Thermage คือ ?
เทอร์มาจ (Thermage) คือนวัตกรรมความงามช่วยยกกระชับผิวด้วยการส่งคลื่นวิทยุ (RF : Radio Frequency) ความถี่สูงเพื่อเข้าช่วยยกกระชับผิว ปรับรูปหน้า ยกคิ้ว จัดกรอบหน้า โดยความร้อนที่ออกจากคลื่นวิทยุของเครื่องเทอร์มาจจะมีความสม่ำเสมอ และถูกส่งลงลึกสู่ชั้นผิวหนัง Dermis (ชั้นผิวหนังแท้) ช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินให้ผิวหนัง จึงทำให้โครงสร้างของผิวดูเรียบเนียน สดใส แข็งแรง และมีชีวิตชีวา
โดยหัวยิงสามารถส่งพลังงานในลักษณะเป็นก้อนใหญ่ๆ ลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ชั้นผิว แต่ไม่ถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS (Superfical Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่แพทย์ผ่าตัดยกกระชับผิว
อธิบายง่ายๆ คือโครงสร้างผิวของคนเราประกอบชั้นผิวต่างๆ 3 ชั้น ก็คือ
- ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นผิวที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ในการช่วยปกป้องผิว
- ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นผิวที่มีองค์ประกอบหลัก คอลลาเจน และ อิลาสติน เปรียบเสมือนเสาหลักที่คอยรักษาความยืนหยุ่นของผิว
- ชั้นใต้ผิวหนัง หรือ ชั้นไขมัน (Subcutaneous) ประกอบด้วยเซลล์ไขมันเป็นหลัก ความหนาขึ้นกับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล
ซึ่งการทำ Thermage จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีไขมันใต้ชั้นผิวค่อนข้างมาก เช่น มีแก้มเยอะ หรือมีเหนียง หรือมีปัญหาเรื่องเซลลูไลท์ (Cellulite) หรือผิวเปลือกส้ม เพราะแม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวไม่เท่ากับการทำ Ultherapy หรือ HIFU แต่ Thermage สามารถลดไขมันใต้ชั้นผิวได้ดีกว่ามาก
หลักการทำงานของ Thermage ช่วยกระชับผิวและริ้วรอยได้ยังไง ?
Thermage ทำงานโดยส่งผ่านพลังงานความร้อน (Monopolar RF) หรือคลื่นวิทยุ ที่เป็นแบบขั้วเดียวที่เจาะจงตำเเหน่งความถี่สูง ลงในผิวชั้นบนจนถึงชั้นไขมัน แต่ Thermage รุ่น FLX ที่มีเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ที่สามารถส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก สามารถกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ โดยที่มีระบบสั่นเพื่อช่วยลดความเจ็บลง ในระหว่างที่ปล่อยพลังงานออกมา จะมีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะๆ ขณะที่ส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก เพื่อลดโอกาส Burn รวมทั้งมี Vibration ระบบสั่น ทำให้รู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น และช่วยลดความเจ็บลง พลังงานความร้อนจาก Thermage ที่ส่งผ่านเข้าไปจะทำการแยกโมเลกุลของน้ำออกจากเส้นใยคอลลาเจนทำให้คอลลาเจนหดตัวทันที ส่งผลให้ผิวมีความกระชับขึ้น โดยในช่วงเดือนถัดไปหลังทำจะมีการสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้น และทำการจัดเรียงตัวใหม่ช่วยให้ผิวแน่น กระชับขึ้นเรื่อยๆ หลังทำ Thermage ช่วยให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวตึงขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวเรียบเนียนและยกกระชับขึ้นหลังการทำเพียงครั้งเดียว โดยผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง และจะยกกระชับได้ดีที่สุดภายในเดือนที่ 6
การทำ เทอร์มาจ (Thermage) ถือเป็นหัตการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมสูงวิธีหนึ่ง เพราะไม่ต้องลงมีดให้เจ็บตัว ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น เห็นผลไว ซึ่งเป็นเครื่องมือยกกระชับใบหน้าหน้าและกระชับสัดส่วนที่มีมานานกว่า 20 ปีแล้ว จึงมั่นใจได้ถึงเรื่องมาตรฐาน ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ เครื่องทำ เทอร์มาจ มีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมาสู่แวดวงความงามอยู่เสมอ และเครื่อง Thermage FLX นับว่าเป็นเจเนอเรชันที่ 4 รุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกผลิตออกสู่ท้องตลาด แต่ใช่ว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเครื่อง Thermage CPT ที่เป็นเจเนอเรชัน 3 จะด้อยประสิทธิภาพลงไปนะคะ ในบทความนี้จึงขอนำเสนอความเหมือนและแตกต่างกันของ เทอร์มาจ (Thermage) ทั้งสองรุ่น เพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่ยังลังเลอยู่ว่าทำเครื่องไหนถึงจะดีกว่ากัน
เครื่อง Thermage มีกี่รุ่น ?
ก่อนจะไปดู เทอร์มาจ รุ่น CPT และ เทอร์มาจ รุ่น FLX ขอมาทำความเข้าใจวิวัฒนาการของเจ้าเครื่องเทอร์มาจกันก่อนค่ะ ว่ามีการพัฒนามากี่รุ่นแล้วจนมาถึงรุ่น FLX
โดยที่ เทอร์มาจ (Thermage) ถูกผลิตออกมาหลายรุ่น นับตั้งแต่ 2003 และได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ
- Thermage TC (2003)
- Thermage NXT (2007)
- Thermage CPT (2009)
- Thermage FLX (2018)
Thermage ที่นิยมใช้ในประเทศไทย คือ Thermage CPT และ Thermage FLX ซึ่งเครื่องที่ถูกพัฒนาล่าสุดคือ Thermage รุ่น FLX ในปี 2018 ค่ะ
- Thermage CPT เป็นเครื่องรุ่นเก่า ผลิตในปี 2009 ขณะทำจะรู้สึกเจ็บ และเป็นระบบที่ไม่มีการคำนวณพลังงานความร้อนใต้ผิว ดังนั้นในขั้นตอนการทำต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญสูงในการทำ
- Thermage FLX เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด (ผลิตปี 2018) ช่วยทำให้เจ็บน้อยกว่ารุ่นเก่า เพราะที่หัวจะมี Integated cooling แบบใหม่ ช่วยปกป้องผิวด้านบนด้วยความเย็น ในระหว่างที่ปล่อยพลังงานออกมา ก็จะมีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะ ๆ ขณะที่ส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก เพื่อลดโอกาส Burn รวมทั้งมีระบบสั่น ทำให้รู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น อีกทั้งยังหัวยิงมีขนาดใหญ่กว่า ใช้เวลาในการทำเร็วกว่ารุ่นเก่าอย่าง Thermage CPT ประมาณ 25%
Thermage CPT และ Thermage FLX มีอะไรบ้างที่เหมือนกัน
- มีหัวทำ 3 ลักษณะเหมือนกัน คือ หัวสำหรับทำตา (Eye Tip), หัวสำหรับทำหน้า (Face Tip), และหัวสำหรับทำตัว (Body Tip)
- มีระบบสั่นที่ช่วยลดทอนความเจ็บให้เบาบางลงระหว่างที่ทำเหมือนกัน ถึงแม้รุ่น FLX จะเพิ่มระบบการสั่นขึ้นมากกว่า รุ่น CPTแต่ความเจ็บก็ไม่ได้เจ็บจนทนไม่ไหวเหมือนกันอยู่ดีนั่นเอง
- มี Cooling System ที่ปล่อยความเย็นให้ผิวชั้นบนระหว่าการทำ ระหว่างทำจะรู้สึกอุ่นที่ผิว ช่วยให้ผิวไม่เสี่ยงต่อการเบิร์นมีหน้าจอแสดงผลจำนวนช็อต (Shot) ที่ใช้ไปได้เหมือนกัน
- เครื่อง Thermage ทั้งสองรุ่นนี้ ให้ผลรักษาที่ไม่แตกต่าง และระยะเวลาคงอยู่ของผลลัพธ์เหมือนกัน คือ 1-2 ปี
- สามารถทำซ้ำได้ปีละ 1 ครั้งเหมือนกัน
Thermage CPT และ Thermage FLX มีอะไรบ้างที่แตกต่างกัน
- ใช้จำนวนช็อตในการรักษาแตกต่างกัน รุ่น CPT มีหัวทิป (Total Tip) ขนาด 3 ตารางเซนติเมตร ใช้จำนวนช็อต อยู่ที่ 1200 ช็อต ส่วนรุ่น FLX มีหัวทิป ขนาด 4 ตารางเซนติเมตร ใช้จำนวนช็อตอยู่ที่ 900 ช็อต แต่ถึงขนาดหัวทิปและจำนวนยิงช็อตแตกต่างกัน แต่พอรวมแล้วจะมีตารางเซนติเมตรที่เท่ากันอยู่ดี
- หัว Total Tip สีม่วง ของรุ่น FLX สามารถยิงลงใต้ชั้นผิวได้ลึกกว่าหัวสีส้มของรุ่น CPT เล็กน้อย ซึ่งต่างกันในระดับไม่กี่มิลลิเมตร ด้วยจำนวนช็อตของ CPT ที่มากกว่าผลลัพธ์ที่เกิดหลังทำจึงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่
- ใช้เวลาในการรักษาต่างกัน ด้วยจำนวนช็อตที่น้อยกว่าของ รุ่น FLX (900 ช็อต) ทำให้เวลาที่ใช้ในการรักษาลดลงกว่า รุ่น CPT (1200 ช็อต) ประมาณ 20-25% หรือ 18 นาทีโดยประมาณ (CPT ใช้เวลาในการรักษา 1.30 ชั่วโมง)
- รุ่น FLX มีจอแบบ Touchscreen ซึ่งในรุ่น CPT ไม่มี
- รุ่น FLX มีระบบ pre and post cooling ที่ช่วยป้องกันไม่ให้อุณหภูมิใต้ผิวหนังมีความร้อนสะสมมากเกินไป ส่วนในรุ่น CPT มีแต่ระบบ pre cooling ซึ่งถ้าแพทย์มีความเชี่ยวชาญก็ไม่ใช่ปัญหา ซึ่งที่เอเพ็กซ์ (Apex) ของเรา มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลตลอดการรักษา ดังนั้นตัดความกังวลข้อนี้ทิ้งไปได้เลยค่ะ
Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
Thermage สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า รอบดวงตา และลำตัว โดยจำนวนช็อตที่ใช้จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์นะคะ แพทย์จะประเมินจาก บริเวณที่ต้องการทำและสภาพผิว
- ใบหน้า สามารถยกกระชับได้ทั่วหน้าและลำคอ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวใบหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีแก้มห้อย มีเหนียง ผิวใต้คางหย่อนคล้อย
- รอบดวงตา หรือ Thermage ตา เหมาะกับผู้ที่มีผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย มีริ้วรอย รวมถึงผู้ที่ต้องการยกคิ้วให้ได้รูป แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก และผิวเปลือกตาที่มีรอยย่น
- ลำตัว สามารถทำได้ทั้งต้นแขน หลังมือ หน้าท้อง สะโพก หรือบริเวณต้นขาที่หย่อนคล้อย ให้กระชับเรียบเนียนขึ้น
ทำ Thermage ดียังไง
- ยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง
- ลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม ใต้คาง และลำคอ
- ลดริ้วรอยรอบดวงตา ร่องแก้ม รอยย่นบนหน้าผาก และตีนกา
- แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก และผิวเปลือกตาที่มีรอยย่น
- ลดปัญหาผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย และเพิ่มความเรียบเนียน
- ลดขนาดรอบเอว รอบขา หรือรอบแขน และเพิ่มความตึงกระชับ
- ยกกระชับสะโพก ลดปัญหาผิวเปลือกส้มที่สะโพก และต้นขา
- ฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
การเตรียมตัวก่อนทำ และดูแลตัวเองหลังทำ Thermage
ก่อนเข้ารับการทำ เทอร์มาจ (Thermage) ไม่จำเป็นต้องเตรียมเป็นพิเศษ ยกเว้นในกรณีที่เพิ่งเข้ารับการฉีดสารเติมเต็ม หรือร้อยไหม ที่ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือน และหลังการทำเทอร์มาจผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
ในส่วนของการดูแลผิวหลังทำเทอร์มาจไม่จำเป็นต้องดูแลส่วนไหนเป็นพิเศษ นอกจากการบำรุงผิวขึ้นพื้นฐาน เช่น ทาครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และทาครีมกันแดดเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผลลัพธ์ของการทำเทอร์มาจมีประสิทธิภาพมากที่สุด แพทย์อาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนที่ผิวหน้าโดยตรง เช่น นวดหน้าด้วยความร้อน การทำเลเซอร์ หรือซาวน่า ในช่วงสัปดาห์แรกหลังทำ Thermage
ผลลัพธ์การทำ Thermage กี่วันเห็นผล?
การทำ เทอร์มาจ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำเลยค่ะ โดยผิวจะกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง และผิวเรียบเนียนขึ้น หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง และจะค่อยๆ เห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายในระยะเวลา 3-6 เดือน
ผลลัพธ์ของการทำเทอร์มาจนั้น จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี แต่เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ควรมาทำซ้ำปีละ 1 ครั้งหรือทำซ้ำทุกๆ 6 เดือน ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิวดั้งเดิม การใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลผิวหลังทำ
Thermage ทำแล้วเจ็บไหม ?
ระดับของความเจ็บของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่ทนได้แน่นนอน เพราะก่อนที่ยิงพลังงานลงสู่ผิวคนไข้ จะมีการแปะยาชาไว้ให้ก่อน นอกจากนั้น Thermage FLX ยังมีระบบ Pre and Post Cooling ที่ช่วยให้ความเจ็บน้อยลง ป้องกันผิวผิวไหม้ ช่วยเพิ่มความรู้สึกสบายระหว่าทำได้อีกด้วย ถ้าใครเคยทำ Thermage รุ่นเก่ามา รับรองค่ะว่าเครื่องใหม่ Thermage FLX สบายกว่าเยอะมาก
เห็นแล้วใช่ไหมคะ ว่าเครื่อง เทอร์มาจ (Thermage) ทั้ง 2 รุ่น CPT และ FLX มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ถ้าให้สรุปแบบง่าย ๆ เครื่องรุ่นล่าสุดอย่าง FLX คือการพัฒนาปรับปรุง ต่อยอดมาจากรุ่น CPT ในส่วนของการใช้งานนั่นเองค่ะ ดังนั้นคุณจะเลือกรับการรักษากับเครื่องรุ่นไหน ในเรื่องของผลลัพธ์ก็ไม่มีความแตกต่างกันเลย เครื่อง เทอร์มาจ ทั้ง 2 รุ่น ยังคงมีประสิทธิภาพและแสดงประสิทธิผลแก่ผิวพรรณของคุณอย่างเต็มที่เช่นเคย
อีกทั้งเทอร์มาจเป็นเพียงเครื่องมือ หากขาดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ต่อให้เครื่องดี เครื่องใหม่แค่ไหน แต่แพทย์ไม่มีความชำนาญก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังไว้ และหากคุณอยากหาคลินิกที่ไว้วางใจได้ในเรื่องนี้ เอเพ็กซ์ ของเราเป็นคลีนิกแรกๆที่เริ่มนำเครื่องเทอร์มาจมาใช้ และยังได้รับรางวัลเรื่องการยกกระชับมากว่า 20 ปีติดต่อกัน จึงเป็นเครื่องการันตีได้ว่า หากคุณมาใช้บริการที่เอเพ็กซ์ คุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีและเป็นธรรมชาติอย่างแน่นอน
รีวิวทำ Thermage ที่ Apex Medical Center
ทำไมต้องรอให้ผิวแก่? รีวิวทำ Thermage กระชับผิวหน้า กับ เปรม วรุศ
รีวิว thermage ยกกระชับผิวหน้าน้องเปรม
ยกกระชับหน้าด้วย thermage คุณโต้ง ผู้กำกับภาพยนตร์
บทความเกี่ยวกับ Thermage
อัปเดต! ผลลัพธ์หลังทำ Thermage – Ulthera แค่ 2 เดือน เชฟป้อม หน้าเด็กลงมาก