บทความเกี่ยวกับ : ฉีดเรเดียส , เรเดียส






โปรแกรมฉีดเรเดียส (Radiesse) คืออะไร แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
โปรแกรมฉีดเรเดียสตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เน้นความชุ่มชื้นบนใบหน้า
หากกำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผิวให้กลับมาเนียนเด้ง ดูอิ่มฟู และชุ่มชื้นจากภายในแบบไม่ต้องผ่าตัด โปรแกรมฉีดเรเดียสคือหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมที่ตอบโจทย์ เพราะไม่เพียงแค่เติมเต็มผิวเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติให้ผิวกลับมาแข็งแรง ด้วยคุณสมบัติพิเศษแตกต่างจากโปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไป โปรแกรมฉีดเรเดียสจึงกลายเป็นหัตถการที่หลายคนเลือกเมื่ออยากได้ผิวที่ดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง และสุขภาพดี นอกจากนี้ โปรแกรมฉีดเรเดียสยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ ขาดความยืดหยุ่น หรือเริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า บทความนี้จะมาเจาะลึกกันว่า โปรแกรมฉีดเรเดียสดียังไง สามารถแก้ปัญหาอะไร รวมถึงมาเปรียบเทียบหัตถการฉีดหน้าใสแบบอื่นกับโปรแกรมฉีดเรเดียส
โปรแกรมฉีดเรเดียสคืออะไร
โปรแกรมฉีดเรเดียส ( Radiesse ) คือหัตถการฉีดสารเติมเต็มที่มีจุดเด่นแตกต่างจากโปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไป เพราะไม่ได้แค่เติมเต็มริ้วรอยหรือยกกระชับผิวเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติพิเศษในการกระตุ้นคอลลาเจน โดยโปรแกรมฉีดเรเดียสมีส่วนผสมของ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นสารที่คล้ายกับแร่ธาตุในกระดูกมนุษย์ เมื่อฉีดเข้าไปในผิว
สารนี้จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างคอลลาเจน ช่วยเติมเต็มผิวให้ดูอิ่มฟู และในระยะยาวจะกระตุ้นให้ผิวผลิตคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น และชุ่มชื้นจากภายในอย่างดูเป็นธรรมชาติ โปรแกรมฉีดเรเดียสจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของวัย เช่น ผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือมีริ้วรอยบางจุด โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ขมับ กรอบหน้า และหลังมือ
กลไกการทำงานของโปรแกรมฉีดเรเดียส
โปรแกรมฉีดเรเดียสไม่ใช่แค่การเติมเต็มริ้วรอยแบบโปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไป แต่ยังมีคุณสมบัติเด่นคือการ กระตุ้นคอลลาเจน จึงให้ผลลัพธ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งเมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิว จะเกิดกระบวนการทำงานดังนี้
• โปรแกรมฉีดเรเดียสมีคุณสมบัติในการเติมเต็ม หลังฉีดจะเห็นผลลัพธ์ว่าผิวดูเต็มขึ้น เรียบเนียนขึ้น เพราะเนื้อเจลของโปรแกรมเรเดียสจะช่วยยกผิวและปรับรูปทรงบริเวณที่ฉีดให้ดูอิ่มฟู
• โปรแกรมฉีดเรเดียสสามารถกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว อนุภาค CaHA จะเข้าไปกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ในผิวให้ผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวมีโครงสร้างที่แน่นและยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
• โปรแกรมฉีดเรเดียสช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวจากภายใน เมื่อคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้น ผิวจะไม่เพียงแค่ตึง แต่ยังดูสุขภาพดี ผิวแน่น ชุ่มชื้น และไม่กลับไปหย่อนคล้อยง่าย
• โปรแกรมฉีดเรเดียสสามารถสลายตัวเองได้ตามธรรมชาติ โปรแกรมเรเดียสไม่สะสมในร่างกาย ตัวยาจะสลายหมดภายใน 12-18 เดือน โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง และไม่ทำลายเนื้อเยื่อเดิมของผิว
• โปรแกรมฉีดเรเดียสไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำ ไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น เพราะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย

โปรแกรมฉีดเรเดียส (Radiesse) คืออะไร ต่างกับฟิลเลอร์ไหม ?
ผลลัพธ์หลังรับบริการ โปรแกรมฉีดเรเดียส ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลโปรแกรมฉีดเรเดียสช่วยในเรื่องอะไรบ้าง
โปรแกรมฉีดเรเดียสไม่ได้เป็นเพียงการฉีดสารเติมเต็มเพื่อยกผิวให้ตึงชั่วคราวเท่านั้น แต่ยังเป็นการฟื้นฟูสภาพผิวจากภายในอย่างเป็นธรรมชาติ มาดูกันว่า โปรแกรมฉีดเรเดียสสามารถช่วยแก้ไขหรือดูแลปัญหาผิวในเรื่องใดได้บ้าง
• เติมเต็มผิวที่ขาดความชุ่มชื้นและดูโทรม โปรแกรมฉีดเรเดียสช่วยให้ผิวอิ่มฟู ดูมีน้ำมีนวลจากภายใน เหมาะกับคนที่รู้สึกว่าผิวแห้ง ขาดน้ำ แต่งหน้าไม่ติด
• ลดริ้วรอยตื้น ๆ และผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย โปรแกรมฉีดเรเดียสช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ยืดหยุ่น และดูตึงกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
• ฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอจากวัยหรือแสงแดด โปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับผู้ที่มีผิวบางหรือเริ่มเสื่อมจากอายุหรือการโดนแดดสะสม ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว
• ยกกระชับปรับรูปหน้าให้ดูละมุนขึ้น โปรแกรมฉีดเรเดียสสามารถใช้ในบริเวณแก้ม ขมับ กรอบหน้า หรือคาง เพื่อเพิ่มมิติให้ใบหน้าดูสวยสมดุลและดูเด็กลง
• ลดความหย่อนของผิวบริเวณลำคอหรือหลังมือ โปรแกรมฉีดเรเดียสนอกจากที่จะสามารถฉีดบนใบหน้าแล้ว เรายังสามารถทำโปรแกรมฉีดเรเดียสบริเวณคอหรือมือ เพื่อให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบเนียนมากขึ้น
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่แตกต่างของการทำโปรแกรมฉีดเรเดียสคือผิวจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้เวลาผ่านไป เพราะร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ต่อเนื่องหลังฉีด

โปรแกรมฉีดเรเดียส (Radiesse) คืออะไร ต่างกับฟิลเลอร์ไหม ?
ผลลัพธ์หลังรับบริการ โปรแกรมฉีดเรเดียส ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลข้อดี-ข้อจำกัดของโปรแกรมฉีดเรเดียส
แม้ว่าโปรแกรมฉีดเรเดียสจะได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากภายในและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็เช่นเดียวกับทุกหัตถการความงาม ที่มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความคาดหวังมากที่สุด
ข้อดีของโปรแกรมฉีดเรเดียส
• โปรแกรมฉีดเรเดียสช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายใน ไม่ใช่แค่การเติมเต็มแบบชั่วคราว
• โปรแกรมฉีดเรเดียสให้ผลลัพธ์หลังฉีดที่ค่อนข้างดี ผิวดูแน่น ฟู และยกกระชับตั้งแต่วันแรก
• โปรแกรมฉีดเรเดียสทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใบหน้าจนดูปลอม เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือแต่งหน้าไม่ติด
• โปรแกรมฉีดเรเดียสช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เช่น การฉีดบริเวณแก้ม ขมับ หรือกรอบหน้าเพื่อเพิ่มมิติ
• โปรแกรมฉีดเรเดียสสามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย และไม่มีสารอันตราย
• โปรแกรมฉีดเรเดียสช่วยลดริ้วรอย ร่องตื้น และผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กถึงกลาง
ข้อจำกัดของโปรแกรมฉีดเรเดียส
• โปรแกรมฉีดเรเดียสไม่เหมาะกับการเติมเต็มบางจุด เช่น ริมฝีปาก หรือใต้ตา เพราะเนื้อสารมีความหนาแน่นมากกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป
• โปรแกรมฉีดเรเดียสไม่ให้ผลยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS เทียบเท่าการร้อยไหมหรือเทคโนโลยียกกระชับหน้าอื่น ๆ
• โปรแกรมฉีดเรเดียสราคาค่อนข้างสูงกว่าโปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไป โดยเฉพาะเมื่อใช้ในปริมาณมาก
• โปรแกรมฉีดเรเดียสต้องอาศัยแพทย์ที่มีทักษะในการฉีด เพราะเทคนิคการฉีด โปรแกรมฉีดเรเดียสต่างจากโปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไป หากฉีดผิดชั้นอาจทำให้ผิวเป็นก้อน
• โปรแกรมฉีดเรเดียสผลลัพธ์แม้จะอยู่ได้นาน แต่ไม่ได้ถาวร ต้องฉีดซ้ำทุก 12-18 เดือนเพื่อคงสภาพผิว
• โปรแกรมฉีดเรเดียสอาจมีอาการบวมเล็กน้อยหลังฉีดในบางจุด โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบางหรือมีการขยับบ่อย
โปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับใคร
แม้โปรแกรมฉีดเรเดียสจะเป็นทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มคนรักผิว แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป เพราะโปรแกรมเรเดียสมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการกระตุ้นคอลลาเจนและเติมเต็มอย่างลึกถึงโครงสร้างผิว จึงเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างจริงจังและเห็นผลระยะยาว โดยผู้ที่เหมาะกับโปรแกรมฉีดเรเดียสมีลักษณะดังนี้
• โปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูชุ่มชื้นจากภายใน เหมาะกับคนที่ผิวดูโทรมและแต่งหน้าไม่ติด
• โปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณความร่วงโรยของผิว เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย และต้องการฟื้นฟูสภาพผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
• โปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนระยะยาว ไม่เพียงแค่เติมเต็มผิว แต่ยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ต่อเนื่อง
• โปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูละมุน มีมิติ สามารถฉีดเพื่อเสริมบริเวณแก้ม ขมับ กรอบหน้า หรือคางให้ได้รูปโดยไม่ต้องศัลยกรรม
• โปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับผู้ที่มีผิวบางหรือผิวเริ่มบางลงตามวัย ช่วยให้ผิวแน่นขึ้น แข็งแรงขึ้น ไม่เปราะหรือเหี่ยวง่าย
• โปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่นานกว่าสารเติมเต็มทั่วไป ให้ผลที่คงอยู่ได้ค่อนข้างนาน ทำให้ไม่ต้องเติมบ่อย
• โปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวหลังมือหรอลำคอให้ดูอ่อนเยาว์ สามารถใช้เพื่อฟื้นฟูผิวในบริเวณอื่นที่ไม่ใช่แค่ใบหน้าได้เช่นกัน
โปรแกรมฉีดเรเดียสเทียบกับโปรแกรมอื่น ๆ ควรเลือกแบบไหน
ปัจจุบันมีโปรแกรมฉีดหน้าใสมากมายในท้องตลาด แต่ละโปรแกรมมีจุดเด่นและวัตถุประสงค์เฉพาะแตกต่างกัน บางชนิดเน้นเติมน้ำ บางชนิดเน้นฟื้นฟูเซลล์ผิว หรือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนลึกถึงโครงสร้างผิว การเลือกใช้จึงควรพิจารณาตามปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล ด้านล่างนี้คือการเปรียบเทียบโปรแกรมฉีดเรเดียสกับตัวเลือกอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม เพื่อช่วยให้สามารถเลือกได้เหมาะกับตัวเอง
โปรแกรมฉีดเรเดียส VS โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ทั่วไป
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมักผลิตจาก Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งมีคุณสมบัติในการเติมเต็มเฉพาะจุด เช่น คาง แก้ม ร่องน้ำหมาก ใต้ตา หรือขมับ โดยเนื้อของโปรแกรมฟิลเลอร์จะถูกเลือกให้เหมาะกับความยืดหยุ่นในแต่ละบริเวณ จุดเด่นคือมีความยืดหยุ่นสูง และสามารถปรับแต่งได้ เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหารูปหน้าหรือปัญหาร่องลึก ขณะที่โปรแกรมฉีดเรเดียสจะให้ความแน่นมากกว่า และเน้นกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว โดยมีคุณสมบัติเนื้อแน่น ไม่สามารถใช้ในจุดที่เคลื่อนไหวมาก เช่น ใต้ตาหรือริมฝีปากได้ ถ้าต้องการการแก้ไขส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า หรือต้องการการเติมเต็มใบหน้า ใช้โปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไปจะเหมาะกว่า แต่ถ้าต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวและยกกระชับอย่างจริงจัง โปรแกรมฉีดเรเดียสจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า
โปรแกรมฉีดเรเดียส VS โปรแกรมฉีด Sculptra
โปรแกรมฉีดเรเดียสและโปรแกรมฉีด Sculptra เป็นสองโปรแกรมฉีดที่มีจุดร่วมตรงที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว แต่แตกต่างกันชัดเจนในเรื่องของการเห็นผลลัพธ์ โปรแกรมฉีดเรเดียสจะเติมเต็มผิวและยกกระชับได้ ด้วยอนุภาค Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ที่ช่วยเพิ่มวอลุ่มและโครงสร้างให้ผิว ขณะที่โปรแกรมฉีด Sculptra ใช้สาร Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ที่จะค่อย ๆ กระตุ้นร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนใหม่แบบช้า ๆ โดยไม่มีการเติมเต็มวอลุ่ม เหมาะสำหรับคนที่เน้นผลระยะยาวแบบไม่เร่งรีบ หากต้องการผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจนและผิวยกกระชับ โปรแกรมฉีดเรเดียสจะตอบโจทย์มากกว่า
โปรแกรมฉีดเรเดียส VS โปรแกรมฉีด Profhilo
ทั้งโปรแกรมฉีดเรเดียสและ โปรแกรมฉีด Profhilo ต่างก็ได้รับความนิยม แต่มีเป้าหมายในการดูแลผิวต่างกันอย่างชัดเจน โปรแกรมฉีด Profhilo เป็นไฮยาลูรอนบริสุทธิ์ ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างลึกซึ้ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ ผิวโทรม โดยไม่เน้นยกกระชับหรือเติมวอลุ่ม ในขณะที่โปรแกรมฉีดเรเดียสนอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว ยังสามารถยกผิวให้กระชับ ดูแน่นขึ้น และกระตุ้นคอลลาเจนได้ลึกถึงระดับโครงสร้างของผิว เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของวัย ต้องการทั้งผิวแน่นและดูอ่อนเยาว์ขึ้นในเวลาเดียวกัน
โปรแกรมฉีดเรเดียส VS โปรแกรมฉีด Skinvive
โปรแกรมฉีด Skinvive เป็นโปรแกรมฉีดจาก Juvederm ที่ออกแบบมาเพื่อเติมน้ำให้ผิวชั้นตื้น ให้ผิวดูเงา ฉ่ำวาว และเรียบเนียนในแบบ Glass Skin หลังฉีด แตกต่างจากโปรแกรมฉีดเรเดียสที่ฉีดลึกกว่า และมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างผิวให้แน่นกระชับจากภายใน พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว หากคุณต้องการผิวใสแบบเร่งด่วนเพื่อออกงาน ผิวเงาฉ่ำน้ำแบบธรรมชาติ โปรแกรมฉีด Skinvive จะเหมาะกว่า แต่ถ้าคุณต้องการผลลัพธ์ที่ยืนยาวและดูแลผิวในเชิงลึก โปรแกรมฉีดเรเดียสจะตอบโจทย์มากกว่า
โปรแกรมฉีดเรเดียส VS โปรแกรมฉีด HArmonyCA
โปรแกรมฉีด HArmonyCA คือโปรแกรมฟิลเลอร์แบบไฮบริดที่ผสานระหว่าง HA (ไฮยาลูรอน) และ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ซึ่งให้ผลทั้งความฉ่ำวาวและกระตุ้นคอลลาเจนในเวลาเดียวกัน เรียกว่าเป็นตัวเลือกกลาง ๆ ระหว่างโปรแกรมฟิลเลอร์และโปรแกรมเรเดียส ขณะที่โปรแกรมฉีดเรเดียส เป็น CaHA ล้วน ๆ ให้เนื้อแน่นกว่า และยกกระชับได้ชัดกว่าโปรแกรมฉีด HArmonyCA จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ละมุน ไม่แข็ง หรืออยากให้ผิวทั้งแน่นและดูใสแบบผิวฉ่ำ ส่วนโปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับอย่างจริงจัง
โปรแกรมฉีดเรเดียส VS โปรแกรมฉีด Gouri
โปรแกรมฉีด Gouri เป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า Liquid PCL ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบกระจายทั่วใบหน้า ไม่ได้เติมเต็มวอลุ่มเหมือนโปรแกรมฉีดเรเดียส แต่ให้ผิวกระชับขึ้นในระยะยาวจากการสร้างคอลลาเจนทั่วชั้นผิว โปรแกรมฉีด Gouri เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลทั่วใบหน้าแบบดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ส่วนโปรแกรมฉีดเรเดียสเหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลไว ยกกระชับเฉพาะจุด และต้องการวอลุ่มในบริเวณที่ผิวบางหรือเริ่มหย่อนคล้อย เช่น กรอบหน้า คาง หรือขมับ
โปรแกรมฉีดเรเดียส VS โปรแกรมฉีด Rejuran
โปรแกรมฉีด Rejuran เป็นโปรแกรมฉีดที่เน้นฟื้นฟูผิว เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง เป็นสิวง่าย หรือผ่านเลเซอร์มาบ่อย ๆ ผิวอ่อนแอ ต้องการซ่อมแซมมากกว่าการเติมเต็ม โปรแกรมฉีดเรเดียสจะให้ผลลัพธ์เรื่องความยืดหยุ่น ความแน่นของผิว และโครงสร้างค่อนข้างชัดเจนกว่า เหมาะกับผิวที่เริ่มมีอายุ หรือใบหน้าที่หย่อนคล้อย โปรแกรมฉีด Rejuran จึงตอบโจทย์ด้านการบำรุงผิวหน้า ขณะที่โปรแกรมฉีดเรเดียสเน้นการฟื้นฟูเชิงโครงสร้าง
โปรแกรมฉีดเรเดียส VS โปรแกรมฉีด Plinest
โปรแกรมฉีด Plinest เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เน้นการฟื้นฟูเซลล์ผิวคล้ายกับโปรแกรมฉีด Rejuran แต่มีโมเลกุลที่เสถียรกว่า ช่วยซ่อมแซมผิวจากการอักเสบหรือแพ้ง่ายได้ดี โปรแกรมฉีดเรเดียสจะต่างออกไปเพราะเน้นการยกกระชับ เติมวอลุ่ม และฟื้นฟูความแน่นของผิว เหมาะกับกลุ่มคนวัย 30+ ที่ต้องการปรับโครงสร้างผิวใหม่ในระดับลึก ส่วนโปรแกรมฉีด Plinest เหมาะกับคนผิวบอบบางที่ยังไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในเรื่องรูปหน้า
โปรแกรมฉีดเรเดียส VS โปรแกรมฉีด NEO Glutanex Glow
โปรแกรมฉีด NEO Glutanex Glow เป็นโปรแกรมฉีดผิวใสที่เน้นเรื่องความกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำจากรอยสิวหรือแดดสะสม ด้วยส่วนผสมของวิตามินและกลูตาไธโอน เหมาะกับคนที่ต้องการผิวโกลว์เร่งด่วน โปรแกรมฉีดเรเดียสให้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง เพราะไม่เน้นเรื่องความขาว แต่เน้นความแน่น ยกกระชับ และเสริมคอลลาเจนในระยะยาว หากต้องการผิวที่ทั้งแน่นและใส อาจใช้ควบคู่กันได้
โปรแกรมฉีดเรเดียส VS โปรแกรมฉีด NCTF 135 HA
โปรแกรมฉีด NCTF 135 HA มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA) ร่วมกับวิตามิน กรดอะมิโน โคเอนไซม์ และแร่ธาตุต่าง ๆ รวมกว่า 50 ชนิด จุดเด่นคือการบำรุงผิวลึก ฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้าให้กลับมาสดใส ช่วยลดจุดด่างดำ รอยสิว รูขุมขนกว้าง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในระดับตื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวอ่อนแอ ผิวโทรมจากความเครียดหรือพักผ่อนน้อย ในขณะที่โปรแกรมฉีดเรเดียสจะลงลึกกว่า ฉีดเพื่อเสริมโครงสร้างผิว เพิ่มความแน่นกระชับ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หากต้องการผลลัพธ์แบบผิวฟื้นฟูฉ่ำน้ำทั่วใบหน้า โปรแกรมฉีด NCTF จะเหมาะกว่า แต่ถ้าต้องการยกกระชับและผิวแน่นจากภายใน โปรแกรมฉีดเรเดียสจะตอบโจทย์มากกว่า
การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรมฉีดเรเดียส
ก่อนเข้ารับบริการโปรแกรมฉีดเรเดียสผู้รับบริการควรมีการเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพ ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดี โดยคำแนะนำเบื้องต้นในการเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรมฉีดเรเดียสมีดังนี้
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรงดการรับประทานยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา, โสม, กระเทียม และยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรงดอย่างน้อย 5-7 วันก่อนทำการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของรอยช้ำและเลือดออกใต้ผิวหนัง
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนทำ ควรงดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เนื่องจากแอลกอฮอล์สามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มโอกาสช้ำหลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียส
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนหน้า การนอนหลับเต็มที่ช่วยให้ร่างกายอยู่ในสภาพพร้อม และส่งผลดีต่อการฟื้นฟูหลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียส
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรดื่มน้ำให้มากในวันก่อนฉีดและวันฉีด การเติมน้ำให้กับร่างกายจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดอาการระคายเคืองหลังฉีด
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดเรเดียสไม่ควรแต่งหน้าหรือทาครีมในบริเวณที่จะฉีดในวันนัดทำหัตถการ ควรปล่อยให้ผิวสะอาดเพื่อป้องกันการอุดตันหรือการติดเชื้อจากสิ่งตกค้าง
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรแจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์ก่อนทำ โดยเฉพาะโรคประจำตัว การแพ้ยา หรือประวัติการฉีดสารเติมเต็มหรือโปรแกรมโบท็อกซ์ก่อนหน้า เพื่อให้แพทย์ประเมินได้อย่างเหมาะสม
การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียส
หลังจากทำโปรแกรมฉีดเรเดียสเสร็จแล้ว การดูแลตัวเองในช่วง 24-72 ชั่วโมงแรกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นช่วงที่ตัวยากำลังเซตตัวและกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนในผิว การดูแลที่เหมาะสมจะช่วยลดอาการบวม ช้ำ และช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ดังนี้
• หลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส กดนวด หรือคลึงบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของตัวยาและลดความเสี่ยงการเป็นก้อน
• หลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรงดแต่งหน้าและใช้ครีมบำรุงในบริเวณที่ฉีด เป็นเวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ช่วยลดความเสี่ยงจากการอุดตันและการติดเชื้อ
• หลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรหลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือโดนแดดจัด เป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน ความร้อนจะทำให้ตัวยาเซตตัวผิดตำแหน่ง และอาจทำให้ผิวอักเสบได้
• หลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรงดออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ช้ำหรือบวมมากขึ้น
• หลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรประคบเย็นเบา ๆ หากมีอาการบวมหรือแดงในจุดที่ฉีด สามารถทำได้ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก จะช่วยลดอาการระคายเคือง
• หลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพราะอาจรบกวนการฟื้นฟูของผิวและลดประสิทธิภาพของการสร้างคอลลาเจน
• หลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เพื่อเสริมการสร้างคอลลาเจนจากภายใน เช่น วิตามินซี, โอเมก้า-3 และโปรตีน
• หลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียสควรมาติดตามผลตามนัดของแพทย์ เพื่อประเมินผลลัพธ์ และปรับแผนการดูแลเพิ่มเติมหากจำเป็น
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียส
แม้โปรแกรมฉีดเรเดียสจะถือเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัยและได้รับความนิยม แต่ก็ยังคงมีผลข้างเคียงบางประการที่อาจเกิดขึ้นได้โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วง 1-3 วันแรกหลังฉีด และสามารถหายได้เอง
• อาการบวมบริเวณที่ทำโปรแกรมฉีดเรเดียส ถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้จากการฉีด และมักจะค่อย ๆ ยุบลงภายใน 1-3 วัน
• รอยช้ำหรือเขียวใต้ผิวหนังจุดที่ทำโปรแกรมฉีดเรเดียส มักเกิดจากเข็มไปโดนเส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบาง เช่น ใต้ตาหรือขมับ
• ความรู้สึกตึงหรือแข็งในจุดที่ทำโปรแกรมฉีดเรเดียส อาจเกิดขึ้นชั่วคราวเนื่องจากตัวเนื้อเรเดียสมีความแน่นมากกว่าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ทั่วไป
• อาการแดงและร้อนบริเวณผิวหนังหลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียส พบได้บ้าง โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือเมื่อเลือดไหลเวียนบริเวณนั้นมากเกินไป
• อาการปวดหรือรู้สึกระบมเล็กน้อยหลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียส เกิดจากกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อมีการตอบสนองต่อเข็มฉีด สามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็น
• ผิวไม่เรียบเนียนหรือมีการเป็นก้อนเล็กน้อยหลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียส มักเกิดจากการนวดหรือกดแรงเกินไปหลังฉีด หรือในกรณีที่ฉีดผิดชั้นผิว
• อาการแพ้หรือระคายเคืองหลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียส ในบางกรณีที่แพ้สารบางชนิดในเรเดียส เช่น สารช่วยคงตัวหรือสารกันเสีย อาจมีผื่นแดงหรือคันร่วมด้วย
• การติดเชื้อหลังทำโปรแกรมฉีดเรเดียส หากสถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐาน หรือการดูแลหลังฉีดไม่สะอาดพอ อาจเกิดการติดเชื้อเฉพาะจุดได้
โปรแกรมฉีดเรเดียสเจ็บไหม
หลายคนที่กำลังตัดสินใจทำโปรแกรมฉีดเรเดียสมักกังวลเรื่องความรู้สึกเจ็บขณะฉีด ซึ่งความจริงแล้ว ระดับความเจ็บถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ทนได้ โดยทั่วไปแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กหรือ blunt cannula ที่ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเส้นเลือด รวมถึงทายาชาหรือฉีดยาชาก่อนเริ่มหัตถการ เพื่อให้รู้สึกสบายมากที่สุดขณะฉีด
นอกจากนี้การทำโปรแกรมฉีดเรเดียสจะมีความหนืดกว่าโปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไปเล็กน้อย จึงอาจรู้สึกแน่น ๆ หรืออึดอัดบริเวณที่ฉีด แต่ไม่ได้เจ็บเหมือนการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์บางจุด หลังฉีดอาจมีอาการระบมหรือปวดเล็กน้อย ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็น และมักหายภายใน 1-2 วัน ดังนั้นความรู้สึกเจ็บจะอยู่ในระดับที่เบามาก และไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำหัตถการ
สรุป โปรแกรมฉีดเรเดียสดีไหม
โปรแกรมฉีดเรเดียสถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ฟื้นฟูโครงสร้างจากภายใน พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนวัย 30+ ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือผิวไม่แน่นฟู ผลลัพธ์เห็นได้หลังฉีดและผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป หากกำลังมองหาหัตถการที่ให้ผลลัพธ์ทั้งการยกกระชับ และผิวสุขภาพดีอย่างดูเป็นธรรมชาติ โปรแกรมเรเดียสคือสิ่งที่ควรทำ
หากสนใจโปรแกรมฉีดเรเดียสที่ APEX Beauty สามารถจองคิวเพื่อสอบถามและปรึกษากับศัลยแพทย์ หรือใครที่มีข้อสงสัยและคำถามเพิ่มเติม สามารถทักเข้ามาสอบถามได้เลยค่ะ
สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ ฉีดเรเดียส (Radiesse) คืออะไร ต่างกับฟิลเลอร์ไหม ?,ฉีดเรเดียส , เรเดียส หรือสอบถามรายละเอียด โปรโมชั่นพิเศษ หรือ หัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต
โปรแกรมฉีดเรเดียส ตัวช่วยฉีดหน้าใสที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยคุณสมบัติในการเติมเต็มผิว ยกกระชับหน้า กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวของเรามีความชุ่มชื่น แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น โปรแกรมฉีดเรเดียส (Radiesse) คืออะไร แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง