แม้หลายคนจะไม่ชอบกินมื้อเช้า แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ขาดมื้อเช้าไม่ได้ ไม่ว่าเกิดจากความเคยชิน หรือจำเป็นต้องมีพลังงานเพื่อให้ร่างกายได้ใช้ในระหว่างวัน ฉะนั้นนิสัยทานมื้อเช้าบางอย่างที่คุณทำเป็นประจำ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี ยิ่งกับใครที่กำลังควบคุมน้ำหนัก การกินอาหารเช้า อย่างถูกต้องเหมาะสมก็สามารถส่งเสริมให้วิถีลดความอ้วนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากโรคเบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูงอีกด้วยค่ะ
- ดื่มน้ำเปล่าทันทีหลังตื่นนอน
เมื่อคุณนอน 6-8 ชั่วโมง บวกกับเวลางดอาหารก่อนนอน ซึ่งรวม ๆ แล้วคุณอาจเว้นจากมื้ออาหารได้นานถึง 12 ชั่วโมง ฉะนั้นร่างกายจะเริ่มนำไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงาน ซึ่งการดื่มน้ำเปล่าหลังตื่นนอนสัก 2 แก้ว จะช่วยให้ระบบเผาผลาญของคุณทำงานได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
- กาเฟอีนช่วยเร่งระบบเผาผลาญ
การดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนในตอนเช้าอย่างชาและกาแฟดำสัก 1-2 แก้ว จะช่วยส่งเสริมให้ระบบเผาผลาญของคุณดียิ่งขึ้นค่ะ แน่นอนว่าต้องไม่ใส่นม น้ำตาล หรือสารให้ความหวานชนิดใด ๆ เพิ่ม นอกจากนี้ยังส่งผลให้ความคงทนในการออกกำลังกายสูงขึ้น กระปรี้กระเปร่าตื่นตัวพร้อมทำงานเต็มที่ ทว่าไม่ควรดื่มหลังเวลาบ่ายสามโมง เพราะอาจกระทบต่อการนอนของคุณได้
- ค่อย ๆ ปรับมื้อเช้าและเย็นให้ใกล้กันมากขึ้น
นี่คือวิธีทำ IF หรือ Intermittent Fasting ที่เชื่อว่าสายควบคุมน้ำหนักหลายคนต้องคุ้นหูคุ้นตากันดี ขอชวนให้คุณลองเลื่อนเวลาการ กินอาหารเช้า มาเป็นช่วงสาย ๆ และเลื่อนมื้อเย็นให้เร็วขึ้นทีละนิด จาก 19.00 น. เป็น 18.00 น. หรือ 17.00 น. ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายงดมื้ออาหารนานขึ้น ดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น ที่สำคัญการทำ IF นอกจากช่วยเรื่องน้ำหนักแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพองค์รวมอีกด้วยค่ะ ทั้งลดการอักเสบต่าง ๆ ของระบบร่างกาย อายุยืนขึ้น ภูมิคุ้มกันดีขึ้น และค่าน้ำตาลดีขึ้น เป็นต้น
- เดินรับแดดขณะท้องว่าง
เราขอแนะนำให้คุณลองพาร่างกายออกไปรับแสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าก่อนเก้าโมง เพื่อเสริมวิตามินดี และกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว อีกทั้งการเดินยังถือเป็นวิธีออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออีกด้วย
- เน้นอาหารโปรตีนสูง และไขมันดี
เมื่อคุณ กินอาหารเช้า ซึ่งเป็นมื้อแรกของวัน คุณควรเลือกอาหารประเภทที่มีโปรตีน ใยอาหาร รวมถึงไขมันดีสูงเข้าไว้ และทางที่ดีควรมาจากธรรมชาติ ปรุงแต่งให้น้อยที่สุด เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนาน ไม่หิวบ่อยหรืออยากกินจุบจิบค่ะ
ถ้าแค่ปรับเปลี่ยนวิถีมื้อเช้ายังไม่ตอบโจทย์ใครหลาย ๆ คน เพราะการจะได้หุ่นสวยโดนใจนั้น ย่อมต้องอาศัยหลาย ๆ วิธีร่วมกัน เช่น การออกกำลังกาย แต่ถ้าคุณไม่ใช่สายออกกำลังกาย ไม่ค่อยมีเวลา หรือไม่สามารถออกกำลังกายต่อเนื่องจึงไม่เห็นผลชัด ๆ เสียที ปัจจุบันมีนวัตกรรมหลากหลายที่สามารถช่วยแบ่งเบา และกำจัดไขมันส่วนเกินให้คุณได้โดยไม่ต้องเคร่งเครียด หรือไม่ต้องทนเหนื่อย หนึ่งในวิธีมากมายนั้นคือการทำ CoolSculpting Elite ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยภายใต้มาตรฐานสากลระดับโลก คุณไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัวกับการผ่าตัดเหมือนวิธีดูดไขมันแบบเก่า ๆ หลังทำเสร็จไม่ต้องพักฟื้น เพราะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันต่อได้สบาย ๆ ที่สำคัญแต่ละครั้งยังใช้เวลาเพียง 35-45 เท่านั้นค่ะ
CoolSculpting Elite หรือการสลายไขมันด้วยความเย็น จะเป็นการส่งความเย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เข้าไปทำลายเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวหนังในบริเวณที่คุณต้องการลดสัดส่วนให้ตายลง โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์อื่น ๆ และเซลล์ไขมันที่ตายแล้วจะถูกกลไกธรรมชาติของร่างกายค่อย ๆ ขจัดออกผ่านระบบขับถ่าย ซึ่งสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ในระยะเวลาราว 1-3 เดือนค่ะ ที่สำคัญ CoolSculpting Elite ยังมีหัว Applicator ที่หลากหลาย จึงสามารถใช้ลดไขมันได้เกือบทุกส่วนของร่างกายตามแต่คุณต้องการ
ที่ APEX เราเป็นอันดับหนึ่งในเอเชียด้วยเคสการทำ CoolSculpting Elite มากที่สุด หากคุณสนใจการกำจัดไขมันด้วยความเย็น เรามีผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สูงที่พร้อมให้คำแนะนำ ช่วยคุณออกแบบรูปร่างที่ตรงใจ และดูแลอย่างมืออาชีพตลอดการรักษา เพื่อให้สัดส่วนสวยกระชับในฝันของคุณอยู่ใกล้แค่เอื้อมค่ะ
