ใต้ตาหย่อน คืออะไร เกิดจากสาเหตุ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาได้ไหม

ใต้ตาหย่อน แก้ยังไงดี รวมทุกวิธีดูแลและแก้ปัญหาแบบตรงจุด
ใต้ตาหย่อน แก้ยังไงได้บ้าง รวมวิธีแก้หน้าโทรมที่เกิดจากปัญหาใต้ตา
ปัญหา “ใต้ตาหย่อน” เป็นหนึ่งในสัญญาณแห่งวัยที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า โทรม และดูอ่อนล้ากว่าความเป็นจริง แม้จะพักผ่อนเพียงพอหรือแต่งหน้าแค่ไหนก็ยังปกปิดได้ไม่หมด เพราะผิวบริเวณรอบดวงตามีความบางและบอบบางกว่าจุดอื่น จึงแสดงความหย่อนคล้อยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีโครงสร้างกระดูกเบ้าตาลึก หรือมีถุงใต้ตาหย่อนชัดอยู่แล้ว ปัญหาใต้ตาหย่อนจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความงามเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงสุขภาพผิวโดยรวมด้วย แล้วแบบนี้จะแก้ยังไงได้บ้าง? เรารวบรวมวิธีแก้ปัญหาใต้ตาหย่อนที่ช่วยคืนความสดใสให้ใบหน้า ทั้งวิธีธรรมชาติ และหัตถการที่เห็นผลไว มาไว้ให้แล้วที่นี่

ใต้ตาหย่อน เกิดจากอะไร?
ใต้ตาหย่อนเกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังตามอายุ ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและหย่อนคล้อย นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากไขมันใต้ตาที่เคยรองรับผิวเกิดการเคลื่อนตัวลงต่ำหรือสะสมมากขึ้นจนดันผิวให้โป่งพอง รวมถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือการขยี้ตาบ่อย ๆ ก็มีผลให้ใต้ตาหย่อนคล้อยได้เร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีพันธุกรรมเบ้าตาลึกหรือโครงสร้างใบหน้าแบบบาง ผิวใต้ตาหย่อนชัดเจนกว่าคนทั่วไป

เจาะลึกสาเหตุจากโครงสร้างผิวที่ทำให้ใต้ตาหย่อน
แม้จะดูแลตัวเองดีแค่ไหน แต่หากโครงสร้างผิวและกระดูกบริเวณใต้ตาไม่แข็งแรง ก็อาจทำให้เกิดปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อยได้ง่ายขึ้น ปัญหานี้มักไม่ใช่แค่เรื่องผิวเผิน แต่เกี่ยวข้องลึกไปถึงชั้นผิว กล้ามเนื้อ ไขมัน และกระดูกโครงหน้าโดยตรง มาดูสาเหตุเชิงโครงสร้างที่ทำให้ใต้ตาหย่อนกันค่ะ

• ใต้ตาหย่อนเกิดจากไขมันใต้ตาเคลื่อนตัวหรือสะสมมากเกินไป เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ไขมันที่อยู่รอบเบ้าตาจะเคลื่อนลงต่ำหรือสะสมจนดันผิวออกมา ทำให้เกิดถุงใต้ตาหย่อนและผิวที่หย่อนยานตามมา

• ใต้ตาหย่อนเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว คอลลาเจนและอีลาสตินทำหน้าที่พยุงโครงสร้างผิว เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตได้น้อยลง ทำให้ผิวไม่ตึงกระชับและป้องกันใต้ตาหย่อนคล้อยง่าย

• ใต้ตาหย่อนเกิดจากกล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแรง กล้ามเนื้อ orbicularis oculi ที่ล้อมรอบดวงตาหากอ่อนแรง จะไม่สามารถพยุงไขมันและผิวไว้ได้ ส่งผลให้เกิดการหย่อนคล้อย

• ใต้ตาหย่อนเกิดจากกระดูกเบ้าตายุบตัวตามวัย กระดูกใต้เบ้าตาจะค่อย ๆ ยุบตัวตามวัย ทำให้ผิวและกล้ามเนื้อบริเวณนั้นไม่มีฐานรองรับ ส่งผลให้ใต้ตาหย่อนลงมา

• ใต้ตาหย่อนเกิดจากโครงสร้างเบ้าตาลึกโดยกำเนิด บางคนมีลักษณะเบ้าตาลึกหรือแก้มแบนมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้ไขมันใต้ตาดูชัดและใต้ตาหย่อนคล้อยง่ายกว่าคนทั่วไป

• ใต้ตาหย่อนเกิดจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวเสื่อมสภาพ ชั้นผิวมีการยึดโยงกันด้วยเนื้อเยื่อและชั้นพังผืด เมื่อโครงสร้างเหล่านี้อ่อนแอลง ก็ทำให้ผิวใต้ตาหย่อนและไม่สามารถยึดเกาะได้เหมือนเดิม

• ใต้ตาหย่อนเกิดจากผิวบางตามธรรมชาติ ผิวใต้ตาเป็นบริเวณที่บางที่สุดของร่างกาย ทำให้แสดงสัญญาณความหย่อนคล้อยได้ชัดเจน แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในชั้นลึกของผิว

ถุงใต้ตากับใต้ตาหย่อน ต่างกันอย่างไร?
ถุงใต้ตาและใต้ตาหย่อน แม้จะดูคล้ายกันแต่จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกันในเชิงโครงสร้างและลักษณะปัญหา "ถุงใต้ตา" คืออาการที่ไขมันใต้ตาดันออกมาจนเกิดเป็นก้อนพองนูน เห็นได้ชัดเวลายิ้มหรือแม้แต่ในขณะพักหน้า ขณะที่ "ใต้ตาหย่อน" คือภาวะที่ผิวหนังบริเวณใต้ตาเริ่มขาดความกระชับ หย่อนคล้อยและบาง อาจเกิดร่วมกับริ้วรอยหรือผิวดูย้วย ไม่ตึงเหมือนเดิม โดยบางคนอาจมีทั้งสองปัญหาควบคู่กัน ทำให้ใบหน้าดูโทรมและเหนื่อยล้ายิ่งขึ้น

ใต้ตาหย่อนก่อนวัย เกิดจากอะไรบ้าง?
ใต้ตาหย่อนก่อนวัยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้แม้ในวัยรุ่นหรือวัยทำงาน และมักสร้างความกังวลใจไม่น้อย โดยสาเหตุหลักมักเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและพันธุกรรม หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมผิวหนังได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ใต้ตาหย่อนและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้ การขยี้ตาบ่อย สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การได้รับรังสี UV โดยไม่มีการป้องกัน รวมถึงการใช้สายตาเป็นเวลานาน เช่น จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือ ก็สามารถเร่งให้ใต้ตาหย่อนและผิวบริเวณนั้นเสื่อมลงได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งพฤติกรรมเหล่านี้ยังทำให้ใต้ตาหย่อนชัดขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่มีการดูแลอย่างเหมาะสม อีกปัจจัยสำคัญคือโครงสร้างใบหน้าที่ได้รับจากพันธุกรรม เช่น มีเบ้าตาลึกหรือผิวบางแต่กำเนิด ทำให้เกิดอาการใต้ตาหย่อนและแสดงสัญญาณความหย่อนคล้อยได้เร็วกว่าคนทั่วไป แม้อายุยังน้อยก็ตาม

เครียด นอนไม่พอ ทำให้ใต้ตาหย่อนจริงไหม?
เครียดและนอนไม่พอส่งผลให้ใต้ตาหย่อนได้จริง เนื่องจากภาวะเครียดจะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งมีผลต่อการทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ส่งผลให้ใต้ตาหย่อนและผิวสูญเสียความยืดหยุ่นจนเกิดความหย่อนคล้อยได้ง่าย ขณะเดียวกันการนอนหลับไม่เพียงพอจะขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ผิวในช่วงเวลากลางคืน ทำให้ผิวใต้ตาหย่อนที่บอบบางอยู่แล้วเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งการนอนไม่พอยังส่งผลให้ของเหลวคั่งบริเวณใต้ตาหย่อน เกิดอาการบวมและผิวหนังขยายตัว เมื่อเกิดซ้ำบ่อย ๆ จะทำให้ใต้ตาหย่อนและเหี่ยวย่นในระยะยาวได้ นอกจากนี้พฤติกรรมการพักผ่อนไม่เพียงพออย่างต่อเนื่อง ยังส่งผลให้ใต้ตาหย่อนมีร่องรอยลึกและผิวบางลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น การจัดการความเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการป้องกันปัญหาใต้ตาหย่อนก่อนวัย

เมคอัพกลบใต้ตาหย่อนได้แค่ไหน?
เมคอัพสามารถช่วยพรางปัญหาใต้ตาหย่อนได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถแก้ไขความหย่อนคล้อยของใต้ตาหย่อนได้อย่างถาวร โดยทั่วไปมักใช้คอนซีลเลอร์ที่มีเนื้อบางเบาและปกปิดดีในการกลบรอยคล้ำและปรับผิวให้ใต้ตาหย่อนดูเรียบเนียนขึ้น รวมถึงการใช้เทคนิคไฮไลต์-เฉดดิ้งอย่างระมัดระวังเพื่อหลอกตาให้ร่องลึกและใต้ตาหย่อนดูตื้นขึ้น อย่างไรก็ตาม หากใต้ตาหย่อนคล้อยหรือมีถุงไขมันใต้ตาหย่อนชัดเจน การแต่งหน้าจะช่วยได้เพียงเล็กน้อย และอาจทำให้ผิวใต้ตาหย่อนดูหนาเกินไปหากพยายามปกปิดมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อแต่งหน้าทับบนใต้ตาหย่อนที่มีรอยย่นหรือหย่อน อาจทำให้เครื่องสำอางตกร่องหรือเน้นปัญหาใต้ตาหย่อนชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้น เมคอัพจึงเหมาะสำหรับการแก้ปัญหาใต้ตาหย่อนในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวควรพิจารณาการบำรุงหรือหัตถการทางการแพทย์ควบคู่กันไปเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืนกว่า

ใต้ตาหย่อน คืออะไร เกิดจากสาเหตุ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาได้ไหม

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาหย่อน ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

รวม 5 วิธีรักษาใต้ตาหย่อนด้วยตัวเองได้ที่บ้าน
แน่นอนค่ะ ปัญหาใต้ตาหย่อนอาจดูเหมือนต้องพึ่งพาหัตถการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีหลายวิธีที่สามารถดูแลและฟื้นฟูผิวใต้ตาหย่อนคล้อยได้ด้วยตัวเองที่บ้านโดยใช้วิธีแบบธรรมชาติ ไม่ต้องใช้สารฉีดหรือเครื่องยกกระชับใด ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีอาการหรืออยากดูแลผิวรอบดวงตาให้กระชับอยู่เสมอ ลองทำตาม 5 วิธีง่าย ๆ เหล่านี้เป็นประจำ จะช่วยให้ผิวใต้ตาหย่อยกลับมาดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

• แก้ใต้ตาหย่อนด้วยการประคบเย็นเป็นประจำ การประคบเย็นช่วยลดอาการบวม กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และทำให้ผิวบริเวณใต้ตาหย่อนนั้น แลดูกระชับขึ้น โดยวิธีทำให้ใช้ช้อนแช่เย็น, ถุงชาแช่เย็น หรือแผ่นมาส์กเจลเย็น ประคบบริเวณที่ใต้ตาหย่อนวันละ 5–10 นาที

• แก้ใต้ตาหย่อนด้วยการทาอายครีมที่มีสารกระตุ้นคอลลาเจน อายครีมที่มีส่วนผสมของ Peptide, Retinol, Caffeine หรือ Hyaluronic Acid จะช่วยฟื้นฟูผิวใต้ตาหย่อน ให้กลับมาแน่นและชุ่มชื้น โดยทาวันละ 2 ครั้ง เช้า–ก่อนนอน และใช้นิ้วนางแตะเบา ๆ เพื่อไม่ให้ผิวบอบบางถูกดึงรั้ง

• แก้ใต้ตาหย่อนด้วยการนวดรอบดวงตาอย่างอ่อนโยน การนวดช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและระบายของเหลวสะสม ลดอาการบวมและช่วยให้ผิวเฟิร์มขึ้น โดยใช้นิ้วนางนวดเบา ๆ เป็นวงกลมจากหัวตาไปหางตา วันละ 1–2 ครั้ง พร้อมครีมหรือออยล์บำรุง

• แก้ใต้ตาหย่อนด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับไม่พอเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของใต้ตาหย่อนและความหมองคล้ำควรนอนหลับให้ได้ 7–8 ชั่วโมง/วัน และหนุนหมอนให้ศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดการคั่งของของเหลว

• แก้ใต้ตาหย่อนด้วยการปรับพฤติกรรมการกินและดื่ม การบริโภคอาหารเค็มจัด ดื่มน้ำน้อย หรือดื่มแอลกอฮอล์บ่อย จะทำให้ผิวขาดน้ำและบวมง่าย ดื่มน้ำวันละ 6–8 แก้ว เลี่ยงอาหารโซเดียมสูง และเพิ่มผัก-ผลไม้ที่มีวิตามินซีและอี

อาหารและวิตามินช่วยลดใต้ตาหย่อนได้หรือไม่?
อาหารและวิตามินสามารถช่วยชะลอและลดอาการใต้ตาหย่อนได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อเน้นการบริโภคสารอาหารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น วิตามิน C ซึ่งพบมากในผลไม้ตระกูลส้ม ฝรั่ง และเบอร์รี่ ช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนัง วิตามิน E ที่มีในอัลมอนด์ อะโวคาโด และน้ำมันพืช ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดความเสื่อมของเซลล์ผิว รวมถึงสังกะสี (Zinc), วิตามิน A และโอเมก้า-3 ที่ช่วยฟื้นฟูผิว ลดอาการอักเสบ และป้องกันผิวหย่อนคล้อยได้ดี แม้การรับประทานอาหารและวิตามินจะไม่สามารถยกกระชับใต้ตาหย่อนได้ทันทีเหมือนหัตถการ แต่ถือเป็นการบำรุงจากภายในที่มีผลดีต่อสุขภาพผิวในระยะยาว และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดใต้ตาหย่อนก่อนวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใต้ตาหย่อน คืออะไร เกิดจากสาเหตุ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาได้ไหม

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาหย่อน ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ใต้ตาหย่อนได้หรือไม่?
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตาหย่อนได้ในหลายกรณี โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาใต้ตาหย่อนจาก การขาดปริมาตรผิวหรือร่องลึกใต้ตา มากกว่าการหย่อนคล้อยของผิวหนังอย่างรุนแรง โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid (HA) จะถูกฉีดเข้าไปในบริเวณที่เป็นร่องหรือยุบตัว เพื่อเติมเต็มให้ผิวดูเรียบตึงขึ้น ลดเงาและความหมองคล้ำใต้ตา และช่วยให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์มากขึ้น

ใต้ตาหย่อน คืออะไร เกิดจากสาเหตุ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาได้ไหม

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาหย่อน ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตาม โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ไม่สามารถยกกระชับผิว ได้เหมือนกับหัตถการยกกระชับหรือผ่าตัด ดังนั้นหากใต้ตาหย่อนมากจากผิวหนังที่สูญเสียความยืดหยุ่น หรือมีไขมันหย่อนคล้อยลงมา อาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การร้อยไหม เลเซอร์ หรือการผ่าตัดถุงใต้ตาหย่อน

ใต้ตาหย่อน คืออะไร เกิดจากสาเหตุ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาได้ไหม

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาหย่อน ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ร้อยไหม สามารถแก้ปัญหาใต้ตาหย่อนได้หรือไม่?
ร้อยไหมสามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตาหย่อนได้ในบางกรณี โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อยแต่ยังไม่มาก และยังไม่มีไขมันหรือถุงใต้ตาหย่อน มีความนูนออกมาชัดเจน วิธีนี้ทำได้โดยการใช้ไหมละลายชนิดพิเศษ (เช่น PDO, PLLA หรือ PCL) ร้อยเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณใต้ตาหย่อน เพื่อช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนให้แน่นขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึงขึ้นแลดูธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม การร้อยไหมบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อย จัดว่าเป็นตำแหน่งที่ละเอียดอ่อนมาก เนื่องจากผิวบางและใกล้กับดวงตา จึงต้องอาศัยเทคนิคที่แม่นยำและแพทย์ต้องมีทักษะเป็นพิเศษ หากร้อยไหมผิดตำแหน่งหรือใช้ไหมที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวเป็นคลื่น เส้นไหมทะลุ หรือเกิดการอักเสบได้

ผ่าตัดหนังตาล่าง แก้ปัญหาใต้ตาหย่อนได้ดีกว่าวิธีอื่นยังไง?
การผ่าตัดหนังตาล่าง (Lower Blepharoplasty) ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ปัญหาใต้ตาหย่อน โดยเฉพาะในกรณีที่มีไขมันสะสมใต้ตามาก ผิวหนังส่วนเกินหย่อนคล้อยชัดเจน หรือมีถุงใต้ตาหย่อนและมีขนาดใหญ่ ซึ่งวิธีนี้จะเข้าไปจัดการต้นตอ ของปัญหาโดยตรง ไม่ใช่แค่การเติมหรือยกกระชับชั่วคราวเหมือนโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หรือร้อยไหม โดยการผ่าตัดหนังตาล่างดีกว่าวิธีอื่นด้วยเหตุผลดังนี้

• ขจัดไขมันส่วนเกินอย่างตรงจุด แพทย์สามารถเอาไขมันที่ปูดนูนออก หรือนำไปจัดวางใหม่ให้สมดุล ทำให้ใต้ตาหย่อนนั้นดูเรียบเนียน ไม่บวม
• ตัดผิวหนังส่วนเกินที่ใต้ตาหย่อนคล้อยได้ ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาตึงขึ้นจริง ไม่ใช่แค่ดูแน่นชั่วคราว
• ผลลัพธ์อยู่ได้นาน เมื่อเทียบกับหัตถการอื่นที่ต้องทำซ้ำทุก 6–12 เดือน การผ่าตัดให้ผลที่ยาวนานกว่าอย่างชัดเจน
• แก้ไขทั้งถุงใต้ตาหย่อนได้ในคราวเดียว เหมาะมากสำหรับคนที่มีปัญหาหลายด้านพร้อมกัน เช่น ถุงใต้ตาหย่อน + ผิวบริเวณใต้ตาหย่อน + ร่องลึก

ควรเลือกวิธีไหนในการแก้ปัญหาใต้ตาหย่อน?
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหา “ใต้ตาหย่อน” และไม่แน่ใจว่าควรเลือกวิธีการดูแลหรือรักษาแบบไหนให้เหมาะกับตัวเองที่สุด การเข้าใจระดับความรุนแรงของปัญหา และสาเหตุที่แท้จริง จะช่วยให้เลือกแนวทางได้อย่างตรงจุด ไม่เสียเงินโดยไม่จำเป็น และได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและปลอดภัยมากที่สุด ลองดูแนวทางการเลือกวิธีแก้ปัญหาใต้ตาหย่อนตามลักษณะปัญหาด้านล่างนี้ค่ะ

ใต้ตาหย่อน คืออะไร เกิดจากสาเหตุ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาได้ไหม

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาหย่อน ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

หากมีใต้ตาหย่อนเล็กน้อยจากผิวแห้งหรือขาดการบำรุง
ในกรณีที่ใต้ตาหย่อนเพียงเล็กน้อยและเกิดจากปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น การดูแลด้วยครีมบำรุงที่มีส่วนผสมอย่าง Retinol, Peptide หรือ Hyaluronic Acid ถือว่าเพียงพอในการช่วยฟื้นฟูสภาพผิวใต้ตาหย่อนให้ดูแน่นและเรียบขึ้น ควบคู่กับการประคบเย็นและการนวดเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตใต้ตาหย่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้านทุกวันอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีใต้ตาหย่อนจากพฤติกรรมพักผ่อนน้อยหรือขาดการดูแลผิว วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางเริ่มต้น หรือผู้ที่เพิ่งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบริเวณใต้ตา แต่ยังไม่มีถุงหรือร่องลึกใต้ตาชัดเจนและต้องการป้องกันไม่ให้ใต้ตาหย่อนลึกลงในอนาคต

ใต้ตาหย่อน คืออะไร เกิดจากสาเหตุ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาได้ไหม

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาหย่อน ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

หากมีปัญหาร่องลึกใต้ตาที่ทำให้ใต้ตาหย่อน
สำหรับผู้ที่มีร่องลึกใต้ตา หรือมีเบ้าตาลึกที่ทำให้ใต้ตาหย่อน ใบหน้าดูโทรมหรือเหนื่อยล้าแม้พักผ่อนเพียงพอ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid เป็นทางเลือกที่นิยมและได้ผลดี โดยช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ดูเรียบเนียนและลดเงาที่เกิดจากแสงสะท้อนผิวได้ทันที เหมาะสำหรับการแก้ไขใต้ตาหย่อนที่มีสาเหตุจากการสูญเสียคอลลาเจนและไขมันตามวัย นอกจากนี้ยังอาจเสริมด้วย โปรแกรม Skin Booster เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ และช่วยให้ปัญหาใต้ตาหย่อนดูดีขึ้น วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่อายุประมาณ 25 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีโครงสร้างใบหน้าดูลึกแต่ผิวยังไม่หย่อนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีแนวโน้มใต้ตาหย่อนจากพันธุกรรมหรือไลฟ์สไตล์

ใต้ตาหย่อน คืออะไร เกิดจากสาเหตุ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาได้ไหม

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาหย่อน ที่ APEX ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

หากมีผิวใต้ตาหย่อนคล้อยจากอายุหรือคอลลาเจนลดลง
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวใต้ตาจะสูญเสียความยืดหยุ่นจากการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวเริ่มย้อย ริ้วรอยปรากฏชัดเจน การเลือกทำ ร้อยไหมใต้ตาหย่อน เพื่อยกกระชับผิวร่วมกับการ ยกกระชับด้วยเครื่องมืออย่าง โปรแกรม Thermage FLX แก้ใต้ตาหย่อน หรือ โปรแกรม Volnewmer Eyes แก้ใต้ตาหย่อน จะช่วยคืนความแน่นกระชับให้กับผิวในระดับลึก หากมีร่องลึกใต้ตาร่วมด้วย อาจทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่วมกันเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูนุ่มนวลขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 30–45 ปี ที่มีผิวหย่อนชัดเจนแต่ยังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด

หากมีถุงใต้ตาหรือไขมันนูนใต้ตาร่วมกับใต้ตาหย่อน
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวใต้ตาจะสูญเสียความยืดหยุ่นจากการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ใต้ตาหย่อน ผิวเริ่มย้อยและริ้วรอยปรากฏชัดเจน การเลือกทำร้อยไหมใต้ตาหย่อนถือเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยยกกระชับใต้ตาหย่อนได้อย่างเห็นผลดี ร่วมกับการยกกระชับด้วยเครื่องมืออย่าง โปรแกรม Thermage FLX แก้ใต้ตาหย่อน หรือ โปรแกรม Volnewmer Eyes แก้ใต้ตาหย่อน ซึ่งเน้นฟื้นฟูความกระชับในระดับลึกโดยตรงกับปัญหาใต้ตาหย่อน นอกจากนี้ หากมีร่องลึกใต้ตาร่วมด้วย อาจเสริมด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มให้ใต้ตาหย่อนดูเนียนเรียบและมีมิติยิ่งขึ้น วิธีการเหล่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30–45 ปี ที่มีปัญหาใต้ตาหย่อนชัดเจน แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องเลือกการผ่าตัดเป็นทางเลือกหลัก

หากมีปัญหาหลายอย่างร่วมกันที่ส่งผลให้ใต้ตาหย่อน
ในบางกรณี อาจพบทั้งถุงใต้ตาหย่อน ผิวหย่อน ร่องลึก และเบ้าตาลึกในคนเดียวกัน ซึ่งการรักษาเพียงวิธีเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีการประเมินอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อวางแผนแบบผสมผสาน เช่น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมร่องลึก + ผ่าตัดถุงใต้ตาหย่อนเพื่อลดไขมัน หรือ ทำโปรแกรมเลเซอร์ + โปรแกรม Skin Booster เพื่อฟื้นฟูผิวและสร้างสมดุลทั้งความแน่นและความชุ่มชื้น วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน อยู่ได้นาน และยังดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือหลอกตา

แก้ปัญหาใต้ตาหย่อนที่ APEX
ใต้ตาหย่อนคือหนึ่งในสัญญาณความอ่อนล้าที่สะท้อนออกมาบนใบหน้าอย่างชัดเจน ทำให้เราดูโทรม เหนื่อย และแก่กว่าวัย แม้จะนอนเต็มอิ่มหรือแต่งหน้ากลบก็ยังไม่สามารถปิดได้สนิท ซึ่งสาเหตุของใต้ตาหย่อนอาจมาจากผิวที่สูญเสียคอลลาเจนตามวัย ไขมันที่เคลื่อนตัวลงต่ำ หรือร่องลึกที่เห็นชัดจากโครงสร้างเบ้าตา

ที่ APEX เรามีทางออกให้กับปัญหาใต้ตาหย่อน ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาเพียงเล็กน้อยหรือมีถุงใต้ตาหย่อนชัดเจน เราพร้อมดูแลด้วยหัตถการที่เหมาะสม เช่น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ใบหน้าดูสดใสอ่อนเยาว์, โปรแกรม Skin Booster เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำและกระชับผิว, การร้อยไหมหรือโปรแกรมยกกระชับสำหรับผู้ที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อย รวมถึงการผ่าตัดถุงใต้ตาโดยแพทย์เฉพาะทางสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมและหนังส่วนเกิน ซึ่งจะช่วยแก้ไขได้อย่างตรงจุดและเห็นผลยาวนาน

ทีมแพทย์ของ APEX พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ ให้ดวงตากลับมาดูสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้งได้อย่างมั่นใจ หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาได้เลยนะคะ แล้วพบกันค่ะ

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

ใต้ตาหย่อน ทำให้หน้าดูโทรม แก่กว่าวัย แม้พักผ่อนเพียงพอ APEX รวบรวมวิธีแก้ปัญหาใต้ตาหย่อนในทุกระดับปัญหา ตั้งแต่ปัญหาเล็ก ๆ ไปจนถึงปัญหาใหญ่ พร้อมคืนความสดใสให้ดวงตาคุณอีกครั้ง