สำหรับใครที่หน้าใหญ่ มีเหนียง กรอบหน้าไม่ชัด ไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องรูปหน้าอีกต่อไป เพราะปัจจุบันมีเทคนิคทางการแพทย์มากมายที่สามารถช่วย ปรับกรอบหน้า ของเราให้เรียวสวยได้แบบง่าย ๆ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการฉีดอย่าง Botox , Filler หรือใช้เครื่องมือยกกระชับผิวอย่าง Ulthera, Thermage แต่เทคนิคไหนจะช่วยให้หน้าเรียว กรอบหน้าชัดได้มากที่สุด หลายคนน่าจะอยากรู้กันแล้ว ถ้าอย่างนั้นเรามาหาคำตอบในบทความนี้เลยค่ะ
สาเหตุของปัญหารูปหน้าใหญ่
ปัญหาหน้าใหญ่ รูปหน้าไม่ได้สัดส่วน ที่ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- กล้ามเนื้อ : สาเหตุนี้เกิดขึ้นได้กับคนส่วนใหญ่ เพราะในชีวิตประจำเราของเราทุกคนต้องเคี้ยวอาหาร หรือพูดคุยอยู่ตลอดเวลา ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามทำงานหนัก จึงมีความแข็ง และใหญ่ขึ้น
- ไขมัน : เกิดจากไขมันสะสมบริเวณใบหน้า แก้ม ใต้คาง ในปริมาณเยอะทำให้ใบหน้าดูใหญ่ อ้วนกลม ซึ่งอาจจะเป็นกรรมพันธุ์โดยกำเนิด หรือมาจากการทานอาหารของเราเอง โดยเฉพาะคนที่ชอบทานของหวาน ของทอด แป้ง น้ำตาล อาหารประเภทนี้จะทำให้เกิดไขมันสะสมได้มากขึ้น
- โครงสร้างกระดูก : มักมาจากกรรมพันธุ์ คนในครอบครัวมีโครงสร้างกระดูกขากรรไกรใหญ่ ทำให้รูปหน้าดูใหญ่กว่าปกติ ซึ่งบางคนอาจจะมีปัญหาสัดส่วนโครงสร้างกระดูกผิดปกติ ทำให้ใบหน้าเบี้ยวได้
อย่างที่บอกไปว่าในปัจจุบันเทคนิคในการปรับรูปหน้ามีด้วยกันหลายวิธี ดังนั้นแต่ละเทคนิคจึงถูกคิดค้น และพัฒนาให้เหมาะสำหรับแต่ละสาเหตุในการปรับรูปหน้า ซึ่งถ้าถามว่าลดเหนียง ปรับกรอบหน้าด้วยเทคนิคไหนเวิร์คที่สุด? จำเป็นต้องดูจากสาเหตุของรูปหน้าของเราเป็นหลัก เพื่อให้ผลลัพธ์ในการปรับรูปหน้าออกมาได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
โบท็อกซ์ (Botox)
Botox ถือเป็นวิธีปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว แถมขั้นตอนในการรักษาไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา ซึ่งการฉีดโบท็อก สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง และช่วยยกกระชับใบหน้าและลำคอได้อีกด้วย ดังนั้นเทคนิคนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อบริเวณกรามเยอะ
โดยการฉีดโบท็อก จะใช้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ฉีดเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อบริเวณกราม กรอบหน้า หรือกล้ามเนื้อส่วนที่ต้องการแก้ปัญหา ซึ่งสารนี้จะออกฤทธิ์ต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ ให้อ่อนแรงชั่วคราวและขยับได้น้อยลง กล้ามเนื้อเมื่อไม่ค่อยได้ขยับจึงค่อย ๆ คลายความหดเกร็ง จากที่แข็งก็จะนิ่มขึ้น จนกล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลงในที่สุด เมื่อกล้ามเนื้อที่เคยใหญ่หายไปจึงส่งผลให้ใบหน้าของเราดูเรียวเล็กได้นั่นเอง
ซึ่งวิธีปรับรูปหน้าด้วยการฉีดโบท็อก สามารถทำได้ 2 แบบ คือ ฉีดโบท็อกลดกราม และฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า โดยแพทย์จะดูจากปัญหารูปหน้าของเราก่อน ถ้ากล้ามเนื้อกรามเยอะ แข็ง ควรฉีดลดขนาดกรามให้เล็กลงก่อน และถ้าต้องการปรับกรอบหน้าให้ชัดมากขึ้นก็สามารถฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า เพื่อให้หน้าเรียว ยกกระชับ เห็นกรอบหน้าชัดมากขึ้น
การฉีดโบท็อกลดกรามจะเริ่มเห็นผลภายใน 4-7 วัน โดยกล้ามเนื้อจะเล็กลงเรื่อย ๆ จนเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดภายใน 1 เดือน และสามารถคงอยู่ได้นาน 6-8 เดือน ก่อนที่สาร Botulinum toxin A จะสลายไปได้เอง ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย เมื่อสารนี้หมดฤทธิ์กล้ามเนื้อก็จะเริ่มหดตัวกลับมาเป็นปกติ ดังนั้นถ้าอยากให้ผลลัพธ์ใบหน้าเรียวเล็กคงอยู่ได้ยาวนาน เราสามารถกลับมาฉีดโบท็อกซ้ำได้ แต่ควรเว้นระยะเวลา 3-4 เดือน/ครั้ง ไม่ควรฉีดติดกันเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะดื้อโบท็อกได้
ฟิลเลอร์ (Filler)
การฉีดฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับคนที่รูปหน้าไม่ชัดจากปัญหาต่าง ๆ เช่น โครงหน้าบริเวณกราม หรือคางไม่ได้สัดส่วนเล็กน้อย หรือคนที่ไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้าเยอะ ทำให้เห็นกรอบหน้าไม่ชัด ต้องการปรับใบหน้าให้ได้สัดส่วน ดูมีมิติ กรอบหน้าชัดมากขึ้น
ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า จะใช้สารประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ในการแก้ไขรูปหน้า หรือฉีดเติมเต็มรูปหน้าให้ดูมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และเพื่อผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรมชาติที่สุด แพทย์จะใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าช่วงล่างทั้งหมด โดยจะเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไปตั้งแต่บริเวณกรอบหน้า หรือ Jawline ไล่ไปถึงบริเวณคาง เพื่อปรับให้รูปหน้าได้สัดส่วน มีความละมุนแบบธรรมชาติ ไม่ดูแข็งทื่อ หน้าเรียวสวยมีมิติทุกมุมมอง
โดยการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันที และผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 18-24 เดือนเลยทีเดียว ก่อนที่สาร Hyaluronic Acid จะสลายไปได้เอง โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่ผลิตออกมาให้มีความเหมาะสมสำหรับฉีดปรับรูปหน้าช่วงล่างโดยเฉพาะ คือ Juvederm Volux แบรนด์ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมจากอเมริกา ช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง ปั้นขึ้นได้รูปได้ดี เคลื่อนที่ได้ยาก เหมาะกับการสร้างกรอบหน้าให้มีความคมชัด
อัลเทอร่า (Ulthera)
ผิวหน้าหย่อนคล้อยสามารถทำให้เกิดปัญหากรอบหน้าไม่ชัดได้เช่นกัน ดังนั้น Ulthera จึงเป็นตัวช่วยในการยกกระชับใบหน้า อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอย ฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูสุขภาพดีได้มากขึ้นอีกด้วย เทคนิคนี้ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ เต่งตึง แบบที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว
โดยการทำงานของเครื่องมือยกกกระชับผิว อัลเทอร่า จะเป็นการส่งพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง ผ่านเครื่องอัลตราซาวนด์ที่มีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ได้ลึกถึงชั้นผิวระดับ SMAS โดยเมื่อแพทย์ยิงพลังงานลงสู่ผิว คลื่นเสียงความถี่สูงจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนจุดเล็ก ๆ กระจายเข้าไปทั่วระดับชั้น SMAS เข้าไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อที่เสื่อมสภาพ กลับมาหดตัว ส่งผลให้ผิวหน้าที่หย่อนคล้อยยกกระชับ เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ จึงส่งผลให้ผิวหน้าที่ดูโทรมได้รับการฟื้นฟู ให้กลับมาเรียบเนียน สุขภาพ ดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยลดเลือนลง
ซึ่งการทำ Ulthera สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำเสร็จได้ถึง 10-15 % ว่าใบหน้ามีความยกกระชับขึ้น และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุดได้ใน 2-3 เดือนหลังทำ ซึ่งความยกกระชับ และความเรียบเนียน อ่อนเยาว์ของใบหน้าจะคงอยู่ได้นาน 1-2 ปีเลยทีเดียว
เทอร์มาจ (Thermage)
สำหรับคนที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณใบหน้า แก้ม เหนียง รวมถึงมีปัญหาแก้มห้อย ทำให้กรอบหน้าไม่ชัด การทำ Thermage เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์สำหรับการแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาก ๆ เลยค่ะ เพราะสามารถช่วยยกใบหน้า ให้ดูกระชับ ผิวดูเฟิร์มขึ้นได้ นอกจากนั้นยังช่วยสลายไขมันสะสม ให้ใบหน้าเรียวเล็ก และยังสามารถกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน ฟื้นฟูสภาพผิวหน้าได้จากภายในอีกด้วย
โดยการทำงานของเทคโนโลยียกกระชับผิว เทอร์มาจ จะเป็นการปล่อยพลังงานคลื่นความถี่สูง Radio Frequency (RF) ตรงเข้าสู่ระดับชั้น Dermis รวมไปถึงชั้นที่อยู่ของคอลลาเจน และไขมัน เมื่อยิงพลังงานนี้ไปที่ผิวจะกลายเป็นพลังงานความร้อน เข้ากระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอิลาสติน ให้เส้นใยที่เสื่อมสภาพกลับมา มีเกลียวที่แน่นตึงมากขึ้น รวมถึงช่วยทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจน อิลาสตินใหม่ และพลังงานความร้อนที่ลงไปยังชั้นไขมันยังช่วยสลายไขมันสะสมได้อีกด้วย
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Thermage เพียงแค่เครื่องมือเดียวแต่สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าได้ถึง 2 ต่อเลยค่ะ ทั้งยกกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก กรอบหน้าชัด และยังช่วยฟื้นฟูผิวให้มีความเปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดีได้อีกด้วย โดยเราสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้หลังทำทันทีว่าใบหน้ามีความกระชับขึ้นกว่า 15-20% และผิวหน้าจะได้รับการฟื้นฟูจนเห็นผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุดภายใน 1-3 เดือน ซึ่งผลลัพธ์นี้จะคงอยู่ได้นานถึง1-2 ปีเลยทีเดียว
ลดเหนียง ปรับกรอบหน้า ด้วยเทคนิคไหนเวิร์คที่สุด? ทำเทคนิคไหนแล้วจะช่วยให้หน้าเรียว กรอบหน้าชัดได้มากที่สุด? ทุกคนคงได้คำตอบแล้วว่าต้องดูที่สาเหตุปัญหารูปหน้าของเราเป็นหลัก ทำให้การแก้ปัญหารูปหน้าของแต่ละคนจึงมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้าก่อนทำหัตถการใด ๆ ก็ตามทุกครั้งนะคะ
