จุดด่างดำ คืออะไร สาเหตุเกิดจาก มีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร

จุดด่างดำมีกี่ชนิด ? รู้ให้ลึกก่อนรักษา เพื่อหน้าใสไร้จุดด่างดำ
จุดด่างดำมีกี่ชนิด ? เลือกวิธีรักษาให้ตรงจุด จบปัญหาผิวไม่สม่ำเสมอ
ปัญหาจุดด่างดำ รอยคล้ำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ ถือเป็นปัญหาผิวใกล้ตัวที่กวนใจใครหลายคน เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้ผิวหน้าโดยรวมดูหมองคล้ำ ไม่เรียบเนียนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปถึงความมั่นใจ และอาจสร้างความกังวลใจจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งการเลือกใช้วิธีการรักษาจุดด่างดำแบบ ‘เหมารวม’ โดยไม่เข้าใจถึงต้นตอของปัญหา อาจทำให้การรักษาไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าที่ควร เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย หรือในบางกรณีอาจทำให้ปัญหาจุดด่างดำรุนแรงขึ้นได้ ซึ่งควรรักษาอย่างไร Apex พร้อมตอบแล้ว

จุดด่างดำคืออะไร ?
จุดด่างดำ (Hyperpigmentation) คือภาวะที่ผิวหนังบริเวณใดบริเวณหนึ่งมีสีเข้มกว่าผิวโดยรอบ ซึ่งเกิดจากการที่เซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocytes) ผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ออกมามากเกินไป โดยเม็ดสีเหล่านี้จะสะสมอยู่ในชั้นผิวหนัง ทำให้มองเห็นเป็นจุดหรือปื้นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีดำได้ และด้วยความที่จุดด่างดำนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย และทุกสีผิว ด้วยปัจจัยกระตุ้นที่หลากหลาย ทำให้จุดด่างดำกลายเป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่ใกล้ตัว

ผลเสียจากการมีจุดด่างดำบนใบหน้า
ปัญหาจุดด่างดำบนใบหน้า เช่น รอยสิว ฝ้า และกระ มักถูกมองว่าเป็นเพียงข้อบกพร่องด้านความงามเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงปัญหาจุดด่างดำดังกล่าวกลับส่งผลกระทบที่ซับซ้อนและน่าปวดหัวได้มากกว่าที่คิด ทั้งยังสามารถลดทอนคุณภาพชีวิตโดยรวมได้อย่างคาดไม่ถึง เช่น

ผลเสียของจุดด่างดำ ด้านความสวยงาม
ปัญหาจุดด่างดำบนใบหน้าถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความงาม ทำให้ผิวพรรณขาดความเรียบเนียนสม่ำเสมอ และบดบังความสดใสของผิวตามธรรมชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจได้ในหลายมิติ ดังนี้

• จุดด่างดำทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ เป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดที่สุด ทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียน สีผิวดูไม่เท่ากัน
• จุดด่างดำทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส จุดด่างดำทำให้ภาพรวมของใบหน้าดูโทรม ไม่สดชื่น เหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ
• จุดด่างดำทำให้ดูแก่กว่าวัย รอยดำต่าง ๆ โดยเฉพาะฝ้าและกระ เป็นสัญญาณหนึ่งของผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดและอายุที่มากขึ้น ทำให้ภาพลักษณ์ดูมีอายุเกินจริง
• จุดด่างดำมักปกปิดได้ยาก การแต่งหน้าเพื่อกลบรอยดำต้องใช้คอนซีลเลอร์หรือรองพื้นที่หนาเป็นพิเศษ ซึ่งอาจทำให้ผิวอุดตันและเกิดปัญหาสิวตามมาได้

ผลเสียของจุดด่างดำ ด้านจิตใจและอารมณ์
นอกเหนือจากผลกระทบด้านความงามที่มองเห็นได้จากภายนอก ปัญหาจุดด่างดำยังส่งผลที่ลึกซึ้งต่อสภาวะทางจิตใจและอารมณ์ ซึ่งสามารถบั่นทอนความเชื่อมั่นและคุณภาพชีวิตของผู้ที่มีปัญหานี้ได้ด้วย ดังนี้

• จุดด่างดำอาจลดทอนความมั่นใจในตัวเอง นี่คือผลกระทบที่รุนแรงที่สุด หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจเวลายืนใกล้ๆ หรือพูดคุยกับผู้อื่น รู้สึกว่าคนอื่นกำลังจ้องมองที่รอยดำบนใบหน้า
• จุดด่างดำทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวล ความกังวลเกี่ยวกับรอยดำบนใบหน้าอาจกลายเป็นความเครียดสะสมได้ บางคนส่องกระจกบ่อย ๆ และรู้สึกท้อแท้เมื่อรอยไม่จางลง
• จุดด่างดำทำให้หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม ในบางกรณีที่รุนแรง อาจทำให้ไม่อยากออกไปพบปะผู้คน ไม่อยากถ่ายรูป หรือปฏิเสธโอกาสทางสังคมต่าง ๆ เพราะไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง
• จุดด่างดำส่งผลต่อความภาคภูมิใจในตนเอง (Self-Esteem) การมองว่าตัวเองมี ‘จุดด่างดำ’ บนใบหน้า สามารถลดทอนความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อตนเองได้

ผลเสียของจุดด่างดำ ด้านการใช้ชีวิตและค่าใช้จ่าย
นอกเหนือจากผลกระทบที่กล่าวมา ปัญหาจุดด่างดำยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อสุขภาพผิวในระยะยาว หากเลือกแนวทางการดูแลรักษาที่ไม่ถูกต้องตามหลักการแพทย์

• จุดด่างดำมักมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง การรักษาจุดด่างดำ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สกินแคร์กลุ่มไวท์เทนนิ่ง การทำโปรแกรมเลเซอร์ หรือการทำทรีตเมนต์ต่าง ๆ ล้วนมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงและต้องทำอย่างต่อเนื่อง
• จุดด่างดำทำให้สิ้นเปลืองเวลาในการดูแล ต้องใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการทาครีมบำรุง ครีมกันแดด หรือการแต่งหน้าเพื่อปกปิดรอย ซึ่งอาจกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
• จุดด่างดำทำให้เสี่ยงต่อการรักษาที่ไม่ถูกวิธี ความพยายามที่จะกำจัดรอยดำให้เร็วที่สุด อาจนำไปสู่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารอันตราย หรือการรักษาที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว ซึ่งอาจทำให้ปัญหาจุดด่างดำแย่ลงกว่าเดิมได้

4 จุดด่างดำยอดฮิต เช็กลิสต์ปัญหาผิวบนใบหน้า
หลายคนอาจสงสัยว่าจริง ๆ แล้ว “จุดด่างดำมีกี่ชนิด” ซึ่งการทำความรู้จักกับประเภทของจุดด่างดำ ได้อย่างถูกต้องจะช่วยให้เราสามารถดูแลตัวเอง ป้องกันปัจจัยเสี่ยง หรือช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้ โดยจุดด่างดำที่พบบ่อยบนใบหน้ามักแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้

จุดด่างดำจากฝ้า (Melasma)
ฝ้า คือภาวะที่ผิวหนังสร้างเม็ดสีเมลานินผิดปกติมากเกินไป ทำให้เกิดรอยโรคชนิดปื้น โดยเป็นจุดด่างดำมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม หรือสีเทา ขอบเขตไม่สม่ำเสมอและไม่ชัดเจน มักปรากฏในลักษณะสมมาตรบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะจุดด่างดำบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก สันจมูก และเหนือริมฝีปาก

สาเหตุของจุดด่างดำจากฝ้า มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ฮอร์โมน (การตั้งครรภ์, ยาคุมกำเนิด), แสงแดด และพันธุกรรม
กลุ่มที่พบบ่อย พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในช่วงวัยเจริญพันธุ์

จุดด่างดำจากกระ (Freckles)
กระ คือจุดด่างดำซึ่งเป็นจุดสีขนาดเล็ก มีการวางตัวราบไปกับพื้นผิว มักพบเป็นสีน้ำตาลอ่อน ขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร มีการกระจายตัวในบริเวณผิวหนังที่สัมผัสแสงแดดบ่อยครั้ง โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้มและสันจมูก ความเข้มของสีจุดด่างดำจะเพิ่มขึ้นเมื่อถูกกระตุ้นด้วยรังสียูวี และสามารถจางลงได้ในช่วงที่ไม่ได้รับแสงแดด

สาเหตุของจุดด่างดำจากกระ ปัจจัยทางพันธุกรรมเป็นหลัก และถูกกระตุ้นให้เห็นชัดขึ้นด้วยแสงแดด
กลุ่มที่พบบ่อย ผู้ที่มีผิวขาว และมักพบได้ตั้งแต่วัยเด็ก

จุดด่างดำจากรอยสิว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation - PIH)
รอยสิว คือจุดด่างดำชนิดราบที่มีการสะสมของเม็ดสีเข้มขึ้น โดยปรากฏเป็นสีน้ำตาล เทา หรือดำ เกิดขึ้นในบริเวณจำเพาะที่ผิวหนังเคยได้รับบาดเจ็บหรือผ่านกระบวนการอักเสบมาก่อน เป็นร่องรอยที่ทิ้งไว้ภายหลังการอักเสบสงบลงแล้ว เช่น หลังการเกิดสิวอักเสบหรือผื่นผิวหนัง

สาเหตุของจุดด่างดำจากรอยสิว เกิดจากกระบวนการอักเสบ (เช่น สิวอักเสบ) ที่ไปกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีให้ผลิตเมลานินออกมาปริมาณมาก และทิ้งร่องรอยไว้หลังจากที่การอักเสบหายดีแล้ว
กลุ่มที่พบบ่อย ผู้ที่มีปัญหาสิว หรือผู้ที่มีแนวโน้มผิวระคายเคืองง่าย

จุดด่างดำตามวัย หรือกระแดด (Solar Lentigines / Age Spots)
จุดด่างดำตามวัย หรือกระแดด มักมีสีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม โดยมีขนาดและรูปร่างที่หลากหลายแตกต่างกันไป แต่มีขอบเขตของรอยโรคที่ชัดเจน มักปรากฏในบริเวณผิวหนังที่มีการสัมผัสแสงแดดเป็นประจำ เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก และหลังมือ

สาเหตุของจุดด่างดำตามวัย การสัมผัสรังสียูวีจากแสงแดดเป็นระยะเวลานานสะสม ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติและผลิตเม็ดสีออกมาเป็นกลุ่มก้อน
กลุ่มที่พบบ่อย ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่สัมผัสแสงแดดบ่อยโดยไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ

การรักษาจุดด่างดำด้วยวิธีการธรรมชาติ
รักษาจุดด่างดำด้วยมะขามเปียก
มะขามเปียกเป็นเคล็ดลับความงามจากธรรมชาติที่อุดมด้วยกรดผลไม้ (AHA) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำและลดเลือนจุดด่างดำอย่างอ่อนโยน เพียงนำมาผสมกับน้ำผึ้งหรือนมสดแล้วพอกทิ้งไว้ 10-15 นาที ก่อนล้างออกให้สะอาด เพื่อเผยผิวใหม่ที่แลดูกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น

ข้อควรระวัง ไม่ควรทิ้งไว้นานเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือแห้งได้

รักษาจุดด่างดำด้วยมะนาว
มะนาวเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซีและกรดซิตริกเข้มข้น ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำ แต่ด้วยความเป็นกรดสูงจึงต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยผสมกับน้ำผึ้งในอัตราส่วนที่เท่ากันเพื่อความอ่อนโยนต่อผิว จากนั้นแต้มเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยจุดด่างดำ ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาด

ข้อควรระวัง ห้ามทาแล้วออกแดดเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวไหม้และเกิดรอยดำที่หนักกว่าเดิม แนะนำให้ทำเฉพาะตอนกลางคืน

รักษาจุดด่างดำด้วยมะละกอสุก
มะละกอสุก มีคุณสมบัติในการบำรุงผิว ด้วยเอนไซม์ปาเปน (Papain) ตามธรรมชาติ ที่ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน พร้อมคุณค่าจากวิตามินเอและซี เพียงนำเนื้อมาบดให้ละเอียดแล้วพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นล้างออกเพื่อเผยผิวที่กลับมาเนียนนุ่มและแลดูกระจ่างใสขึ้น

ข้อควรระวัง เป็นวิธีที่ค่อนข้างอ่อนโยน แต่ก็ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้

รักษาจุดด่างดำด้วยว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้สามารถช่วยฟื้นฟูผิว และลดความรุนแรงจากปัญหาจุดด่างดำได้ ด้วยสารอะโลอิน (Aloin) ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการยับยั้งการสร้างเม็ดสี พร้อมปลอบประโลมและเติมความชุ่มชื้น เพียงนำเจลสดที่ล้างยางออกจนสะอาดมาทาบาง ๆ บริเวณจุดด่างดำหรือทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ข้ามคืนโดยไม่ต้องล้างออก เพื่อให้สารบำรุงช่วยลดเลือนรอยดำอย่างต่อเนื่อง

ข้อควรระวัง บางคนอาจมีอาการแพ้ยางของว่านหางจระเข้ ควรทดสอบก่อนการใช้งาน

มะเขือเทศ
มะเขือเทศเป็นผลไม้ที่เปี่ยมไปด้วยไลโคปีนและวิตามินซี ซึ่งจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี จึงมีส่วนช่วยปกป้องผิวจากความหมองคล้ำและฟื้นบำรุงให้ผิวแลดูกระจ่างใส ลดปัญหาจุดด่างดำ สามารถนำมาใช้ได้ง่าย ๆ โดยฝานเป็นแว่นบาง ๆ แล้วถูเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า หรือนำไปบดละเอียดเพื่อใช้พอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาทีก่อนล้างออกให้สะอาด

ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนนำมาใช้กับผิวหน้า

ข้อจำกัดของการรักษาจุดด่างดำด้วยวิธีธรรมชาติ
แม้ว่าการดูแลผิวและรักษาจุดด่างดำด้วยวิธีธรรมชาติ จะเป็นทางเลือกที่อ่อนโยนและน่าสนใจ แต่เพื่อให้เกิดความเข้าใจและตั้งความหวังอย่างสมเหตุสมผล จึงควรทราบถึงข้อจำกัดบางประการของการรักษาด้วยวิธีนี้

• รักษาจุดด่างดำด้วยวิธีธรรมชาติต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ อาจต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนจึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง
• รักษาจุดด่างดำด้วยวิธีธรรมชาติมีขีดจำกัดกับรอยดำฝังลึก เพราะมักจะได้ผลดีกับรอยจุดด่างดำตื้น ๆ หรือรอยที่เพิ่งเกิดใหม่
• รักษาจุดด่างดำด้วยวิธีธรรมชาติมีความเสี่ยงต่อการระคายเคืองและการแพ้ เพราะส่วนผสมบางอย่างอาจทำให้ผิวที่บอบบางระคายเคือง แสบแดง หรือแพ้ได้
• รักษาจุดด่างดำด้วยวิธีธรรมชาติมีความไม่คงที่ของสารออกฤทธิ์ เช่น ปริมาณวิตามินซีในมะนาวแต่ละลูก หรือกรด AHA ในมะขามแต่ละฝักอาจแตกต่างกัน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละครั้งไม่แน่นอน
• รักษาจุดด่างดำด้วยวิธีธรรมชาติอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น เพราะส่วนผสมหลายชนิดโดยเฉพาะกลุ่มที่มีกรดผลไม้ (AHA) จะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น

การรักษาจุดด่างดำด้วยยาทาเฉพาะที่
การรักษาจุดด่างดำด้วยยาทาเฉพาะที่ เป็นวิธีการรักษาแบบพื้นฐาน และค่อนข้างสะดวกสบาย โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้สารออกฤทธิ์ทาลงบนผิวหนังโดยตรง เพื่อลดเลือนรอยจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอขึ้น ซึ่งสารออกฤทธิ์ที่สำคัญ และมักนิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ ได้แก่

• รักษาจุดด่างดำด้วยไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เป็นสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์หลักในกระบวนการสร้างเม็ดสี ถือเป็นมาตรฐานทอง (Gold Standard) ในการรักษาฝ้าและรอยดำ แต่ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
• รักษาจุดด่างดำด้วยเรตินอยด์ (Retinoids) อนุพันธ์ของวิตามินเอ เช่น Tretinoin, Adapalene ช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ลดการส่งต่อเม็ดสีไปยังเซลล์ผิวชั้นบน และมีส่วนช่วยลดการอักเสบ
• รักษาจุดด่างดำด้วยกรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) มีคุณสมบัติยับยั้งการสร้างเม็ดสีและต้านการอักเสบ มักใช้ในการรักษารอยดำหลังการอักเสบ (PIH) และฝ้า
• รักษาจุดด่างดำด้วยวิตามินซี (Vitamin C) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีและปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสียูวี
• รักษาจุดด่างดำด้วยไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) หรือวิตามินบี 3 ช่วยลดการส่งผ่านเม็ดสีที่สร้างเสร็จแล้วไปยังเซลล์ผิวชั้นนอก ทำให้รอยดำดูจางลง

การรักษาจุดด่างดำด้วยหัตถการทางการแพทย์
เป็นวิธีการรักษาจุดด่างดำ โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือทางการแพทย์เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาจุดด่างดำที่ชั้นผิวลึกขึ้น หรือในกรณีที่การใช้ยาทาอย่างเดียวไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

• รักษาจุดด่างดำด้วยการผลัดเซลล์ผิว เป็นการใช้สาร เช่น Glycolic Acid (AHA), Salicylic Acid (BHA) ในความเข้มข้นที่เหมาะสมทาลงบนผิว เพื่อเร่งการผลัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าที่ตายแล้วและมีเม็ดสีสะสมอยู่ออกไป ช่วยให้รอยดำจางลงและผิวดูเรียบเนียนขึ้น
• รักษาจุดด่างดำด้วยแสงกระตุ้นความเข้มสูง (Intense Pulsed Light - IPL) เป็นการใช้พลังงานแสงช่วงคลื่นกว้างเพื่อจัดการกับปัญหาเม็ดสีและความผิดปกติของเส้นเลือดไปพร้อมกัน เหมาะกับรอยดำหรือจุดด่างดำที่ไม่ลึกมาก
• รักษาจุดด่างดำด้วยโปรแกรมเลเซอร์ เป็นการใช้พลังงานแสงที่มีความยาวคลื่นจำเพาะเจาะจงต่อเม็ดสีเมลานิน ทำให้เม็ดสีแตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็ก และถูกกำจัดออกไปตามกลไกธรรมชาติ โดยโปรแกรมเลเซอร์ที่นิยมใช้ เช่นโปรแกรม Q-switched Laser และโปรแกรม Pico Laser ซึ่งได้รับความนิยมค่อนข้างสูง

รักษาจุดด่างดำด้วยโปรแกรม PICO LASER มีข้อดีอย่างไร
โปรแกรม Pico Laser คือหนึ่งในหัตถการรักษาจุดด่างดำด้วยโปรแกรมเลเซอร์ที่ได้รับความนิยม เนื่องด้วยเทคโนโลยีการส่งผ่านพลังงานความเร็วสูงระดับ Picosecond ที่มีความจำเพาะต่อเม็ดสี จึงก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงน้อย ช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งยังมีข้อดีซึ่งตอบโจทย์การรักษาจุดด่างดำได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

• ด้วยเทคโนโลยีการปล่อยพลังงานเลเซอร์ในระดับความเร็ว Picosecond (1 ต่อล้านล้านวินาที) ทำให้เกิดแรงกระแทกเชิงแสง (Photoacoustic effect) เข้าสลายเม็ดสีเมลานินที่จับตัวกันหนาแน่นให้แตกออกเป็นอนุภาคขนาดเล็กละเอียด ช่วยลดปัญหาจุดด่างดำได้อย่างตรงจุดและเห็นผล
• ลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เนื่องจากพลังงานสัมผัสผิวในระยะเวลาที่สั้นมาก จึงเกิดการสะสมความร้อนบนผิวน้อย ส่งผลให้เนื้อเยื่อโดยรอบได้รับผลกระทบน้อย ลดความเสี่ยงในการเกิดรอยแผลเป็น ภาวะผิวไหม้ หรือรอยดำหลังการอักเสบ (PIH)
• ใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อย ผู้รับบริการส่วนใหญ่จึงสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันหรือแต่งหน้าได้ตามปกติในวันถัดไป โดยไม่จำเป็นต้องหยุดพักงานหลังรักษาจุดด่างดำ
• ครอบคลุมปัญหาเม็ดสีที่หลากหลาย เพราะโปรแกรม Pico Laser สามารถปรับตั้งค่าพลังงานและเลือกความยาวคลื่นให้เหมาะสมกับปัญหาเม็ดสีได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นจุดด่างดำตื้น ๆ เช่น กระ, รอยดำจากสิว ไปจนถึงเม็ดสีที่อยู่ลึกในชั้นผิวหนังแท้ เช่น ฝ้าบางชนิด หรือแม้กระทั่งการลบรอยสัก
• ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว (Skin Rejuvenation) เพราะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ใต้ชั้นผิว เป็นผลให้ผิวโดยรวมดูเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ และริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง ถือเป็นการรักษาจุดด่างดำที่ให้ผลลัพธ์ด้านการฟื้นฟูผิวควบคู่กันไป

APEX แจก 9 วิธีป้องกันจุดด่างดำที่ทำตามได้ทุกวัน
หากจะกล่าวว่าจุดด่างดำ เป็นปัญหาผิวที่ไม่มีใครอยากเจอ ก็คงจะไม่ผิดนัก แต่รู้หรือไม่ว่าหลายครั้งจุดด่างดำก็ปรากฏขึ้นมาบนผิวให้ปวดหัวได้โดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งแม้จะดูเป็นเรื่องน่ากังวลและจัดการได้ยาก แต่ความจริงแล้วเราสามารถป้องกันได้ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนและใส่ใจดูแลผิวในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ เช่น

1.ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
การทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวอย่างสม่ำเสมอ เรียกได้ว่าเป็นกฎข้อแรกของการป้องกันจุดด่างดำที่สำคัญ เพราะแสงแดด (รังสี UVA/UVB) เป็นตัวกระตุ้นหลักในการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อจุดด่างดำ โดยควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ แม้จะอยู่ในร่มหรือวันที่มีเมฆมาก และควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหากต้องอยู่กลางแจ้งนาน ๆ

2.อย่าลืมป้องกันผิว
นอกเหนือจากการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการป้องกันจุดด่างดำแล้ว การปกป้องผิวด้วยวิธีทางกายภาพ เช่น การสวมหมวก แว่นกันแดด หรือเสื้อแขนยาว ในทุกครั้งที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือต้องสัมผัสอากาศร้อนเป็นเวลานาน ก็ถือเป็นอีกปราการสำคัญที่ช่วยลดการสัมผัสแสงแดดโดยตรงได้ในเบื้องต้น

3.หยุด แกะ บีบ เค้นสิว
การสัมผัส บีบ หรือแกะสิว ถือเป็นการรบกวนผิวที่กระตุ้นให้เกิดกระบวนการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของการเกิดรอยดำหลังการอักเสบ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation) หรือจุดด่างดำบนผิว โดยเฉพาะบริเวณที่มีความอ่อนโยนอย่างผิวหน้า จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะที่เพื่อบรรเทาอาการ และปล่อยให้ผิวฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ

4.บำรุงและฟื้นฟูผิวด้วยสกินแคร์
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) เช่น วิตามินซี (Vitamin C) และไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) จะช่วยเสริมการปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก เพราะสารเหล่านี้จะเข้าไปลดผลกระทบจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน ต้นเหตุของปัญหาจุดด่างดำ

5.ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและสม่ำเสมอ
การส่งเสริมกระบวนการผลัดเซลล์ผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการธรรมชาติ หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิว เช่น การใช้โทนเนอร์หรือเซรั่มที่มี AHA หรือ BHA จะช่วยเร่งการขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพ ช่วยให้สีผิวมีความสม่ำเสมอขึ้น โดยลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองที่อาจเกิดจากการขัดถูผิวด้วยความรุนแรง

6.ห้ามขาดมอยส์เจอไรเซอร์
ผิวที่ชุ่มชื้นและแข็งแรงจะมีเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ดังนั้นการใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นและเสริมโครงสร้างของปราการผิว ซึ่งจะช่วยลดความไวของผิวต่อสิ่งกระตุ้นที่อาจนำไปสู่การอักเสบและการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ ซึ่งทำให้ปัญหาจุดด่างดำเด่นชัดและรุนแรงมากยิ่งขึ้น

7.เลือกทานอาหารที่ดีต่อผิว
วิธีป้องกันจุดด่างดำที่ง่าย และสามารถทำได้ในทุกวัน ก็คือการเลือกทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะเป็นไลโคปีนในมะเขือเทศ และเบต้าแคโรทีนในแครอท รวมไปถึงผักใบเขียวและผลไม้ตระกูลเบอร์รี เพราะจะช่วยลดความเสียหายระดับเซลล์ที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ที่เป็นปัจจัยหนึ่งของการสร้างเม็ดสีหรือจุดด่างดำบนผิว

8.พักผ่อนให้เพียงพอและจัดการความเครียด
ภาวะเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) สูงขึ้น ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบและส่งสัญญาณไปยังเซลล์สร้างเม็ดสีโดยตรง ทำให้เกิดปัญหาจุดด่างดำ ดังนั้นการนอนหลับอย่างมีคุณภาพจึงจำเป็นต่อกระบวนการซ่อมแซมเซลล์และควบคุมสมดุลฮอร์โมนได้เป็นอย่างดี

9.ระวังความร้อน ที่ไม่ใช่แค่แสงแดด
นอกจากรังสีอัลตราไวโอเลต ที่ส่งผลต่อการเกิดจุดด่างดำแล้ว ความร้อนในรูปแบบอื่น เช่น รังสีอินฟราเรด (Infrared) ก็เป็นอีกปัจจัยกระตุ้น ที่สามารถเร่งกระบวนการสร้างเม็ดสี (Melanogenesis) โดยเฉพาะในผู้ที่มีแนวโน้มเป็นฝ้า จึงควรหลีกเลี่ยงการให้ผิวสัมผัสกับความร้อนสูงโดยตรงเป็นระยะเวลานาน เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว

จุดด่างดำบนใบหน้ากับร่างกาย รักษาเหมือนกันไหม
โดยหลักการแล้ว การรักษาจุดด่างดำบนใบหน้าและร่างกายใช้แนวทางที่คล้ายคลึงกัน เนื่องจากมีสาเหตุมาจากการผลิตเม็ดสีที่ผิดปกติเหมือนกัน แต่ความแตกต่างที่สำคัญคือลักษณะของผิว ซึ่งผิวบริเวณลำตัวจะมี ความหนาและแข็งแรงกว่าผิวหน้า จึงอาจทนต่อผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นสูงกว่า หรือการผลัดเซลล์ผิวที่รุนแรงกว่าได้ อย่างไรก็ตามการป้องกันแสงแดดและหลีกเลี่ยงการรบกวนผิว ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาสำหรับทุกส่วนของร่างกาย หรือเลือกทำหัตถการที่สามารถปรับแนวทางให้เหมาะกับผิวในแต่ละส่วนได้

Q&A รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับจุดด่างดำ
จุดด่างดําฝังลึกเกิดจากอะไร
จุดด่างดำฝังลึก หรือที่เรียกว่า Dermal Hyperpigmentation เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติในชั้นหนังแท้ มีสาเหตุหลักมาจากการกระตุ้นโดยรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นระยะเวลานาน, การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน, หรือการอักเสบที่รุนแรง เนื่องจากเม็ดสีอยู่ในชั้นผิวที่ลึกกว่าปกติ จึงทำให้การรักษาจุดด่างดำมีความซับซ้อนและใช้ระยะเวลานานกว่ารอยดำทั่วไป

จุดด่างดำกับรอยดำต่างกันยังไง
คำว่าจุดด่างดำ เป็นคำเรียกโดยรวมของภาวะที่ผิวมีสีเข้มขึ้นผิดปกติจากเม็ดสีที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่รอยดำหรือ PIH) เป็นจุดด่างดำชนิดหนึ่งที่มีสาเหตุจำเพาะมาจากการอักเสบ เช่น รอยดำที่เกิดหลังสิวหาย แผล หรือการระคายเคือง ซึ่งแตกต่างจากจุดด่างดำโดยทั่วไป ที่มักเกิดจากแสงแดด (ฝ้า, กระ) หรือปัจจัยทางพันธุกรรม

ทําไมถึงมีจุดด่างดําบนผิวหนัง
จุดด่างดำบนผิวหนัง เกิดจากกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanogenesis) ที่ทำงานผิดปกติหรือมากเกินไป โดยมีปัจจัยกระตุ้นหลักคือรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน และการอักเสบของผิวหนัง ปัจจัยเหล่านี้ส่งสัญญาณให้เซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) ผลิตและส่งผ่านเมลานินไปยังเซลล์ผิวหนังชั้นบนในปริมาณที่สูงกว่าปกติ จนกลายเป็นปัญหาจุดด่างดำได้ในอนาคต

สรุปจุดด่างดำมีกี่แบบ ควรเลือกรักษายังไงให้เหมาะสม
จุดด่างดำบนผิวหนังสามารถแบ่งได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะ ความรุนแรง และสาเหตุการเกิด ซึ่งการเลือกแนวทางการรักษาจุดด่างดำที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านั้นเป็นสำคัญ โดยรอยดำที่เกิดจากการอักเสบในชั้นตื้นอาจตอบสนองต่อการใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ ในขณะที่ฝ้าหรือกระลึกมักต้องการหัตถการทางการแพทย์เข้าช่วย ดังนั้นก่อนรักษาควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและวินิจฉัยอย่างเหมาะสม

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการแก้ปัญหาจุดด่างดำ หรือสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ค่ะ

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ จุดด่างดำ คืออะไร สาเหตุเกิดจาก มีวิธีรักษาป้องกันอย่างไร,จุดด่างดำ หรือสอบถามรายละเอียด โปรโมชั่นพิเศษ หรือ หัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

จุดด่างดำมีหลายชนิด ทั้งฝ้า กระ รอยดำจากสิว การเลือกวิธีรักษาให้ตรงจุดจึงสำคัญ เพื่อจบปัญหาผิวไม่สม่ำเสมอ คืนผิวเรียบเนียนกระจ่างใส อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ APEX ได้เลย จุดด่างดำมีกี่ชนิด ? รู้ให้ลึกก่อนรักษา เพื่อหน้าใสไร้จุดด่างดำ