ปลูกผม Advance FUE vs FUT แตกต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง?

เปลี่ยนผมบางให้เป็นผมหนา ด้วยเทคนิคการปลูกผม Advance FUE ที่ APEX
ปลูกผมเทคนิคแขนกล แน่น ชิด ถี่ ละเอียด เนียนดูดีจนคนทัก !
ปัญหาศีรษะล้าน หน้าผากเว้าลึก ตัวการที่ทำให้หมดความมั่นใจ แก้ไขได้ด้วยการปลูกผม แต่การปลูกผมให้เนียนดูดี เส้นผมเกิดใหม่ขึ้นชิด แน่น ถี่ ละเอียด ต้องเลือกเทคนิคแขนกลที่ APEX พร้อมแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมดูแลทุกเคสอย่างใกล้ชิด และเป็นเทคนิคที่ช่วยประหยัดเวลาในการปลูกผม ช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มประสิทธิภาพให้การปลูกผมมีคุณภาพมากที่สุด และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ปลูกผม คืออะไร
การปลูกผม (Hair Transplant) คือ กระบวนการศัลยกรรมที่นำรากผมจากบริเวณที่มีเส้นผมแข็งแรง เช่น ท้ายทอยหรือบริเวณด้านข้างของศีรษะ (Donor Area) มาปลูกในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วงหรือศีรษะล้าน เช่น แนวไรผมด้านหน้า กลางศีรษะ หรือบริเวณที่ผมบาง โดยรากผมที่ปลูกจะงอกใหม่ตามแนวผมเดิมของลูกค้า

กระบวนการปลูกผมถูกพัฒนาให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในปัจจุบัน ด้วยเทคนิคที่ทันสมัย เช่น การปลูกผมด้วยเทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation) และ การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) โดยแพทย์เฉพาะด้านการปลูกผมจะเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมกับสภาพผมและปัญหาของแต่ละบุคคล

โดยที่ APEX HAIR CENTER จะใช้เทคนิคการปลูกผม ที่ชื่อว่า Advance FUE ที่ต่อยอดจากเทคนิคการปลูกผม FUE แบบทั่วไป เนื่องจากมีการพัฒนาแขนกลที่หัวคล้ายปากกาจิ๋ว สามารถควบคุมแรงเจาะและแรงดูดกอผมได้ดีกว่า ด้วยขนาดเครื่องมือเพียง 0.6 mm ที่เจาะกอรากผมได้อย่างรวดเร็ว ได้กอผมเต็มกราฟต์โดยไม่แบ่ง หั่น ย่อย และไม่ทิ้งรอยเจาะเป็นรูกว้าง ทำให้รอยเจาะหายเองได้ไม่กี่วัน และที่ APEX มีการออกแบบแนวผมตามรูปหน้าของแต่ละบุคคล ตามหลัก Golden Ratio

ปลูกผมเหมาะกับใคร
การปลูกผมเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงและศีรษะล้านอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับวิธีนี้ หากคุณกำลังสงสัยว่าตนเองเหมาะสมที่จะทำการปลูกผมหรือไม่ มาเช็กลิสต์ตามข้อด้านล่างนี้กันเลยค่ะ

• การปลูกผมเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์
คนที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านที่เกิดจากฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นลักษณะของกรรมพันธุ์ สามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกผม

• การปลูกผมเหมาะกับผู้ที่สูญเสียความมั่นใจเพราะปัญหาผมบาง
สำหรับผู้ที่รู้สึกสูญเสียความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง เนื่องจากผมบางหรือไรผมที่ถอยร่น การปลูกผมช่วยคืนความมั่นใจได้

• การปลูกผมเหมาะกับผู้ที่รักษาผมร่วงด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล
หากเคยทดลองใช้วิธีอื่น เช่น การใช้ยาปลูกผมหรือทรีทเมนต์ผม แล้วไม่ได้ผล การปลูกผมอาจเป็นทางออกที่เหมาะสม

• การปลูกผมเหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขแนวไรผมหรือแผลเป็น
ผู้ที่ต้องการปรับแนวไรผมให้ดูสมส่วน หรือแก้ไขรอยแผลเป็นที่ไม่มีผมขึ้น ก็สามารถทำการปลูกผมได้

• การปลูกผมเหมาะกับผู้ที่มีผมในบริเวณท้ายทอยเพียงพอสำหรับปลูก
การปลูกผมต้องอาศัยรากผมจากบริเวณท้ายทอยหรือด้านข้างศีรษะ ดังนั้น ผู้ที่มีรากผมแข็งแรงในบริเวณนี้จึงเหมาะสำหรับการปลูกผม

• การปลูกผมเหมาะกับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
การปลูกผมเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ดังนั้นผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงหรือปัญหาสุขภาพที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัดจะเหมาะสมที่สุด

การปลูกผม FUT ต่างกับ Advance FUE อย่างไร
การปลูกผมด้วยเทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation) และ การปลูกผมด้วยเทคนิค Advance FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในการปลูกผมถาวร โดยการปลูกผมเทคนิค FUT ใช้การตัดหนังศีรษะออกเป็นแถบเพื่อเก็บรากผม ขณะที่การปลูกผมด้วยเทคนิค Advance FUE ใช้การเจาะรากผมทีละรู ซึ่งทั้ง 2 วิธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันดังนี้

หัวข้อเปรียบเทียบ	การปลูกผมด้วยเทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation)	การปลูกผมด้วยเทคนิค Advance FUE (Follicular Unit Extraction)
วิธีการเก็บรากผม	ตัดหนังศีรษะ บริเวณท้ายทอย ออกเป็นแถบ เพื่อนำรากผมไปแยกทีละกอ (Graft)	ใช้เครื่องมือเจาะรากผม ออกมาทีละรู มีความแม่นยำ และสม่ำเสมอกว่า
รอยแผลเป็น	มีแผลเป็นเป็นเส้นยาว บริเวณท้ายทอย	รอยแผลเป็นเล็กมาก
ปริมาณรากผม ที่ปลูกได้	สามารถปลูกผม ได้จำนวนมาก ในครั้งเดียว	จำนวนกราฟต์ที่ปลูกได้ต่อครั้ง น้อยกว่าการปลูกผม แบบ FUT
ระยะเวลาพักฟื้น	ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า (ประมาณ 10 วัน)	ฟื้นตัวเร็วกว่า (2-3 วัน)
เหมาะกับใคร	เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ปลูกผมจำนวนมาก ในครั้งเดียว	เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยง แผลเป็นขนาดใหญ่ และฟื้นตัวเร็ว
ค่าใช้จ่าย	มักมีราคา ที่คุ้มค่ากว่า เมื่อปลูกผม ในจำนวนมาก	ค่าใช้จ่ายสูงกว่า เนื่องจากต้องใช้เวลานาน และอุปกรณ์ที่ซับซ้อนกว่า

การปลูกผมแบบไร้รอยแผลดีไหม
การปลูกผมแบบไร้รอยแผล หรือที่เรียกว่า การปลูกผมด้วยเทคนิคแขนกล Advance FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นเทคนิคของทาง APEX Hair Center ใช้การเจาะรากผมออกมาทีละรู โดยไม่มีการตัดหนังศีรษะ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงแผลเป็นขนาดใหญ่ ฟื้นตัวเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่าและใช้เวลาทำนานกว่าวิธีอื่น
การปลูกผมแบบไร้รอยแผล จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์และการฟื้นตัวที่รวดเร็ว

การปลูกผมแล้วผมจะขึ้นจริงไหม
การปลูกผมเป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ปัญหาผมร่วงและศีรษะล้าน ผมที่ปลูกจะขึ้นจริง เนื่องจากรากผมที่นำมาปลูกในบริเวณที่ต้องการเป็นรากผมที่แข็งแรงจากบริเวณท้ายทอยหรือด้านข้างศีรษะ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT สาเหตุหลักของปัญหาผมร่วงในผู้ชาย

หลังการปลูกผม ช่วงแรกอาจมีอาการผมร่วงชั่วคราว (Shock Loss) ซึ่งเป็นกระบวนการปกติ แต่รากผมที่ปลูกจะเริ่มงอกใหม่ในช่วง 3-4 เดือน และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในระยะ 6-12 เดือน ผมที่ขึ้นใหม่จะมีลักษณะสวยงามและแข็งแรง ทั้งยังคงอยู่ได้อย่างถาวร หากทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม ในคลินิกที่ได้การควบคุมมาตรฐานและคุณภาพ

การดูแลหลังปลูกผมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและผมขึ้นสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ปลูกผมช่วยลดอาการผมร่วง ผมบาง ได้ไหม?
การปลูกผมไม่ได้ช่วยลดอาการผมร่วงหรือผมบางโดยตรง เพราะเป็นกระบวนการย้ายรากผมที่แข็งแรงจากบริเวณท้ายทอยมาปลูกในบริเวณที่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ผมที่ปลูกใหม่จะไม่ร่วงง่าย เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของผมร่วงในผู้ชาย

สำหรับผมบริเวณอื่นที่ไม่ได้ปลูกยังคงมีโอกาสร่วงหรือบางได้ตามปกติ ดังนั้น เพื่อป้องกันและลดอาการผมร่วงในระยะยาว ผู้ที่ปลูกผมมักต้องดูแลเส้นผมเพิ่มเติม เช่น การใช้ยาเฉพาะทาง (Minoxidil หรือ Finasteride) หรือการทำเลเซอร์บำรุงผมร่วมด้วย การปลูกผมจึงถือเป็นวิธีแก้ปัญหาผมบางเฉพาะจุดได้อย่างถาวร แต่ต้องควบคู่กับการดูแลหนังศีรษะเพื่อสุขภาพเส้นผมที่ดีด้วย

การปลูกผมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
การปลูกผมเป็นกระบวนการศัลยกรรมที่ได้รับความปลอดภัย เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่น ๆ อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลข้างเคียงเล็กน้อยที่สามารถจัดการได้ง่าย หากทำในคลินิกที่ได้รับการควบคุมมาตรฐานและคุณภาพ โดยแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม ซึ่งผลข้างเคียงที่พบบ่อย มีดังนี้

1.อาการบวมหลังการปลูกผม (Swelling)
บริเวณศีรษะ ใบหน้า หรือหน้าผาก อาจบวมหลังจากการปลูกผม เนื่องจากกระบวนการฉีดยาชาและการผ่าตัด โดยอาการจะลดลงภายใน 2-3 วัน

2.รอยแดงและคันหลังการปลูกผม (Redness and Itching)
หลังปลูกผม อาจเกิดรอยแดงบริเวณที่ปลูกผมและบริเวณที่นำรากผมออก รวมถึงอาการคันในช่วงที่แผลเริ่มหาย ซึ่งถือเป็นปกติและสามารถใช้ยาทาหรือรับประทานยาแก้แพ้ตามที่แพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมแนะนำได้

3.สะเก็ดแผลหลังการปลูกผม (Scabs)
บริเวณที่ปลูกผมจะมีสะเก็ดเล็ก ๆ เกิดขึ้น ซึ่งจะหลุดออกไปเองในช่วง 7-14 วัน ห้ามแกะสะเก็ดเพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือทำให้รากผมหลุด

4.อาการผมร่วงชั่วคราวหลังการปลูกผม (Shock Loss)
อาการนี้เกิดขึ้นจากการที่รากผมปรับตัวในช่วงแรก ผมที่ปลูกและผมบริเวณใกล้เคียงอาจร่วงชั่วคราวในช่วง 2-3 เดือนแรก แต่จะงอกใหม่ในภายหลัง

5.อาการชาหรือรู้สึกตึงหลังการปลูกผม (Numbness or Tightness)
บริเวณที่ปลูกผมหรือที่นำรากผมออก อาจมีอาการชาหรือตึงเล็กน้อย เนื่องจากเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือน โดยอาการนี้มักหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ในบางกรณีหลังการปลูกผม
1.การติดเชื้อ (Infection)
แม้ว่าการปลูกผมจะเป็นการผ่าตัดเล็ก แต่ถ้าไม่ได้ทำในสถานพยาบาลที่ได้รับการควบคุมมาตรฐานและคุณภาพ หรือการดูแลแผลหลังผ่าตัดไม่เหมาะสม อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

2.แผลเป็น (Scarring)
การปลูกผมแบบ FUT อาจทิ้งแผลเป็นเป็นเส้นยาวบริเวณท้ายทอย ในขณะที่วิธี Advance FUE มีรอยแผลเล็กมาก

3.รากผมไม่ติด (Graft Failure)
ในบางกรณี รากผมที่ปลูกอาจไม่สามารถเติบโตได้ หากกระบวนการปลูกไม่ได้มาตรฐานที่เหมาะสม หรือผู้เข้ารับการรักษาไม่ดูแลตัวเองตามคำแนะนำ

4.อาการแพ้ยาชา (Allergic Reaction)
แม้จะพบได้ยาก แต่บางคนอาจแพ้ยาชาที่ใช้ระหว่างการปลูกผม แพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมจะทำการซักประวัติและตรวจสุขภาพเพื่อป้องกันปัญหานี้

วิธีลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
• เลือกคลินิกที่ได้รับการควบคุมมาตรฐานและคุณภาพ รวมทั้งทำการรักษาผ่าตัดกับแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
• ปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนปลูกผม และ หลังการปลูกผมอย่างเคร่งครัด
• หมั่นดูแลรักษาความสะอาดบริเวณแผล
• พบแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมตามนัด เพื่อติดตามผลและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

การปลูกผมเป็นกระบวนการที่ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและช่วยเสริมความมั่นใจ หากทำในสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจะน้อยมาก

ก่อนทำการปลูกผมใด ๆ ควรศึกษาข้อมูลอย่างครบถ้วน ถึงข้อดี-ข้อเสีย รวมทั้งข้อมูลของแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม และคลินิกที่ได้รับการควบคุมมาตรฐาน คุณภาพ เพื่อความมั่นใจและลดความเสี่ยงที่จะตามหลังการทำการปลูกผมใด ๆ ด้วยค่ะ

การปลูกผมต้องพักฟื้นนานไหม
การปลูกผมถือเป็นการศัลยกรรมขนาดเล็กที่ไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่ระยะเวลาพักฟื้นจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ในการปลูกผม เช่น FUT และ Advance FUE ซึ่งมีข้อดีและข้อจำกัดในด้านการฟื้นตัวที่ต่างกัน

หัวข้อเปรียบเทียบ	FUT (Follicular Unit Transplantation)	Advance FUE (Follicular Unit Extraction)
ระยะเวลาพักฟื้น	7-10 วัน	2-3 วัน
ลักษณะแผล	มีแผลเป็นแนวยาว บริเวณท้ายทอย จากการตัดหนังศีรษะ	มีรอยแผลขนาดเล็กมาก (~1 มม.) ไม่มีรอยแผลยาว
การดูแลหลังปลูกผม	ต้องหลีกเลี่ยงการดึง หรือกระทบกระเทือน บริเวณแผลที่เย็บ	ดูแลง่ายกว่า เนื่องจากไม่มีรอยเย็บ
เวลาในการพักฟื้น	อาจต้องใช้เวลาหยุดงานนานกว่า 1 สัปดาห์	สามารถกลับไปทำงานได้ ในวันถัดไปหรือ 2 วัน
อาการบวม/ช้ำ	พบได้บ้างบริเวณ ที่เย็บและปลูกผม อาจนานกว่า Advance FUE	อาการบวมเล็กน้อย และหายเร็ว กว่าหากดูแลแผลการปลูกผม เป็นอย่างดี

สรุป
• FUT เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมในปริมาณมาก แต่ต้องการเวลาพักฟื้นนานกว่าเนื่องจากมีแผลจากการตัดหนังศีรษะ
• Advance FUE เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นตัวเร็ว มีแผลเล็ก และสามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้เร็ว

ข้อดี - ข้อจำกัด ของการปลูกผม
การปลูกผม FUT (Follicular Unit Transplantation) และ Advance FUE (Follicular Unit Extraction) เป็น 2 เทคนิคที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหาผมร่วงและศีรษะล้าน แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของผู้เข้ารับการรักษา

สรุป
• FUT เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมในปริมาณมากและต้องการรากผมคุณภาพสูง แต่ต้องแลกกับรอยแผลเป็นและระยะเวลาพักฟื้นที่นานกว่า
• Advance FUE เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงแผลเป็นจากการปลูกผม ฟื้นตัวเร็ว และให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์หลังการผ่าตัด แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า

การเตรียมตัว ก่อน-หลัง ปลูกผม
หากใครที่กำลังมีแพลนปลูกผม เรามาทราบขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนและหลังการปลูกผมเบื้องต้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัดกันค่ะ เพราะเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยให้กระบวนการปลูกผมเป็นไปอย่างราบรื่น และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาดูคำแนะนำในแต่ละขั้นตอนกันเลยค่ะ

การเตรียมตัวก่อนปลูกผม
1.แจ้งแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมเกี่ยวกับสุขภาพ
หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำ เช่น ยาลดความดัน ยาละลายลิ่มเลือด ควรแจ้งแพทย์เพื่อการปรับเปลี่ยนหรือหยุดใช้ยาชั่วคราว

2.งดยาบางชนิดและอาหารเสริม
หลีกเลี่ยงการใช้ยาและอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, โสม, น้ำมันปลา อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการปลูกผม

3.งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 48 ชั่วโมงก่อนการปลูกผม เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

4.พักผ่อนให้เพียงพอ
นอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนวันปลูกผม

5.สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย
แนะนำให้สวมเสื้อผ่าหน้าหรือเสื้อที่ถอดออกง่าย เพื่อลดการกระทบกระเทือนบริเวณที่ปลูกผม

การดูแลหลังปลูกผม
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณปลูกผม
ห้ามจับ เกา หรือกดบริเวณที่ปลูกผมในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันรากผมหลุด

2.งดสระผมทันทีหลังทำ
หลีกเลี่ยงการสระผมในวันแรกหลังการปลูกผม แนะนำให้สระผมครั้งแรกที่คลินิก หรือทำตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม

3.หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระแทก
งดออกกำลังกายหนัก ว่ายน้ำ หรือใช้ซาวน่าในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก

4.หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
ไม่ควรออกแดดเป็นเวลานานในช่วง 3 เดือนแรก และควรสวมหมวกหรือใช้ร่มหากจำเป็น

5.นอนศีรษะสูง
ใช้หมอนรองคอหรือนอนหงายเพื่อลดการบวมบริเวณหน้าผากและศีรษะ

6.รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมเกี่ยวกับการรับประทานยา เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด และยาป้องกันการอักเสบ

7.งดการใช้สารเคมีกับผม
หลีกเลี่ยงการดัด ย้อม หรือใช้สารเคมีกับเส้นผมในช่วง 1-2 เดือนแรก

การปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งก่อนปลูกผมและหลังปลูกผมอย่างเคร่งครัด ไม่เพียงช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง แต่ยังช่วยให้รากผมที่ปลูกใหม่เติบโตแข็งแรงและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ทำไมต้องปลูกผมที่ APEX?
การปลูกผมเป็นการแก้ปัญหาผมร่วงและผมบางที่ต้องการความละเอียดและความแม่นยำสูง หากคุณกำลังมองหาคลินิกปลูกผมด้วยเทคโนโลยีทันสมัย APEX Hair Center คือคำตอบที่ดีที่สุด ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังนี้

1.เทคโนโลยีล้ำสมัย ใช้เครื่องมือปลูกผมขนาดเล็กที่สุดในอุตสาหกรรม (0.06 มม.) ที่ให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน
2.แพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม มีประสบการณ์ในด้านการปลูกผมมาหลายปี พร้อมให้คำปรึกษาอย่างตรงจุด
3.ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ เส้นผมที่ปลูกขึ้นดูหนา แน่น และเรียงตัวสวยงาม
4.บริการดูแลหลังทำ ใส่ใจทุกขั้นตอนจนกว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ

บริการ After Care Hair Service
ที่ APEX ไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่การปลูกผมเท่านั้น แต่ยังดูแลต่อเนื่องหลังทำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

• สระผมฟรี 7 วัน ดูแลลูกค้าจนกว่าสะเก็ดบริเวณที่ปลูกผมจะหลุดออก เพื่อให้แผลหายเร็วและสะอาดที่สุด
• ฉายแสงเลเซอร์ LLLT ไม่จำกัด การกระตุ้นรากผมด้วยเลเซอร์ LLLT ช่วยให้รากผมแข็งแรงและเส้นผมงอกใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

การปลูกผมที่ APEX ไม่เพียงแค่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงและผมบาง แต่ยังให้บริการที่มากกว่าทั้งด้านเทคโนโลยีและการดูแลหลังทำ ผลลัพธ์ที่ได้คือเส้นผมที่หนา แน่น แข็งแรง พร้อมสร้างความมั่นใจให้เรามีเส้นผมที่สุขภาพดีกันค่ะ

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ ปลูกผม Advance FUE vs FUT ต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง?,ปลูกผม Advance FUE , Advance FUE หรือสอบถามรายละเอียด โปรโมชั่นพิเศษ หรือ หัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

การปลูกผมที่ APEX ให้มากกว่าการปลูกผมแบบเดิม ด้วยเทคนิคใหม่ Advance FUE ที่ใช้เครื่องมืออัจฉริยะในการเก็บเซลล์รากผม ทำให้เส้นผมมีโอกาสรอดสูง ปลูกได้อย่างแม่นยำ และผมเกิดใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ผมแน่น ผมหนา เส้นผมสุขภาพแข็งแรง