บทความเกี่ยวกับ : ผิวดำแดด
15 วิธีแก้ผิวดำแดด ฟื้นฟูผิวคล้ำให้กลับมากระจ่างใส
ผิวดำแดดแก้ยังไง รวม 15 วิธีฟื้นฟูผิวกระจ่างใสที่ห้ามพลาด
แสงแดดคือหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหาผิวหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดด หรือที่เรียกกันติดปากว่าผิวดำแดด ซึ่งเป็นปฏิกิริยาการป้องกันตัวเองของผิวหนังเมื่อได้รับรังสียูวีในปริมาณมากเกินไป ส่งผลให้ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น ทำให้สีผิวเข้มขึ้น ไม่สม่ำเสมอ และอาจนำไปสู่ปัญหาระยะยาว เช่น จุดด่างดำ ฝ้า กระ และริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย
บทความนี้เราจึงได้รวบรวม 15 แนวทางการฟื้นฟูและดูแลผิวดำแดด ที่ครอบคลุมตั้งแต่การดูแลแบบเบื้องต้น ไปจนถึงการบำรุงเชิงลึกด้วยส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ ตลอดจนการทำหัตถการที่ดูแลโดยแพทย์ เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถฟื้นคืนผิวดำแดดให้กลับมามีสุขภาพดีและดูกระจ่างใสขึ้นได้อีกครั้ง
ผิวดำแดดคืออะไร ?
ผิวดำแดด คือการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่ทำให้มีสีเข้มขึ้นเมื่อสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งเป็นกลไกจากกระบวนการป้องกันของร่างกาย โดยผิวหนังจะผลิตเม็ดสีเมลานินในปริมาณที่มากขึ้นกว่าปกติ เพื่อช่วยดูดซับและป้องกันอันตรายจากรังสีไม่ให้ทำลายเซลล์ผิวในชั้นที่ลึกลงไป ดังนั้นการเกิดผิวดำแดดจึงเป็นสัญญาณที่แสดงว่าผิวหนังได้ตอบสนองต่อแสงแดด ซึ่งจำเป็นต้องรักษาและฟื้นฟูอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยแก้ปัญหาและป้องกันผลเสียที่อาจตามมาในอนาคต

(รีวิว) ผิวดำแดด คืออะไร 15 แนวทางการฟื้นฟูและดูแลผิวแบบเบื้องต้น
ผลลัพธ์หลังรับบริการ โปรแกรมรักษาผิวดำแดด ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ต้นเหตุของปัญหาผิวดำแดด
ก่อนที่จะเข้าสู่แนวทางแก้ไขผิวดำแดด ควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาผิวคล้ำจากแดดก่อน ซึ่งต้นตอของปัญหาผิวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังสัมผัสกับรังสียูวี ซึ่งประกอบด้วย UVA และ UVB ร่างกายจะเข้าไปกระตุ้นเซลล์ที่เรียกว่าเมลาโนไซต์ (Melanocyte) ให้ผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) เพิ่มมากขึ้น
โดยเมลานินทำหน้าที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกันตามธรรมชาติ โดยจะดูดซับรังสี UV และกระจายออกไปเพื่อไม่ให้รังสีทะลุผ่านไปทำลายเซลล์ผิวที่อยู่ลึกลงไป รวมถึง DNA ของเซลล์ การที่ผิวมีสีเข้มขึ้น หรือมีผิวดำแดดจึงเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากลไกป้องกันของผิวกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องตนเองจากอันตราย
• รังสี UVB เป็นสาเหตุหลักของอาการผิวไหม้แดด ผิวดำแดด และกระตุ้นการผลิตเมลานินอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวคล้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในระยะสั้น
• รังสี UVA สามารถทะลุผ่านเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่า UVB มีส่วนในการกระตุ้นการสร้างเมลานินเช่นกัน และเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยในระยะยาว
ดังนั้นการฟื้นฟูผิวดำแดดจึงไม่ใช่เพียงการทำให้ผิวกลับมามีสีสว่างขึ้นเท่านั้น แต่เป็นการซ่อมแซมและเสริมสร้างความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เพื่อให้ผิวสามารถรับมือกับปัจจัยภายนอกได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

ผิวดำแดด คืออะไร 15 แนวทางการฟื้นฟูและดูแลผิวแบบเบื้องต้น
ผลลัพธ์หลังรับบริการ โปรแกรมรักษาผิวดำแดด ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ผิวดำแดดส่งผลกระทบอะไรได้บ้าง
การสัมผัสรังสียูวีจากแสงแดดเป็นเวลานานโดยขาดการป้องกันที่เหมาะสม ก่อให้เกิดสภาวะที่เรียกว่าผิวดำแดด ซึ่งเป็นมากกว่าการเปลี่ยนแปลงของสีผิวเพียงชั่วคราว สภาวะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและสุขภาพผิวในระดับลึก ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาผิวดำแดดที่รุนแรงในระยะยาวได้ เช่น
• ผิวดำแดดอาจทำให้สีผิวเข้มและหมองคล้ำขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบที่เห็นได้ชัดของผิวดำแดดอาจทำให้ โดยเกิดจากการที่ผิวหนังผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้นเพื่อพยายามปกป้องตัวเองจากรังสียูวี
• ผิวดำแดดอาจทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอและเกิดจุดด่างดำ โดยเฉพาะการมีผิวดำแดดบางส่วน โดยการผลิตเม็ดสีที่ผิดปกติอาจทำให้สีผิวไม่เรียบเนียน เกิดเป็นจุดด่างดำ กระ หรือรอยคล้ำเฉพาะจุดได้ง่าย
• ผิวดำแดดอาจทำให้ผิวแห้งกร้านและขาดความชุ่มชื้น เพราะรังสียูวีและความร้อนจากแดดทำลายเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวสูญเสียความสามารถในการกักเก็บน้ำ ส่งผลให้ผิวแห้ง ลอกเป็นขุยได้
• ผิวดำแดดอาจทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย รังสียูวีเอ (UVA) สามารถทะลุเข้าทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังแท้ ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วกว่าปกติ
• ผิวดำแดดอาจทำให้ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ เมื่อโครงสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง ผิวจะสูญเสียความแน่นกระชับและเกิดความหย่อนคล้อยตามมา
• ผิวดำแดดอาจทำให้ผิวหยาบกระด้าง เซลล์ผิวชั้นนอกที่ถูกทำลายจากแสงแดดจะทำให้ผิวสัมผัสไม่เรียบเนียน ขาดความนุ่มนวล และดูหยาบกร้าน
• ผิวดำแดดอาจทำให้เกิดฝ้าเข้มขึ้น สำหรับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นฝ้าอยู่แล้ว แสงแดดคือปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญที่สุด ทำให้ฝ้าที่มีอยู่เดิมมีสีเข้มขึ้นและขยายวงกว้างขึ้น
• ผิวดำแดดอาจทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง เมื่อเกราะป้องกันผิวถูกทำลาย จะทำให้ผิวอ่อนแอลงและไวต่อปัจจัยกระตุ้นภายนอกมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองได้ง่าย
• ผิวดำแดดอาจทำให้ผิวอักเสบและแดง (Sunburn) หากได้รับแสงแดดในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการแดดเผา ซึ่งเป็นการอักเสบเฉียบพลันของผิวหนัง มีอาการแดง แสบร้อน และอาจพุพองได้
• ผิวดำแดดอาจทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น การสูญเสียคอลลาเจนบริเวณรอบๆ รูขุมขน ทำให้โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น
• ผิวดำแดดอาจทำให้กระบวนการซ่อมแซมผิวช้าลง ผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดสะสมจะมีความสามารถในการซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองลดลง ทำให้รอยแผลหรือรอยสิวหายช้ากว่าปกติ

(รีวิว) ผิวดำแดด คืออะไร 15 แนวทางการฟื้นฟูและดูแลผิวแบบเบื้องต้น
ผลลัพธ์หลังรับบริการ โปรแกรมรักษาผิวดำแดด ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
แนะนำ 15 แนวทางเพื่อการฟื้นฟูผิวดำแดด
การฟื้นฟูผิวดำแดดต้องอาศัยความสม่ำเสมอและการผสมผสานหลายวิธีเข้าด้วยกัน โดยสามารถแบ่งแนวทางปฏิบัติออกเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ดังนี้
1.ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
ครีมกันแดดคือขั้นตอนที่สำคัญในการฟื้นฟูและป้องกันผิวดำแดด เพราะครีมกันแดดจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันด่านแรก ไม่ให้รังสี UV เข้ามาทำร้ายผิวและกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเพิ่มเติม โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีคุณสมบัติ Broad-Spectrum เพื่อป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที และทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงต่อผิวดำแดด หรือบ่อยกว่านั้นหากมีเหงื่อออกมากหรือหลังจากว่ายน้ำ
2.พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและฟื้นฟูผิวดำแดดได้เต็มที่ เพราะในขณะที่เราหลับลึก ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ผิวดำแดด รวมถึงเซลล์ผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด ในทางกลับกันการพักผ่อนที่ไม่เพียงพออาจส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดมากขึ้น ขัดขวางกระบวนการซ่อมแซมผิวและกระตุ้นการอักเสบได้ โดยควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
3.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
น้ำคือรากฐานสำคัญของการมีสุขภาพผิวที่ดี โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูผิวดำแดด โดยน้ำจะช่วยลำเลียงสารอาหารที่จำเป็นไปยังเซลล์ผิวเพื่อใช้ในกระบวนการซ่อมแซมผิวดำแดด และยังช่วยขับของเสียออกจากเซลล์ ในทางกลับกันหากร่างกายขาดน้ำ ผิวจะอ่อนแอลงและกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติจะช้าลง ทำให้เซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำสะสมอยู่บนผิวหน้ายาวนานขึ้น ดังนั้นการดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม
4.ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
ผิวดำแดดมักจะอยู่ในภาวะอ่อนแอและระคายเคือง การทำความสะอาดรุนแรงเกินไปอาจกระตุ้นการทำลายเกราะป้องกันผิวให้เสียหาย ผู้ที่มีปัญหาผิวดำแดดจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ปราศจากสารซัลเฟตที่รุนแรง (SLS/SLES) แอลกอฮอล์ และน้ำหอม หากแต่งหน้าหรือทาครีมกันแดดชนิดกันน้ำ ควรทำความสะอาดแบบ Double Cleansing โดยเริ่มจากออยล์หรือบาล์ม แล้วตามด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผิวดำแดดสะอาดโดยไม่สูญเสียความชุ่มชื้น
5.เติมความชุ่มชื้นและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
ผิวดำแดดมักจะแห้งกร้านและขาดน้ำ การเติมความชุ่มชื้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิว ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว และผิวดำแดดให้กลับมาแข็งแรง โดยควรเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว เช่น เซราไมด์ (Ceramides) กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid) ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) และแพนทีนอล (Panthenol) หรือวิตามินบี 5 ควรทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำทั้งเช้าและเย็น

(รีวิว) ผิวดำแดด คืออะไร 15 แนวทางการฟื้นฟูและดูแลผิวแบบเบื้องต้น
ผลลัพธ์หลังรับบริการ โปรแกรมรักษาผิวดำแดด ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
6.ผลัดเซลล์ผิวอย่างเหมาะสม
ผิวดำแดด หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งมีเม็ดสีเมลานินสะสมอยู่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ การผลัดเซลล์ผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าออกไป และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ดูกระจ่างใสกว่า โดยเลือกใช้วิธีผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical Exfoliants) เช่น AHA หรือ BHA ซึ่งมีความอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพมากกว่าการขัดถูด้วยสครับ ควรเริ่มต้นจากความเข้มข้นต่ำ และใช้เพียง 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง และแก้ปัญหาผิวดำแดดในเบื้องต้น
7.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระในแสงแดด ปัญหาผิวดำแดด และยังมีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในกระบวนการผลิตเมลานิน โดยฟื้นฟูผิวดำแดดโดยการเลือกใช้เซรั่มวิตามินซีในรูปแบบ L-Ascorbic Acid ที่มีความเข้มข้นเหมาะสม ทาในตอนเช้าก่อนทามอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดด เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดและช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
8.ใช้ไนอะซินาไมด์
สำหรับใครที่กำลังบเผชิญปัญหาผิวดำแดด ผิวคล้ำ ไม่สดใส ไนอะซินาไมด์คืออีกหนึ่งทางเลือก เพราะเป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์หลากหลาย นอกจากจะช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและลดการอักเสบแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยลดการส่งต่อเม็ดสีเมลานินจากเซลล์เมลาโนไซต์ไปยังเซลล์ผิวชั้นบน ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอและจุดด่างดำ ผิวดำแดดจางลง สามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบเซรั่มและเป็นส่วนผสมในมอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งค่อนข้างมีความอ่อนโยน สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น
9.ใช้กลุ่มเรตินอยด์
เรตินอยด์เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ ช่วยในการดูแลผิวเพื่อลดเลือนริ้วรอยจุดด่างดำ และผิวดำแดด โดยจะช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สำหรับผู้มีปัญหาผิวดำแดดแต่ยังไม่เคยใช้มาก่อน ควรเริ่มจากเรตินอลที่มีความเข้มข้นต่ำ และใช้เฉพาะเวลากลางคืน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วค่อย ๆ เพิ่มความถี่เมื่อผิวปรับสภาพได้ เรตินอยด์อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นการทาครีมกันแดดในตอนเช้าร่วมกันจึงเป็นสิ่งจำเป็น

(รีวิว) ผิวดำแดด คืออะไร 15 แนวทางการฟื้นฟูและดูแลผิวแบบเบื้องต้น
ผลลัพธ์หลังรับบริการ โปรแกรมรักษาผิวดำแดด ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
10.มาสก์หน้าเพื่อปลอบประโลมและฟื้นบำรุง
การมาสก์หน้าเป็นครั้งคราวเป็นวิธีที่ดีในการเติมความชุ่มชื้น ลดผิวดำแดด และเติมสารบำรุงให้กับผิว โดยสามารถเลือกใช้ชีทมาสก์หรือมาสก์แบบล้างออกที่มีส่วนผสมช่วยปลอบประโลมผิว เช่น ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) ใบบัวบก (Centella Asiatica) หรือส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส เช่น วิตามินซี ไนอะซินาไมด์ ควรใช้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ทั้งนี้สามารถเลือกสูตรในการแก้ปัญหาผิวดำแดด เติมความชุ่มชื้น หรือปรับผิวให้ดูกระจ่างใสได้ ตามความต้องการ
11.ทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ปัญหาผิวส่วนใหญ่ไม่ว่าจะผิวดำแดดหรืออื่น ๆ มักมีส่วนเกี่ยวข้องอนุมูลอิสระ ดังนั้นอาหารที่เราทานจึงมักมีผลโดยตรงต่อสุขภาพผิว โดยสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารช่วยต่อสู้กับความเสียหายหรือผิวดำแดดจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดด เน้นการทานผักและผลไม้หลากสี เช่น มะเขือเทศ (มีไลโคปีน) ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว ฟักทอง แครอท (มีเบต้าแคโรทีน) รวมถึงไขมันดีจากปลาทะเล อะโวคาโด และถั่วต่าง ๆ
12.โปรแกรมฟิลเลอร์
แม้โปรแกรมฟิลเลอร์จะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาผิวดำแดดโดยลดเม็ดสีเมลานินโดยตรง แต่สามารถช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวที่เสื่อมโทรมจากแสงแดดหรือผิวดำแดดได้ โดยเฉพาะโปรแกรมฟิลเลอร์ในกลุ่มกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี ดังนั้นการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวจากภายใน แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ และริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากการทำร้ายของแสงแดด ทำให้ผิวดำแดดกลับมาดูอิ่มฟู เรียบเนียน และสุขภาพดียิ่งขึ้น
13.โปรแกรมเลเซอร์
เป็นหนึ่งในวิธีที่ค่อนข้างได้ผลดีกับการจัดการกับปัญหาผิวดำแดด หรือเม็ดสีที่เกิดจากแสงแดด โดยโปรแกรมเลเซอร์จะใช้พลังงานแสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ ยิงเข้าไปทำลายเม็ดสีเมลานินที่สะสมตัวผิดปกติให้แตกละเอียด จากนั้นร่างกายจะกำจัดเม็ดสีที่แตกตัวเหล่านี้ออกไปตามกระบวนการธรรมชาติ ทำให้จุดด่างดำ กระ ผิวดำแดด และรอยคล้ำจากแดดจางลง โดยโปรแกรมเลเซอร์ที่นิยมใช้ก็จะมีหลาหหลาย เช่น โปรแกรม Picosecond Laser อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อเลือกชนิดและตั้งค่าพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวดำแดดของแต่ละคน
14.โปรแกรมดริปวิตามิน
โปรแกรมดริปวิตามิน หรือโปรแกรม IV Drip เป็นการให้สารอาหารและวิตามินเข้มข้นเข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านทางหลอดเลือด ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระไปใช้ได้ โดยสูตรที่นิยมใช้เพื่อฟื้นฟูผิวดำแดด ผิวคล้ำ ดูไม่กระจ่างใส มักประกอบด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ซึ่งจะเข้าไปช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิว และเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิวจากภายใน ส่งผลให้ผิวโดยรวมดูกระจ่างใสและฟื้นฟูผิวดำแดดได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ควรทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและอยู่ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์
15.หัตถการอื่น ๆ
แม้ว่าหัตถการกลุ่มจะนี้ไม่ได้ลดเม็ดสีโดยตรง แต่เน้นฟื้นฟูผิวดำแดดและโครงสร้างผิวที่เสื่อมจากแสงแดด โดยใช้เทคโนโลยีพลังงาน เช่น โปรแกรม Thermage (คลื่นวิทยุ) และ โปรแกรม Ulthera / Hifu (อัลตราซาวนด์) ส่งพลังงานลงสู่ชั้นผิวลึกเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ช่วยให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมาแน่นกระชับ เรียบเนียน และสุขภาพดีขึ้นจากภายใน

(รีวิว) ผิวดำแดด คืออะไร 15 แนวทางการฟื้นฟูและดูแลผิวแบบเบื้องต้น
ผลลัพธ์หลังรับบริการ โปรแกรมรักษาผิวดำแดด ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ผิวดำแดดกินอะไรดี
การฟื้นฟูสภาพผิวที่ได้รับผลกระทบจากรังสียูวี นอกเหนือจากการดูแลภายนอกแล้ว การบำรุงจากภายในถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวโดยตรง สารอาหารบางชนิดมีบทบาทในการช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายและลดการอักเสบ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการดูแลปัญหาผิวดำแดด การเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสมจึงเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูผิวดำแดด
• มะเขือเทศ อุดมด้วยสารไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติในการปกป้องเซลล์ผิวจากรังสียูวีและลดการอักเสบ การทานเป็นประจำจึงเป็นวิธีดูแลผิวดำแดดจากภายใน โดยเฉพาะมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารไลโคปีนได้ดียิ่งขึ้น
• ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นแหล่งวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่มาพร้อมกับแสงแดด โดยวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้รอยหมองคล้ำของผิวดำแดดแลดูจางลง ดูเป็นธรรมชาติ
• ฝรั่ง แหล่งวิตามินซีเข้มข้นที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมผิวคล้ำเสีย การทานฝรั่งเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น ทั้งยังช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวดำแดด
• ปลาที่มีไขมันดี อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการลดการอักเสบของเซลล์ผิว ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเมื่อมีปัญหาผิวดำแดด นอกจากนี้ยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้กลับมาแข็งแรง
• แครอทและฟักทอง มีเบต้าแคโรทีนค่อนข้างสูง ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย การฟื้นฟูผิวดำแดดจึงต้องการสารอาหารชนิดนี้เพื่อช่วยในการเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวให้เป็นไปอย่างปกติ
• แตงโม ช่วยเติมน้ำให้ร่างกายและผิวอย่างดีเยี่ยม เพราะผิวดำแดดส่วนใหญ่มักมีภาวะขาดน้ำร่วมด้วย นอกจากความชุ่มชื้นแล้ว แตงโมยังมีสารไลโคปีนที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีได้เช่นเดียวกับมะเขือเทศ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
• ผักใบเขียวเข้ม เป็นแหล่งรวมของสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด เช่น ลูทีนและซีแซนทีน เปรียบเสมือนเกราะป้องกันจากภายในที่ช่วยให้เซลล์ผิวทนทานต่อแสงแดดได้ดีขึ้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวดำแดด
• ชาเขียว สารคาเทชินในชาเขียวเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ผิวในระดับ DNA และยังช่วยบรรเทาอาการแดงอักเสบซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นที่นำไปสู่ปัญหาผิวดำแดดในระยะยาว
• ถั่วและเมล็ดพืช วิตามินอีในถั่วและเมล็ดพืชเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผิวดำแดด เพราะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์จากการถูกทำลายโดยตรง พร้อมทั้งช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้าน
• ดาร์กช็อกโกแลต สารฟลาโวนอลในดาร์กช็อกโกแลต ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิตมายังผิวหนัง ทำให้การส่งสารอาหารไปซ่อมแซมเซลล์ผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อการฟื้นฟูผิวดำแดดให้กลับมาดูสดใส

(รีวิว) ผิวดำแดด คืออะไร 15 แนวทางการฟื้นฟูและดูแลผิวแบบเบื้องต้น
ผลลัพธ์หลังรับบริการ โปรแกรมรักษาผิวดำแดด ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ข้อห้ามต้องรู้ เมื่อมีปัญหาผิวดำแดด
เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาผิวดำแดด หลายคนมักมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟู ทว่าพฤติกรรมการดูแลผิวบางอย่างที่เข้าใจผิดอาจกลับกลายเป็นการซ้ำเติมให้สภาพผิวแย่ลง เนื่องจากในภาวะที่เกิดผิวดำแดด เกราะป้องกันผิวจะอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอและบอบบางเป็นพิเศษ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงข้อห้ามบางประการจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น
• ห้ามออกแดดเพิ่มโดยไม่ป้องกัน เพราะเกราะป้องกันของผิวดำแดดนั้นอ่อนแอมากอยู่แล้ว การเจอแดดซ้ำโดยไม่ทาครีมกันแดดจะยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงมากขึ้น
• ห้ามขัด สครับ หรือลอกผิวอย่างรุนแรง เพราะผิวในช่วงนี้บอบบางมาก การใช้สครับที่มีเม็ดบีดส์หยาบ หรืออุปกรณ์ขัดผิว จะเป็นการทำร้ายผิวดำแดดที่กำลังพยายามซ่อมแซมตัวเอง
• ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่รุนแรงทันที ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด AHA BHA วิตามินเอในความเข้มข้นสูงไปก่อน เพราะอาจทำให้สภาพผิวดำแดดเกิดการระคายเคือง
• ห้ามอาบน้ำร้อนจัด ความร้อนจากน้ำจะยิ่งชะล้างไขมันดีที่เคลือบผิวออกไป ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวดำแดดแห้งกร้านและคันได้ง่ายยิ่งขึ้น ควรเปลี่ยนมาอาบน้ำอุณหภูมิปกติเพื่อปลอบประโลมผิว
• ห้ามแกะหรือดึงผิวดำแดดที่กำลังลอก หากมีอาการผิวลอกจากการโดนแดดเผา การดึงหรือแกะหนังที่ลอกออกจะทำให้ผิวชั้นในที่ยังไม่แข็งแรงพอถูกเปิดออก เสี่ยงต่อการติดเชื้อและอาจทิ้งรอยดำที่ซ้ำเติมปัญหาผิวดำแดดให้หายช้ากว่าเดิม
• ห้ามรีบใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งหรือทำโปรแกรมเลเซอร์ทันที สภาพของผิวดำแดดยังมีการอักเสบซ่อนอยู่ การรีบทำหัตถการหรือใช้สารบางชนิดอาจไปกระตุ้นให้ผิวอักเสบมากขึ้น และเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำหลังการอักเสบ (PIH)
• ห้ามปล่อยให้ผิวและร่างกายขาดน้ำ ผิวที่โดนแดดจะสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว การดื่มน้ำไม่เพียงพอและการไม่ทามอยส์เจอไรเซอร์จะทำให้กระบวนการซ่อมแซมผิวดำแดดช้าลง ควรดื่มน้ำให้เยอะขึ้นและทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นสม่ำเสมอ
• ห้ามใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือเนื้อผ้าหยาบ การเสียดสีจากเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไปจะยิ่งรบกวนผิวดำแดดที่กำลังอ่อนแอและอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเพิ่มขึ้น ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบายและทำจากเนื้อผ้าที่นุ่ม
• ห้ามละเลยการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน การใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่ทำให้ผิวแห้งตึงจะยิ่งทำลายเกราะป้องกันของผิวดำแดด ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและช่วยคงความชุ่มชื้นไว้ที่ผิว
ผิวดำแดดใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะหาย
คำถามที่ว่าผิวดำแดดใช้เวลานานไหมกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติเป็นข้อสงสัยที่พบได้บ่อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ระยะเวลาในการฟื้นฟูสภาพผิวจากปัญหาผิวดำแดดนั้นไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น
• วิธีและหัตถการที่เลือกใช้ การเลือกใช้วิธีการดูแลที่แตกต่างกันส่งผลโดยตรงต่อระยะเวลาที่ผิวดำแดดจะจางลง การใช้หัตถการทางการแพทย์อาจช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูผิวดำแดดให้เร็วขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั่วไปที่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอและระยะเวลาที่นานกว่า
• ความรุนแรงของปัญหา ระดับความเข้มของสีผิวและระยะเวลาที่ผิวสัมผัสแสงแดด ที่บ่งบอกความรุนแรงของปัญหาผิวดำแดด ผิวที่คล้ำเสียสะสมมาเป็นเวลานานย่อมต้องใช้กระบวนการฟื้นฟูที่ยาวนานกว่าผิวดำแดดที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่
• สภาพผิวเดิมและความสามารถในการฟื้นฟูของแต่ละบุคคล พื้นฐานสภาพผิวและศักยภาพในการซ่อมแซมตัวเองของแต่ละบุคคลมีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นตัวจากภาวะผิวดำแดด โดยทั่วไปแล้วผู้ที่มีอายุน้อยและมีสุขภาพแข็งแรงจะมีวงจรการผลัดเซลล์ผิวที่เร็วกว่า ทำให้ผิวดำแดดจางลงได้ไวกว่าผู้สูงวัยหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
• ความสม่ำเสมอในการดูแล การดูแลผิวอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูสภาพผิวดำแดดให้กลับมามีสุขภาพดี การทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นและครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยส่งเสริมให้กระบวนการซ่อมแซมผิวจากปัญหาผิวดำแดด ในทางกลับกันการดูแลที่ไม่ต่อเนื่องอาจทำให้ระยะเวลาในการฟื้นฟูยาวนานขึ้นกว่าที่ควร
เช็กความเชื่อผิด ๆ ที่อาจทำให้ผิวดำแดดรุนแรงขึ้น
การดูแลผิวเมื่อเกิดปัญหาผิวดำแดดจำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามหลายคนอาจมีวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวดำแดดให้ดีขึ้น แต่ยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและมีอาการรุนแรงกว่าเดิมได้ เช่น
การขัดผิวแรง ๆ ช่วยแก้ผิวดำแดดได้
ความเชื่อที่ว่าการขัดผิวอย่างรุนแรงจะช่วยเร่งการผลัดเซลล์และทำให้ผิวดำแดดจางลงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากผิวที่กำลังเผชิญกับภาวะผิวดำแดดนั้นมีความบอบบางและอ่อนแออยู่แล้ว การขัดถูรุนแรงจึงเป็นการทำร้ายเกราะป้องกันผิวและอาจนำไปสู่การอักเสบที่มากขึ้น
แก้ผิวดำแดดด้วยมะนาวหรือผลไม้รสเปรี้ยว
การนำผลไม้ที่มีกรดสูงมาใช้กับผิวโดยตรงเพื่อหวังผลในการลดเลือนรอยผิวดำแดดเป็นวิธีที่อาจไม่ปลอดภัย กรดในผลไม้อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมปัญหาผิวดำแดด อีกทั้งยังอาจส่งผลให้เกิดรอยดำหลังการอักเสบที่รักษายากกว่าเดิม
ไม่ต้องทาครีมกันแดดใเมื่ออยู่ในอาคาร
หลายคนเข้าใจว่าการอยู่ในอาคารสามารถป้องกันปัญหาผิวดำแดดได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด ทว่ารังสี UVA ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผิวดำแดด สามารถทะลุผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาทำร้ายผิวได้ ดังนั้นการละเลยการทาครีมกันแดดแม้จะอยู่ในที่ร่มก็ยังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดผิวคล้ำเสียสะสมได้
ผิวดำแดดสามารถกลับมามีสีผิวเดิมได้ 100% หรือไม่
โดยทั่วไปแล้วปัญหาผิวดำแดดมีโอกาสกลับคืนสู่สีผิวเดิมได้ ผ่านกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ หรือใช้หัตถการเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งจะทำให้เม็ดสีส่วนเกินค่อย ๆ ลดลง อย่างไรก็ตามการจะกลับมามีสีผิวเหมือนเดิมได้ 100% หรือไม่นั้น อาจไม่สามารถการันตีได้ เพราะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาผิวดำแดดและการตอบสนองของแต่ละบุคคล ดังนั้นการดูแลและป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ใกล้เคียงกับสภาพเดิมมากที่สุด
ควรเริ่มทำหัตถการแก้ผิวดำแดดเมื่อไหร่หลังโดนแดด
ควรหลีกเลี่ยงการทำโปรแกรมเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ ทันทีหลังจากที่ผิวสัมผัสแสงแดดรุนแรง เนื่องจากผิวในสภาวะผิวดำแดดมักมีการอักเสบแฝงอยู่ ซึ่งการรีบทำหัตถการอาจกระตุ้นให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น โดยทั่วไปควรรอให้สภาพผิวแข็งแรงและอาการระคายเคืองเบื้องต้นสงบลงอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความพร้อมของผิวก่อนตัดสินใจทำหัตถการใดๆ กับปัญหาผิวดำแดดเสมอ
สรุปผิวดำแดดแก้ด้วยที่ไหนดี
ปัญหาผิวดำแดดเป็นผลจากการป้องกันตนเองจากรังสียูวี การฟื้นฟูสภาพผิวจึงจำเป็นต้องอาศัยแนวทางที่ครอบคลุม ตั้งแต่การป้องกันด้วยครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ การบำรุงด้วยส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์และลดเลือนจุดด่างดำ ควบคู่ไปกับการดูแลจากภายในด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และการพิจารณาหัตถการทางการแพทย์ เช่น โปรแกรมเลเซอร์ ทั้งนี้จำเป็นต้องได้รับคำปรึกษาในการแก้ผิวดำแดดจากแพทย์หรือผู้ให้บริการ รวมถึงต้องดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอร่วมกันด้วย
สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับหัตถการแก้ผิวดำแดด หรือสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ
สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ ผิวดำแดด คืออะไร 15 แนวทางการฟื้นฟูดูแลผิวแบบเบื้องต้น,ผิวดำแดด หรือสอบถามรายละเอียด โปรโมชั่นพิเศษ หรือ หัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต
ผิวดำแดดแก้ยังไง รวม 15 วิธีฟื้นฟูผิวคล้ำเสียจากแดดให้กลับมาดูกระจ่างใสสุขภาพดี ครบจบทั้งการบำรุงผิว การกิน และหัตถการทางการแพทย์ที่เห็นผล 15 วิธีแก้ผิวดำแดด ฟื้นฟูผิวคล้ำให้กลับมากระจ่างใส