“เมตาบอลิซึม” กระตุ้นการเผาผลาญ เร่งการลดน้ำหนัก

ออกกำลังกายก็แล้ว ควบคุมอาหารก็แล้ว แม้จะลดน้ำหนักขนาดไหนน้ำหนักก็ไม่ลดลง พุงยังคงเป็นชั้น มีไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ต้องเช็คด่วน.. “ระบบการเผาผลาญเสื่อม” หรือเปล่า? การเผาผลาญเป็นปัจจัยที่ส่งผลกับการลดน้ำหนักและการควบคุมอาหารโดยตรง อยากลดน้ำหนักให้ได้ผลดีต้องเผาผลาญให้มากกว่าอาหารที่กินเข้าไป

โดยปกติแล้วร่างกายของเราจะมีการเผาผลาญตลอดเวลา แม้แต่ในขณะที่เราอยู่นิ่งๆ และจะมีอัตราการเผาผลาญมากขึ้นเมื่อทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน นั่ง กินอาหารหรือแม้แต่การนอนหลับ โดยการเผาผลาญเป็นกระบวนการภายในร่างกายหรือเรียกว่า “เมตาบอลิซึม” 

เมตาบอลิซึม (Metabolism) ทำงานอย่างไร?

เมตาบอลิซึม คือ กระบวนการทำให้ร่างกายทำงานได้ปกติ ช่วยรักษาสมดุลของภาวะต่างๆ ในร่างกาย อีกทั้งกระบวนการนี้สามารถย่อยสารอาหารและน้ำให้กลายเป็นพลังงานได้ ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆ เพื่อนำพลังงานไปใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งในช่วงพักและออกกำลังกาย เมื่อร่างกายมีพลังงานจำนวนมากจะช่วยเร่งการเผาผลาญและควบคุมหรือลดน้ำหนักได้นั่นเอง 

การเผาผลาญของร่างกาย มีอะไรบ้าง

อัตราความต้องการเผาผลาญของร่างกาย (Basal Metabolic Rate : BMR)

เป็นอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายในแต่ละวันในขณะที่กำลังพักผ่อน โดยร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมใดๆ เป็นอัตราการเผาผลาญพลังงานขั้นต่ำ ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกใช้ไปเพื่อรักษาระดับการมีชีวิตและใช้ควบคุมระบบอวัยวะต่างๆ ให้ทำงานปกติหรืออยู่ในภาวะคงที่ เช่น การเต้นหัวใจ การย่อยอาหาร การหายใจ เป็นต้น 

อัตราความต้องการเผาผลาญของร่างกายนี้จะคิดเป็นร้อยละ 50-80 โดยผู้ชายจะมีอัตราการเผาผลาญวันละประมาณ 1,700 กิโลแคลอรี่ ส่วนผู้หญิงมีอัตราการเผาผลาญวันละประมาณ 1,400 กิโลแคลอรี่ โดยจะมีความแตกต่างกันไปจากหลายปัจจัย เช่น เพศ น้ำหนัก อายุ เป็นต้น

พลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนไหวร่างกาย (Physical Activity)

เป็นพลังงานที่ร่างกายเผาผลาญตอนทำกิจกรรมต่างๆ เช่น นั่ง ยืน เดิน วิ่ง คิดเป็นร้อยละ 25-35 โดยจะเผาผลาญพลังงานเฉลี่ยชั่วโมงละ 700 กิโลแคลอรี่ และพลังงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 50 เท่าหรือมากกว่านั้นระหว่างที่ออกกำลังกาย

พลังงานที่ใช้ย่อยอาหาร (Thermic Effect of Food) 

เป็นพลังงานที่ใช้ในการกิน ย่อย และเผาผลาญอาหาร คิดเป็นร้อยละ 5-10 โดยอัตราการเผาผลาญจะเพิ่มขึ้นหลังจากบริโภคอาหารเข้าไปได้สักพักและจะพุ่งสูงขึ้นในช่วง 2-3 ชั่วโมง ซึ่งพลังงานจะแตกต่างกันตามปริมาณและชนิดของอาหารที่รับประทานเข้าไป

ความอ้วนอาการบ่งบอกการเผาผลาญเสื่อม

น้ำหนักตัวไม่ลดลง แม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ปัญหาที่กล่าวมาอาจมาจากอัตราการเผาผลาญเสื่อม และสามารถแก้ไขได้จากการกินและการออกกำลังกาย

การกินอาหาร

  • ดื่มน้ำ เป็นอะไรที่ต้องทำกันประจำอยู่แล้ว เนื่องจากน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย และน้ำยังเป็นตัวเร่งการเผาผลาญเพื่อทำให้อุณภูมิในร่างกายอุ่นขึ้นอีกด้วย โดยปกติควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว 

  • เพิ่มโปรตีน เช่น เนื้อปลา นม ไข่ ถั่ว อาหารประเภทโปรตีนจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โดยกล้ามเนื้อดังกล่าวจะช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันมากขึ้น นอกจากนี้โปรตีนยังต้องการพลังงาน เพื่อย่อยอาหารเพิ่มขึ้น 25% โดยควรกินโปรตีน 15-35% ของอาหารทั้งวัน  

  • กินอาาหารรสเผ็ด ในอาหารรสเผ็ดจะมีส่วนผสมของพริก ซึ่งพริกสามารถเผาผลาญได้ 20% เป็นเวลาถึง 30 นาที แต่ให้ระวังการกินจนมากเกินไปอาจทำให้เป็นแผลในกระเพาะอาหารได้

การออกกำลังกาย

  • คาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังกายที่เน้นการเผาผลาญไขมันเป็นหลัก และเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าช่วยเบิร์นและยังช่วยลดพุงอีกด้วย
  • เวทเทรนนิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญไขมันที่ทำให้กล้ามเนื้อได้ออกแรงต้าน นอกจากการกินโปรตีนจะสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้แล้ว การออกกำลังกายก็สามารถสร้างกล้ามเนื้อได้เช่นกัน

ดังนั้น ควรออกกำลังกายทั้งแบบคาร์ดิโอ และ เวทเทรนนิ่งควบคู่กันไปด้วย หากมีเวลาออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมง อาจจะวิ่ง 40 นาที และยกดัมเบลอีก 20 นาทีก็ได้

โปรแกรมลดน้ำหนัก เปปไทด์ลดหิว

การเผาผลาญสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ก็จริง แต่อย่าลืมลดความอ้วนที่ต้นเหตุนั่นคือการกิน ศูนย์ลดน้ำหนัก Apex Slim มีแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญในด้านการลดน้ำหนักโดยเฉพาะ และเป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีทันสมัยระดับโลกในการลดน้ำหนักและสัดส่วนที่มีจำนวนเครื่องมือมากที่สุด 

โปรแกรมลดน้ำหนักที่ Apex Slim ใช้การผสมผสานการรักษา โดยมีเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ลดความรู้สึกหิวและความอยากอาหาร จึงช่วยทำให้การควบคุมอาหารทำได้ง่ายขึ้น เป็นการลดน้ำหนักที่ต้นเหตุ ไม่ต้องเสี่ยงออกกำลังกายหนัก

ซึ่งการควบคุมอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% หากทำอย่างต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10% และสามารถหยุดการควบคุมได้เมื่อลดน้ำหนักได้เป็นที่พอใจ โดยไม่มีโยโย่เอฟเฟค เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิมนั่นเอง

อยากเปลี่ยนทัก
095-102-8585
LINE: https://line.me/ti/p/%40APEXslim
FB INBOX: http://m.me/apexslim
FB Page:https://www.facebook.com/ApexSlim