โปรแกรม Art Filler คืออะไร แตกต่างจากโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อื่นอย่างไร มีกี่รุ่น

โปรแกรม Art Filler คืออะไร เหมาะกับใช้ฉีดตรงไหน ทำไมควรฉีด
โปรแกรม Art Filler ดีไหม เทียบกับการฉีดแบบอื่นต่างกันยังไง
ในยุคที่การฉีดสารเติมเต็มได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ การเลือกยี่ห้อของโปรแกรมฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในตัวเลือกที่ถูกพูดถึงบ่อยในกลุ่มแพทย์ความงามคือ โปรแกรม Art Filler ความโดดเด่นของ โปรแกรม Art Filler อยู่ที่การออกแบบเนื้อเจลให้มีความยืดหยุ่นสูง ควบคู่กับการกระจายตัวได้ดีในชั้นผิว จึงเหมาะกับการเติมเต็มทั้งบริเวณที่ต้องการความเนียนละเอียด เช่น ใต้ตา หรือบริเวณที่ต้องการโครงสร้าง เช่น คางและขมับ ปัจจุบันโปรแกรม Art Filler ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในคลินิกความงาม ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างนี้เอง ทำให้ โปรแกรม Art Filler กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ วันนี้เรามาดูกันว่า โปรแกรม Art Filler ดีไหม แตกต่างจากโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปอย่างไร และให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าจริงหรือเปล่า

โปรแกรม Art Filler คืออะไร
โปรแกรม Art Filler คือโปรแกรมฉีดสารเติมเต็ม เป็นที่รู้จักในวงการความงาม จุดเด่นของโปรแกรม Art Filler คือการใช้เทคโนโลยีเฉพาะที่ชื่อว่า TRI-HYAL Technology ซึ่งรวมกรดไฮยาลูโรนิก 3 โมเลกุลในเนื้อเจลเดียวกัน ทำให้มีความยืดหยุ่น กระจายตัวได้ดี และมีความนุ่มเนียนเมื่อฉีดเข้าสู่ผิว ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือเป็นก้อน ทั้งยังมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ผสมในเนื้อโปรแกรมฟิลเลอร์เพื่อลดความเจ็บระหว่างทำ โปรแกรม Art Filler มีสูตรให้เลือกหลายแบบ ทำให้ โปรแกรม Art Filler ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในคลินิกเสริมความงาม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เคยมีประสบการณ์แล้ว และกำลังมองหาทางเลือกใหม่ สำหรับใครที่กำลังพิจารณาโปรแกรมฟิลเลอร์ ที่ให้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนกับโครงหน้าเดิม โปรแกรม Art Filler คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

เทคโนโลยีของโปรแกรม Art Filler มีอะไรน่าสนใจบ้าง
เมื่อพูดถึงโปรแกรมฟิลเลอร์นั้น โปรแกรม Art Filler ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มองหาผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ จุดแข็งของโปรแกรม Art Filler ไม่ได้อยู่แค่ความเนียนของผลลัพธ์เท่านั้น แต่ยังอยู่ที่เทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งทำให้โปรแกรมฟิลเลอร์ตัวนี้แตกต่างจากแบรนด์อื่นในตลาดอย่างชัดเจน ต่อไปนี้คือเทคโนโลยีที่ทำให้โปรแกรม Art Filler กลายเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์

• โปรแกรม Art Filler มี TRI-HYAL Technology หัวใจหลักของโปรแกรม Art Filler คือเทคโนโลยี TRI-HYAL ที่รวมกรดไฮยาลูโรนิก 3 ชนิดในเนื้อเจลเดียวกัน ช่วยเพิ่มทั้งความคงตัว ความยืดหยุ่น และการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ

• โปรแกรม Art Filler มีเนื้อเจลนุ่มละเอียด ยืดหยุ่นสูง ทำให้โปรแกรม Art Filler เหมาะกับทั้งจุดที่ต้องการความเรียบเนียน เช่น ใต้ตา และจุดที่ต้องการโครงสร้าง เช่น คาง ขมับ หรือร่องแก้มลึก

• โปรแกรม Art Filler มี Lidocaine ผสมในเนื้อโปรแกรมฟิลเลอร์ ลดความรู้สึกเจ็บระหว่างฉีด ทำให้การเข้ารับบริการ โปรแกรม Art Filler เป็นประสบการณ์ที่สบายยิ่งขึ้น

• โปรแกรม Art Filler มีเทคโนโลยีช่วยลดการเกิดก้อนหลังฉีด เนื้อโปรแกรมฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดี ไม่จับตัวแข็ง ทำให้ โปรแกรม Art Filler ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงอย่างก้อนหรือตุ่มนูนหลังฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• โปรแกรม Art Filler สามารถคงรูปนานแต่ไม่แข็ง ด้วยโครงสร้างไฮบริดเฉพาะ ทำให้โปรแกรม Art Filler คงวอลลุ่มได้นาน โดยไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งหรอือล็อกเกินจริง

• โปรแกรม Art Filler มี สามารถเลือกสูตรได้ตามบริเวณที่ต้องการฉีด โปรแกรม Art Filler มีสูตร Fine Lines, Universal, Volume และ Lips ที่ออกแบบมาเฉพาะแต่ละปัญหา ช่วยให้แพทย์เลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง

• โปรแกรม Art Filler มีเหมาะกับการฉีดแบบไม่หลอกตา จุดแข็งของโปรแกรม Art Filler คือความดูเป็นธรรมชาติ เนื้อเจลกลืนกับผิวเดิม จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลุคละมุน ดูสวยโดยไม่รู้ว่าไปทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์มา

โปรแกรม Art Filler มีกี่รุ่น อะไรบ้าง
หนึ่งในจุดแข็งของ โปรแกรม Art Filler คือการออกแบบสูตรของโปรแกรมฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะจุด ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถเลือกใช้ได้ตรงกับปัญหาของคนไข้แต่ละรายมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันโปรแกรม Art Filler มีทั้งหมด 4 รุ่นหลัก โดยแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติและการใช้งานที่ต่างกัน ดังนี้

• โปรแกรม Art Filler Fine Lines เนื้อเจลบางเบา เหมาะสำหรับฉีดบริเวณริ้วรอยตื้น ๆ เช่น รอยย่นใต้ตา รอยย่นรอบริมฝีปาก
• โปรแกรม Art Filler Universal เป็นสูตรยอดนิยม ใช้ได้อเนกประสงค์ทั้งเติมร่องแก้ม ขมับ คาง และกรอบหน้า ให้ผลลัพธ์ที่เนียนและคงตัวดี
• โปรแกรม Art Filler Volume สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่ม เช่น โหนกแก้ม คาง หรือผู้ที่ต้องการปรับหน้าให้คมชัด
• โปรแกรม Art Filler Lips ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเติมริมฝีปากโดยเฉพาะ เนื้อเจลยืดหยุ่นดี ให้สัมผัสที่นุ่มและดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

ข้อดี-ข้อจำกัดของโปรแกรม Art Filler
ในปัจจุบันเป็นเทรนด์ความงามที่ดูเป็นธรรมชาติ โปรแกรมฟิลเลอร์จึงต้องตอบโจทย์ทั้งด้านผลลัพธ์และคุณภาพ ซึ่งโปรแกรม Art Filler จากฝรั่งเศสก็กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยี TRI-HYAL และความสามารถในการออกแบบเนื้อเจลให้เหมาะกับแต่ละจุดบนใบหน้า แต่เช่นเดียวกับทุกโปรแกรมความงาม โปรแกรม Art Filler ก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจทำ

ข้อดีของโปรแกรม Art Filler
• โปรแกรม Art Filler มีเนื้อนุ่มและยืดหยุ่นสูง ซึ่งโปรแกรม Art Filler มีคุณสมบัติเด่นด้านเนื้อเจลที่นุ่มและมีความยืดหยุ่นสูงกว่าโปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไป ทำให้เมื่อฉีดเข้าไปในผิวแล้วสามารถกลืนไปกับเนื้อเยื่อได้อย่างดูเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดอาการตึงหรือแข็งใบหน้า จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบดูไม่รู้ว่าฉีดมา

• โปรแกรม Art Filler มีสูตรให้เลือกหลายประเภท โดยที่โปรแกรม Art Filler ถูกออกแบบให้มีหลายสูตรที่ตอบโจทย์ปัญหาบนใบหน้าหลากหลายจุด เช่น Fine Lines สำหรับริ้วรอยตื้น, Universal สำหรับเติมเต็มทั่วใบหน้า, Volume สำหรับเพิ่มวอลลุ่มบริเวณแก้ม คาง ขมับ และสูตร Lips ที่ใช้เฉพาะในการปรับรูปปาก ซึ่งการมีตัวเลือกที่หลากหลายนี้ทำให้แพทย์สามารถวางแผนการฉีดได้อย่างแม่นยำ

• โปรแกรม Art Filler มีการผสมยาชาในตัว (Lidocaine) ในทุกสูตรของโปรแกรม Art Filler จะมีส่วนผสมของยาชา Lidocaine อยู่ภายในเนื้อเจล จึงช่วยลดความเจ็บระหว่างฉีด ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายมากขึ้นแม้ในจุดที่ผิวบาง เช่น รอบดวงตาหรือริมฝีปาก ช่วยยกระดับประสบการณ์การฉีดให้น่าประทับใจ

• โปรแกรม Art Filler สามารถกระจายตัวดี ลดโอกาสเกิดก้อน เนื้อของโปรแกรม Art Filler มีโครงสร้างโมเลกุลที่พิเศษ ทำให้สามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอภายในชั้นผิว ไม่จับตัวเป็นก้อนหลังฉีด เหมาะอย่างยิ่งกับบริเวณที่ผิวบางและบอบบาง เช่น ใต้ตา หรือบริเวณร่องแก้มที่ต้องการความเนียนละเอียด

• โปรแกรม Art Filler แพทย์สามารถควบคุมรูปทรงได้ละเอียด ด้วยคุณสมบัติของเนื้อเจลที่ยืดหยุ่นแต่ไม่ไหลย้อย ทำให้แพทย์สามารถวางตำแหน่งและควบคุมทิศทางของการเติมได้แม่นยำ สามารถแก้ไขรายละเอียดเล็ก ๆ ของใบหน้าได้อย่างเฉพาะจุด เช่น การยกปลายจมูกเล็กน้อย หรือปรับความไม่สมมาตรของริมฝีปาก

ข้อจำกัดของโปรแกรม Art Filler
• ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในบางประเทศ แม้โปรแกรม Art Filler จะได้รับความนิยมมากในยุโรป โดยเฉพาะในฝรั่งเศสและประเทศแถบยุโรปตะวันตก แต่ในบางประเทศ รวมถึงประเทศไทย ชื่อของโปรแกรม Art Filler ยังอาจไม่คุ้นหูเท่ากับแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานานอย่างโปรแกรม Juvederm หรือโปรแกรม Restylane ส่งผลให้บางคนยังลังเลในการเลือกใช้ แม้จะมีคุณสมบัติที่ดีไม่แพ้กัน

• ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีเข้าใจในเนื้อของ Art Filler เนื่องจากโปรแกรม Art Filler มีความพิเศษเรื่องเนื้อเจลที่ยืดหยุ่นสูงและมีความนุ่มมากกว่าโปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไป การควบคุมทิศทางและระดับชั้นผิวจึงต้องอาศัยทักษะ หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ออกมาตามที่ตั้งใจได้ เช่น โปรแกรมฟิลเลอร์กระจายตัวผิดทิศทาง หรือเกิดความไม่สมดุลของรูปหน้า

• ราคาอาจสูงกว่าโปรแกรมฟิลเลอร์ทั่วไปบางยี่ห้อ เนื่องจากโปรแกรม Art Filler เป็นโปรแกรมฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ราคาต่อซีซีจึงสูงกว่าโปรแกรมฟิลเลอร์บางแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานาน ทำให้ผู้ที่มีงบประมาณจำกัดอาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเลือกใช้

• ไม่เหมาะสำหรับการเติมเต็มปริมาณมากในบริเวณที่ต้องการโครงสร้างชัดเจน โปรแกรม Art Filler เหมาะกับการเกลี่ยผิวให้เรียบเนียนและเน้นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ มากกว่าการใช้เพื่อสร้างรูปทรงชัดเจน เช่น การเสริมจมูกให้โด่ง หรือการเติมคางแบบโครงชัดแน่น ในกรณีที่ต้องการผลลัพธ์แบบมีโครงสร้าง อาจเลือกใช้โปรแกรมฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่คงรูปได้มากกว่านี้จะเหมาะสมกว่า

โปรแกรม Art Filler เหมาะกับใคร
ในยุคที่ความงามต้องเน้นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โปรแกรม Art Filler ได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงใบหน้าแบบนุ่มละมุน โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือเสี่ยงกับผลลัพธ์ที่แข็งตึง ด้วยคุณสมบัติพิเศษของเนื้อเจลที่ยืดหยุ่น นุ่ม และกระจายตัวได้ดี โปรแกรม Art Filler จึงถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในหลายบริเวณบนใบหน้า และตอบโจทย์ความต้องการของคนหลากหลายกลุ่ม โดยที่โปรแกรม Art Filler เหมาะกับคนที่มีลักษณะดังนี้

• โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มริ้วรอยตื้นหรือร่องลึกแบบดูเป็นธรรมชาติ
• โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับให้หน้าสวยละมุน ไม่เน้นโครงชัด
• โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางหรือมีปัญหาใต้ตาคล้ำ ร่องน้ำตาลึก
• โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่เคยทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แบรนด์อื่นแล้วรู้สึกแข็ง หรือไม่เป็นธรรมชาติ
• โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการฉีดริมฝีปากให้อวบอิ่มแต่ยังคงความละมุน
• โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แล้วอยากเปลี่ยนแบรนด์
• โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นหลังทำ
• โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์อยู่ได้นาน โดยไม่ต้องเติมบ่อย
• โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับในจุดเล็ก ๆ บนใบหน้าอย่างละเอียด เช่น ขมับ คาง หรือกรอบหน้า
• โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่มองหาโปรแกรมฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ

โปรแกรม Art Filler ฉีดตรงไหนได้บ้าง
โปรแกรม Art Filler ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในหลายบริเวณบนใบหน้า และตอบโจทย์ความต้องการของคนหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเฉพาะจุดอย่างดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถนำไปฉีดในบริเวณต่าง ๆ และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดังนี้

• โปรแกรม Art Filler สามารถฉีดบริเวณใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึก ร่องน้ำตา และลดความหมองคล้ำ
• โปรแกรม Art Filler สามารถฉีดบริเวณร่องแก้ม เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และลดความลึกของร่อง
• โปรแกรม Art Filler สามารถฉีดเติมริมฝีปาก เพื่อให้ปากดูอวบอิ่ม เรียบเนียน และมีรูปทรงที่สวยละมุน
• โปรแกรม Art Filler สามารถฉีดบริเวณคาง เพื่อปรับใบหน้าให้สมดุลและละมุนมากขึ้น
• โปรแกรม Art Filler สามารถฉีดบริเวณขมับ เพื่อเติมเต็มให้ใบหน้าดูสมบูรณ์ มีมิติ ไม่ตอบหรือโทรม
• โปรแกรม Art Filler สามารถฉีดบริเวณกรอบหน้า เพื่อช่วยปรับความคมให้หน้าดูเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ
• โปรแกรม Art Filler สามารถฉีดเติมหน้าผาก สำหรับผู้ที่มีหน้าผากแบนหรือไม่เรียบ เพื่อให้โครงหน้าดูละมุนขึ้น
• โปรแกรม Art Filler สามารถฉีดบริเวณรอยย่นรอบปาก เช่น มุมปากตก หรือร่องน้ำหมาก เพื่อให้หน้าดูสดใสขึ้น
• โปรแกรม Art Filler สามารถฉีดเติมริ้วรอยตื้นทั่วใบหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผากหรือหว่างคิ้ว
• โปรแกรม Art Filler สามารถใช้เสริมความเรียบเนียนทั่วใบหน้าในจุดที่ผิวไม่สม่ำเสมอ หรือขาดความชุ่มชื้น

เปรียบเทียบโปรแกรม Art Filler เทียบกับยี่ห้อโปรแกรมฟิลเลอร์อื่น
ในผู้ที่เคยทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นมาแล้ว และกำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เมื่อเทียบกับยี่ห้อโปรแกรมฟิลเลอร์อื่น ๆ ในท้องตลาด โปรแกรม Art Filler มีจุดเด่นและจุดต่างที่ควรพิจารณาดังนี้

• โปรแกรม Art Filler เทียบกับโปรแกรม Juvederm โดยที่โปรแกรม Art Filler เน้นความนุ่มและยืดหยุ่นมากกว่า ให้ผลลัพธ์ดูละมุน ขณะที่โปรแกรม Juvederm จะเด่นเรื่องโครงสร้างชัดเจนและอยู่ได้นานกว่าเล็กน้อย

• โปรแกรม Art Filler เทียบกับโปรแกรม Restylane โดยที่โปรแกรม Art Filler มีความนุ่มและเจ็บน้อยกว่า เพราะมี Lidocaine ผสมทุกสูตร ส่วนโปรแกรม Restylane เนื้อเจลจะค่อนข้างแน่น เหมาะกับการเติมโครงสร้างชัดเจนมากกว่า

• โปรแกรม Art Filler เทียบกับโปรแกรม Neuramis โดยที่โปรแกรม Art Filler เหมาะกับผู้ที่ต้องการความดูเป็นธรรมชาติ และเนื้อเจลมีความละเอียดมากกว่าโปรแกรม Neuramis ซึ่งเหมาะกับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนในงบประมาณคุ้มค่า

• โปรแกรม Art Filler เทียบกับโปรแกรม Belotero ทั้งสองยี่ห้อให้ผลลัพธ์เนียน ดูเป็นธรรมชาติคล้ายกัน แต่โปรแกรม Art Filler จะมีเทคโนโลยี TRI-HYAL ที่เน้นความกลืนตัวกับผิวมากขึ้น ในขณะที่โปรแกรม Belotero มีความโดดเด่นเรื่องลดการเกิดรอยปูดหลังฉีด

• โปรแกรม Art Filler เทียบกับโปรแกรม Teosyal โดยที่โปรแกรม Art Filler จะให้ลุคที่ดูเนียนละมุนกว่า ในขณะที่โปรแกรม Teosyal จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการความชัดของผลลัพธ์และการยกกระชับในบางจุดมากกว่า

การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรมฉีด Art Filler
โปรแกรม Art Filler ได้กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิว หรือแก้ไขจุดบกพร่องแบบสวยละมุน โดยไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด ด้วยคุณสมบัติของเนื้อเจลที่ยืดหยุ่น นุ่ม และกระจายตัวได้ดี โปรแกรม Art Filler จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผลลัพธ์ของ โปรแกรม Art Filler ออกมาสวยงาม และอยู่ได้นาน ก่อนเข้ารับบริการฉีดโปรแกรม Art Filler ควรเตรียมตัวตามคำแนะนำต่อไปนี้

• หลีกเลี่ยงการทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วิตามินอี หรือสมุนไพรบางชนิด ควรงดอย่างน้อย 5-7 วันก่อนทำโปรแกรม Art Filler เพื่อลดโอกาสเกิดรอยช้ำหรือบวม

• งดแอลกอฮอล์ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการขยายตัวของหลอดเลือด ซึ่งอาจทำให้ระหว่างทำโปรแกรม Art Filler เกิดรอยช้ำหรือบวมมากกว่าปกติ

• ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และส่งผลให้โปรแกรม Art Filler กลืนกับผิวได้ดีขึ้นหลังฉีด

• นอนพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันทำ ร่างกายที่พักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้การฟื้นตัวหลังทำโปรแกรม Art Filler เป็นไปอย่างรวดเร็ว และลดอาการบวมช้ำได้ดีขึ้น

• งดทำทรีตเมนต์รุนแรง หรือเลเซอร์ก่อนหน้า อย่างน้อย 5 วันก่อนทำโปรแกรม Art Filler ไม่ควรทำเลเซอร์ร้อน หรือทรีตเมนต์ที่กระตุ้นผิวมากเกินไป เพื่อป้องกันการระคายเคือง

• หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนล่วงหน้า เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการฉีด โปรแกรม Art Filler ได้อย่างเหมาะสมกับร่างกายของแต่ละบุคคล

• ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในวันที่เข้ารับบริการ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจดก่อนทำ โปรแกรม Art Filler และลดโอกาสเกิดการอักเสบหลังทำ

• ควรเลือกรับบริการกับแพทย์เท่านั้น เนื่องจาก โปรแกรม Art Filler มีคุณสมบัติพิเศษเรื่องความนุ่มและการกระจายตัว แพทย์ที่มีเทคนิคดี จะสามารถควบคุมผลลัพธ์ได้สวยกลมกลืน

• วางแผนเวลาหลังทำอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวจาก โปรแกรม Art Filler และสามารถหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบวม เช่น การอบซาวน่า หรือกิจกรรมที่มีแรงกระแทก

หากไม่แน่ใจว่า โปรแกรม Art Filler เหมาะกับตนเองหรือไม่ ควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ เพื่อให้ได้รับคำแนะนำแบบเฉพาะบุคคล และมั่นใจว่า โปรแกรม Art Filler ตอบโจทย์ปัญหาผิวและความต้องการของคุณจริง ๆ

การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมฉีด Art Filler
โปรแกรม Art Filler ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างดูเป็นธรรมชาติโดยไม่ดูแข็งหรือหลอกตา อย่างไรก็ตาม หลังจากทำโปรแกรม Art Filler การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยลดอาการบวมช้ำ ฟื้นฟูผิวได้เร็วขึ้น และทำให้ผลลัพธ์ของโปรแกรม Art Filler อยู่ได้นานและคงสภาพสวยงามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองหลังทำมีดังนี้

• หลีกเลี่ยงการจับ ขยับ หรือกดแรงบริเวณที่ฉีด หลังจากทำโปรแกรม Art Filler อย่างน้อย 6-12 ชั่วโมง ไม่ควรนวดหรือกดแรง เพราะอาจทำให้โปรแกรมฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือกระจายไม่สม่ำเสมอ

• งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนสูง เช่น การซาวน่า อบไอน้ำ หรือออกกำลังกายหนัก ภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังทำโปรแกรม Art Filler เพื่อหลีกเลี่ยงการบวมและโปรแกรมฟิลเลอร์ละลายเร็วเกินไป

• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ใน 48 ชั่วโมงแรก เพราะแอลกอฮอล์มีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด อาจทำให้บริเวณที่ทำโปรแกรม Art Filler บวมแดงหรือช้ำมากขึ้น

• ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้เนื้อของโปรแกรมฟิลเลอร์จากโปรแกรม Art Filler กลืนกับชั้นผิวได้ดี และคงผลลัพธ์ได้นาน

• หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงทับด้านที่ฉีด โดยเฉพาะในช่วง 2 คืนแรกหลังทำโปรแกรม Art Filler เพื่อป้องกันไม่ให้โปรแกรมฟิลเลอร์เปลี่ยนรูปทรงหรือเคลื่อนตำแหน่ง

• หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนักหรือใช้เครื่องสำอางที่มีสารระคายเคือง อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังทำโปรแกรม Art Filler เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรืออักเสบ

• หากมีอาการบวมแดงหรือรู้สึกตึงเล็กน้อยถือเป็นเรื่องปกติ แต่อาการเหล่านี้จากโปรแกรม Art Filler จะค่อย ๆ ลดลงภายใน 1-3 วัน หากอาการรุนแรงควรรีบพบแพทย์ทันที

• หลีกเลี่ยงการทำโปรแกรมเลเซอร์หรือทรีตเมนต์รุนแรงบริเวณที่ฉีด อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังทำโปรแกรม Art Filler เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนหรือระคายเคืองเพิ่มเติม

• ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะการดูแลแต่ละกรณีอาจแตกต่างกัน และการฉีดโปรแกรม Art Filler ที่แม่นยำควรมีการติดตามผล

• เข้ารับการประเมินซ้ำตามนัด เพื่อเช็กผลลัพธ์และเติมจุดที่จำเป็น หากต้องการคงผลลัพธ์ของโปรแกรม Art Filler ให้นานและสมบูรณ์ที่สุด แพทย์อาจนัดติดตามในช่วง 2 สัปดาห์หลังทำ

โปรแกรม Art Filler ที่ไหนดี โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ APEX Beauty
หากคุณกำลังมองหาคลินิกในการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ APEX Beauty คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าไว้วางใจ แพทย์ของ APEX มีประสบการณ์ในการใช้โปรแกรมฟิลเลอร์ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาละมุน กลืนกับผิว และตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคล พร้อมบริการติดตามผลหลังทำอย่างใกล้ชิด

เพื่อให้คุณมั่นใจว่า การเลือกทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่ APEX Beauty จะไม่ทำให้ผิดหวัง หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาได้เลยนะคะ แล้วพบกันค่ะ

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ Art Filler คืออะไร แตกต่างจากฉีดฟิลเลอร์อื่นอย่างไร มีกี่รุ่น,Art Filler หรือสอบถามรายละเอียด โปรโมชั่นพิเศษ หรือ หัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

โปนแกรม Art Filler สารเติมเต็มเนื้อละมุน เนื้อเจลนุ่ม ยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อเติมเต็มที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง จะดีขนาดไหน บทความนี้มีคำตอบ