สลายไขมันหน้าท้อง กับ 5 ท่า ลดพุงได้ใน 4 สัปดาห์

เชื่อว่าการมีพุงย้วย ๆ นั้นคงไม่ใช่สิ่งที่ใครหลายคนอยากจะมี แต่เมื่อเราละเลยเรื่องการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม หรือการออกกำลังกาย ก็ย่อมเป็นโอกาสอันดีให้เจ้าไขมันส่วนเกินนั้นมาสะสมยังบริเวณส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะหน้าท้องได้ แต่ก็ใช่ว่าเมื่อมีพุงแล้วจะไม่สามารถกำจัดออกไปได้ เพราะถ้าหากคุณรู้ตัวเร็วแล้วกลับมาดูแลรูปร่างของตัวเองให้มากขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะกลับมารูปร่างดีได้ และถ้าหากวันนี้คุณอยาก สลายไขมันหน้าท้อง ด้วยการเริ่มต้นออกกำลังกายอีกครั้ง เราก็มี 5 ท่าออกกำลังกายที่สามารถช่วยสลายไขมันหน้าท้องได้ใน 4 สัปดาห์มาฝากกันค่ะ 

ท่า Plank

เริ่มต้นกันที่ท่าออกกำลังกายง่าย ๆ อย่างท่า Plank ซึ่งเป็นท่าออกกำลังกายที่สามารถช่วยบริหารกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้น ท่านี้ยังช่วยให้ร่างกายสลายไขมันบริเวณหน้าท้องได้อีกด้วย เรียกได้ว่าทำคราวเดียวได้ทั้งลดพุง และเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายเลยล่ะค่ะ

วิธีทำ

1. นอนคว่ำลงกับพื้นให้อยู่ในท่าวิดพื้น โดยทรงตัวบนข้อศอกและปลายนิ้วเท้า
2. ทรงตัวโดยให้กระดูกสันและคออยู่ในระนาบเดียวกัน
3. ค้างท่าไว้ 30 วินาที หายใจเข้าออกตามปกติ
4. พัก 10 – 15 นาที
5. ทำซ้ำ 3 ครั้ง
   

ท่า Low Belly Leg Reach

 

ท่าออกกำลังกายนี้ เป็นท่าที่ต้องมีการเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง ดังนั้นจึงสามารถช่วยลดพุง และสลายไขมันหน้าท้องได้ โดยเฉพาะพุงส่วนล่างที่เรียกได้ว่าลดยากสุด ๆ ก็ลดได้อย่างแน่นอนค่ะ

วิธีทำ

1. นอนราบกับพื้น งอเข่าทำมุมกับพื้น 90 องศา ให้เข่าอยู่สูงกว่าสะโพก ก้นติดพื้น ประสานมือไว้ที่ท้ายทอย
2. หายใจเข้าพร้อมกับยกไหล่ค้างไว้ค้างไว้ 5 วินาที
3. หายใจออกพร้อมกับยืดขาออกไป 45 องศา ค้างไว้ 5 วินาที และเกร็งหน้าท้องช่วงล่าง
4. พัก 10 วินาทีแล้วเริ่มใหม่
5. ทำซ้ำ 10 – 15 ครั้ง

ท่า Crunches

อีกหนึ่งท่าออกกำลังกายที่สามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินได้ เพราะเป็นท่าที่เน้นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อส่วนท้อง จึงต้องมีการเกร็งหน้าท้อง และทำให้เกิดการนำไขมันส่วนเกินไปเผาผลาญมากขึ้น ส่งผลต่อไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องก็จะลดลงด้วยค่ะ

วิธีทำ

1. นอนราบลงกับพื้น วางเท้ากับพื้น ตั้งเข่าขึ้น หรือยกขาขึ้นขนานกับพื้น
2. ประสานมือไว้ที่ท้ายทอย
3. หายใจเข้า และหายใจออกก่อนจะยกไหล่ขึ้นจากพื้น
4. หายใจเข้ากลับสู่ท่าเดิม และทำซ้ำ
5. ทำซ้ำ 10 – 15 ครั้ง ทั้งหมด 2 – 3 เซ็ต

ท่า Russian Twist

ท่านี้ เป็นอีกหนึ่งท่าออกกำลังกายที่เน้นการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านข้าง และกล้ามเนื้อท้องส่วนล่าง ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเผาผลาญไขมันที่บริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาพุงล่างมาก ๆ และอยากสลายไขมันให้สิ้นซากค่ะ

วิธีทำ

1. นั่งชันเข่าให้เท้าทั้ง 2 ข้างชิดกัน และยกเท้าขึ้นจากพื้นพอประมาณ
2. ยืดแขนทั้ง 2 ข้างตรงไปข้างหน้า ประสานมือกันที่บริเวณเหนือเข่าเล็กน้อย หรือถ้าต้องการเพิ่มความยากมากขึ้นก็สามารถถือดัมเบลไว้ในมือได้
3. บิดเอวไปทางซ้าย พร้อม ๆ กับมือทั้ง 2 ข้าง โดยให้มือทั้ง 2 ข้างยังประสานกัน และขาทั้ง 2 ข้างยังอยู่ในลักษณะเดิม จากนั้นบิดเอวกลับมาทางขวาจนสุด
4. ทำสลับกัน 10 ครั้ง ทั้งหมด 2 – 3 เซต

ท่า Flutter Kicks

ปิดท้ายกันที่ท่าออกกำลังกายอย่างท่า Flutter Kicks ซึ่งเป็นท่าที่สามารถช่วยช่วยบริหารกล้ามเนื้อท้องส่วนหน้าได้เป็นอย่างดี ผลที่ได้ก็คือไขมันบริเวณหน้าท้องจะลดลง ปัญหาพุงย้วย ๆ ก็จะค่อย ๆ หายไป นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับต้นขา สะโพก และก้น ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าทำแล้วฟิตขึ้นทั้งตัวค่ะ

วิธีทำ

1. นอนราบกับพื้น วางมือทั้งสองข้างที่พื้นข้างตัว ยืดขาตรง
2. ยกขาขึ้นจากพื้นพอประมาณ เกรงหน้าท้อง และออกแรงเตะขาขึ้นลงสลับกัน
3. ทำซ้ำ 10 – 15 ครั้ง ทั้งหมด 2 – 3 เซต

และนี่คือท่าออกกำลังกายสำหรับคนที่ต้องการสลายไขมันหน้าท้องด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า การออกกำลังกายลดพุงนั้น จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่องกันระยะเวลาหนึ่งถึงจะเริ่มเห็นผล และต้องทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารอีกด้วย เพราะถ้าหากออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ไม่ควบคุมอาหาร การลดพุงก็จะไม่ได้ผลนัก หรือถ้าควบคุมอาหารมากเกินไป แล้วไม่ออกกำลังกาย ก็อาจทำไขมันบริเวณหน้าท้องลดลงได้ช้า ดังนั้นสำหรับคนที่ต้องการลดพุงอย่างเร่งด่วนก็อาจต้องใช้วิธีอื่น ๆ เช่น การทำทรีตเม้นต์ร่วมด้วย ซึ่งในปัจจุบันได้มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการลดสัดส่วน และสลายไขมัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีคลื่นพลังงานความร้อน พลังงานคลื่นแม่เหล็ก และอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในวงกว้าง เนื่องด้วยผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยที่มีมากกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น ๆ นั่นก็คือการสลายไขมันหน้าท้องด้วยความเย็น CoolSculpting นั่นเองค่ะ

CoolSculpting หรือเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นเทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็นที่เกิดขึ้นจากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จาก Harvard Medical School และ Massachusetts General Hospital ที่ทำให้พบว่าในความเป็นจริงแล้วความเย็นสามารถกำจัดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในการศึกษานั้น Dr. Rox Anderson และ Dr. Dieter Manstein นายแพทย์จาก Wellman Center of Photomedicine ผู้มีที่มีความคุ้นเคยกับการนำ พลังงานแสงมาใช้ในทางการแพทย์ และภาวะ Popsicle panniculitis ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่เกิดกับไขมันใต้ชั้นผิวหนัง และทำให้เซลล์ไขมันถูกกำจัดไปด้วยความเย็น ซึ่งการศึกษานี้ทำให้พบว่าเด็กที่รับประทานไอศครีมแท่งและมีการอมไอศรีมไว้ที่แก้มเป็นเวลานาน จะทำให้แก้มของเด็กหายไป และเมื่อนำมาศึกษาร่วมกับรายงานชิ้นอื่น ๆ ก็ทำให้พบอีกว่าเซลล์ไขมันเซลล์ไขมันมีความอ่อนไหวกว่าเซลล์ชนิดอื่น ๆ ภายในร่างกาย ซึ่งเมื่อได้รับความเย็นอุณหภูมิติดลบ ก็จะทำให้เซลล์ไขมันในบริเวณที่ได้รับความเย็นเข้าสู่ภาวะ Apoptosis ซึ่งเป็นภาวะเซลล์ไขมันจะตายลงเอง โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์อื่น ๆ ในร่างกาย

 

ซึ่งการค้นพบนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์ และได้มีการนำเอางานวิจัยต่อยอด และพัฒนาจนกลายเป็นเทคนิคการกำจัดไขมันแบบ Cyrolipolysis หรือการกำจัดไขมันด้วยความเย็น ต่อมาจึงได้มีการนำเทคนิคการกำจัดไขมันแบบนี้มาผลิตเป็นเครื่อง CoolSculpting อย่างที่เห็นในปัจจุบันนั่นเองค่ะ 

 

ทั้งนี้กระบวนการสลายไขมันด้วยความเย็นของ CoolSculpting ในปัจจุบัน เมื่อทำการวางเครื่องยังบริเวณที่ต้องการทำแล้ว Applicator จะส่งความเย็นในอุณหภูมิ -11 ถึง -13 องศาเซลเซียสลงไปที่ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง โดยใช้เวลา 35- 75 นาที ขึ้นกับบริเวณที่ทำ และ Applicator โดยความเย็นในระดับนี้จะทำให้เซลล์ไขมันที่อยู่บริเวณดังกล่าวเข้าสู่ภาวะ Apoptosis จากนั้นเซลล์ไขมันจะตายลง แต่จะไม่ส่งผลอันตรายต่อเซลล์อื่น ๆ โดยรอบ คงเหลือแต่ซากของเซลล์ไขมันที่ตายลง จากนั้นระบบกลไกของร่างกายจะกำจัดซากของเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกมาตามธรรมชาติ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 – 3 เดือน ซากเซลล์ไขมันก็จะถูกกำจัดออกจนหมด และสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้อย่างชัดเจน

นอกเหนือจากขั้นตอนการสลายไขมันที่น่าสนใจแล้ว CoolSculpting ยังเป็นเทคโนโลยีในการสลายไขมันส่วนเกินเพียงอย่างเดียวที่ช่วยให้คุณสามารถมีรูปร่างที่ดีได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่มีแผล อีกทั้งยังไม่ต้องพักฟื้น หรือใส่ชุดยกกระชับเพื่อรักษารูปร่างอีกด้วย โดยหลังทำผู้เข้ารับบริการสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที และสามารถกลับมาทำซ้ำได้จนกว่าจะได้รูปร่างอย่างที่ต้องการ นับเป็นวิธีที่สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงรูปร่างที่ง่ายและสะดวกกว่าวิธีอื่น ๆ ที่เคยผ่านมา

ทั้งนี้ด้วยความนิยมเรื่องการสลายไขมันด้วยความเย็นที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน จึงทำให้เรื่องมีการนำเอาเทคโนโลยี CoolSculpting ไปเลียนแบบจนมีความคล้ายคลึงกับ CoolSculpting และให้บริการในราคาที่ถูกลงกว่ามาก แต่ก็ต้องขอบอกเลยว่า แม้จะเทคโนโลยีจะคล้ายกัน แต่ความปลอดภัย นั่นกลับเทียบกับของแท้ไม่ได้เลย เนื่องจากเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็นที่เลียนแบบนั้น ยังเป็นการเลียนแบบเทคโนโลยีเก่าของ CoolSculpting ทำให้เครื่องเลียนแบบส่วนใหญ่ยังไม่มีการพัฒนาเรื่องระบบความปลอดภัยของเครื่อง ผลที่ตามมาก็คือจะทำให้การสลายไขมันด้วยความเย็นกับเครื่องเลียนแบบ เสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้มากขึ้น ดังนั้นถ้าหากคิดจะสลายไขมันด้วยความเย็นแล้วก็ควรเลือกทำกับเครื่อง CoolSculpting เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสี่ยงกับผลข้างเคียง หรือผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจที่อาจได้รับค่ะ

และถ้าหากคุณกำลังมองหาเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ที่เป็นของแท้ และมีผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ที่พร้อมให้บริเวณการแล้วล่ะก็ ที่ APEX เราเป็นผู้นำด้านการกำจัดไขมันด้วยความเย็น ด้วยจำนวนเครื่องที่มีพร้อมดูแลในทุก ๆ สาขา และจำนวนเคสที่มากเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย อีกทั้งยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและฝึกฝนโดยเทรนเนอร์มืออาชีพ จึงทำผู้เข้ารับบริการสามารถมั่นใจได้ว่าต่อให้มีพุงแบบไหนแค่ไหน คุณก็สามารถสลายไข้มันหน้าท้องได้ โดยไม่ต้องเจ็บตัว หรือเสี่ยงกับปัญหาสุขภาพอีกต่อไปด้วย CoolSculpting ที่ APEX ค่ะ

ปรึกษา และสอบถามเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
FB inbox : click http://m.me/apexprofoundbeauty
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Apex Profound Beauty

• Bangkok : 066-3310-8000
• Korat : 0888-7000-43
• Phuket : 088-000-2100
• Pattaya: 087-096-1234