บทความเกี่ยวกับ : ใต้ตาบวม

ฟิลเลอร์ใต้ตา
Radiesse
Skinvive
Filler 12900

ใต้ตาบวม แก้ยังไง รวมวิธีจัดการความบวมใต้ตา
รวมวิธีแก้ปัญหาใต้ตาบวมได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
ใต้ตาบวม แดง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และสร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคน เพราะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และแก่กว่าวัย บางคนอาจจะใต้ตาบวมข้างเดียว หรือสองข้าง บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของใต้ตาบวม ผลกระทบต่อใบหน้า และรวบรวมวิธีแก้ปัญหาใต้ตาบวมอย่างครอบคลุม โดยเน้นที่วิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เพื่อให้คุณสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเองได้มากที่สุด

ใต้ตาบวม เกิดจากอะไร
ใต้ตาบวมเกิดจากอะไร ใต้ตาบวม แดง เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกร่างกายที่ส่งผลให้เกิดการสะสมของน้ำและไขมันบริเวณใต้ตา ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ของใต้ตาบวม ได้แก่

• ใต้ตาบวมเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังบริเวณใต้ตาจะบางลง ขาดความยืดหยุ่น ทำให้ไขมันที่เคยอยู่ลึกลงไปเคลื่อนตัวออกมา ทำให้เห็นเป็นใต้ตาบวมที่ชัดเจน
• ใต้ตาบวมเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ไม่ดี ส่งผลให้เกิดการคั่งของน้ำและของเสียบริเวณใต้ตา ทำให้เกิดใต้ตาบวม
• ใต้ตาบวมเกิดจากการรับประทานอาหารรสเค็มจัด โซเดียมในอาหารรสเค็มจัดจะกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ส่งผลให้เกิดใต้ตาบวม
• ใต้ตาบวมเกิดจากอาการแพ้ อาการแพ้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพ้อาหาร แพ้ฝุ่น หรือแพ้เกสรดอกไม้ สามารถทำให้เกิดการอักเสบและบวมบริเวณใต้ตาได้
• ใต้ตาบวมเกิดจากกรรมพันธุ์ บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดใต้ตาบวมได้ง่ายกว่าคนอื่น เนื่องจากมีลักษณะทางพันธุกรรมที่เอื้ออำนวย
• ใต้ตาบวมเกิดจากโรคประจำตัว โรคบางชนิด เช่น โรคไต โรคหัวใจ หรือโรคไทรอยด์ อาจทำให้เกิดใต้ตาบวมได้เช่นกัน

ใต้ตาบวม

ใต้ตาบวม แก้ยังไง วิธีจัดการความบวมใต้ตามีอะไรบ้าง

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาบวม หรือ ลดใต้ตาบวม ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ใต้ตาบวม ส่งผลต่อใบหน้าอย่างไร
อาการใต้ตาบวม เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย และอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น การสะสมของไขมันใต้ตา การไหลเวียนโลหิตไม่ดี หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น นอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะเป็นปัญหาทางด้านความงามแล้ว ปัญหาใต้ตาบวมยังส่งผลต่อภาพลักษณ์และบุคลิกภาพโดยรวมของเราอีกด้วย

• ใต้ตาบวมทำให้ใบหน้าดูโทรม เมื่อใต้ตาบวมขึ้น ดวงตาจะดูหมองคล้ำและไม่สดใส ทำให้ใบหน้าดูเหมือนไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ แม้ว่าจะนอนหลับครบ 8 ชั่วโมงก็ตาม หลายคนที่มีปัญหานี้มักจะถูกทักว่า ดูง่วงนอนตลอดเวลา หรือ ดูเหมือนทำงานหนักเกินไป ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเสียความมั่นใจและกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตัวเอง
• ใต้ตาบวมทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ใต้ตาบวมและหย่อนคล้อยสามารถทำให้ใบหน้าดูแก่ขึ้นหลายปีโดยไม่รู้ตัว สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหานี้คือ การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวหนังใต้ตาขาดความยืดหยุ่นและเกิดการหย่อนคล้อย เมื่อไขมันใต้ตามีการเคลื่อนตัวลงมารวมกับอาการบวม จะยิ่งทำให้ดูมีอายุมากขึ้น
• ใต้ตาบวมทำให้ขาดความมั่นใจ สำหรับหลายๆ คน ปัญหาใต้ตาบวมไม่ใช่แค่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังส่งผลต่อ ความมั่นใจและความรู้สึกของตัวเอง ด้วย การมีใต้ตาบวมอาจทำให้รู้สึก ไม่อยากถ่ายรูป ไม่อยากเจอผู้คน หรือรู้สึกว่าต้องแต่งหน้าปกปิดตลอดเวลา
• ใต้ตาบวมส่งผลต่อการเข้าสังคม แม้ว่าปัญหาใต้ตาบวมอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์กับผู้อื่น ได้ คนที่มีใต้ตาบวมมากมักถูกเข้าใจผิดว่า ดูอารมณ์ไม่ดี หรือดูไม่สดใส ซึ่งอาจทำให้การสื่อสารกับผู้อื่นเป็นไปได้ยากขึ้น

วิธีรักษาถุงใต้ตาบวม แก้ยังไงด้วยวิธีธรรมชาติ
สำหรับผู้ที่มีใต้ตาบวมไม่มากนัก หรือต้องการเริ่มต้นด้วยวิธีที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี การใช้วิธีธรรมชาติอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและปลอดภัยในการลดใต้ตาบวม

• วิธีรักษาถุงใต้ตาบวมด้วยการประคบเย็น การประคบเย็นช่วยลดอาการใต้ตาบวมและอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้ ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็น หรือ ก้อนน้ำแข็งห่อผ้า ประคบที่ใต้ตาเป็นเวลา 10-15 นาที หรือเจลเย็นสำหรับดวงตา (eye gel mask) หรือ ช้อนสเตนเลสแช่เย็น นำมาวางบริเวณใต้ตาสักครู่
• วิธีรักษาถุงใต้ตาบวมด้วยแตงกวา แตงกวามีคุณสมบัติช่วยลดอาการบวมและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว โดยให้ฝานแตงกวาเป็นแว่นบางๆ แล้วนำไปแช่เย็นก่อนใช้ วางบนเปลือกตา 15-20 นาที เพื่อให้สารอาหารซึมซาบเข้าสู่ผิว
• วิธีรักษาถุงใต้ตาบวมด้วยถุงชาแช่เย็น โดยเฉพาะชาเขียวและชาดำ มีสารแทนนินที่ช่วยลดอาการบวมและรอยคล้ำใต้ตา ใช้ถุงชาที่ชงแล้ว แช่เย็นประมาณ 15-20 นาที วางบนเปลือกตาทิ้งไว้ 10-15 นาที
• วิธีรักษาถุงใต้ตาบวมด้วยการนวดเบา ๆ บริเวณใต้ตา การนวดช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและลดอาการบวม ใช้นิ้วนางค่อยๆ นวดเบาๆ เป็นวงกลมบริเวณใต้ตา สามารถใช้น้ำมันอัลมอนด์ หรือน้ำมันมะพร้าวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
• วิธีรักษาถุงใต้ตาบวมด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับที่ไม่เพียงพออาจทำให้ใต้ตาบวมและคล้ำ ควรนอนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง นอนยกหัวให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อช่วยลดการคั่งของของเหลวใต้ตา
• วิธีรักษาถุงใต้ตาบวมด้วยการลดการรับประทานอาหารรสเค็ม อาหารที่มีโซเดียมสูงทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ใต้ตาบวม ควรลดการบริโภค อาหารแปรรูป ขนมขบเคี้ยว อาหารสำเร็จรูป
• วิธีรักษาถุงใต้ตาบวมด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย ร่างกายที่ขาดน้ำอาจกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บของเหลว ส่งผลให้ใต้ตาบวม ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนที่อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ
• วิธีรักษาถุงใต้ตาบวมด้วยการใช้ว่านหางจระเข้บำรุงใต้ตา ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติช่วยลดอาการบวม เติมความชุ่มชื้น และลดการอักเสบใช้เจลว่านหางจระเข้ทาใต้ตาก่อนนอน ล้างออกด้วยน้ำสะอาดในตอนเช้า
• วิธีรักษาถุงใต้ตาบวมด้วยการออกกำลังกายและโยคะหน้า การออกกำลังกายช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานดีขึ้น ลดอาการบวมใต้ตาลองทำ โยคะใบหน้า โดยการยกคิ้วและกระพริบตาช้าๆ หรือการก้มศีรษะลงต่ำช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
• วิธีรักษาถุงใต้ตาบวมด้วยการใช้มันฝรั่งดิบช่วยลดบวม มันฝรั่งดิบมีเอนไซม์ที่ช่วยลดอาการบวมและทำให้ผิวกระจ่างใส ฝานมันฝรั่งเป็นแว่นบางๆ แล้วแช่เย็น วางลงบนเปลือกตา 15-20 นาที แล้วล้างออก

ใต้ตาบวม

ใต้ตาบวม แก้ยังไง วิธีจัดการความบวมใต้ตามีอะไรบ้าง

ผลลัพธ์หลังรับบริการ รักษาใต้ตาบวม หรือ ลดใต้ตาบวม ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

วิธีแก้ปัญหาใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์
โปรแกรมฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับการแก้ปัญหาใต้ตาบวม โดยเฉพาะในกรณีที่มี ร่องใต้ตาลึก (Tear Trough) หรือ เบ้าตาลึก ร่วมด้วย การทำโปรแกรมฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มและปรับสมดุลให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น ลดความหมองคล้ำ และทำให้ใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น

โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวมได้อย่างไร?
• โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมเต็มร่องใต้ตา (Tear Trough) ในบางกรณีที่ใต้ตาบวมเกิดจากร่องลึก โปรแกรมฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น ลดเงาที่เกิดจากแสงสะท้อนบนใบหน้า ทำให้ใต้ตาดูสว่างและสดใสมากขึ้น
• โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยลดความหย่อนคล้อยใต้ตา โปรแกรมฟิลเลอร์ช่วยยกกระชับผิวบริเวณใต้ตา ลดอาการใต้ตาบวมที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวหนัง ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
• โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวใต้ตา Hyaluronic Acid ช่วยให้ผิวใต้ตาชุ่มชื้นขึ้น ลดรอยคล้ำและริ้วรอยที่เกิดจากความแห้งกร้าน

การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรม ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ลดใต้ตาบวม
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมฟิลเลอร์ และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบรับรองจาก อย.
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรงดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ เพื่อลดความเสี่ยงของอาการช้ำ
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนทำ เพื่อป้องกันอาการบวมมากกว่าปกติ
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการฉีด
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติแพ้ยา โดยเฉพาะแพ้สาร Hyaluronic Acid
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณใต้ตาในวันทำหัตถการ เพื่อให้แพทย์สามารถทำความสะอาดผิวก่อนฉีดได้ง่ายขึ้น

การดูแลหลังทำโปรแกรม ฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ลดใต้ตาบวม
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลี่ยงการสัมผัส นวด หรือกดทับบริเวณใต้ตา เป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังฉีด
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้โปรแกรมฟิลเลอร์อุ้มน้ำและทำให้ผิวใต้ตาดูอิ่มฟูขึ้น
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรงดออกกำลังกายหนัก และกิจกรรมที่ทำให้มีเหงื่อมาก อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงความร้อนสูง เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือโดนแดดจัด เป็นเวลา 3-7 วัน
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ เพราะอาจทำให้โปรแกรมฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าปกติ
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรหากมีอาการบวมแดงเล็กน้อย สามารถใช้เจลเย็นประคบเบาๆ แต่ไม่ควรกดแรง
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดมากผิดปกติ ผิวเปลี่ยนสี หรือมีตุ่มแข็งใต้ผิว ควรรีบพบแพทย์ทันที
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรงดใช้สกินแคร์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA หรือเรตินอล อย่างน้อย 3 วันหลังทำ

วิธีแก้ปัญหาใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับ
การลดใต้ตาบวมโดยการใช้เครื่องยกกระชับพลังงานจากเครื่องยกกระชับจะถูกส่งไปยังชั้นผิวที่ลึก ทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตากระชับขึ้น และใต้ตาบวมดูเล็กลง

หลักการทำงานของเครื่องยกกระชับใต้ตา
การใช้เครื่องยกกระชับในการแก้ปัญหาใต้ตาบวม ใช้พลังงานเฉพาะทางเพื่อช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวม โดยทำงานผ่านกระบวนการดังนี้

• โปรแกรม Ultherapy ลดใต้ตาบวม โปรแกรม Ulthera ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง (Micro-Focused Ultrasound) ยิงลึกไปถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า ช่วยให้ผิวยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
• โปรแกรม Thermage ลดใต้ตาบวม โปรแกรม Thermage ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) เพื่อส่งความร้อนเข้าสู่ชั้นหนังแท้ ทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัวทันที และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นเมื่อคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้น
• โปรแกรม HIFU ลดใต้ตาบวม โปรแกรม Hifu ส่งพลังงานอัลตราซาวด์ลงสู่ชั้นผิวลึก เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและทำให้ผิวกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

โปรแกรมเครื่องยกกระชับช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวมได้อย่างไร?
• ลดใต้ตาบวมโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวใต้ตาแข็งแรงและกระชับขึ้น
• ลดใต้ตาบวมโดยการลดการหย่อนคล้อยและการสะสมของไขมันใต้ตาที่ทำให้เกิดถุงใต้ตา ทำให้ใต้ตาดูเต่งตึง
• ลดใต้ตาบวมโดยการกระชับเนื้อเยื่อใต้ตา ทำให้ริ้วรอยลดลงและถุงใต้ตาดูเล็กลง

การเตรียมตัวก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับ
หากคุณกำลังวางแผนใช้ เครื่องยกกระชับใต้ตา เช่น โปรแกรม Ultherapy, โปรแกรม Thermage หรือ โปรแกรม HIFU เพื่อลดอาการบวมและกระชับผิว ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง

• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับนัดหมายเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิวใต้ตา และเลือกเครื่องยกกระชับที่เหมาะสม
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับแจ้งประวัติการรักษาผิวหน้า การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ หรือการทำหัตถการอื่นๆ ที่ผ่านมา
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับตรวจสอบว่าคุณมีภาวะที่อาจเป็นข้อห้ามของการทำ เช่น โรคผิวหนังอักเสบหรือโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหลีกเลี่ยง ยาแก้อักเสบ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน และแอสไพริน อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ เพื่อลดความเสี่ยงของรอยช้ำ
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหยุดทานอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิต เช่น วิตามินอี โอเมก้า 3 โสม และแปะก๊วย ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนทำ
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับงดใช้สกินแคร์ที่มี กรดผลัดเซลล์ผิว (AHA, BHA, Retinol, Vitamin C) ประมาณ 3-5 วันก่อนทำ เพื่อป้องกันการระคายเคือง
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งเกินไป เช่น โทนเนอร์แอลกอฮอล์สูง
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหากเคยฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเว้นระยะ 2-4 สัปดาห์ก่อนทำเครื่องยกกระชับ
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ที่มีความร้อนสูงบริเวณใต้ตา 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและตอบสนองต่อการรักษาได้ดีขึ้น
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคืน
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ 2-3 วันก่อนทำ เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิตและการฟื้นฟูผิว
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ ห้ามทาครีมบำรุง เครื่องสำอาง หรือกันแดด ในวันทำ
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับสวมเสื้อผ้าที่สบาย เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายขณะรับการรักษา
• ก่อนลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับอาจรับประทานอาหารเบาๆ ก่อนเข้ารับบริการเพื่อป้องกันอาการหน้ามืดขณะทำ

การดูแลตัวเองหลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับ
หลังจากทำ โปรแกรม Ultherapy, โปรแกรม Thermage หรือ โปรแกรม HIFU บริเวณใต้ตา ควรดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง

• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดโดยตรงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หลังทำ
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับใช้ครีมกันแดด SPF 50+ เป็นประจำทุกวัน เพื่อลดโอกาสเกิดรอยดำหรืออาการระคายเคือง
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหลีกเลี่ยงการอบไอน้ำ ซาวน่า และอาบน้ำอุ่นจัด อย่างน้อย 3-5 วัน
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับไม่ควรขยี้ตาหรือกดใต้ตาแรงๆ เพราะอาจกระตุ้นการอักเสบ
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิว (AHA, BHA, Retinol) อย่างน้อย 1 สัปดาห์
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อคืน และควรนอนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ หลังทำ เพราะจะลดประสิทธิภาพของการฟื้นฟูผิว
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหากมีอาการแห้งหรือลอกเล็กน้อย สามารถใช้ เจลว่านหางจระเข้ หรือครีมที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับอาการบวมแดงหรือรู้สึกอุ่นใต้ตาเป็นอาการปกติหลังทำ และจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหากมีอาการบวมแดงรุนแรง เจ็บปวดผิดปกติ หรือใต้ตาช้ำมาก ควรรีบปรึกษาแพทย์
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ หรือฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หลังทำ
• หลังลดใต้ตาบวมด้วยเครื่องยกกระชับหากต้องการแต่งหน้า ควรเว้นระยะ 24 ชั่วโมง และเลือกเครื่องสำอางที่อ่อนโยนต่อผิว

APEX Clinic ขอเป็นตัวเลือกหนึ่งในการลดใต้ตาบวม ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมฟิลเลอร์ โปรแกรมเครื่องยกกระชับเรามุ่งเน้นในการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน พัฒนาทักษะของบุคลากร รวมถึงการควบคุมมาตรฐานคลินิกอยู่เสมอ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้บริการที่ดีจากการใช้บริการอย่างแน่นอน หากใครสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการทำหัตถการลดใต้ตาบวมได้เลยค่ะ

Apex

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

วิธีลดใต้ตาบวมมีอะไรบ้าง มารู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดความบวมใต้ตา ทำให้ตาไม่สดใส หน้าดูไม่อ่อนเยาว์เท่าที่ควร แล้วมาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวม

199
ฟิลเลอร์ใต้ตา
Radiesse
Skinvive
Filler 12900
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
รับโปรโมชั่นพิเศษ
รับโปรโมชั่นพิเศษ
ปรึกษาฟรี
ปรึกษาฟรี
โทรสอบถามโปรโมชั่น
โทรสอบถามโปรโมชั่น