7 ข้อควรระวังเกี่ยวกับการ หวีผม ทำผิดชีวิตเปลี่ยนแถมผมร่วง!

หวีผม
เส้นผมเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ เพราะทั้งหนังศีรษะและผมมักเผชิญกับแสงแดด มลภาวะจากภายนอก ไหนจะสารเคมีจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นา ๆ ที่คุณใช้โดยตรงเป็นประจำทุกวันอีก ซึ่งถ้าหากได้รับการดูแลที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจทำให้มีปัญหาผมเสีย ผมบาง รวมถึงปัญหาผมขาดหลุดร่วงตามมาได้ และคุณทราบกันหรือไม่ว่าหนึ่งในการทำร้ายผิมที่เราอาจทำทุกวันโดยที่ไม่รู้ตัวนั่นก็คือ การหวีผม วันนี้เราจะพาคุณไปเช็กกันว่า คุณเคยเผลอทำร้ายเส้นผมโดยไม่รู้ตัวมากน้อยแค่ไหนแล้ว

1. เลือกหวีไม่เหมาะกับสภาพผม

มีใครที่รู้สึกว่าหวีผมทีไรก็ขาดหลุดร่วง หรือยิ่งหวียิ่งไม่เป็นทรงกันบ้างหรือเปล่าคะ ถ้าคุณกำลังประสบปัญหานี้ นั่นแสดงว่าหวีอันนั้นอาจไม่เหมาะกับสภาพผมของคุณเลยก็เป็นได้ บางคนอาจไม่เคยใส่ใจในการเลือกซื้อหวีมาก่อน เห็นอันไหนสวยหรือราคาถูกก็จ่ายเงินซื้อทันที กระทั่งบางครั้งเลือกจากราคาแพงเพราะคิดว่าคุณภาพดีแน่ ๆ แต่อาจไม่ใช่สำหรับผมของคุณเสมอไป เพราะหากคุณเลือกซื้อหวีที่ไม่เหมาะกับสภาพผมหรือการใช้งาน ก็อาจทำให้เส้นผมถูกทำร้ายได้ค่ะ

ดังนั้นคุณจึงควรเลือกหวีให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของตัวเอง โดยหากคุณเป็นคนผมหนา ควรเลือกแปรงหวีผมทำจากไนลอนที่มีความยืดหยุ่นดี และช่วยให้ผมเรียบลื่นไม่ชี้ฟู แต่ถ้าคุณเป็นคนผมเส้นเล็ก ควรใช้หวีซี่ถี่ ๆ เนื่องด้วยผมเส้นเล็กมีโอกาสหลุดร่วงง่ายกว่าเส้นผมประเภทอื่น ทว่าหากคุณมีผมชี้ฟู ลองเปลี่ยนมาใช้หวีทำจากไม้ เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตจะดีที่สุดค่ะ

2. ไม่ หวีผม ก่อนสระผม

เชื่อว่าหลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่า การหวีผมก่อนสระผมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อผมเปียก เส้นผมจะยิ่งอ่อนแอ หากเส้นผมอยู่ในสภาพยุ่งเหยิงพันกัน เวลาทำความสะอาดย่อมต้องออกแรงสางมากขึ้น และยิ่งส่งผลให้ผมขาดหลุดร่วงมากขึ้น ฉะนั้นเพื่อให้ผมสระง่าย และเส้นผมถูกทำร้ายน้อยที่สุด อย่าลืมสละเวลาแปรงผมกันสักนิดก่อนสระทุกครั้งนะคะ

3. หวีจากโคนผม ลงไปหาปลายผมรวดเดียว

ในระหว่างวันที่เส้นผมเราจะถูกลมพัด หรือมลพิษต่าง ๆ จนทำให้เส้นผมยุ่งเหยิง หรือพันกัน ดังนั้น เมื่อมีเวลาหวีผมคุณควรต้องใจเย็นสักนิด โดยห้ามหวีตั้งแต่โคนผมลากลงไปหาปลายผมรวดเดียว เพราะแบบนั้นจะทำให้เส้นผมถูกดึงกระชากจนขาดหลุดร่วงได้ ดังนั้นวิธีที่ถูกต้องและดีต่อเส้นผมของคุณที่สุดคือ ควรเริ่มหวีจากบริเวณปลายผม ซึ่งเป็นส่วนที่มักพันกันมากที่สุดก่อน จากนั้นจึงค่อย ๆ หวีไล่ระดับขึ้นด้านบนจนถึงโคนผมค่ะ

4. ไม่มีหวีแยกสำหรับผมเปียก

คงทราบกันดีแล้วว่าในระหว่างที่ผมของคุณเปียก เส้นผมจะอ่อนแอทั้งถูกทำร้ายได้ง่ายที่สุด ฉะนั้นเพื่อป้องกันเส้นผมพันกันและขาดหลุดร่วง ควรมีหวีซี่ห่างสำหรับใช้ตอนผมเปียกโดยเฉพาะค่ะ เพราะหวีซี่ห่างจะถนอมเส้นผม ช่วยให้คุณสางผมได้ง่าย โดยไม่ต้องออกแรงเยอะ

5. หวีผม บ่อยเกินไป

ไม่ว่าจะเวลาอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน หลายคนพอรู้สึกว่าผมเริ่มยุ่งหรือฟูนิดหน่อยก็พะวงขาดความมั่นใจ จนต้องคว้าหวีมาแปรง ๆ สาง ๆ ให้เรียบร้อยเป็นระเบียบ แต่รู้หรือไม่ว่านิสัยหวีผมบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องดี เพราะยิ่งหวีบ่อย เส้นผมของคุณจะเสี่ยงต่อการถูกดึงให้ขาดหลุดร่วงมากกว่าปกติ มิหนำซ้ำยังส่งผลให้ผมดูไม่เงางามอีกด้วย

6. ปล่อยให้หวีสกปรก

บางคนอาจละเลยการทำความสะอาดแปรงหวีผม ไม่ว่าเพราะขี้เกียจ ไม่ค่อยมีเวลาหรือด้วยเหตุผลอื่นก็ตาม ทว่าหวีคือแหล่งสะสมสิ่งสกปรกอย่างดีเชียวค่ะ เพราะคุณต้องใช้เป็นประจำทุกวัน วันละหลายหน มันจึงสัมผัสกับเส้นผม ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผมสารพัดอย่าง ไหนจะเศษหนังศีรษะและความมันอีก ฉะนั้นเพื่อความสะอาด และช่วยยืดอายุการใช้งานของหวี ไม่ทำให้ผมมันเยิ้มง่ายหรือเกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ คุณควรทำความสะอาดหวีอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ขั้นตอนแรกคือกำจัดเศษผมที่ติดอยู่บนหวีออกให้หมด จากนั้นนำไปแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมยาสระผม ทิ้งไว้ราว 4 นาที แล้วล้างน้ำสะอาดอีกครั้งก่อนผึ่งให้แห้งค่ะ

7. หวีผม ผิดวิธี ทำผม ชี้ฟู

มีหลายปัจจัยชที่ทำให้ผมของคุณชี้ฟูจัดทรงยาก ทั้งเลือกใช้แปรงไม่เหมาะกับสภาพเส้นผม หวีผมผิดวิธีหรือบ่อยเกินจำเป็น ซึ่งทั้งหมดนั้นอาจเป็นสาเหตุให้เส้นผมของคุณเกิดไฟฟ้าสถิตจนชี้ฟูไม่เป็นทรง หากใครประสบปัญหานี้บ่อย ๆ ลองฉีดสเปรย์ลงบนหวีก่อนใช้งาน หรือหากหลังจากนั้นบริเวณโคนผมยังชี้ฟู ลองใช้วิธีหยดน้ำมันบำรุงผมใส่นิ้วมือแล้วถูกันเบา ๆ จากนั้นใช้ปลายนิ้วลูบผม นี่จะช่วยแก้ปัญหาผมชี้ฟูระหว่างวันได้ดีทีเดียวค่ะ

ได้ทราบกันแบบนี้แล้ว ใครที่ยังติดนิสัยหวีผมแบบผิด ๆ อยู่ รีบเปลี่ยนตั้งแต่ตอนนี้ก็ยังไม่สายนะคะ เพื่อที่คุณจะได้มีเส้นผมที่แข็งแรงไปนาน ๆ  แต่ถ้าหากคุณอยากจะมีเส้นผมที่แข็งแรง และกลับมาดกดำอีกครั้ง เราก็มีวิธีการดูแลรักษาแบบล้ำลึกมาฝาก วิธีที่ว่านั้นก็คือเทคโนโลยี Laser Hair Restart ค่ะ

Laser Hair Restart จะเป็นการส่งคลื่นพลังงานเลเซอร์ Nd:YAG และ Er:YAG เข้าไปกระตุ้นรากผมของคุณให้ได้รับสารอาหาร และทำให้ออกซิเจนไหลเวียนได้ดีขึ้น ผลที่ตามมาคือรากผมอ่อนแอจะกลับมาแข็งแรง เส้นผมกลับมาดกดำเงางามดูสุขภาพดี เรียกคืนความมั่นใจอีกครั้ง ทั้งยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง และไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนการรักษาแบบอื่น ๆ อีกด้วยค่ะ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้คุณทำติดต่อกัน 5-10 ครั้ง ทุก ๆ 2 สัปดาห์ โดยตั้งแต่สัปดาห์ที่ 5 จะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ทว่าทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย ที่สำคัญเมื่อการรักษาเสร็จสิ้น ผมของคุณจะยังคงแข็งแรงต่อไปได้อีกนาน และบอกลาความกังวลเรื่องผมบางหรือหลุดร่วงไปได้เลยค่ะ

หากปัญหาผมบาง ขาดหลุดร่วง และอ่อนแอทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจ ที่ APEX Hair Center เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรอให้คำปรึกษา ดูแล ทั้งยินดีวางแผนแก้ปัญหาเส้นผมที่กวนใจคุณด้วยเทคโนโลยี Laser Hair Restart ซึ่งจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ผมกลับมาหนานุ่ม แข็งแรง และไม่ต้องคอยกังวลกับปัญหาผมบางขาดหลุดร่วงอีกต่อไป

 

สอบถามเพิ่มเติม และประเมินกราฟ โทร. 085-700-0053
Line : http://line.me/ti/p/%40apexhaircenter