ผักเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักได้อย่างดี เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และกากใยอาหารที่ช่วยทำให้อิ่มท้อง ไม่กินจุบจิบ แถมยังมีส่วนช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถลดการบวมของหน้าท้องได้นั่นเอง แต่หลาย ๆ คนไม่ชอบกินผัก เราจึงมี 10 ทริค กินผักลดน้ำหนัก ให้ได้มากขึ้น มาฝากกัน
- เพิ่มผักลงในเมนูไข่
เมนูไข่เป็นอาหารที่ช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไข่มีโปรตีนสูงและมีไขมันต่ำ หากเราเพิ่มผักเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไป ไข่ก็จะสามารถช่วยกลบกลิ่นเขียว ๆ ของผักได้บ้าง แถมยังช่วยให้เมนูไข่อร่อยเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยอาจจะเริ่มจาก พริก เห็ด หัวหอม และมะเขือเทศก่อน หากพอเริ่มกินผักได้แล้ว อาจจะเริ่มใส่ผักใบเขียวมากขึ้น เช่น ผักโขม ก็ได้ค่ะ
- ทำผักดิป
หากกินผักไม่เก่งเราอาจจะนำผักไปกินกับเครื่องจิ้มที่ดีกับสุขภาพ เพิ่อเพิ่มรสชาติให้ผักอร่อยขึ้นและไม่เหม็นเขียว อย่างของไทยเราก็จะเป็นผักต้มกับน้ำพริกต่าง ๆ ส่วนของต่างประเทศก็จะมีทั้งนำผักไปจิ้มกับเครื่องจิ้มที่ทำจากผัก หรือหากยังไม่อยากกินผักอย่างเดียว ก็อาจจะนำขนมปังหรือแครกเกอร์มาจิ้มกับเครื่องจิ้มที่ทำจากผักก็ได้เช่นกัน เช่น ฮัมมุส เครื่องจิ้มจากตะวันออกกลาง เนื้อข้น รสเค็มมัน ที่ทำจากถั่วลูกไก่ กระเทียม ตาฮินี น้ำมันมะกอก น้ำเลมอน เกลือ หรือกัวกาโมเล จากประเทศเม็กซิโก ที่ทำจากเนื้ออะโวคาโด มะเขือเทศ พริกเม็กซิกัน หอมแขก ใบผักชี น้ำเลมอน
- ทำแพนเค้กผัก
กินผักกับอาหารคาวอาจจะทำใจได้ลำบาก เราอาจจะลองเปลี่ยนมากินผักเป็นของว่างหรือขนมหวานแทน อย่าง “แพนเค้กผัก” ที่ใช้ผักใบเขียวต่าง ๆ เช่น ผักกาด ผักกวางตุ้ง บล็อกคลอรี่ เป็นต้น หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับไข่ไก่และแป้งแพนเค้ก นำไปทำเป็นแพนเค้กได้เลย ซึ่งการกินก็จะเหมือนกับกนแพนเค้กปกติทั่วไป โดยอาจะราดด้วนย้ำผึ้ง ใส่ผลไม้ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้เช่นกัน
- ทำพาสต้าเส้นผัก
นอกจากจะช่วยลดปริมาณของแป้งที่กินมากเกินไปก็อาจจะทำให้อ้วนได้แล้ว ยังทำให้เราสามารถกินผักได้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีพาสต้าเส้นผักแบบสำเร็จรูปให้เราเลือกซื้อกันมากมาย มีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เส้นสปาเก็ตตี้ เฟตตูชินี ฟูซิลี่ มักกะโรนี เป็นต้น หรือหากเราต้องการจะทำเองก็จะมีวัตถุดิบเพียงแค่ผักโขม น้ำมันมะกอก ไข่ไก่ แป้งสาลีอเนกประสงค์
- กินซุปผัก
เมื่อเรากินซุปผักร้อน ๆ จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้นส่งผลให้อัตราการเผาผลาญเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อมีการเผาผลาญมากขึ้น น้ำหนักตัวก็มีโอกาสลดลงได้มากขึ้นไปด้วย นอกจากนี้ซุปผักจะช่วยทำให้เรากินผักได้มากขึ้น เนื่องจากมีการปรุงรสชาติของซุปผักให้กินง่ายขึ้น
- ทำสมูทตี้ผัก
ไม่อยากเคี้ยวผักแล้วรู้สึกเหม็นเขียว ก็ทำเป็นเครืื่องดื่มแทนก็ได้ค่ะ โดยการนำผักไปปั้นผสมกับผลไม้ต่าง ๆ ให้รสชาติดื่มง่ายขึ้น แถมลดการเหม็นเขียวได้อีกด้วย หรืออาจจะใส่สมุนไพรเพิ่มการเผาผลาญมากขึ้นก็ได้เหมือนกัน เช่น สมูทตี้แครอท ขิง แอปเปิ้ล เป็นต้น
- ดูและปรุงผักให้มีรสเผ็ดขึ้น
ผักที่มีรสชาติอื่น ๆ จะทำให้กินง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะผักกับรสชาติเผ็ด ๆ หากยังไม่กล้ากินก็ให้ดูรูปภาพผักที่ปรุงรสเผ็ด ๆ ให้มีความรู้สึกอยากมากขึ้นก็ได้ เนื่องจากภาพสีแดงหรือสีส้มจะช่วยทำให้เราอยากอาหารมากขึ้น แต่หากอยากลองกินอาจจะเริ่มจาก “บร็อคโคลี่อบเนย” ที่ปรุงรสเผ็ดร้อนเล็กน้อยจากพริกป่นชิโพเล่ หรือ “กิมจิ” อาหารสัญชาติเกาหลีที่หลาย ๆ คนชอบ มีความเผ็ดเล็กน้อยจากพริกป่นเกาหลี นอกจานี้ กิมจิยังหมักกับผักอื่น ๆ อย่าง แครอท หัวหอม กระเทียม ทำให้เรากินผักได้มากขึ้น และช่วยการเผาผลาญให้น้ำหนักลดลงได้มากขึ้นอีกด้วย
- ต้มผักกับเบคอน
ถ้าเราไม่ชอบผักที่มีความขมหรือกลิ่นที่เหม็นเขียว ให้ลองต้มผักใบเขียว เช่น กระหล่ำปลีหรือหัวผักกาดกับเบคอน 1 ชิ้น ผักใบเขียวจะซึมซับรสชาติของเบคอนทำให้รรชาติของผักดีขึ้น แถมเบคอนยังเป็นอาหารที่สามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้ โดยมีผลการศึกษาพบว่า การกินเบคอน 6 แผ่น ก่อนไปทำงานจะช่วยให้เบิร์นไขมันระหว่างวันได้มากขึ้น
- ทำผักเป็นของว่าง
หากใครที่ชอบกินสาหร่ายทอดกรอบเป็นของว่าง อาจจะชอบกับเมนู “เคลอบกรอบ” ที่นำผักเคลผักที่นิยมนำมาลดน้ำหนักมาปรุงรสชาติให้กินง่ายขึ้น โดยการนำผักเคลมาล้างทำความสะอาด ดึงส่วนของก้านออก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เคล้ากับน้ำมันมะกอก โรยเกลือชมพู เข้าอบ 135 องศาเซลเซียส 25 นาที พักให้เย็นก็กินได้
- ฝึก Meatless Monday
หากพอเริ่มกินผักได้มากขึ้นแล้ว ให้ลองทำ “Meatless Monday” หรือ “หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ในวันจันทร์” แล้วมากินผักที่ให้ปรตีนสูงแทน ซึ่งหากเราไม่สะดวกวันจันทร์ก็เปลี่ยนเป็นวันอื่นได้เช่นกัน เพื่อให้เราสามารถกินกินผักให้ได้เยอะมากขึ้น
การกินผักให้ได้มาก ๆ เป็นตัวช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี แต่ให้ระวังการการกินผักที่มีคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้อ้วนได้ภายหลัง ดังนั้น ปริมาณการกินอาหารชนิดอื่นจึงความสำคัญ หากมครที่ยังไม่สามารถควบคุมปริมาณการกินอาหารอื่น ๆ เรามีตัวช่วยมากฝากกัน
ตัวช่วยลดน้ำหนัก
ปากกาลดน้ำหนัก Slim Shape
เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที
กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape
สมองส่วนกลาง : ทำให้รู้สึกไม่หิว อิ่มนาน ทนน้อย
กระเพาะอาหาร : ย่อยและดูดซึมได้นานขึ้น เพราะหลังทานอาหาร ลำไส้เล็กจะหลั่ง GLP-1 ออกมา เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมอง โดยจะออกฤทธิ์ 24 ชั่วโมง ทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน สามารถลดความหิวและความอยากอาหาร ทำให้ทานได้น้อยลง
ตับอ่อน : ผลิตฮอร์โมนอินซูลินดึงน้ำตาลเข้าเซลล์ Slim Shape ช่วยการหลั่งฮอร์โมนนี้มีคุณภาพดีขึ้น
ผลลัพธ์หลังการใช้ Slim Shape
สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10% นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน
Slim Shape เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
- ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
- ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป
โยโย่ เอฟเฟค
เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา
ความปลอดภัย
ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา