น้ำเปล่า นับเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับคนเรา เพราะร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำมากถึงกว่า 70 % ฉะนั้นในแต่ละวันคนเราจึงต้องดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดี แต่ทราบกันหรือไม่ว่าการดื่มน้ำนอกจากจะดีกับสุขภาพแล้ว การดื่มน้ำให้เพียงพอยังช่วย ลดน้ําหนัก ได้อีกด้วย เราเลยขอหยิบวิธีการดื่มน้ำเพื่อลดน้ำหนักมาฝากกัน เผื่อใครที่อยากมีรูปร่างที่ดีจะได้นำไปทำตามกันค่ะ
แก้วที่ 1 : หลังตื่นนอน
หลังตื่นนอนในช่วงเช้า ให้ดื่มน้ำทันที 1 แก้ว เนื่องจากหลังจากตื่นนอนจะเป็นช่วงที่เลือดในร่างกายจะมีความข้นหนืดสูง การดื่มน้ำหลังตื่นนอนทันทีจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น แถมยังช่วยกระตุ้นการขับถ่ายอีกด้วย
แก้วที่ 2 – 3 : ช่วงสาย
ก่อนมื้อเช้าสักประมาณ 1 ชั่วโมง ให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว หลังจากมื้อเช้าแล้วให้ดื่มน้ำอีกประมาณ 1-2 แก้ว เนื่องจากร่างกายเริ่มทำงานเต็มประสิทธิภาพในช่วงนี้ การดื่มน้ำเข้าไปจะช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกาย ทั้งนี้ไม่ควรดื่มก่อนรับประทานอาหารแบบทันที เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจางลง ทำให้ย่อยอาหารได้ไม่ดี เกิดเป็นอาการท้องอืด ท้องเฟ้อตามมาได้ค่ะ
แก้วที่ 4 : ก่อน – หลัง มื้อเที่ยง
ก่อนมื้อเที่ยงสักประมาณ 1 ชั่วโมง ให้ดื่มน้ำ 1/2 แก้ว และหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เราสามารถจิบอีกได้เล็กน้อย ไม่ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจางลง และย่อยอาหารได้ไม่ดีค่ะ
แก้วที่ 5 – 7 : ช่วงบ่าย
ในช่วงบ่าย ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว โดยใช้การจิบน้ำระหว่างวันไปเรื่อย ๆ การดื่มน้ำช่วงนี้จะช่วยเพื่อความชุ่มชื้นให้กับผิว เหมาะสำหรับคนที่ต้องทำงานอยู่ในห้องแอร์อย่างมากเลยล่ะค่ะ
แก้วที่ 8 – 9 : ก่อนมื้อเย็น
เช่นเดียวกับมื้ออาหารอื่น ๆ ก่อนมื้อเย็นประมาณ 1 ชั่วโมง ให้ดื่มน้ำก่อน 1 แก้ว และหลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นก็ให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว โดยใช้การจิบน้ำไปเรื่อย ๆ การดื่มน้ำในช่วงนี้จะช่วยกระตุ้นระบบลำไส้ และระบบเลือดให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
แก้วที่ 10 : ก่อนนอน
ก่อนเข้านอน แต่ไม่ควรเกินเวลา 23.00 น. ให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว โดยการดื่มน้ำแก้วนี้จะช่วยชะล้างของเสียที่คั่งค้างอยู่ในลำไส้ออกไป แต่ไม่ควรดื่มใกล้กับเวลานอนมากเกินไปเพราะอาจทำให้ปวดปัสสาวะกลางดึกได้ เวลาที่ดีที่สุดที่ควรดื่มน้ำแก้วสุดท้ายของวันคือ 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอนค่ะ
ได้ทราบวิธีการดื่มน้ำเพื่อ ลดน้ําหนัก กันไปแล้ว ถ้าอยากผอมก็แนะนำให้ลองทำตามนะคะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องควบคู่กับการออกกำลังกาย และเลือกรับประทานอาหารที่ดีด้วย เพราะลำพังเพียงการดื่มน้ำอย่างเดียวไม่สามารถช่วยได้ อีกทั้งถ้าดื่มน้ำมากเกินไปก็อาจทำให้ไตทำงานหนัก และอาจเป็นผลเสียตามมาทีหลังได้ค่ะ
แต่ถ้าคุณอยากจะลดสัดส่วนภายในระยะเวลาสั้น ๆ แบบไม่ต้องใช้ความพยายามมากให้เหนื่อยก็มีรูปร่างที่ดีขึ้นได้ เทคโนโลยีการกำจัดไขมันด้วยความเย็นอย่าง CoolSculpting อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหาค่ะ
CoolSculpting หรือเทคโนโลยีการกำจัดไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนการด้วยการปล่อยความเย็นอุณหภูมิติดลบเข้าไปกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณที่มีปัญหา ซึ่งในการทำแต่ละครั้งสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้ 20-30% ภายในเวลา 35 – 45 นาที ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากทำแล้วก็ยังสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น แค่เพียงปล่อยให้ร่างกายค่อย ๆ กำจัดซากของเซลล์ไขมันที่ได้รับความเย็นจนทำให้ตายลง ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 – 3 เดือนก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
และถ้าอยากให้มั่นใจในผลลัพธ์ ที่ APEX เราเป็นที่หนึ่งในเอเชียในการทำ CoolSculpting ด้วยการมีเคสการทำมากที่สุด อีกทั้งมีทีม CoolSculpting Specialist ที่พร้อมให้คำแนะนำและช่วยดูแลคุณ ทำให้คุณสามารถมีรูปร่างที่ดูดีตามอย่างที่คาดหวังได้อย่างปลอดภัยแน่นอน ลดไขมันที่ไหนไม่ได้ผล ให้ CoolSculpting จาก APEX ช่วยแก้ไขปัญหารูปร่างให้คุณสิคะ รับรองไม่ผิดหวัง