โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ฉีดบริเวณตรงไหนได้บ้าง

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร แก้ปัญหาอะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ตัวช่วยแก้ปัญหายอดฮิตสำหรับคนเริ่มฉีดหน้า
หากพูดถึงการเริ่มต้นดูแลใบหน้าให้ดูเรียบเนียน กระชับ และลดเลือนริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัด ‘โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์’ ถือเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนในเวลาที่ค่อนข้างเร็ว เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น โดยเฉพาะในปัจจุบัน มีโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หลากหลายแบบให้เลือกตามจุดที่ต้องการแก้ไขปัญหา เช่น ฉีดลดริ้วรอยหน้าผาก ลดกราม ยกมุมปาก หรือแม้กระทั่งลดเหงื่อ อีกทั้งโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มดูแลตัวเองและต้องการผลลัพธ์แบบดูเป็นธรรมชาติ สามารถปรับแต่งตามความต้องการของแต่ละบุคคลได้ บทความนี้เราจะพาไปดูว่า โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์คืออะไร สามารถแก้ปัญหาเรื่องใดได้บ้าง รวมถึงบริเวณต่าง ๆ ที่สามารถทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปตัดสินใจในการทำหัตถการ

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ คือหัตถการด้านความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยการใช้สาร Botulinum Toxin ฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อในจุดที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยหรือยกกระชับปรับรูปหน้า ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และลดการขยับของใบหน้าที่ก่อให้เกิดริ้วรอย โดยที่โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับทั้งผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยหน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา หรือผู้ที่ต้องการทำให้ใบหน้าเรียวเล็กลง เช่น การฉีดลดกราม นอกจากนี้ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ยังสามารถใช้ในด้านอื่น ๆ ได้ เช่น ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว และลดน่อง โดยทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อให้ได้รับการดูแลให้ปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์แต่ละแบบจะมีการปรับปริมาณและตำแหน่งการฉีดให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล

กลไกการทำงานของโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ทำงานโดยใช้สาร Botulinum Toxin A ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทที่ชื่อว่า ‘อะเซทิลโคลีน (Acetylcholine)’ ซึ่งมีหน้าที่ส่งสัญญาณจากปลายประสาทไปยังกล้ามเนื้อ เมื่อมีการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในตำแหน่งกล้ามเนื้อเป้าหมาย สารนี้จะไปยับยั้งการส่งสัญญาณ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้น ‘คลายตัว’ หรือ ‘หยุดทำงานชั่วคราว’

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ สามารถแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
ปัจจุบันโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์กลายเป็นตัวช่วยยอดนิยมในการลดเลือนริ้วรอยอย่างดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องความสวยความงามแล้ว ยังสามารถใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาปัญหาอื่น ๆ ได้อีกด้วย โดยโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดังนี้

• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว และหางตา
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อกราม
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ยกกระชับมุมปาก แก้ปัญหามุมปากตกหรือใบหน้าไม่สดใส
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดขนาดน่องและต้นแขน สำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ช่วยในการลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า สำหรับคนที่มีภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ช่วยในการลดอาการปวดไมเกรน โดยเฉพาะผู้ที่ปวดเรื้อรังและตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไปได้น้อย
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อาจสามารถแก้อาการตากระตุก หรือกล้ามเนื้อใบหน้ากระตุก ที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทในบางกรณี

ข้อดี-ข้อจำกัดของโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์
แม้ว่าโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในด้านความงามและการแพทย์ แต่ก็เหมือนกับทุกหัตถการที่มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจทำ เพื่อให้สามารถวางแผนการดูแลและคาดหวังผลลัพธ์ได้อย่างเหมาะสม

ข้อดีของโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ไม่ต้องผ่าตัด เป็นหัตถการที่ไม่ต้องลงมีด ไม่มีแผล ไม่มีรอยเย็บ
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เห็นผลค่อนข้างรวดเร็ว ส่วนใหญ่เริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วันหลังฉีด
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังทำ
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดเลือนริ้วรอยและยกกระชับปรับรูปหน้าได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์สามารถทำซ้ำได้ หากผลลัพธ์หมดลง สามารถกลับมาฉีดใหม่ได้โดยไม่มีผลสะสม แต่ไม่ควรเปลี่ยนยี่ห้อบ่อย
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ใช้ได้หลากหลายจุด ทั้งใบหน้า ลำคอ รักแร้ น่อง และบริเวณอื่น ๆ
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นดูแลตัวเอง ขั้นตอนง่าย ไม่เจ็บมาก ราคายืดหยุ่นตามขนาดพื้นที่ที่ฉีด

ข้อจำกัดของโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ผลลัพธ์ไม่ถาวร โดยที่โปรแกรมโบท็อกซ์จะสลายไปเองตามธรรมชาติ
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น เพื่อป้องกันผลข้างเคียง เช่น หน้าตึงเกินไปหรือกล้ามเนื้อผิดจุด
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือแพ้ Botulinum Toxin
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อาจเกิดอาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ในช่วง 1-3 วันแรก
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หากฉีดมากเกินไป อาจทำให้ใบหน้าแข็งตึง ไม่เป็นธรรมชาติ
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ไม่สามารถยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS ได้เท่าการผ่าตัดหรือเทคโนโลยีบางชนิด

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ เหมาะกับใคร
การเลือกดูแลตัวเองด้วยโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ไม่จำเป็นต้องรอให้มีริ้วรอยชัดเจนก่อนเสมอไป เพราะโบท็อกซ์สามารถใช้เพื่อป้องกันและชะลอการเกิดริ้วรอยได้ด้วยเช่นกัน โดยผู้ที่เหมาะกับการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ มีลักษณะดังนี้

• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำโปรแกรมโบท็อกซ์ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่จากการบดเคี้ยวหรือขบฟัน
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับผู้ที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อในบางจุด เช่น น่อง หรือต้นแขน ที่ดูแข็งหรือใหญ่
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกมุมปากหรือลดความบึ้งของใบหน้า เพื่อให้ดูอ่อนโยนและสดใสขึ้น
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ และอยากป้องกันไม่ให้ลึกมากขึ้น
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ค่อนข้างรวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล เป็นคำถามยอดฮิตที่หลายคนอยากรู้ก่อนตัดสินใจเริ่มต้นดูแลตัวเองด้วยการฉีดโบท็อกซ์ โดยทั่วไปแล้ว โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มออกฤทธิ์ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 3-7 วัน หลังฉีด ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้และตำแหน่งที่ฉีด เช่น หากเป็นจุดเล็ก ๆ อย่างริ้วรอยหน้าผากหรือหางตา มักจะเห็นผลเร็วภายในไม่กี่วัน ในขณะที่จุดที่มีกล้ามเนื้อหนา เช่น กรามหรือน่อง อาจใช้เวลานานถึง 2-4 สัปดาห์เพื่อเห็นผลเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จากโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จะค่อย ๆ ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่กล้ามเนื้อจะเริ่มกลับมาทำงานตามปกติอีกครั้ง ทั้งนี้ควรเลือกฉีด โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ การดูแลให้ปลอดภัยในการฉีด และเพิ่มความมั่นใจว่า จะเห็นผลตามต้องการ เพราะแม้ว่าโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จะไม่ต้องพักฟื้น แต่การใช้เทคนิคที่ดีจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวย ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานขึ้น

รวมโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ฉีดตรงไหนได้บ้าง
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การลดริ้วรอยบนใบหน้าเท่านั้น แต่สามารถใช้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม ทั้งเรื่องความงามและการแพทย์ โดยจุดที่สามารถฉีดได้มีหลากหลายตำแหน่ง แต่ละจุดจะมีวัตถุประสงค์และผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนี้

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ลดริ้วรอยหน้าผากเกิดจากการยกคิ้วหรือแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ ซึ่งทำให้เกิดรอยย่นแนวนอนจำนวนมาก โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ตรงหน้าผากจะเข้าไปลดการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ทำให้หน้าผากเรียบขึ้น รอยลึกดูตื้นลง โดยผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ทำให้คิ้วตกหรือสีหน้าผิดธรรมชาติ หากทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์โดยแพทย์

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา
บริเวณใต้ตาเป็นหนึ่งในจุดที่แสดงสัญญาณของความเหนื่อยล้าและอายุได้ชัดเจนมากที่สุด เนื่องจากผิวหนังบริเวณนี้บางและบอบบาง การแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม หรือขยี้ตา สามารถทำให้เกิดริ้วรอยบาง ๆ ได้เร็ว โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาจึงเข้ามาช่วยลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเล็ก ๆ ที่ก่อให้เกิดริ้วรอย พร้อมช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาดูเรียบเนียน สดใสขึ้น โดยยังคงความเป็นธรรมชาติของดวงตาไว้ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีเส้นริ้วรอยเล็ก ๆ หรืออยากป้องกันไม่ให้รอยเหล่านั้นลึกขึ้นในอนาคต

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา โบท็อกใต้ตา คืออะไร ราคาเท่าไหร่ กี่วันเห็นผลลดริ้วรอยบริเวณใต้ดวงตา

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตาสำหรับบางรายที่ถุงใต้ตาไม่ได้เกิดจากไขมันสะสม แต่เกิดจากกล้ามเนื้อที่ตึงหรือหดตัวผิดจังหวะ โบท็อกซ์สามารถช่วยลดความแข็งของกล้ามเนื้อและทำให้ถุงใต้ตาดูอ่อนลงได้ แม้จะไม่สามารถแทนที่การผ่าตัดถุงใต้ตาได้ในทุกราย แต่ก็เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องลงมีด และเหมาะสำหรับเคสที่มีปัญหาในระดับเบาถึงปานกลาง

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบท็อกซ์ถุงใต้ตา โบท็อกถุงใต้ตา คืออะไร ราคาเท่าไหร่ กี่ครั้งเห็นผล

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หางตา
ริ้วรอยบริเวณหางตา หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า ‘ตีนกา’ เป็นหนึ่งในสัญญาณแรก ๆ ของวัยที่เริ่มปรากฏขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่แสดงสีหน้าบ่อย ยิ้มเก่ง หรือมีผิวรอบดวงตาบางอยู่แล้ว รอยเหล่านี้มักเริ่มจากเส้นเล็ก ๆ และลึกขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า แม้จะพักผ่อนเพียงพอก็ตามโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยหางตา จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ orbicularis oculi ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อรอบดวงตาที่หดตัวเวลายิ้ม หรือขยับสีหน้า โดยการฉีดในตำแหน่งที่ถูกต้อง จะทำให้กล้ามเนื้อในจุดนี้คลายตัว รอยย่นที่เคยปรากฏจะจางลงหรือหายไป ส่งผลให้ผิวบริเวณหางตาดูเรียบเนียน ดวงตาดูเปิดกว้าง สดใส และอ่อนเยาว์มากขึ้น

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว
เมื่อคนขมวดคิ้วบ่อย ๆ กล้ามเนื้อบริเวณนี้จะหดตัวจนเกิดรอยย่นแนวตั้งระหว่างคิ้ว ทำให้ใบหน้าดูดุหรือเครียด โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้วจะช่วยคลายกล้ามเนื้อระหว่างคิ้ว ทำให้หน้าดูอ่อนโยนมากขึ้น ลดความตึงเครียดที่แสดงออกทางสีหน้า และเสริมภาพลักษณ์ให้ดูเป็นมิตรยิ่งขึ้น

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว
สำหรับคนที่รู้สึกว่าคิ้วตก หรือดวงตาดูเศร้า โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้วในจุดที่เหมาะสมสามารถช่วยยกคิ้วขึ้นได้ประมาณ 1-3 มม. โดยการคลายกล้ามเนื้อที่ดึงคิ้วลง และกระตุ้นให้กล้ามเนื้อยกคิ้วทำงานมากขึ้น เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องศัลยกรรมแต่ช่วยให้ตาดูสดใสและใบหน้าโดยรวมดูมีพลังมากขึ้น

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จมูก
แม้จมูกจะดูเป็นพื้นที่เล็ก ๆ แต่หลายคนมีปัญหา ‘bunny lines’ หรือรอยย่นที่ปรากฏเวลาหัวเราะหรือยิ้มแรง ๆ ตรงสันจมูก ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูแข็งหรือดูไม่เรียบ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จมูกช่วยให้กล้ามเนื้อเล็ก ๆ ตรงนั้นคลายตัว ส่งผลให้สันจมูกดูเนียนขึ้น ไม่มีรอยย่น และใบหน้าโดยรวมก็ดูอ่อนหวาน ผ่อนคลายมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อแสดงสีหน้า

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก
มุมปากที่ตกลงตามวัยหรือรูปหน้าอาจทำให้ใบหน้าดูเศร้าและดูเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากช่วยคลายกล้ามเนื้อ depressor anguli oris ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากให้ตกลง โดยเมื่อฉีดโบท็อกซ์ในตำแหน่งนี้ กล้ามเนื้อที่ดึงปากลงจะถูกยับยั้งการทำงาน ส่งผลให้มุมปากดูยกขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ สีหน้าดูสดใส อ่อนโยน และเสริมบุคลิกภาพให้ดูเป็นมิตรขึ้น เหมาะกับคนที่ยิ้มแล้วมุมปากตก หรือเวลาหน้านิ่งแล้วดูเหมือนกำลังเครียด

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์กราม
เหมาะกับคนที่มีใบหน้ากว้างหรือเหลี่ยมจาก ‘กล้ามเนื้อกราม (Masseter)’ โดยไม่ได้มีไขมันหรือกระดูกขนาดใหญ่ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์กรามที่กล้ามเนื้อกรามจะช่วยให้กล้ามเนื้อหดเล็กลงในระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ ทำให้กรอบหน้าดูเรียวมากขึ้นอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่อยากหน้าเรียวแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และยังช่วยลดอาการนอนกัดฟันในบางกรณีได้อีกด้วย

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า (jawline) จะช่วยลดแรงดึงของกล้ามเนื้อ platysma ที่ทำให้แก้มหย่อนคล้อยและกรอบหน้าไม่ชัดเจน โปรแกรมนี้จึงช่วยยกกระชับและทำให้แนวกรามดูคมชัด ใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ และเสริมลุคให้ดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมฟิลเลอร์

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์คอ
คอเป็นอีกบริเวณที่แสดงความหย่อนคล้อยได้ชัด โดยเฉพาะแนวกล้ามเนื้อที่เรียกว่า “Platysma Band” ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้นจะเห็นเป็นเส้นลึกแนวตั้ง โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์คอจะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ดึงรั้งผิวลง ช่วยให้ลำคอดูเรียบตึงขึ้น รวมถึงเสริมให้กรอบหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือความอ่อนวัยอย่างดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องผ่าตัดยกกระชับ

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ไหล่
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ไหล่ในผู้หญิงบางคนที่มีไหล่กว้างจากกล้ามเนื้อ trapezius (ไหล่บน) มากเกินไป อาจทำให้ลำตัวดูแข็ง หรือไม่บาลานซ์กับช่วงสะโพก โปรแกรมโบท็อกซ์สามารถลดขนาดกล้ามเนื้อไหล่ให้เล็กลง สร้างรูปร่างที่สมส่วนมากขึ้น เหมาะกับคนที่ใส่เสื้อเปิดไหล่บ่อย หรืออยากให้คอ-ไหล่ดูยาวเรียว

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์แขน
สำหรับผู้ที่มีต้นแขนใหญ่จากกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะคนที่ออกกำลังกายเยอะ ยกของหนักเป็นประจำ หรือมีลักษณะต้นแขนแข็งแน่นจากกล้ามเนื้อ triceps โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์แขน จะช่วยคลายการทำงานของกล้ามเนื้อบางส่วน ทำให้กล้ามเนื้อฝ่อลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้แขนดูเรียวและนุ่มนวลขึ้น เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าแขนตัวเองดูแข็งเกินไป ไม่สมส่วนกับช่วงตัวหรืออยากใส่เสื้อแขนกุดอย่างมั่นใจ โดยผลลัพธ์จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 3-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรประเมินร่วมกับแพทย์เพื่อเลือกตำแหน่งและปริมาณที่เหมาะสมต่อกล้ามเนื้อแขนแต่ละประเภท

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์รักแร้
ผู้ที่มีเหงื่อออกมากบริเวณรักแร้จนกระทบความมั่นใจในชีวิตประจำวัน โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์รักแร้จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ ลดการหลั่งของเหงื่อได้ โดยไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ เหมาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อนหรือก่อนงานสำคัญที่ต้องใส่เสื้อผ้าเปิดไหล่

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ฝ่ามือ
สำหรับผู้ที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติบริเวณฝ่ามือ (Palmar Hyperhidrosis) ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การจับมือ การใช้โทรศัพท์ หรือเขียนหนังสือ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ฝ่ามือจะช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อบริเวณฝ่ามือโดยตรง ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ในตำแหน่งที่ถูกต้องทั่วฝ่ามือ โดยตัวยาจะไปปิดกั้นสารสื่อประสาทที่กระตุ้นต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อมากจากกรรมพันธุ์ หรือไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาระงับเหงื่อทั่วไป

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หลังมือ
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หลังมือ เป็นจุดที่หลายคนมองข้าม แต่เป็นตำแหน่งที่สามารถเผยอายุหรือความหย่อนคล้อยของผิวได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในผู้ที่ผิวบาง เส้นเลือดชัด หรือหลังมือมีรอยย่นจากวัย โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หลังมือสามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบางส่วน ทำให้ผิวที่ย่นจากการขยับซ้ำ ๆ ดูเรียบเนียนขึ้น ทั้งยังสามารถช่วยลดเหงื่อในผู้ที่มีเหงื่อออกหลังมือได้อีกด้วย การฉีดอาจจะใช้ปริมาณน้อยและฉีดตื้นกว่าการฉีดในจุดอื่น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเรียบเนียนโดยไม่ทำให้มือแข็งหรือใช้งานลำบาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวมือให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้น

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์น่อง
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์น่อง ลดกล้ามเนื้อน่องใหญ่จากการเดินบ่อย ยืนเยอะ หรือใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ อาจทำให้ขาดูไม่เรียวและเสียความมั่นใจ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ชอบใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้น โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์น่องช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อ gastrocnemius ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักของน่อง ทำให้น่องค่อย ๆ เล็กลงและดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือบวมเหมือนวิธีบางประเภท ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นใน 4-6 สัปดาห์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากมีเรียวขาแบบไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ฝ่าเท้า
แม้จะเป็นบริเวณที่หลายคนมองข้าม แต่ในกรณีที่มีเหงื่อออกฝ่าเท้ามากผิดปกติ อาจทำให้เกิดกลิ่นหรือไม่มั่นใจเวลาใส่รองเท้าโปร่ง โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ฝ่าเท้าจะช่วยลดปริมาณเหงื่อที่หลั่งออกมาทางผิวหนังโดยไม่ส่งผลต่อการเดินหรือประสาทสัมผัส

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ราคาเท่าไหร่แต่ละจุด ใช้กี่ซีซี
หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดสำหรับผู้ที่สนใจเริ่มต้นทำ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ คือราคาฉีดเท่าไหร่ และแต่ละจุดต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งความจริงแล้ว ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อของโบท็อกซ์, ปริมาณที่ใช้ และแพทย์ผู้ทำหัตถการ โดยด้านล่างนี้คือราคาประมาณในท้องตลาดและปริมาณที่ใช้ในแต่ละจุด

• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ราคาประมาณ 3,000-8,000 บาท ใช้ประมาณ 8-12 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว ราคาประมาณ 3,000-8,000 บาท ใช้ประมาณ 8-12 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หางตา ราคาประมาณ 4,000-9,000 บาท ใช้ประมาณ 16-24 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา ราคาประมาณ 3,000-6,000 บาท ใช้ประมาณ 8-16 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว ราคาประมาณ 3,000-6,000 บาท ใช้ประมาณ 4-8 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์กราม ราคาประมาณ 6,000-18,000 บาท ใช้ประมาณ 50-80 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ราคาประมาณ 5,000-12,000 บาท ใช้ประมาณ 20-30 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จมูก ราคาประมาณ 2,000-4,000 บาท ใช้ประมาณ 4-6 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก ราคาประมาณ 3,000-6,000 บาท ใช้ประมาณ 4-8 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา ราคาประมาณ 3,000-5,000 บาท ใช้ประมาณ 4-8 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลำคอ ราคาประมาณ 7,000-15,000 บาท ใช้ประมาณ 30-50 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์น่อง ราคาประมาณ 15,000-30,000 บาท ใช้ประมาณ 100-200 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ต้นแขน ราคาประมาณ 15,000-25,000 บาท ใช้ประมาณ 100-200 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ไหล่ ราคาประมาณ 12,000-25,000 บาท ใช้ประมาณ 80-120 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์รักแร้ ราคาประมาณ 8,000-18,000 บาท ใช้ประมาณ 50-100 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ฝ่ามือ ราคาประมาณ 10,000-20,000 บาท ใช้ประมาณ 50-100 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ฝ่าเท้า ราคาประมาณ 10,000-20,000 บาท ใช้ประมาณ 50-100 Units
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หลังมือ ราคาประมาณ 4,000-8,000 บาท ใช้ประมาณ 16-32 Units.

*ราคาประมาณข้างต้น เป็นราคาในท้องตลาด และเป็นราคาโดยประมาณ ซึ่งการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์แต่ละคลินิกมีความแตกต่างกัน โปรดสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้งก่อนตัดสินใจ

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี
ในยุคที่การดูแลตัวเองเป็นเรื่องปกติ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย ยกกระชับปรับรูปหน้า หรือแม้แต่ลดเหงื่ออย่างปลอดภัย โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ คือ ‘ยี่ห้อ’ ซึ่งแต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่เหมาะกับจุดฉีดและความต้องการที่ต่างกัน วันนี้เรารวบรวมข้อมูลของโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ มาให้พิจารณาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Allergan
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Allergan ถือเป็นโปรแกรมโบท็อกซ์แบรนด์ที่ได้รับความนิยมมาก จุดเด่นคือโมเลกุลบริสุทธิ์ กระจายตัวยาได้น้อย ทำให้ผลลัพธ์เห็นได้ค่อนข้างชัดเจน และเห็นผลชัดใน 3-5 วัน เหมาะกับงานละเอียด เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หางตา หรือการปรับรูปหน้าที่ต้องการความเป็นธรรมชาติสูง

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Dysport
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Dysport เป็นโบท็อกซ์ที่โดดเด่นในเรื่อง ‘การกระจายตัวกว้าง’ เหมาะกับพื้นที่ฉีดขนาดใหญ่ เช่น หน้าผาก หรือกล้ามเนื้อกราม เห็นผลไวภายใน 2-3 วัน แต่มีข้อควรรู้คือ ต้องใช้หน่วย (unit) มากกว่าแบรนด์อื่นเล็กน้อย จึงควรเลือกคลินิกที่เข้าใจเทคนิคการใช้โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Dysport อย่างถูกต้อง

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ XEOMIN
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ XEOMIN มีจุดเด่นคือ เป็นโปรแกรมโบท็อกซ์บริสุทธิ์ ไม่มีโปรตีนแทรกปน ซึ่งลดโอกาสดื้อยาในระยะยาว เหมาะกับผู้ที่เคยฉีดโบท็อกซ์หลายครั้งแล้วกลัวดื้อยา และเหมาะมากสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ผลลัพธ์เริ่มเห็นใน 3-5 วัน ให้ผลที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ NABOTA
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ NABOTA เป็นโปรแกรมโบท็อกซ์ที่มีความคล้ายกับโปรแกรม Allergan มีความบริสุทธิ์ค่อนข้างสูงและออกฤทธิ์ค่อนข้างแม่นยำ เหมาะกับการฉีดลดริ้วรอยหรือกราม ใช้ในคลินิกระดับไฮเอนด์หลายแห่ง เห็นผลไวใน 3-5 วัน และเป็นตัวเลือกยอดนิยมในไทย

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Aestox
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Aestox เป็นโปรแกรมโบท็อกซ์เจนเนอเรชันใหม่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความบริสุทธิ์และดื้อยาน้อย ใช้เทคโนโลยีการที่เหมาะสำหรับการฉีดทั่วใบหน้าโดยเฉพาะจุดที่ต้องการความเรียบเนียนแบบดูเป็นธรรมชาติ

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ HUGEL
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ HUGEL เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในเอเชียและยุโรป มีคุณภาพใกล้เคียงกับโปรแกรมโบท็อกซ์ NABOTA ใช้สำหรับทั้งลดริ้วรอยและการยกกระชับปรับรูปหน้า จุดเด่นคือราคาเข้าถึงง่าย แต่ยังได้ผลลัพธ์ดี เหมาะกับคนที่ต้องการฉีดอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องลงทุนสูงมาก

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ CLODEW
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ CLODEW เป็นโปรแกรมโบท็อกซ์น้องใหม่ในตลาดไทยที่เริ่มได้รับความนิยมจากคลินิก เพราะมีความบริสุทธิ์ค่อนข้างสูง มีจุดเด่นที่ออกฤทธิ์ไวและกระจายตัวได้ดี เหมาะกับการลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น หน้าผาก ร่องคิ้ว หรือหางตา เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือคนที่ต้องการปรับลุคเร่งด่วน

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Botulax
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Botulax เป็นแบรนด์ยอดนิยมที่มีจุดแข็งคือราคาย่อมเยา แต่คุณภาพยังถือว่าดี เหมาะกับการฉีดในบริเวณกว้าง เช่น กราม น่อง หรือลดเหงื่อ เห็นผลใน 4-7 วัน โดยมักใช้ในโปรแกรมที่เน้นปริมาณมาก เช่น ลิฟต์หน้า V-Shape หรือลดกล้ามเนื้อใหญ่

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Neuronox
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ Neuronox อีกหนึ่งแบรนด์ยอดนิยมที่ค่อนข้างมีความเสถียร และใช้กันแพร่หลายในหลายคลินิกของไทย จุดเด่นคือ ราคากลาง ๆ เหมาะกับการฉีดทั่วใบหน้า เช่น หางตา หน้าผาก หรือกราม ผลลัพธ์อยู่ในระดับดี เห็นผลใน 5-7 วัน

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ BTXA
โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ BTXA เป็นโปรแกรมโบท็อกซ์ที่มีราคาประหยัดในท้องตลาด เหมาะกับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทดลองหรือฉีดในบริเวณกว้าง เช่น น่อง ต้นแขน หรือลิฟต์หน้า จุดเด่นคือราคาถูก แต่ต้องระมัดระวังเรื่องแหล่งที่มาและควรใช้กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน

การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์
แม้ว่าโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดและใช้เวลาไม่นาน แต่การเตรียมตัวอย่างถูกวิธีก่อนเข้ารับบริการจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวย อยู่ได้นาน และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงได้อย่างมาก โดยการเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรมีขั้นตอนดังนี้

• ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรหลีกเลี่ยงการทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วิตามินอี, น้ำมันปลา ควรงดอย่างน้อย 3-7 วันก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ล่วงหน้า 24-48 ชั่วโมง เพราะแอลกอฮอล์ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำหลังฉีด
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพสมดุล พร้อมสำหรับการตอบสนองต่อสารโบท็อกซ์
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาบางชนิดอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาท หรือใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในบริเวณที่จะฉีด โดยเฉพาะในจุดที่ต้องฉีดบนใบหน้า ควรทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับบริการ
• ก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรวางแผนล่วงหน้าก่อนมีงานสำคัญ ควรทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ก่อนวันสำคัญอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลเต็มที่และแก้ไขได้หากมีอาการบวมเล็กน้อย
• อย่าทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ หรือมีไข้ เจ็บคอ เพราะอาจทำให้การฟื้นตัวช้าหรือมีผลข้างเคียงตามมา

การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์
หลังเข้ารับบริการโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ แม้จะไม่มีแผลหรือไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการผ่าตัด แต่การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพ และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยช้ำ บวม หรือการกระจายตัวยาผิดจุด ดังนั้นหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้
• หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรหลีกเลี่ยงการนวด กด หรือจับบริเวณที่ฉีด อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ตัวยาเคลื่อนที่ไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ
• หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรอย่านอนราบหรือเอนหลังทันที ภายใน 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาไหลลงในทิศทางที่ผิด
• หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรงดออกกำลังกายหนักหรือทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะอุณหภูมิสูงและการเคลื่อนไหวมากอาจส่งผลต่อการกระจายของตัวยา
• หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรงดเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรือโดนความร้อนจัด เช่น การเป่าผมด้วยไดร์ร้อน หรือการอาบน้ำอุ่นจัด อย่างน้อย 3 วันหลังฉีด
• หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพราะแอลกอฮอล์อาจเพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำและลดการดูดซึมของตัวยา
• หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรสามารถแต่งหน้าเบา ๆ ได้หลัง 24 ชั่วโมง หากไม่มีรอยเข็มหรืออาการระคายเคือง แต่ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่อ่อนโยน
• หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรสังเกตผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น อาการบวม ช้ำ ปวดศีรษะ หรือรอยแดง ซึ่งโดยทั่วไปจะหายภายในไม่กี่วัน หากอาการผิดปกติรุนแรงควรรีบพบแพทย์
• หลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรติดตามผลกับแพทย์ตามนัด เพื่อประเมินผลลัพธ์ และปรับแผนการรักษาในครั้งถัดไปหากจำเป็น

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ เจ็บไหม
คำถามยอดฮิตที่หลายคนมักสงสัยก่อนเข้ารับบริการคือ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เจ็บไหม? คำตอบคือ โดยทั่วไปแล้วการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ เจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหลายคนรู้สึกว่าแทบไม่เจ็บเลย โดยแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กมากในการฉีด และฉีดเพียงตื้น ๆ บนชั้นผิวหรือกล้ามเนื้อในจุดที่ต้องการ ซึ่งใช้เวลารวดเร็วเพียงไม่กี่นาที สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บหรือมีผิวบอบบาง แพทย์มักจะแปะยาชาหรือทายาชาก่อนฉีด ทำให้ความรู้สึกเจ็บลดลงจนแทบไม่รู้สึกเลย นอกจากนี้ บางคนอาจมีความรู้สึกแค่เหมือนถูกจิ้มเบา ๆ หรือมดกัดเท่านั้น หลังฉีดอาจรู้สึกตึงหรือมีรอยแดงเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง ดังนั้น หากคุณลังเลเพราะกลัวเจ็บ สามารถวางใจได้ว่าโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการที่เจ็บน้อย และไม่ต้องพักฟื้น

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์
แม้ว่าโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์และใช้โปรแกรมโบท็อกซ์ที่ได้มาตรฐาน แต่ก็มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงบางประการได้ โดยเฉพาะในช่วง 1-3 วันแรกหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ หรือหากได้รับการฉีดผิดตำแหน่ง ซึ่งผู้รับบริการควรศึกษาข้อมูลและเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ดังนี้

• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อาจทำให้เกิดอาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด พบได้ทั่วไปใน 1-3 วันแรกหลังฉีด และมักหายเองโดยไม่ต้องรักษา
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะหรือรู้สึกตึงหน้าเล็กน้อย มักเกิดในผู้ที่ฉีดครั้งแรก หรือมีผิวไวต่อสารโบทูลินัม ท็อกซิน โดยอาการมักหายภายใน 1-2 วัน
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อาจทำให้หนังตาตกหรือคิ้วตกชั่วคราว อาจเกิดจากตัวยากระจายไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ โดยเฉพาะหากฉีดใกล้ดวงตา ซึ่งสามารถค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อฤทธิ์ยาหมด
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อาจทำให้ใบหน้าไม่สมมาตร ยิ้มเบี้ยว หรือขยับหน้าไม่เท่ากัน เกิดจากการฉีดไม่สมดุล หรือแพทย์ประเมินจุดไม่แม่นยำ อาการเหล่านี้มักดีขึ้นเมื่อตัวยาสลายตัว
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อาจคลำเจอก้อนเล็ก ๆ บริเวณที่ฉีด เป็นอาการจากตัวยาที่ยังไม่กระจายตัวดี โดยเฉพาะในบริเวณที่มีผิวบาง เช่น ใต้ตา ซึ่งมักหายไปภายในไม่กี่วัน
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ผื่นคันหรือบวมมากผิดปกติ พบได้น้อยมาก แต่หากเกิดขึ้นควรรีบพบแพทย์ทันที
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรงในจุดที่ไม่ตั้งใจ ในกรณีที่ตัวยาแพร่กระจายไปนอกบริเวณที่ควรฉีด เช่น กล้ามเนื้อใกล้ดวงตา หรือรอบปาก

อันตรายจากโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ปลอม
แม้ว่าโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จะให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจทั้งในด้านความงามและการรักษา แต่หากเลือกใช้โบท็อกซ์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพได้อย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะเมื่อฉีดในสถานที่ที่ไม่มีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ดังนั้นควรรู้เท่าทันอันตรายจากโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ปลอม ก่อนตัดสินใจทำหัตถการใด ๆ

• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ปลอมทำให้เสี่ยงต่อการดื้อยาในระยะยาว โปรแกรมโบท็อกซ์ปลอมมักมีสิ่งเจือปนที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน ทำให้เกิดอาการดื้อยา เมื่อต้องการฉีดซ้ำในอนาคตจะไม่ได้ผลอีกเลย
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ปลอมทำให้เกิดอาการแพ้หรืออักเสบรุนแรง ผู้ที่ได้รับสารปลอมอาจเกิดอาการบวมแดง ช้ำ หรือมีผื่นลามทั่วใบหน้า บางรายถึงขั้นแพ้เฉียบพลันและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ปลอมทำให้ตัวยากระจายผิดจุด ทำให้ใบหน้าเบี้ยว โปรแกรมโบท็อกซ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจกระจายตัวผิดตำแหน่งได้ง่าย ส่งผลให้กล้ามเนื้อข้างเคียงได้รับผลกระทบ เช่น หนังตาตก คิ้วเบี้ยว หรือยิ้มไม่สุดข้าง
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ปลอมทำให้ไม่มีผลลัพธ์ใด ๆ แม้ฉีดแล้ว โปรแกรมโบท็อกซ์ปลอมจำนวนมากไม่มีสารออกฤทธิ์จริง ทำให้ฉีดแล้วไม่เกิดผลใด ๆ เสียทั้งเงินและเวลาโดยเปล่าประโยชน์
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ปลอมทำให้เสี่ยงติดเชื้อจากกระบวนการผลิตที่ไม่ปลอดภัย สารที่ไม่ผ่านมาตรฐานอาจมีแบคทีเรียหรือโลหะหนักปนเปื้อน ส่งผลต่อระบบประสาทและอวัยวะภายในในระยะยาว
• โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ปลอมทำให้ทำลายความเชื่อมั่นในผลลัพธ์ของโปรแกรมโบท็อกซ์ เมื่อเจอผลลัพธ์ที่ผิดหวังหรือเกิดผลข้างเคียงจากของปลอม หลายคนอาจกลัวและไม่กล้าทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อีก

ทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี
การตัดสินใจเลือกสถานที่ทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกยี่ห้อของโบท็อกซ์ เพราะต่อให้ใช้ตัวยาแท้ แต่หากฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความชำนาญ ก็อาจเกิดผลข้างเคียง หรือไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่คาดหวังได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ ควรพิจารณาองค์ประกอบต่อไปนี้ในการเลือกคลินิก

• มีแพทย์ดูแลทุกเคส เลือกคลินิกที่ให้แพทย์เป็นผู้ทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์จริง ไม่ใช่บุคลากรที่ไม่มีใบอนุญาต โดยควรตรวจสอบชื่อและเลขที่ใบประกอบวิชาชีพแพทย์ได้อย่างชัดเจน
• ใช้โปรแกรมโบท็อกซ์ที่มีมาตรฐานรับรอง คลินิกควรแสดงกล่องยา, ขวดจริง พร้อมบอกยี่ห้อที่ใช้ทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ หมายเลขล็อต และวันหมดอายุ เพื่อความโปร่งใส ผู้รับบริการควรมีสิทธิ์ขอดูขวดก่อนฉีดทุกครั้ง
• มีการประเมินรูปหน้าแบบเฉพาะบุคคลก่อนทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ แพทย์ควรประเมินโครงสร้างใบหน้า ปริมาณกล้ามเนื้อ และวางแผนตำแหน่งการฉีดให้เหมาะกับแต่ละคน ไม่ใช้สูตรตายตัวแบบเหมารวม
• สถานที่สะอาด มีมาตรฐานการแพทย์ครบถ้วน คลินิกต้องมีการฆ่าเชื้อเครื่องมือ ใช้เข็มใหม่ทุกเคส และมีห้องทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ที่สะอาด ปลอดเชื้อ มีระบบเก็บยาในอุณหภูมิที่ถูกต้อง
• มีรีวิวจากผู้ใช้จริง และเปิดเผยข้อมูลตรงไปตรงมา ดูผลงานหรือรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง รวมถึงสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ก่อนตัดสินใจทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ หากคลินิกมีความโปร่งใส มักจะแสดงความพร้อมตอบคำถามทุกข้อ
• มีบริการติดตามผลหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ คลินิกที่ดีควรมีระบบติดตามผล เช่น นัดเช็กอาการหลังทำ หรือตรวจความสมดุลของกล้ามเนื้อ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยที่สุด

สรุป โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ควรทำหรือไม่ควรทำ
การตัดสินใจว่าจะทำโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์หรือไม่นั้น ไม่สามารถตัดสินได้จากเพียงแค่ความนิยมในโลกความงาม เพราะแต่ละคนมีความต้องการการยกกระชับรูปหน้า และสภาพผิวที่แตกต่างกัน โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกับคนหนึ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องเหมาะกับทุกคน จึงควรพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ปัญหาที่ต้องการแก้ ความคาดหวัง ผลลัพธ์ที่ต้องการ ยี่ห้อของโปรแกรมโบท็อกซ์ และแพทย์ผู้ทำหัตถการ

หากสนใจโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ในจุดต่าง ๆ ทั้งบนใบหน้าและร่างกาย สามารถจองคิวเพื่อสอบถามและปรึกษากับศัลยแพทย์ หรือใครที่มีข้อสงสัยและคำถามเพิ่มเติม สามารถทักเข้ามาสอบถามได้เลยค่ะ

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ ฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ฉีดบริเวณตรงไหนได้บ้าง,ฉีดโบท็อกซ์ , โบท็อกซ์ หรือสอบถามรายละเอียด โปรโมชั่นพิเศษ หรือ หัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ คือ การใช้สารโบทูลินัม ท็อกซิน ฉีดลงไปบริเวณต่างๆ เพื่อช่วยในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการลดริ้วรอย การยกกระชับจุดที่หย่อนคล้อย ซึ่งได้รับความนิยมมาก โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร แก้ปัญหาอะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง