YAG Plus ที่สุดของประสบการณ์เลเซอร์กำจัดขน

YAG Plus
เมื่อเส้นขนเป็นสิ่งที่คุณไม่ต้องการ การกำจัดขนจึงเป็นทางออกเดียวที่จะช่วยให้คุณหมดปัญหาเส้นขนกวนใจได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีวิธีที่ช่วยในการกำจัดขนหลากหลายรูปแบบ ทั้งการโกนขน การถอนขน การแว็กซ์ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ถ้าหากจะพูดกันถึงการกำจัดขนที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีความปลอดภัย และได้ผลถาวร ก็คงต้องเป็นการทำเลเซอร์กำจัดขน เพราะเป็นวิธีที่มีผลลัพธ์ให้เห็นมากมาย และไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของร่างกาย ก็สามารถกำจัดขนด้วยเลเซอร์ YAG Plus ได้ทั้งนั้น

เลเซอร์กำจัดขน ได้อย่างไร ?

เลเซอร์กำจัดขน เป็นเทคโนโลยีการกำจัดขนด้วยการใช้คลื่นพลังงานเลเซอร์ ซึ่งในปัจจุบันคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่นิยมนำมาใช้มีทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่

  • Alexandrite laser เป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวคลื่นอยู่ที่ 755 nm ซึ่งจะผลึกอเล็กแซนไดร์เป็นตัวกลางในการผลิตพลังงานแสง ผลที่ได้ก็คือ จะช่วยกำจัดเส้นขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคลื่นพลังงานเลเซอร์ชนิดนี้สามารถลงลึกได้ลึกกว่า และสามารถจับเม็ดสีได้ดีกว่าคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่ใช้ผลึกทับทิมเป็นตัวกลาง หรือคลื่นพลังงานแสงอย่าง IPL ค่ะ
  • Diode Laser เป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวของคลื่นค่อนข้างหลากหลาย โดยช่วงคลื่นพลังงานเลเซอร์ Diode ที่นิยมใช้นั้นมีช่วงคลื่นความยาวตั้งแต่ 800-810, 940, 1064-1350 nm ทั้งนี้เลเซอร์ชนิดดังกล่าวมีจุดเด่นตรงที่สามารถดูดซับเม็ดสีได้ค่อนข้างมาก และสามารถลงลึกถึงผิวหนังชั้นในส่วนลึกได้ จึงทำให้มีความสามารถในการกำจัดขนสูงเมื่อเทียบกับการใช้เลเซอร์ชนิดอื่น ๆ 
  • YAG Laser เป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวของคลื่นอยู่ที่ 1064 nm ซึ่งช่วงความยาวคลื่นขนาดนี้จะสามารถลงลึกไปในผิวหนังชั้นลึกได้ถึง 7 มิลลิเมตร อีกทั้งยังสามารถจับกับเม็ดสีของเส้นขนได้ดีมาก จึงทำให้สามารถกำจัดเส้นขนได้หมดจด ซึ่งในปัจจุบันการทำเลเซอร์กำจัดขนด้วย YAG Laser เป็นการกำจัดขนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ดี และมีความปลอดภัยสูงค่ะ

ทั้งนี้ในกระบวนการกำจัดขนด้วยการทำเลเซอร์ขนนั้น ผู้เชี่ยวชาญจะส่งพลังงานแสงไปที่เส้นขนที่อยู่ในระยะโตเต็มที่ เพราะเส้นขนในระยะดังกล่าวจะมีปริมาณเม็ดสีค่อนข้างมาก และเม็ดสีเหล่านั้นจะดูดซับความร้อนจากคลื่นพลังงานเลเซอร์ เมื่อรากขนได้รับความร้อนมาก ๆ รากขนก็จะเกิดการเสื่อมสภาพ และหยุดการเจริญเติบโตในที่สุด จากนั้นเส้นขนก็จะค่อย ๆ หลุดร่วงไป และไม่ขึ้นมาอีก

อย่างไรก็ตามในการทำเลเซอร์กำจัดขนนั้น ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก 4 – 6 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 5 – 8 ครั้ง โดยในการทำแต่ละครั้ง จะสามารถกำจัดเส้นขนออกได้ 20 – 30% เนื่องจากเส้นขนแต่ละเส้นจะมีวงจรการเจริญเติบโตไม่พร้อมกัน และเส้นขนที่ยังไม่โตเต็มที่จะไม่สามารถกำจัดออกด้วยการทำเลเซอร์ขนได้ในคราวเดียว จะต้องมีการรอให้เส้นขนโตเต็มที่ก่อนแล้วจึงจะสามารถกำจัดออกได้หมด ซึ่งการทำเลเซอร์ขนนั้นจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจากทำไปแล้ว 4 – 5 ครั้ง จะพบว่าเส้นขนที่มีลดลง ผิวเริ่มกลับมาเรียบเนียนมากขึ้นค่ะ

อย่างไรก็ตามในการทำเลเซอร์กำจัดขน จะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเลเซอร์เท่านั้น เนื่องจากการปรับความเข้มข้นของคลื่นพลังงานจะต้องอาศัยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถปรับความเข้มข้นของคลื่นพลังงานได้เหมาะสมกับสภาพผิว ลักษณะเส้นขน และสีขน ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง หรือเซลล์ต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบเส้นขนค่ะ

YAG Plus อีกขั้นของการเลเซอร์กำจัดขนที่ให้ผลลัพธ์ดีกว่า

และด้วยการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีพลังงานเลเซอร์เพื่อความงามที่อยู่อย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้ล่าสุดได้มี เทคโนโลยีการกำจัดขนด้วยเลเซอร์แบบใหม่ล่าสุดที่นำเอาคลื่นพลังงานทั้ง 3 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น Long-pulsed Alexandrite laser, YAG Laser และ Diode Laser มารวมเข้าไว้ด้วยกันและปล่อยคลื่นพลังงานออกมาพร้อมกันในขณะที่ทำเลเซอร์ขน ผลที่ได้ก็คือสามารถกำจัดเส้นขนในทุกระดับผิว และช่วยให้ผิวเรียบเนียนได้อย่างปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม บอกลาปัญหาเส้นขนกวนใจ ให้คุณมีผิวเรียบเนียนได้นานเท่านานเลยล่ะค่ะ

หากวันนี้คุณสนใจอยากกำจัดขนด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขนใหม่ล่าสุดอย่าง YAG Plus แล้วล่ะก็ ที่ APEX เราเป็นผู้นำได้ด้านความงามมามากกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าเราจะมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญพร้อมดูแลความงามในทุกมิติ และแก้ปัญหาความสวยความงามที่อาจทำให้คุณเสียความมั่นใจได้อย่างแน่นอนค่ะ 

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter