บทความเกี่ยวกับ : หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก , ฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ดียังไง ? วิธีปรับรูปปากสุดจึ้งโดยไม่ต้องผ่าตัด
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ตัวช่วยมาแรง ที่ตัวแม่ ตัวมัม มองหาในการเปลี่ยนรูปปาก ทรงปาก ที่ถูกใจ โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถตอบโจทย์ในการปรับรูปปากและทรงปากได้ตามใจชอบในทุกสไตล์
ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นทางเลือกที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจมากในการปรับรูปปากหรือทรงปากของตนเอง เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวก ง่าย ใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องพักฟื้นหลังจากการทำ อีกทั้งไม่ต้องอาศัยการผ่าตัดและได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า
วันนี้ Apex ขอมานำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ทุกคนได้นำไปตัดสินใจก่อนที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก รวมถึงสามารถดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากได้อย่างถูกต้อง และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยค่ะ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดูแลอย่างไร filler ปากแก้ปัญหาอะไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฉีดฟิลเลอร์ปากคืออะไร ?
การฉีด Filler ปาก คือการเติมสารที่มีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่สามารถสลายตัวได้ตามธรรมชาติ โดยจะถูกฉีดเข้าไปที่บริเวณริมฝีปากเพื่อช่วยเพิ่มปริมาตรให้ปากดูอวบอิ่มและชุ่มชื้น อีกทั้งยังช่วยปรับรูปทรงของปากให้สวยงามได้ตามต้องการ เช่น ปากกระจับ ปากสายฝอ หรือปากที่มีขอบชัดขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?
การฉีด Filler ปากช่วยแก้ปัญหาและปรับรูปปากได้ในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มหรือปรับรูปปากหรือทรงปากให้ได้ตามต้องการ ดังนี้
1.Filler ปากช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากบาง
สำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบางเกินไป การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มปริมาตรของเนื้อปากให้ดูเต็มและสวยงามขึ้น ทำให้ปากดูอวบอิ่มและมีเสน่ห์มากขึ้น
2.Filler ปากช่วยแก้ปัญหาปากแห้งและขาดความชุ่มชื้น
ฟิลเลอร์ HA มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ทำให้ปากดูสุขภาพดี ไม่แห้งหรือลอกเป็นขุย
3.Filler ปากช่วยแก้ปัญหาปากมีริ้วรอยหรือร่องลึก
การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกบริเวณริมฝีปากให้ดูเรียบเนียนขึ้น ลดปัญหาการตกร่องของลิปสติก และทำให้ปากดูเรียบสวย
4.Filler ปากช่วยแก้ปัญหาปากไม่สมดุล
สำหรับผู้ที่มีปากไม่สมมาตร การฉีดฟิลเลอร์ช่วยปรับรูปปากให้มีความสมดุลยิ่งขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและมีความน่าดึงดูด
5.Filler ปากช่วยแก้ปัญหาปากคว่ำหรือมุมปากตก
ฟิลเลอร์สามารถฉีดบริเวณมุมปากเพื่อยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ปากดูเป็นทรงยิ้ม ดูสดใสและอ่อนโยนขึ้น
Filler ปากจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากและเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด อีกทั้งยังเป็นหัตถการที่เห็นผลได้ทันทีและสามารถคงอยู่ได้นานหลายเดือน
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดูแลอย่างไร filler ปากแก้ปัญหาอะไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลสัดส่วนที่สมดุลของริมฝีปากบน-ล่างตามหลักการแพทย์
เป็นแนวทางที่ช่วยให้รูปปากดูสมดุลและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคล ซึ่งมีการวัดและคำนวณตามหลักสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ความงาม ดังนี้
1.สัดส่วนริมฝีปากบนต่อริมฝีปากล่าง
โดยทั่วไป ริมฝีปากล่างจะควรมีขนาดที่ใหญ่หรือหนากว่าริมฝีปากบนเล็กน้อย โดยมีอัตราส่วนประมาณ 11.6 เพื่อให้ดูสมดุล อวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
2.ระยะห่างจากปลายจมูกถึงริมฝีปากบน
เมื่อมองจากด้านข้าง จะมีเส้นที่เรียกว่า E-line (เส้นความงาม) ซึ่งลากจากปลายจมูกลงมาที่คาง ริมฝีปากล่างควรแตะเส้นนี้พอดี ส่วนริมฝีปากบนควรห่างจากเส้นนี้ประมาณ 2 มิลลิเมตร
3.ขอบปากที่ชัดเจน
บริเวณขอบปากหรือ "Vermilion border" ควรมีเส้นขอบที่ชัดเจนและเรียบเนียน ขอบปากที่ชัดเจนนี้จะช่วยเสริมให้ริมฝีปากดูสวยและสมดุลยิ่งขึ้น
4.มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
เพื่อให้ปากดูมีความอ่อนโยนและยิ้มแย้ม มุมปากควรยกขึ้นเล็กน้อย ไม่ควรตกหรือคว่ำลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสดใสและมีชีวิตชีวาให้กับใบหน้า
5.สัดส่วนริมฝีปากกับใบหน้าทั้งหมด
ตามหลักการแพทย์ ความกว้างของปากควรตรงกับเส้นแนวตั้งที่ลากลงมาจากกึ่งกลางของดวงตาทั้งสองข้าง นอกจากนี้ การวัดสัดส่วนของริมฝีปาก ควรสัมพันธ์กับความยาวของจมูก และคาง เพื่อให้รับกับใบหน้าทั้งหมด
การฉีด Filler ปากให้สมดุลตามหลักการแพทย์นี้ ช่วยให้รูปปากดูมีสัดส่วนที่สวยงามเข้ากับโครงหน้า และยังทำให้ดูอ่อนเยาว์และมีเสน่ห์มากขึ้น
รูปปากไม่สมมาตร ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยได้ยังไง ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถช่วยแก้ปัญหารูปปากไม่สมมาตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเติมสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำอย่าง ไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) เข้าไปในบริเวณที่ต้องการปรับสมดุล ทำให้รูปปากดูเท่ากันและสวยงามยิ่งขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นวิธีที่ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลและสามารถเพิ่มความมั่นใจได้ โดยสามารถปรับสมดุลของริมฝีปากที่ไม่เท่ากันได้ในหลายรูปแบบ ดังนี้
1.เติมเต็มด้านที่เล็กหรือบางกว่า
ในกรณีที่ริมฝีปากด้านหนึ่งเล็กหรือบางกว่าอีกด้าน แพทย์สามารถฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อเพิ่มวอลุ่มให้ด้านที่บางกว่าดูอิ่มขึ้น ทำให้ปากทั้งสองข้างมีขนาดที่ใกล้เคียงกันยิ่งขึ้น การ ฉีดฟิลเลอร์ปากในลักษณะนี้จะช่วยสร้างสมดุลที่สวยงาม
2.ปรับความหนาของริมฝีปากบนและล่าง
สำหรับผู้ที่ริมฝีปากบนและล่างไม่สมดุล เช่น ริมฝีปากล่างหนากว่าริมฝีปากบนจนดูไม่สมส่วน การฉีดฟิลเลอร์ปากบริเวณริมฝีปากบนสามารถช่วยเพิ่มความหนา ทำให้ริมฝีปากทั้งสองดูสมดุลและได้สัดส่วนที่เหมาะสม การฉีดฟิลเลอร์ปากแบบนี้จึงเป็นการปรับรูปทรงปากให้เข้ากับใบหน้าโดยรวม
3.สร้างรูปทรงและขอบปากให้ชัดเจน
ในบางคนที่ขอบปากไม่ชัดเจนหรือเบลอ การฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยสร้างขอบปากและปรับรูปทรงให้เด่นชัดขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ปากในกรณีนี้จะทำให้รูปปากดูสวยงามและมีมิติ อีกทั้งยังช่วยให้ริมฝีปากดูชัดเจนและคมชัด ทำให้ปากมีเสน่ห์และสมดุลมากขึ้น
4.ปรับมุมปากให้ยกขึ้น
บางกรณีที่มุมปากไม่เท่ากันหรือปากคว่ำลง แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ปากบริเวณมุมปากเพื่อยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ริมฝีปากดูเท่ากัน และใบหน้าดูสดใสและเป็นมิตรมากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อยกมุมปากจะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูอ่อนโยนและมีเสน่ห์
5.เติมเต็มร่องลึกและพื้นที่ไม่เรียบเนียน
นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ปากยังสามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกหรือพื้นที่ที่ไม่เรียบเนียนบนริมฝีปาก ทำให้ปากดูเรียบเนียนและสมดุลทั่วทั้งริมฝีปาก การฉีดฟิลเลอร์ปากในลักษณะนี้จะช่วยให้ปากดูมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
การแก้ไขปัญหารูปปากไม่สมมาตรด้วยการฉีด Filler ปาก ควรทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะแพทย์จะสามารถประเมินสัดส่วนและออกแบบการฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัย ดังนั้น หากสนใจฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรอง ซึ่งจะทำให้การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นวิธีที่มั่นใจได้ในด้านความปลอดภัยและคุณภาพ
การฉีดฟิลเลอร์ปาก แก้ปัญหาปากแตกได้ยังไง ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากแห้งและแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid HA) ที่ใช้ใน การฉีดฟิลเลอร์ปากมีคุณสมบัติเด่นในการกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากดูอิ่มฟูและชุ่มชื้นขึ้นทันทีหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยังช่วยฟื้นฟูสภาพริมฝีปากที่แห้งและขาดน้ำได้ดี ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้หลากหลายวิธี ดังนี้
1.เติมความชุ่มชื้นให้เนื้อปาก
ด้วยคุณสมบัติของ HA ในการอุ้มน้ำ การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงทำให้ริมฝีปากดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น ริมฝีปากจึงดูสุขภาพดี เรียบเนียน ไม่แห้งหรือเป็นขุย การฉีดฟิลเลอร์ปากด้วย HA จึงเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้ปากมีความชุ่มชื้นยาวนาน
2.ลดปัญหาร่องลึกและรอยแตก
การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกและรอยแตกบนริมฝีปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เนื้อปากเรียบเนียนและลดการตกร่องของลิปสติกได้ดี การฉีดฟิลเลอร์ปาก จึงช่วยให้ริมฝีปากดูเนียนสวย ไม่มีรอยแตก และเพิ่มความมั่นใจในการทาลิปสติก
3.สร้างเนื้อปากที่อวบอิ่มและนุ่มขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ทำให้เนื้อปากดูอวบอิ่มและนุ่มขึ้น ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้ปากแล้ว ยังช่วยให้ปากดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงเป็นการปรับปรุงพื้นผิวริมฝีปากให้ดูสวยงามและน่าสัมผัส
4.ป้องกันการแห้งแตกในอนาคต
ด้วยคุณสมบัติการกักเก็บน้ำของ HA การฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยสร้างชั้นความชุ่มชื้นในเนื้อปาก ซึ่งจะช่วยให้ริมฝีปากคงความชุ่มชื้นได้ยาวนานขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงเป็นการลดโอกาสที่ปากจะแห้งแตกในอนาคต และทำให้ริมฝีปากดูสุขภาพดีได้ในระยะยาว
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาความแห้งของริมฝีปาก แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นซ้ำด้วย การฉีดฟิลเลอร์ปากโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์จะทำให้ริมฝีปากดูอิ่มฟูและชุ่มชื้นยาวนาน อีกทั้ง การฉีดฟิลเลอร์ปากยังช่วยสร้างความสมดุลให้ใบหน้าและเพิ่มความมั่นใจได้
ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากมักมีความเจ็บเล็กน้อยระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ปาก แต่โดยทั่วไปแล้วไม่เจ็บมาก เนื่องจากคลินิกส่วนใหญ่จะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดูแลอย่างไร filler ปากแก้ปัญหาอะไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีอายุการคงอยู่ของผลลัพธ์ประมาณ 6-18 เดือน หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
1.ชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและรุ่นจะมีความคงตัวต่างกัน ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งและหนาแน่นมากกว่าจะคงอยู่ได้นานกว่า ซึ่งบางรุ่นสามารถคงอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ในขณะที่รุ่นที่เนื้อนิ่มกว่ามักจะอยู่ได้น้อยกว่า
2.ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ปากเข้าไปมีผลต่ออายุของฟิลเลอร์ด้วย ถ้าใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณมากและเต็มเนื้อปาก จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นเล็กน้อย
3.พฤติกรรมส่วนตัวของผู้รับบริการ
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เช่น การดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้น การหลีกเลี่ยงการจับหรือกดที่ริมฝีปากบ่อย ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้น
4.กระบวนการเผาผลาญของร่างกาย
อัตราการเผาผลาญของร่างกายแต่ละคนแตกต่างกัน คนที่มีระบบเผาผลาญเร็วอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่า จึงอาจต้องกลับมาฉีดฟิลเลอร์ปากซ้ำบ่อยมากขึ้น
5.ตำแหน่งที่ฉีด
บริเวณริมฝีปากเป็นจุดที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยจากการพูดหรือเคี้ยวอาหาร ซึ่งจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับการฉีดฟิลเลอร์ในจุดอื่น เช่น แก้มหรือใต้ตา
โดยทั่วไป หากต้องการคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการ และเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ปากซ้ำ ตามคำแนะนำของแพทย์เมื่อฟิลเลอร์ปากเริ่มสลายตัว
ฉีดปากสายฝอ VS ฉีดปากแบบเกาหลี ควรเลือกแบบไหน ?
การเลือกทรงฉีดปากระหว่าง ทรงฉีดปากสายฝอ และ ทรงฉีดปากแบบเกาหลี ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความเหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล ดังนี้
• โครงหน้า หากคุณมีใบหน้าคมชัด การฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอจะช่วยเสริมเสน่ห์ได้ดี ในขณะที่ใบหน้าหวานอาจเหมาะกับปากทรงเกาหลี
• บุคลิกภาพและสไตล์ที่ต้องการ หากต้องการให้ดูเซ็กซี่ การฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอจะตอบโจทย์มากกว่า ส่วนถ้าอยากได้ลุคที่ดูสดใสและอ่อนหวาน ปากแบบเกาหลีจะเหมาะสม
• ความหนา-บางของริมฝีปากเดิม การฉีดปากสายฝอต้องการวอลลุ่มมากกว่า หากริมฝีปากบางเกินไปอาจต้องฉีดฟิลเลอร์ปากเพิ่มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ส่วนปากแบบเกาหลีไม่จำเป็นต้องเพิ่มความหนามากนัก
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องใช้กี่ซีซี ?
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ปากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รูปทรงปากที่ต้องการ ความหนาของริมฝีปากเดิม และระดับความอวบอิ่มที่ต้องการ โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ปากจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 0.5 - 2 ซีซี ตามรายละเอียดดังนี้
1.การฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นหรือเติมเล็กน้อย
สำหรับผู้ที่ต้องการเพียงเพิ่มความชุ่มชื้น หรือเติมให้ริมฝีปากดูมีวอลลุ่มขึ้นเล็กน้อย อาจใช้ฟิลเลอร์เพียง 0.5 - 1 ซีซี ซึ่งจะช่วยให้ปากดูชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้นโดยยังคงความเป็นธรรมชาติ
2.การฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้ปากอวบอิ่ม
สำหรับผู้ที่ต้องการให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เช่น ปากสายฝอ อาจใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1 - 2 ซีซี โดยแพทย์จะฉีดให้ริมฝีปากดูหนาขึ้นทั้งด้านบนและด้านล่าง เพื่อให้ได้รูปทรงที่ดูเต็มและชัดเจน
3.การฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อปรับรูปทรงหรือแก้ปัญหาปากไม่สมมาตร
กรณีที่ต้องการปรับแต่งรูปทรงของปาก หรือแก้ไขความไม่สมมาตร อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณ 1 ซีซี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาและทรงที่ต้องการ โดยแพทย์จะค่อยๆ เติมในบริเวณที่ต้องการเพื่อให้ได้รูปทรงที่สมดุล
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างให้ปลอดภัย ?
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มความปลอดภัยในการทำหัตถการ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและคงอยู่ได้นานขึ้น ซึ่งสิ่งที่ควรทำมีดังนี้
1.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดยาและอาหารเสริมบางชนิด
• ควรงดยาประเภทที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), NSAIDs และยาที่ทำให้เลือดเจือจางอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยช้ำหรืออาการบวมหลังฉีด
• งดอาหารเสริมบางชนิดที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการช้ำหรือเลือดไหล เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, กระเทียม, โสม, แปะก๊วย และอีฟนิ่งพริมโรส เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด
2.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะแอลกอฮอล์อาจทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการเกิดรอยช้ำหรืออาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
3.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอช่วยให้ร่างกายมีความพร้อมในการฟื้นตัวหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก และยังช่วยลดความเครียดซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ
4.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดกิจกรรมที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่กระตุ้นให้เลือดสูบฉีดมาก เช่น ซาวน่า หรืออาบน้ำร้อน ในวันก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะการเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายอาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
5.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเลือกคลินิกและแพทย์ที่เชื่อถือได้
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรทำโดยแพทย์เฉพาะทางในคลินิกที่ได้รับมาตรฐานและใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีการรับรองจาก อย. เพื่อป้องกันปัญหาการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
6.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดหมดจด โดยเฉพาะบริเวณริมฝีปากและรอบ ๆ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ปาก
7.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรแจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยาชนิดใด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า เพื่อประเมินความเสี่ยงและให้คำแนะนำที่เหมาะสมก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
8.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรวางแผนวันและเวลาฉีดให้เหมาะสม
ควรเลือกเวลาที่เหมาะสมและมีเวลาพักผ่อนหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะหลังฉีดฟิลเลอร์ปากอาจมีอาการบวมและต้องการการดูแลอย่างเหมาะสม จึงควรหลีกเลี่ยงการนัดหมายสำคัญในช่วง 2-3 วันแรกหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงและช่วยให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ปากออกมาสวยงามและปลอดภัย
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดูแลอย่างไร filler ปากแก้ปัญหาอะไร
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้ได้ผลลัพธ์ยาวนาน
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนาน และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง โดยข้อแนะนำในการดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์ปากมีดังนี้
1.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดริมฝีปาก
ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส กด หรือจับริมฝีปากเพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว และเพื่อให้ฟิลเลอร์คงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
2.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดดื่มเครื่องดื่มร้อนและแอลกอฮอล์
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มร้อนอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น และควรงดการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อช่วยลดอาการบวมและการระคายเคือง
3.หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เลือดไหลเวียนเพิ่มขึ้น
งดการออกกำลังกายหนัก ซาวน่า อบไอน้ำ หรือการอาบน้ำร้อนจัด เป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวและลดการบวมที่อาจเกิดขึ้นจากการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้น
4.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
หากมีอาการบวมในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถใช้การประคบเย็นอย่างเบา ๆ โดยห่อผ้าบาง ๆ บนถุงน้ำแข็งแล้วนำมาประคบบริเวณที่บวม ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมและทำให้รู้สึกสบายขึ้น
5.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอหลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ทำให้ฟิลเลอร์คงตัวได้นานและดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มและคงความชุ่มชื้น
6.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางในช่วงแรก
ควรงดการทาลิปสติกหรือเครื่องสำอางบริเวณริมฝีปากอย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
7.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือขยี้ริมฝีปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการนวด ขยี้ หรือใช้ลิ้นดุนริมฝีปาก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือเกิดเป็นก้อนได้
8.หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
หากแพทย์มีคำแนะนำเฉพาะเพิ่มเติม หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงเข้ารับการติดตามผลตามนัดหมาย เพื่อให้แพทย์ตรวจเช็คผลลัพธ์และประเมินความเรียบร้อย
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปากตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของอาการข้างเคียง ทำให้ริมฝีปากสวยงามและคงความอวบอิ่มได้ยาวนาน
คลินิกที่ปลอดภัยสำหรับฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องดูยังไง ?
การเลือกคลินิกที่ปลอดภัยสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยทักษะเฉาะทางของแพทย์ และต้องมีความปลอดภัยสูง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือการฉีดฟิลเลอร์ปากโดยผู้ที่ไม่ชำนาญการ ซึ่งหลักการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีดังนี้
1.มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้อง
คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุขที่ถูกต้องและแสดงให้เห็นชัดเจน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าคลินิกนั้นได้รับการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการทางการแพทย์
2.มีแพทย์เฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ปาก
ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์ปาก และควรตรวจสอบว่าผู้ให้บริการมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และสามารถสอบถามประสบการณ์ของแพทย์ได้ แพทย์ที่มีความชำนาญจะมีความเข้าใจในสัดส่วนใบหน้าและสามารถเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละคนได้
3.ใช้ฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐาน อย.
คลินิกควรใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ซึ่งหมายความว่าฟิลเลอร์นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย มีคุณภาพ และสามารถตรวจสอบได้ ควรเลือกคลินิกที่มีการเปิดกล่องฟิลเลอร์ใหม่ต่อหน้าและสามารถตรวจสอบบาร์โค้ดหรือหมายเลข Lot ได้
4.สถานที่และอุปกรณ์ที่สะอาด ปลอดภัย
คลินิกควรมีการจัดการสถานที่และอุปกรณ์ที่สะอาด ปลอดเชื้อ และได้มาตรฐานการควบคุมเชื้อ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ปาก นอกจากนี้ควรมีการตรวจสอบและฆ่าเชื้ออุปกรณ์เป็นประจำ
5.รีวิวและความน่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง
การดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงหรือคำแนะนำจากผู้ที่เคยไปใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ปากที่คลินิกนั้น จะช่วยให้ทราบถึงประสบการณ์จริงว่าคลินิกนั้นมีมาตรฐาน และให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจหรือไม่ ควรเลือกคลินิกที่ได้รับคำแนะนำที่ดีและมีชื่อเสียงในเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ปาก
6.มีการให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนทำหัตถการ
คลินิกที่ดีควรมีการให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยแพทย์จะต้องอธิบายถึงขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก ประโยชน์ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และคำแนะนำในการดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับบริการตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
7.มีการติดตามผลหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก
คลินิกที่มีคุณภาพจะมีบริการติดตามผลหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก เช่น นัดหมายตรวจเช็คสภาพปากและการฟื้นตัวหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก และมีคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลหลังหัตถการอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ออกมาดีและไม่มีผลข้างเคียง
8.ไม่มีการโฆษณาราคาถูกเกินจริง
หากคลินิกมีการเสนอราคาในการฉีดฟิลเลอร์ปากถูกมากผิดปกติ อาจต้องระวัง เนื่องจากฟิลเลอร์แท้ที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยมักมีต้นทุนสูง การโฆษณาด้วยราคาถูกเกินไปอาจเป็นสัญญาณของการใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือบริการจากผู้ที่ไม่มีใบอนุญาต
การเลือกคลินิกที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานจะช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นไปอย่างราบรื่น และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงหรือการติดเชื้อ ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่มีความเชื่อถือและได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการ
Apex Beauty Clinic เป็นคลินิกความงามที่ได้รับมาตรฐานรับรอง มีแพทย์เฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่มีประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้าอย่างยาวนาน สามารถไว้วางใจได้ถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
หากท่านใดสนใจ สามารถจองคิวเพื่อเข้ามาปรึกษาคุณหมอ หรือถ้าอยากสอบถามข้อสงสัยอื่น ๆ เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากก่อนการตัดสินใจ สามารถแอดไลน์เพื่อปรึกษาและสอบถามได้เลยค่ะ แล้วพบกันที่ APEX นะคะ