เช็คด่วน คุณมีความเสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรมหรือไม่

ออฟฟิศซินโดรม ( Office Syndrome ) ความทรมาณที่มาพร้อมกับอาการปวดกล้ามเนื้อตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นคอ ไหล่ บ่า หลัง และศีรษะ ปัญหาเหล่านี้บางคนอาจมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สิ่งที่พึงระวังในระยะเวลาต่อมา คือ ภาวะการอักเสบเรื้อรังของกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นตามส่วนต่างๆ ในร่างกาย แน่นอนว่าถ้าหากประเมินตามอาการความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ออฟฟิศซินโดรมแล้ว อาการเบื้องต้นสามารถเช็คได้ตามหัวข้อดังต่อไปนี้

  • นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกันเป็นเวลานาน จึงทำให้อาการปวดตามร่างกายต่างๆ ส่งผลเสียต่อด้านสุขภาพในระหว่างการทำงาน หรือกิจกรรมต่างๆ
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อระหว่างนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นประจำ
  • รู้สึกปวดตามร่างกายจนต้องบรรเทาอาการเจ็บปวดบริเวณกล้ามเนื้อด้วยการกินยาแก้ปวด หรือนวดผ่อนคลาย
  • มีอาการตาพร่ามัว มองอะไรไม่ค่อยชัด และแพ้แสงในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก

แต่ทั้งนี้นอกเหนือจากอาการปวดบริเวณเฉพาะตามช่วงคอ บ่า หรือหลัง ในบางครั้งอาการเหล่านี้ยังพบได้ในระบบประสาทอัตโนมัติร่วมด้วย เช่น มีอาการอ่อนเพลีย เหงื่อออก วูบไม่ทราบสาเหตุ หูอื้อ อีกทั้งอาการของออฟฟิศซินโดรมยังส่งผลไปยังระบบปลายประสาท ทำให้ถูกกดทับระหว่างกล้ามเนื้อ จนทำให้เกิดอาการชาเฉพาะจุดอย่างขาชา แขนชา นิ้วชา หรือนิ้วล็อค รวมไปถึงอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ฟังดูเหมือนว่าน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วอาการเหล่านี้มีปัจจัยอื่นที่สามารถช่วยบรรเทาให้กล้ามเนื้อได้รับการผ่อนคลายได้เช่นเดียวกัน คือ

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงาน เช่น ใครที่ชอบนั่งหลังค่อม ให้เปลี่ยนมานั่งหลังตรงจนเกิดความเคยชิน เพื่อที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อได้รับการผ่อนคลอยจากการปรับเปลี่ยนอริยาบถของเรา
  • หากคุณเป็นคนที่ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 6 ชั่วโมงขึ้นไป ควรพักสายตาอย่างน้อยประมาณ 10-15 นาที
  • การออกกำลังกายโดยการยืดกล้ามเนื้ออย่างการเล่นโยคะก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้กล้ามเนื้อได้รับการผ่อนคลายได้เช่นเดียวกัน
  • ปรับเปลี่ยนพื้นที่การทำงานให้เหมาะสมกับการทำงานของร่างกาย โดยเริ่มจากย้ายจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในแนวตรงของหน้า แต่ต้องอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับสายตาเพียงเล็กน้อย และตั้งให้ห่างกับตัว โดยวัดจากความยาวของแขน
  • ทำกายภาพบำบัด หรือการนวดแผนไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพเพื่อให้ร่างกายได้รับการผ่อนคลายจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ

ทำตามทุกขั้นตอน แต่อาการออฟฟิศซินโดรมไม่ดีขึ้น

ขอแนะนำให้จบปัญหา ออฟฟิศซินโดรม ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด 448 WAVE จาก Apex Medical Center ค่ะ เพราะที่เอเพ็กซ์ได้นำเข้านวัตกรรมทางกายภาพบำบัดอย่าง 488 WAVE ด้วยระบบ Proionic  เพื่อรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมโดยเฉพาะ ซึ่งหลักๆ แล้วข้อดีของการบำบัดออฟฟิศซินโดรมด้วยเทคโนโลยีนี้ คือ

  • ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพ และรักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อที่สามารถช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่ออักเสบในระดับเซลล์ได้อย่างดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
  • ในขั้นตอนการรักษา จะใช้กระแสไฟฟ้า 448 kHz ที่มีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังมีหัวอิเล็กโทรดหลายรูปแบบที่เหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละบุคคล
  • ช่วยกำจัดไขมันในอวัยวะตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และเพิ่มพลังงานการเผาผลาญลึกถึงระดับเซลล์
  • ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรือกระดูก และช่วยฟื้นฟูอย่างล้ำลึกถึงเซลล์ต้นกำเนิด
  • ช่วยรักษาอาการอักเสบเฉียบพลัน และอาการปวดเรื้อรังของกล้ามเนื้อ
  • ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดกลับมาทำงานได้ดียิ่งขึ้น
  • ช่วยกำจัดของเสียออกจากเซลล์กล้ามเนื้อ และเพิ่มระดับออกซิเจนในเนื้อเยื่อ

และจากบทสัมภาษณ์ของผู้ที่เคยเข้ารักษาอาการ ออฟฟิศซินโดรม ด้วยเทคโนโลยี 448 WAVE ที่เอเพ็กซ์ ได้เผยออกมาว่า “ เราก็พอได้ยินชื่อเสียงของ Apex Medical Center มาบ้างไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงด้านเสริมความงาม และการดูแลสุขภาพ ซึ่งจากที่หาข้อมูลไปเรื่อยๆ อะค่ะก็ทราบมาอีกว่าที่นี่เค้ามีการรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยเทคโนโลยี 448 WAVE ด้วย ซึ่งจากปัญหาที่เป็นอยู่ก็เลยลองเข้ามาปรึกษากับทางแพทย์ที่เอเพ็กซ์ดู เพื่อที่จะรักษาออฟฟิศซินโดรมตรงๆ เลยค่ะ และอีกอย่างที่มั่นใจได้เลยว่าหายขาดแน่ๆ คือ ผู้ที่ทำการรักษาให้เราเนี้ยเค้าเป็นนักกายภาพบำบัดจริงๆ อาการหลังเข้ารับการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง 448 WAVE แล้วรู้สึกได้เลยว่าอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมันหายไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษาเลยค่ะ ส่วนตัวแล้วรู้สึคิดไม่ผิดเลยที่เลือกเข้ารับการรักษาออฟฟิศซินโดรมที่เอเพ็กซ์ “

 

🔥โปรโมชัน รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วย 448 WAVE👉🏻 https://lin.ee/somJkar  APEX Medical Center 36 สาขาทั่วไทย

Line : @apexlifecenter 

️ 0850000855 / 0627096891 

 #ออฟฟิศซินโดรม #officesyndrome #APEXofficesyndrome #ปวดหลัง #ปวดบ่า #ปวดคอ