ทำไมอ้วนลงพุง จึงลดไม่ได้ด้วยการอดอาหารและออกกำลังกาย

ทำไมอ้วนลงพุง จึงลดไม่ได้ด้วยการอดอาหารและออกกำลังกาย?

หลายๆ คนที่ลงพุงคงเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเอง และหมดกำลังใจกับการลดน้ำหนัก เพราะไม่ว่าจะอดอาหารอย่างไรหรือออกกำลังกายวันละหลายชั่วโมง สัปดาห์ละหลายวัน ก็ยังไม่สามารถเอาไขมันส่วนเกินรอบเอวออกไปได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

7(1)

ร่างกายก็เหมือนกับโรงงาน
มีฮอร์โมนเป็นตัวควบคุมการทำงานของเครื่องจักรให้ทำงานปกติ

กลไกการทำงานภายในร่างกายเปรียบเสมือนกับโรงงานที่ต้องการพลังงานด้วยการรับประทานอาหาร มีการใช้พลังงาน มีการเผาผลาญอาหารเป็นพลังงานและใช้หมดไป เครื่องจักรต่างๆ ต้องมีการควบคุมให้ทำงานได้ตามปกติ ซึ่งก็เปรียบเสมือนกับฮอร์โมนที่คอยควบคุมการทำงานของกลไกต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานได้เป็นปกติ

ร่างกายที่ทำงานปกติจะมีการใช้พลังงาน และเผาผลาญอาหารเป็นพลังงานตลอดเวลา ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดการสะสมของไขมันหรือไม่อ้วนนั้นเอง

เกิดอะไรกับคนอ้วน ทำไมร่างกายไม่นำพลังงานไปใช้?

อ้วนลงพุง เกิดจากร่างกายไม่ยอมเผาผลาญหรือเรียกอีกอย่างว่า Metabolic Syndrome ซึ่งจำเป็นต้องตรวจเช็คดูว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน ซึ่งมีสาเหตุเริ่มต้นมาจากการสะสมของท็อกซินในเซลล์ไขมัน (Fat Cell) พอสะสมนานๆ อินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อน ทำหน้าที่นำน้ำตาลจากเลือดเข้าไปในเซลล์ของร่างกายเพื่อใช้เป็นพลังงานเริ่มทำงานได้ไม่ดี ไม่สามารถนำเอาน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ตามปกติ น้ำตาลก็เก็บเป็นไขมัน ร่างกายก็ต้องใช้อินซูลินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนการนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงาน จนเกิดภาวะที่อินซูลินดื้อ ไม่ทำงาน พอถึงตรงนั้นก็ไม่เผาผลาญน้ำตาลแล้ว เก็บเป็นไขมันอย่างเดียว

เมื่อร่างกายขาดพลังงานมันก็จะดึงเอากล้ามเนื้อไปใช้แทน เพราะมันดึงไขมันออกมาไม่ได้ จึงเป็นที่มาของความเหี่ยว ผิวหย่อนคล้อย จะเห็นได้ว่าขบวนการนำพลังงานไปใช้ในร่างกายมีความสำคัญมาก มีผลต่อสุขภาพและความอ่อนเยาว์ ถ้าระบบเผาผลาญทำงานเป็นปกติ ขบวนการใช้พลังงานในร่างกายเราก็จะดี แต่ถ้าร่างกายเราเริ่มเสื่อม ร่างกายก็จะไม่ใช้พลังงานและเก็บเป็นไขมันอย่างเดียว

จะพบว่าในคนส่วนใหญ่เมื่ออยู่ในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่นนั้นจะไม่มีปัญหาเรื่องอ้วนลงพุง แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยกลางคนหรืออายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป จะรู้สึกได้ว่ามีไขมันเพิ่มขึ้นบริเวณรอบเอว ทั้งนี้เพราะเซลล์ในร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพ ฮอร์โมนทำงานได้น้อยลงไม่เหมือนเมื่อตอนอายุยังน้อย  กลไกการทำงานต่างๆ ของร่างกายจึงเริ่มผิดปกติ เสียสมดุล และป็นต้นเหตุให้เกิดโรคต่างตามมา จึงเป็นที่มาว่าถ้ามีอาการอ้วนที่รอบเอวจะมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน และโรคหัวใจมากกว่าอ้วนในส่วนอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพราะเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนที่นำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามปัญหาเรื่องอ้วนว่าเป็นเพียงเรื่องความสวยความงามเท่านั้น เพราะที่จริงมันคือสัญญาณเตือนโรคร้ายให้กับเรา ที่ต้องหันมาเอาใจใส่และดูแลตัวเองอย่างจริงจัง

9(2)

ความอ้วนที่เกิดจากการเสียสมดุลฮอร์โมนเช่นนี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการแพทย์ชะลอวัย (Anti Aging)

การรักษาตามหลักการแพทย์ชะลอวัย (Anti Aging) เริ่มต้นจากการตรวจเช็คร่างกายเพื่อให้รู้ที่มาของปัญหา เพื่อที่จะสามารถแก้ไขได้ถูกต้อง มีการปรับสมดุลร่างกายด้วยการกำจัดสารพิษ และปรับสมดุลฮอร์โมนด้วยวิธีธรรมชาติ เพื่อให้ร่างกายกลับมาทำงานได้ตามปกติ มีการเผาผลาญนำพลังงานไปใช้ นอกจากนี้ก็อาจจะมีการดูแลเรื่องอาหารและการออกกำลังกายเพิ่มเติม ตลอดจนการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยให้เกิดการทำลายเซลล์ไขมัน ช่วยเร่งการเผาผลาญให้มากขึ้น ก็จะทำให้เห็นผลได้เร็วขึ้น

จะเห็นได้ว่า อ้วนลงพุง แก้ไขได้ ตามวิธีการที่เล่ามา ดังนั้นอย่าปล่อยให้มีไขมันส่วนเกินรอบเอวอีกต่อไปเลยค่ะ เพราะไขมันที่รอบเอวนั้นสามารถทำอันตรายต่อร่างกายได้มากมายจริงๆ

ประสบการณ์ “ปลูกผมเปลี่ยนชีวิต”
ปลูกผม