Oligio นวัตกรรมใหม่จากเกาหลีที่มากกว่าการยกกระชับผิว
ผิวหนังหย่อนคล้อย ปัญหาผิวของคน Gen X และ Gen Y ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ทุกคนต่างต้องเผชิญกับปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเหมือนกัน ยิ่งตัวเลขอายุเพิ่มขึ้น ปัญหาผิวก็ยิ่งมากตาม ซึ่งการจะทำให้ผิวเต่งตึง เปล่งปลั่ง เหมือนสมัยวัยสาววัยหนุ่มก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโครงสร้างผิวของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงตามอายุที่มากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยียกกระชับจริงเป็นคำตอบสุดท้ายของปัญหาผิวหย่อนคล้อยเท่านั้นค่ะ ล่าสุด APEX นำเข้าเครื่อง Oligio เครื่องยกกระชับใหม่อิมพอร์ตจากเกาหลี ซึ่งสามารถยกกระชับ ช่วยฟื้นฟูผิวในระดับลึก พร้อมสลายไขมันได้ในเครื่องเดียว เรามาทำความรู้จักเครื่อง Oligio นวัตกรรมยกกระชับใหม่จากเกาหลีกันดีกว่าค่ะว่าเครื่องนี้ดีอย่างไร ทำไมที่เกาหลีที่ฮิตที่สุด!
Oligio นวัตกรรมการยกกระชับใหม่ที่ APEX
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลทำความรู้จักกับ Oligio
Oligio คือเครื่องยกกระชับผิวส่งตรงจากเกาหลี ที่ใช้การยิงพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง Monopolar RF ลงสู่ชั้นผิวหนัง โดยพลังงานสามารถลงลึก 4.3 มิลลิเมตร ได้ถึงผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) และถูกพัฒนาให้สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง หลังทำ Oligio เสร็จจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที ซึ่งเส้นใยคอลลาเจนจะเกิดการหดตัวที่ 20 – 30% จากนั้นผิวหน้าจะดีขึ้นอย่างเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเมื่อเข้าเดือนที่ 3 เนื่องจากเกิดการผลิตคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินใหม่ใต้ชั้นผิว
ผิวที่หย่อนคล้อยจึงกลับมาตึงกระชับ รูขุมขนเล็กลง โครงสร้างผิวคืนสู่ความแข็งแรง ริ้วรอยร่องลึกและริ้วรอยเล็กต่าง ๆ จางลง ผิวเรียบเนียน เด้งอิ่มฟู กระจ่างใส และช่วยลดไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย หากทำบริเวณกรอบหน้าหรือเหนียง จะช่วยให้กรอบหน้าคมชัดขึ้นและใบหน้าเรียวเล็กลงค่ะ โดยการทำ Oligio 1 ครั้ง อยู่ได้นานถึง 1 ปี โดยเราสามารถทำครั้งต่อไปได้ตั้งแต่เดือนที่ 4-6 เดือน เพื่อผลลัพธ์ของการยกกระชับใบหน้าด้วย Oligio อย่างต่อเนื่องค่ะ
การทำงานของ Oligio
โปรแกรม Oligio เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่สูง 6.78 MHz ที่สามารถปรับได้ 3 โหมดคือ โหมดเดี่ยวโหมดคู่ และโหมดอัตโนมัติ ยิงลงลึกสู่ชั้นผิว 3 mm. ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน (Fat)ในการช่วยกกระชับผิวหน้า โดยการใช้ความร้อนจากหัว Tips ที่มีลักษณะเป็นหัวเข็ม และสามารถปรับโหมดการยิงแบบอัตโนมัติได้ ทำให้การยิงพลังงาน ในการส่งกระแสคลื่นลงไปสู่ชั้นผิวหนัง จึงทำให้การยิงพลังงานคลื่นของโปรแกรม Oligio มีความสม่ำเสมอและแม่นยำมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นการเกิดคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวให้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างเป็นระเบียบ และเพิ่มปริมาณคอลลาเจนที่มากขึ้นส่งผลให้ ผิวหน้าหลังได้ทำ Oligio มีความความยืดหยุ่นแน่นกระชับให้กับผิว ลดไขมัน ทำให้ชั้นไขมันมีขนาดที่บางลง
ที่สำคัญยังสามารถช่วยในการลดการเกิดปัญหาอันไม่พึงประสงค์ในขณะที่ทำการรักษา เนื่องจากโปรแกรม Oligio มีการตรวจสอบอุณหภูมิของผิวและระบบตรวจจับแรงกดอย่างแม่นยำ มีระบบทำความเย็นอัจฉริยะ ที่ช่วยปล่อยลมเย็นออกมาในระหว่างทำอย่างอัตโนมัติ จึงทำให้ช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมค่าพลังงานความร้อนที่อยู่ใต้ผิวที่สะสมอยู่มากจนเกินไปในชั้นผิว ส่งผลให้ลดโอกาสในการเกิดการเผาไหม้ของผิว
เทคนิค Fast Moving Technique เฉพาะ Oligio
Fast Moving Technique เป็นเทคนิคเฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อยกกระชับด้วย Oligio เท่านั้น เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากพลังงานที่ลงสู่ชั้นผิวโดยเครื่อง Oligio นั้นจะลงสู่ชั้นผิวที่เท่ากันอย่างแม่นยำ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม
• Pain Relief Oligio มีระบบสั่นสะเทือนช่วยลดความเจ็บปวดขณะรับการรักษา รวมไปถึงระบบปล่อยพลังงานความเย็น ที่ช่วยปกป้องผิวชั้นนนอก อีกทั้งยังช่วยส่งพลังงานความถี่สูงไปสู่ผิวชั้นลึก ช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษาด้วย Oligio ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติหลังจากทำทันที
• Faster Treatment ด้วยฟังก์ชั่น Auto ของ Oligio กับขนาดหัวทิป 4×2 (Face Tip) ช่วยประหยัดระยะเวลาในการทำ Oligio โดย Oligio จำนวน 600 shots ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 20-30 นาทีเท่านั้น และ 300 shots ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น
• Safe Treatment Oligio มีระบบช่วยวัดระดับของอุณหภูมิของผิวหนังแบบ Real Time เมื่ออุณหภูมิของผิวสูงขึ้นมากกว่า 43 องศาเซลเซียส เครื่อง Oligio จะหยุดทำงานทันที ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของผิวไหม้ (Burn) บริเวณที่ทำ รวมถึงมีระบบตรวจสอบแรงกดระหว่างหัวทิปและผิวหนัง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการเกิดผิวไหม้ (Burn) อันเนื่องมาจากหัวทิปไม่แนบผิว
• Convenience เครื่อง Oligio มีระบบทรีทเมนต์ทั้งหมด 3 โหมด คือ ระบบSingle ระบบ Double และ ระบบ Auto ซึ่งแพทย์ผู้ชำนาญการสามารถปรับใช้ได้ตามสะดวก
ทำไมต้องเลือก Oligio
เครื่อง Oligio นวัตกรรมยกกระชับยอดนิยมที่เรียกได้ว่ามีความสามารถมากกว่าการยกกระชับผิวทั่วไป โดย Oligio นั้นมีจุดเด่นที่ครองใจเหล่าสาว ๆ Gen ใหม่ทั้งไทยและเกาหลี ดังต่อไปนี้
• เครื่อง Oligio ใช้เวลาในการรักษาเพียง 20 – 30 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ
• ทำ Oligio ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ และใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
• Oligio ช่วยทั้งเรื่องยกกระชับ งานผิวเรียบเนียน และสลายไขมันสะสมใต้ชั้นผิว
• Oligio ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อย่างต่อเนื่อง
• เครื่อง Oligio มีระบบคอยตรวจวัดระดับอุณหภูมิความร้อนบนผิวตลอดเวลาขณะทำ จึงปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงมีระบบตรวจวัดความต้านทานผิวขณะรักษา ทำให้ส่งพลังงานสู่ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• Oligio มีระบบปล่อยความเย็น เพื่อลดอาการข้างเคียงจากผิวไหม้ แดง และระคายเคือง
มาพร้อมระบบสั่นสะเทือนถึง 3 ระดับ เพื่อเพิ่มความสบายและลดความเจ็บขณะทำ
Oligio เหมาะกับใคร?
• Oligio เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าหรือผิวที่หย่อนคล้อย
• Oligio เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องแก้ม เปลือกตาตก คิ้วตก มุมปากตก
• Oligio เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเหนียง ไขมันใต้คางเยอะ
• Oligio เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อแก้มเยอะ อยากทำหน้าวี เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น
• Oligio เหมาะกับผู้ที่ต้องการงานผิวสวย เรียบเนียน อิ่มฟู กระจ่างใส และเต่งตึง
• Oligio เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินใหม่
• Oligio เหมาะกับผู้ที่ต้องการชะลอการเกิดความหย่อนคล้อยตามของผิวในอนาคตม่ให้แก่ผิว
Oligio ไม่เหมาะกับใคร?
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่มีการใส่เครื่องมือแพทย์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า ICD มีการฝังอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ภายในร่างกาย
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่มี Bio absorbable รากฟันเทียม
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่มีโรคผิวหนังบางชนิดที่เกี่ยวกับการรักษาแผล
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่มีการติดเชื้อในบริเวณที่ทำหัตถการ
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่มีโปรประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคลมบ้าหมู โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสทำให้มีภาวะเลือดออก หรือความพิการของกลไกของระบบเลือด
• Oligio ไม่เหมาะกับผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือ ผู้หญิงให้นมบุตร
ข้อควรระวังก่อนทำ Oligio
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่เป็นโรคภูมิแพ้ตนเอง
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่ใช้ยาต้านการอักเสบเรื้อรัง
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคลที่มีรอยสักใหม่ในบริเวณที่ทำหัตถการ
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่เป็นคีลอยด์
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่มีการติดเชื้อไวรัสเริม
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่ฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ภายใน 4 อาทิตย์ที่ผ่านมาง
• Oligio ไม่เหมาะกับบุคคลที่ได้รับการปลูกถ่ายไขมัน หรือ ปลูกถ่ายผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษาภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา
Oligio ทำจุดไหนได้บ้าง ?
จุดที่นิยมทำ Oligio มากที่สุดคือบริเวณใบหน้าค่ะ ซึ่ง Oligio ทำได้ตั้งแต่ลดริ้วรอยบนหน้าผาก รอบดวงตา ยกคิ้ว ยกแก้ม ยกร่องแก้ม คาง ลดเหนียง กระชับกรอบหน้าให้เล็กลงเรียวและชัดขึ้น ลดรอยเหี่ยวย่นบนลำคอ นอกจากนี้ Oligio ยังทำบนบริเวณอื่น ๆ ของร่างกายได้เช่นกันค่ะ ได้แก่ ต้นแขน หน้าท้อง หรือต้นขา
Oligio เจ็บไหม ?
ขณะทำการรักษาด้วย Oligio จะรู้สึกอุ่น ๆ บนผิวเท่านั้นค่ะ ไม่เจ็บ ไม่แสบ และไม่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เนื่องจาก Oligio มีเทคโนโลยีปล่อยความเย็นและระบบสั่นเพื่อลดความเจ็บ จึงช่วยให้สบายผิวตลอดการทำ อย่างไรก็ตามก่อนทำจะมีการแปะยาชาให้อยู่แล้วค่ะ
Oligio ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ?
ทำ Oligio 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี โดยเห็นผลเป็นผิวที่กระชับขึ้นหลังทำทันที 20 – 30% จากนั้น 1 เดือนผิวจะเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งเห็นผลลัพธ์งานผิวอย่างเต็มที่หลังทำ 3-6 เดือนขึ้นไป โดยผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี
เตรียมตัวก่อนทำ Oligio
Oligio เป็นโปรแกรมยกกระชับที่ไม่มีขั้นตอนการเตรียมตัวที่พิเศษไปกว่าโปรแกรมยกกระชับอื่น ๆ เพราะ Oligio เป็นโปรแกรมยกกระชับที่ทุกคนสามารถทำได้ เพราะฉะนั้นขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำ Oligio จะเหมือนโปรแกรมยกกระชับอื่น ๆ ดังนี้
• งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมในการผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA ก่อนทำโปรแกรม Oligio เป็นระยะเวลา 1 อาทิตย์
• งดการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ และ เลเซอร์ ก่อนเข้ายกกระชับโปรแกรม Oligio ในช่วง 2-4 อาทิตย์
• กรณีมีโรคประจำตัว ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเริ่มทำทุกครั้ง เพื่อประเมินว่าผู้เข้ารับบริการสามารถรับการรักษาด้วย Oligio ได้หรือไม่
ขั้นตอนการทำ Oligio
การยกกระชับด้วยเครื่อง Oligio นั้นไม่ได้มีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยาก โดยขั้นตอนการทำ Oligio ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น และสามารถใช้ชีวิตปกติหลังทำได้ทันที ซึ่งขั้นตอนการทำ Oligio มีดังต่อไปนี้
• ทำความสะอาดผิว หรือ คลีนซิ่งเครื่องสำอางบริเวณใบหน้า
• ทาเจลเย็นบริเวณผิวหน้าที่ต้องการทำ Oligio
• แพทย์เริ่มทำการนำหัวทิป Oligio มาวางบนผิวบริเวณใบหน้า และเริ่มปล่อยพลังงานจากเครื่อง โดยพลังงานที่ใช้จะอยู่ในระดับที่เหมาะสมเท่านั้น
• ระหว่างทำเครื่อง Oligio จะมีความรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณที่ทำ ในกรณีที่ใต้ผิวบริเวณใบหน้า มีความร้อนสะสม จนเกินค่าที่กำหนดไว้ เครื่องจะปล่อยความเย็นออกมา เพื่อลดอุณหภูมิบนผิวลง ทำให้ไม่เกิดอาการเจ็บแสบจากความร้อน
• หลังจากที่แพทย์ทำ Oligio จนครบจำนวนช็อต (Shot) แล้ว แพทย์จะทำการทำความสะอาดใบหน้าอีกครั้ง
คำแนะนำหลังทำ Oligio
• หลังทำ Oligio ควรหลีกเลี่ยงโปรแกรมหรือหัตถการที่เกี่ยวกับความร้อน เช่น เลเซอร์ หลังทำการรักษา 1 สัปดาห์
• หลังทำ Oligio ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
• หลังทำ Oligio ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และความร้อนเนื่องจากผิวบริเวณที่ทำการรักษาจะมีความบอบบางและแพ้ง่ายอยู่
• หลังทำ Oligio ควรทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป
ผลลัพธ์หลังทำ Oligio
หลังทำ Oligio สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีประมาณ 20-30% หลังจากนั้น สภาพผิวจะดีขึ้นเนื่องจากเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เห็นผลเต็มที่ 3 เดือนเป็นต้นไป หลังจากการรักษา อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคนไข้ แนะนำให้ทำ ต่อเนื่องปีละครั้งจะช่วยฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง
คำถามที่พบบ่อย Oligio
การทำ Oligio อันตรายไหม? Oligio เป็นโปรแกรมที่ไม่อันตราย เนื่องจากมีระบบ AI ควบคุมการทำงาน ทำให้สามารถจ่ายพลังงานคลื่น Monopolar RF ในการรักษาได้อย่างสม่ำเสมอ มีการป้องกันความเจ็บด้วยระบบสั่นและระบบทำความเย็น อีกทั้งโปรแกรม Oligio ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งในไทย ยุโรป และ อเมริกา
• ระยะเวลาในการทำ Oligio?
ระยะเวลาในการทำเครื่อง Oligio ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตที่ใช้
• รู้สึกอย่างไรระหว่างการทำ Oligio?
ตอนทำ Oligio จะรู้สึกอุ่น ๆ จนไปถึงร้อนบริเวณใบหน้า เพราะมีการสะสมพลังงานใต้ชั้นผิว อุณหภูมิถึง 43 องศา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน หลังทำสีผิวอาจอมชมพูเล็กน้อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
• Oligio ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน?
โปรแกรม Oligio เป็นโปรแกรมที่สามารถเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด 3-6 เดือนหลังจากการทำ Oligio โดยผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล แนะนำว่าควรทำ Oligio ต่อเนื่องปีละครั้ง จะช่วยฟื้นฟูผิวให้ดียิ่งกว่าเดิม และทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง
Oligio VS Ultraformer III แตกต่างกันอย่างไร?
Oligio เป็นเทคโนโลยีใช้พลังงานคลื่น Monopolar RF ในการรักษา โดยจะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว แก้มเยอะเหนียงออก เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ กลับมามีผิวหน้าที่เต่งตึงขึ้น
ส่วน Ultraformer III ใช้คลื่น Macro and Micro Focused Ultrasound (MMFU) จะสามารถปล่อยพลังงานได้ถึงชั้น SMAS เหมาะสำหรับ ผู้ที่ผิวหย่อนคล้อย ร่องแก้มชัด มีปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ อย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ความแตกต่างของ Oligio และ Ultraformer III คือคลื่นพลังงานที่ใช้ในการยิงความร้อนลงสู่ชั้นผิวหนัง จึงทำให้คลื่นความร้อนในการยิงลงสู่ชั้นผิวหนังในชั้นผิวมีแตกต่างกัน และเหมาะกับการแก้ปัญหากันคนละแบบ สามารถทำการรักษาร่วมกันได้ เพื่อผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ดีมากขึ้น
Oligio VS Ulthera SPT แตกต่างกันอย่างไร?
Oligio เป็นเทคโนโลยีใช้พลังงานคลื่น Monopolar RF ในการรักษา โดยจะทำงานบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว แก้มเยอะเหนียงออก เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมัน และต้องการให้ผิวแน่นกระชับ กลับมามีผิวหน้าที่เต่งตึงขึ้น
ส่วน Ulthera SPT ใช้คลื่น Micro Focused Ultrasound With Visualization ในการรักษาจะทำงานในบริเวณผิวหนังชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน และชั้น SMAS เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด ไม่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า
Oligio และ Ulthera SPT จะแตกต่างกันในเรื่องของการทำงานคนละชั้นของผิว และการใช้คลื่นพลังงานที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถทำการรักษาทั้งสองโปรแกรมร่วมกันได้ เพื่อผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ดีที่สุด
Oligio VS Thermage FLX แตกต่างกันอย่างไร?
Oligio เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่เหมือนกับ Thermage FLX เพราะใช้คลื่นพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง Monopolar RF โดยทั้ง 2 เครื่องนั้นได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน แต่จะมีข้อแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
• หัวทิปของ Oligio จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า Thermage FLX ทำให้สามารถกระจายความร้อนได้ดีกว่าและแม่นยำยิ่งขึ้น
• Oligio ใช้ระยะเวลาในการทำน้อยกว่า Thermage FLX เพียง 20-30 นาทีเท่านั้น ส่วนในขณะที่ Thermage FLX ใช้ระยะเวลาในการทำ 30-60 นาที
• Oligio ระบบความเย็นอัจฉริยะ ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บในขณะที่ทำ แต่ Thermage FLX นั้นจะมีการปล่อยลมเย็นออกมาเป็นระยะ และใช้ระบบการสั่นบรรเทาความเจ็บเท่านั้น ทำให้การทำ Themage FLX จะมีความแสบร้อนง่ายกว่า Oligio
สรุปคือเครื่อง Oligio ใช้เทคโนโลยีคลื่นพลังงาน Monopolar RF เหมือน Thermage FLX ซึ่งผลลัพธ์ในด้านยกกระชับผิวได้นานถึง 6-12 เดือน ของ Oligio กับ Thermage FLX เหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างในเรื่องของความเจ็บระหว่างทำและระยะเวลาในการทำ Oligio น้อยกว่า Thermage FLX
สัมผัส Oligio ที่ APEX นวัตกรรมใหม่ล่าสุด เพื่อการยกกระชับ
แค่การยกกระชับผิวหย่อนคล้อยอย่างเดียวไม่เพียงพอ APEX จึงยกนวัตกรรมใหม่ล่าสุดด้วยเครื่อง Oligio มาให้บริการ ทั้งช่วยยกกระชับผิว ฟื้นฟูโครงสร้างผิวอย่างล้ำลึก กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน สลายไขมันใต้ผิวหนัง ให้ใบหน้าเรียวสวย เต่งตึง ผิวพรรณกระชับ ปังกว่าที่เคย
• Oligio เทคโนโลยี Monopolar RF ยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย สลายไขมัน
• Oligio ช่วยผิวกระชับ อิ่มฟู เต่งตึง เปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม
• Oligio ใช้ระยะเวลาทำหัตถการไม่เกิน 30 นาที
• Oligio ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี
• Oligio เจ็บน้อย สวยนาน ผลลัพธ์แห่งความอ่อนวัย
สำหรับใครที่อยากเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ยกกระชับเหนือชั้น และปลอดภัยด้วยเครื่อง Oligio นวัตกรรมแท้ส่งตรงจากเกาหลีที่ APEX ได้เลยค่ะ เพราะเอเพ็กซ์ใส่ใจในด้านการพัฒนานวัตกรรมและเทคนิคใหม่อยู่เสมอ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวของลูกค้า เราจึงเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดประสบการณ์การยกกระชับผิวตัวใหม่ ปลอดภัยผ่านมาตรฐาน ด้วยโปรแกรม Oligio นวัตกรรมสุดฮิตส่งตรงจากเกาหลีที่ APEX ได้เลยค่ะ
ปีนี้ทางเอเพ็กซ์ฉลองครบรอบ 28 ปีแห่งความงามที่คุณไว้ใจ มีกิจกรรมและโปรโมชั่นสุดคุ้มตลอดทั้งปี ใครที่ไม่อยากพลาดโปรโมชั่น และกิจกรรมดีๆ แบบนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารกับทาง APEX ได้ตามที่อยู่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ