวนมากที่ใช้สารกันเสียทางเลือกที่อ่อนโยนและปลอดภัยกว่า หากมีความกังวล ควรเลือก Moisturizer ที่ระบุว่า Paraben-Free เพื่อความสบายใจในการใช้งาน

ข้อดีของการใช้ Moisturizer
Moisturizer ถือเป็นสิ่งสำคัญของการดูแลผิว เพราะมีบทบาทในการช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้น ซึ่งส่งผลให้ผิวมีสุขภาพดีและแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การใช้ Moisturizer เป็นประจำจึงมอบผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวพรรณในหลายด้าน ได้แก่

เสริมสร้างและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
Moisturizer ช่วยเติมเต็มไขมันตามธรรมชาติของผิว เช่น เซราไมด์ (Ceramides) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว เมื่อเกราะป้องกันผิวแข็งแรง ผิวจะสามารถป้องกันตัวเองจากมลภาวะ สิ่งแปลกปลอม และเชื้อโรคได้ดีขึ้น การใช้ Moisturizer เป็นประจำจึงช่วยลดโอกาสการเกิดอาการแพ้ ระคายเคือง และการสูญเสียน้ำออกจากผิว Moisturizer ทำหน้าที่เหมือนกาวที่เชื่อมเซลล์ผิวเข้าด้วยกัน ทำให้ผิวเรียบเนียนและยืดหยุ่น ผิวที่ได้รับการเสริมความแข็งแรงด้วย Moisturizer จะมีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ นี่คือคุณสมบัติที่สำคัญของ Moisturizer ที่ทำให้ผิวสุขภาพดีในระยะยาว

ป้องกันและบรรเทาอาการผิวแห้งและลอกเป็นขุย
Moisturizer ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น (Humectants) จะช่วยดึงดูดน้ำเข้าสู่ผิวชั้นบน ขณะที่สารเคลือบผิว (Occlusives) ใน Moisturizer จะช่วยลดการระเหยของน้ำ ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งตึง คัน หรือเป็นขุย จะรู้สึกสบายผิวมากขึ้นทันทีหลังใช้ Moisturizer การใช้ Moisturizer สม่ำเสมอช่วยรักษาปริมาณน้ำในผิวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตลอดวัน ผิวที่ได้รับการบำรุงด้วย Moisturizer จะมีความนุ่มนวลและเรียบเนียน ไม่แตกกร้านเป็นร่อง ดังนั้น Moisturizer จึงเป็นยาสามัญประจำบ้านสำหรับการจัดการกับปัญหาผิวแห้งทุกประเภท

ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวจะเกิดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ง่ายและเห็นชัดเจนขึ้น (Dehydration Lines) Moisturizer ช่วยเติมเต็มน้ำให้กับเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟู เต่งตึง และทำให้ริ้วรอยตื้นดูจางลงชั่วคราว ผิวที่ชุ่มชื้นเป็นอย่างดีจะมีโครงสร้างที่แข็งแรง ยืดหยุ่น และลดการเกิดริ้วรอยลึกในอนาคตได้ การเลือก Moisturizer ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่นำไปสู่การแก่ก่อนวัย การลงทุนในการใช้ Moisturizer ที่มีคุณภาพจึงเป็นการลงทุนเพื่อคงความอ่อนเยาว์ของผิว Moisturizer เป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาความมีชีวิตชีวาและความกระชับของผิวหน้า

ช่วยควบคุมความมันและป้องกันการเกิดสิว
ในผู้ที่มีผิวมัน การขาดความชุ่มชื้นภายใน (Dehydrated Skin) อาจทำให้ผิวเข้าใจผิดว่าแห้ง จึงผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป Moisturizer ที่เหมาะสมกับผิวมัน (เนื้อเจล/Oil-free) จะช่วยเติมความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมัน เมื่อผิวได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอจาก Moisturizer ร่างกายจะลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินลงตามธรรมชาติ Moisturizer ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) ยังช่วยลดโอกาสการเกิดสิวหัวดำและสิวอักเสบ การใช้ Moisturizer ที่มีส่วนผสมควบคุมความมันจะช่วยปรับสมดุลและลดความเงาบนใบหน้า ดังนั้น Moisturizer จึงไม่ใช่แค่สำหรับผิวแห้ง แต่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แม้แต่ผิวมัน

เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า
Moisturizer ทำหน้าที่เป็นฐานที่ดี ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนเสมอกันก่อนลงเครื่องสำอาง ผิวที่ชุ่มชื้นจะช่วยให้รองพื้นและคอนซีลเลอร์เกลี่ยง่าย ติดทนนาน และไม่ตกร่องหรือเป็นคราบ การใช้ Moisturizer ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวดูดซับความชุ่มชื้นจากผลิตภัณฑ์แต่งหน้า ทำให้เมคอัพคงทน Moisturizer บางชนิดมีส่วนผสมที่ช่วยอำพรางรูขุมขน ทำให้ผิวดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ Moisturizer ที่มี SPF ในตัวยังให้ประโยชน์ในการปกป้องผิวจากแสงแดดควบคู่ไปด้วย การเริ่มต้นวันด้วย Moisturizer ที่ดีจึงเป็นก้าวแรกสู่การมีเมคอัพที่สวยงามและติดทนตลอดวัน

ขั้นตอนการใช้ Moisturizer ที่ถูกต้อง
ลำดับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของสกินแคร์ทั้งหมด การใช้ Moisturizer ในขั้นตอนที่ถูกต้อง จะช่วยให้ผิวดูดซับส่วนผสม ที่มีประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ตลอดวัน ซึ่งตำแหน่งของ Moisturizer ในรูทีนประจำวันมีขั้นตอนดังนี้ ได้แก่

• ล้างหน้า เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับ Moisturizer ผิวที่สะอาดจะช่วยให้สารสำคัญจาก Moisturizer ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนการทำความสะอาดเป็นพื้นฐานสำคัญก่อนการลง Moisturizer ทุกชนิด
• โทนเนอร์และทรีทเมนต์ หลังจากล้างหน้า ให้ใช้โทนเนอร์เพื่อปรับสมดุล pH และเตรียมผิว ตามด้วยผลิตภัณฑ์ทรีทเมนต์ เช่น เซรั่ม หรือเอสเซนส์ ก่อนทา Moisturizer ส่วนผสมจากทรีทเมนต์ควรซึมซาบเข้าสู่ผิวก่อนการใช้ Moisturizer
• ทา Moisturizer บีบ Moisturizer ในปริมาณที่เหมาะสม แล้วทาให้ทั่วใบหน้าและลำคออย่างเบามือ ใช้ Moisturizer เป็นขั้นตอนสุดท้ายในรูทีนกลางคืน เพื่อช่วยล็อกความชุ่มชื้นไว้ในผิว นี่คือขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวเพื่อมอบความชุ่มชื้นด้วย Moisturizer
• ครีมกันแดด ในรูทีนตอนเช้า ให้ทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้าย หลัง การใช้ Moisturizer ครีมกันแดดทำหน้าที่เคลือบผิวเพื่อป้องกันรังสี UV โดยไม่ส่งผลต่อการทำงานของ Moisturizer ยกเว้นว่า Moisturizer นั้นมีส่วนผสมของสารกันแดดในปริมาณที่เพียงพออยู่แล้ว
• ความถี่ในการใช้ ควรใช้ Moisturizer เป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือเช้าและก่อนนอน การใช้ Moisturizer อย่างต่อเนื่องช่วยรักษาสมดุลและเสริมเกราะป้องกันผิว ผิวต้องการ Moisturizer เพื่อคงความชุ่มชื้นตลอด 24 ชั่วโมง

Moisturizer สำหรับผิวผู้ชาย ต่างจากของผู้หญิงไหม
Moisturizer สำหรับผิวผู้ชายและผู้หญิงมีหลักการพื้นฐานที่คล้ายกัน แต่แตกต่างกันในทางปฏิบัติและทางการตลาด เนื่องจากความแตกต่างทางสรีรวิทยาของผิวหนัง

โดยหลักการแล้ว Moisturizer ที่ดีจะให้ความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว ซึ่งไม่ว่าผิวเพศใดก็ต้องการสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม มีข้อแตกต่างที่ควรพิจารณาดังนี้

ความแตกต่างทางสรีรวิทยาของผิว
• ความหนาของผิว ผิวผู้ชายมักจะหนากว่าผิวผู้หญิงโดยเฉลี่ย ประมาณ 10-25% ทำให้ผิวอาจทนทานต่อสารออกฤทธิ์บางชนิดได้ดีกว่าเล็กน้อย
• การผลิตน้ำมัน (Sebum) ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนทำให้ต่อมไขมันของผู้ชายทำงานมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2 เท่า ทำให้ผิวผู้ชายส่วนใหญ่มักมีความมันมากกว่า (ผิวมัน/ผิวผสม) และมีโอกาสเกิดสิวได้ง่ายกว่า
• การโกนหนวด การโกนหนวดเป็นประจำทำให้ผิวระคายเคืองและอาจทำลายเกราะป้องกันผิวได้ ผิวจึงต้องการ Moisturizer ที่ช่วยปลอบประโลมและฟื้นฟูผิวหลังการโกน

ความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ในตลาด
• เนื้อสัมผัส Moisturizer สำหรับผู้ชายมักเน้นเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบเร็ว และไม่เหนียวเหนอะหนะ เช่น เจล หรือโลชั่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชายส่วนใหญ่ที่มีผิวมันและชอบความรวดเร็วในการดูแลผิว
• ส่วนผสมหลัก Moisturizer สำหรับผู้ชายมักมีส่วนผสมที่เน้นการควบคุมความมัน การกระชับรูขุมขน และส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิวจากการโกนหนวด เช่น ว่านหางจระเข้ หรือ Allantoin
• กลิ่นและการตลาด ผลิตภัณฑ์ Moisturizer สำหรับผู้ชายมักจะมีกลิ่นหอมแบบผู้ชาย หรือระบุว่าเป็น Fragrance-Free ที่เน้นภาพลักษณ์เรียบง่าย ขณะที่ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงจะมีตัวเลือกกลิ่นหอมและแพ็คเกจที่หลากหลายกว่า

สรุป เลือก Moisturizer ให้ถูก เพื่อผิวชุ่มชื้นสุขภาพดี
ความแตกต่างของผิวแต่ละประเภทและการทำงานของส่วนผสมต่าง ๆ ทำให้เห็นความสำคัญของการเลือกใช้ Moisturizer ให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผิวมันที่ต้องการ Moisturizer เนื้อเจลบางเบา ผิวแห้งที่ต้องการเนื้อครีมเข้มข้น หรือผิวแพ้ง่ายที่ต้องหลีกเลี่ยงสารระคายเคือง การตัดสินใจเลือก Moisturizer ที่ถูกต้องตามลักษณะผิวและหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ควรระวัง จะช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นในระดับที่สมดุล เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ลดโอกาสเกิดปัญหาผิว และชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้คุณมีผิวที่สุขภาพดี อิ่มน้ำ และแลดูอ่อนเยาว์อย่างยั่งยืน

การเลือก Moisturizer ที่ใช่จึงเป็นก้าวสำคัญสู่ผิวที่ดี สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Biostimulator หรือสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ Moisturizer มีกี่ประเภท ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ต่างกันอย่างไร,Moisturizer หรือสอบถามรายละเอียด โปรโมชั่นพิเศษ หรือ หัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ

Apex
Apex

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

รู้หรือไม่ว่า Moisturizer มีหลายประเภท ทั้งแบบครีม โลชั่น เจล หรือบาล์ม แต่ละสูตรให้ผลลัพธ์ต่างกัน มาดูวิธีเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละแบบกัน Moisturizer แบบไหนเหมาะกับคุณ รวมทุกประเภทพร้อมวิธีเลือกให้ตรงผิว

73
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
รับโปรโมชั่นพิเศษ
รับโปรโมชั่นพิเศษ
ปรึกษาฟรี
ปรึกษาฟรี
โทรสอบถามโปรโมชั่น
โทรสอบถามโปรโมชั่น