ฉีด โบท็อก Botox ปรับรูปหน้า หน้าเรียว ลดริ้วรอย!

    โบท็อกเริ่มเข้าคลินิกครั้งแรก เชื่อว่าหลายคนสนใจการฉีด โบท็อก Botox ก่อนเทคนิคอื่น ๆ เสมอ เพราะการฉีดโบท็อกสามารถช่วยปรับรูปหน้า ให้ใบหน้าเรียว ลดกรามให้เล็กลง แถมยังช่วยลดริ้วรอยได้ในเวลาอันรวดเร็ว และเป็นวิธีการฉีด จึงไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว พักฟื้นนาน ๆ เหมือนวิธีอื่น ๆ ดังนั้นการฉีดโบท็อกจึงเรียกได้ว่า เป็นวิธีที่ช่วยให้ใบหน้าสวยขึ้นได้ในพริบตาเลยทีเดียว

    โบท็อก Botox คืออะไร?

    จริง ๆ แล้วคำว่า โบท็อก Botox’ ที่หลายคนรู้จักและพูดกันจนติดปาก มาจากชื่อทางการค้า หรือชื่อยี่ห้อของสาร Botulinum toxin A ของบริษัท  Allergan USA ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่นำเอาสารนี้มาผลิตเพื่อช่วยลดริ้วรอย และลดขนาดกล้ามเนื้อเป็นรายแรก จนได้รับความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการคลินิกความงามทั่วโลก ดังนั้นเมื่อมีบริษัทอื่น ๆ ผลิตสารนี้ตามออกมา ไม่ว่าจะผลิตมาจากประเทศไหน หรือใช้ชื่อยี่ห้อว่าอะไรก็ตาม ทำให้คนส่วนใหญ่มักจะติดเรียกสารลดริ้วรอย และลดกล้ามเนื้อนี้ว่า โบท็อกซ์ Botox นั่นเองค่ะ

    ซึ่งโบท็อกซ์ Botox หรือสาร Botulinum toxin A (โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ) เป็นสารโปรตีนบริสุทธิ์ชนิดหนึ่งที่สกัดมาจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์สายพันธุ์เฉพาะอย่าง Clostridium botulinum โดยในช่วงแรกแพทย์จะนำสารตัวนี้มาใช้รักษาโรค เช่น อาการตาเหล่ อาการปวดหัวไมเกรน และอาการกล้ามเนื้อกระตุก ต่อมาจึงได้พัฒนานำสารนี้มาใช้ในวงการแพทย์เสริมความงาม เพื่อช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า รวมถึงช่วยลดเหงื่อได้อีกด้วย

    การทำงานและผลลัพธ์ของโบท็อก Botox

    เมื่อแพทย์ฉีดโบท็อก Botox เข้าไปในส่วนที่มีปัญหาจะออกฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงลงชั่วคราว ขยับได้น้อยลง จนกล้ามเนื้อที่หดเกร็งอยู่เริ่มคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยต่าง ๆ ลดเลือนลง ผิวมีความเรียบเนียนมากขึ้น เช่นการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยหน้าผาก หางตา นอกจากนั้นกล้ามเนื้อที่ขยับได้น้อยลง เมื่อเวลาผ่านไปกล้ามเนื้อจะเริ่มลีบเล็กลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้บริเวณที่มีกล้ามเนื้อแข็งเริ่มนิ่ม อย่างเช่นการฉีดโบท็อกลดกราม หรือน่อง อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ ช่วยให้เหงื่อและกลิ่นตัวลดน้อยลงได้

    โบท็อกโดยผลลัพธ์การฉีดโบท็อกแต่ละบริเวณจะใช้ระยะเวลาในการเห็นผลแตกต่างกันไป ซึ่งการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลได้หลังจากฉีดภายใน 2-3 วัน ว่าริ้วรอยจางลง และเมื่อกล้ามเนื้อขยับได้น้อยจึงเป็นส่วนช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ ได้อีกด้วย  ส่วนการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้าจะเริ่มเห็นผลใน 4-7 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นภายใน 1 เดือน ว่าใบหน้าเรียวขึ้น โดยผลลัพธ์การฉีดโบท็อก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือนเลยทีเดียว เมื่อโบท็อกหมดฤทธิ์กล้ามเนื้อจะเริ่มหดตัวกลับมาเป็นปกติ สามารถขยับได้ตามเดิม ซึ่งฤทธิ์โบท็อกจะสลายตัวได้เอง โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ภายในร่างกายอีกด้วย

    โบท็อก Botox ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?

    โบท็อกขึ้นชื่อในเรื่องของการฉีดเพื่อลดกราม ให้ใบหน้าเล็ก เรียว และช่วยลดริ้วรอย แต่นอกจากทั้ง 2 อย่างนี้แล้ว โบท็อก Botox ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาบนใบหน้า คอ และลำตัวได้อีกหลายอย่าง ดังนี้

    • ปัญหาริ้วรอย : โบท็อกจะออกฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็ง คลายตัวออก ส่งผลให้ริ้วรอย รอยยับต่าง ๆ จางลง ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น เช่น รอยตีนกา ริ้วรอยบนหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว โดยการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ใน 2-3วันหลังฉีด
    • ปัญหาขนาดกล้ามเนื้อ : โบท็อกจะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ขยับได้น้อยลง เมื่อผ่านเวลาไปกล้ามเนื้อจะเริ่มลีบเล็ก และกล้ามเนื้อที่เคยแข็งจะเริ่มนิ่ม บริเวณที่นิยมฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ อย่างเช่นบริเวณกราม เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก และบริเวณน่องขา เพื่อให้ขาเรียวสวยขึ้น โดยการฉีดโบท็อกซ์ลดขนาดกล้ามเนื้อ จะเห็นผลลัพธ์ได้แบบเต็มที่ใน 1-2 เดือน
    • ปัญหาเหงื่อ : โบท็อกช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมฉีด บริเวณใต้รักแร้ สำหรับคนที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะจนมีกลิ่นตัว แต่นอกจากนั้นก็ยังสามารถฉีดบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และไรผมได้อีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกลดเหงื่อจะเริ่มเห็นผลใน 2-3 วันหลังฉีดว่าเหงื่อลดน้อยลง
    • ปัญหาผิว : โบท็อกสามารถช่วยกระชับขนาดรูขุมขนให้เล็กลงได้เช่นกัน โดยแพทย์จะฉีดโบท็อกไปยังกล้ามเนื้อและต่อมไขมัน ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 2-3 วันหลังฉีดว่าต่อมไขมันมีขนาดเล็กลง ทำให้ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

    ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด?

    ตอนนี้มีโบท็อกออกมาในท้องตลาดหลายยี่ห้อ จากหลากหลายประเทศ ซึ่งแน่นอนว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันไปตามวิธีการผลิตให้ตัวยามีความบริสุทธิ์ ขนาดโมเลกุล และปริมาณที่แต่ละบริษัทนั้น ๆ ผลิตออกมา โดยปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดโบท็อก และราคามีความแตกต่างกัน ซึ่งในประเทศไทยแต่ละคลินิกก็มีการใช้ยี่ห้อโบท็อกแตกต่างกันออกไป แต่ที่ได้รับความนิยมจะเป็นโบท็อกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศเยอรมัน และประเทศเกาหลี

    ยี่ห้อโบท็อกโบท็อกอเมริกา : Botox Allergan USA ถือว่าเป็นต้นกำเนิดของโบท็อก เพราะผลิตออกมาเป็นยี่ห้อแรก ผ่านการรับรองจาก US FDA และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนมีงานวิจัยรองรับกว่า 4,000 งานวิจัย ดังนั้นจึงทำให้ได้รับความนิยมใช้อย่างแพร่หลายไปทั่วโลก ซึ่งข้อดีคือ ตัวยามีการกระจายตัวแคบ เพราะมีโมเลกุลใหญ่ แพทย์จึงควบคุมการกระจายตัวได้ง่ายขึ้น ฉีดได้อย่างตรงจุดของปัญหาที่ต้องการแก้ไข ผลลัพธ์ที่ได้จะมีความเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นาน โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 2-3 วัน และอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน จึงเรียกได้ว่าเป็นโบท็อกที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงเลยทีเดียว

    โบท็อกเยอรมัน : Xeomin เป็นโบท็อกที่ได้รับการพัฒนาให้มีความบริสุทธิ์ และตัวยากระจายตัวแบบพอดี ผลลัพธ์ที่ได้จึงค่อนข้างมีความเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นยังมีงาวิจัยว่าใช้งานได้ดีกับคนที่เคยมีภาวะดื้อโบท็อกมาก่อน เพราะตัวยาไม่กระตุ้นการต้าน toxin แต่ต้องหยุดฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี ซึ่งผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน เรียกได้ว่าเป็นโบท็อกอีกหนึ่งยี่ห้อที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเลยทีเดียว

    โบท็อกเกาหลี : Neuronox , Botulax เป็นโบท็อกที่ได้รับความนิยมในไทยมากอีกหนึ่งยี่ห้อ เนื่องจากมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าโบท็อกจากประเทศอื่น ๆ ส่วนผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพเช่นกัน แต่อาจจะเห็นผลได้ช้ากว่า และอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือนฤทธิ์ของโบท็อกจะเริ่มสลาย โดยจะเห็นผลลัพธ์ได้ใน 4-5 วันหลังฉีด และอยู่ได้เพียง 3-4 เดือนเท่านั้น

    ถ้าในด้านงานวิจัยโบท็อกเกาหลียังไม่มีรองรับว่าจะเกิด Side Effect ในระยะยาวหรือไม่ และเมื่อไม่กี่ปีมานี้อย.ไทย ก็มีการเรียกคืนโบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Neuronox เนื่องจากพบว่าใช้สารที่ยังได้มาตรฐาน รวมถึงมีการมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลวิเคราะห์ ทำให้ส่งผลต่อความปลอดภัยต่อคนไข้ได้ ซึ่งแตกต่างจากโบท็อกอเมริกา และเยอรมัน ซึ่งในโบท็อกอเมริกา มีการศึกษทดลองและมีงานวิจัยรองรับผลมากมาย นานกว่า 50 ปีแล้ว จึงมีความปลอดภัยสูง

    โบท็อกซ์เหมือนกัน..ก็เลือกที่ราคาถูกที่สุดสิ!

    จริงอยู่ค่ะว่าตัวโบท็อกซ์ที่แพร่หลายอยู่ในตอนนี้ ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไรก็คือสาร Botulinum Toxin Type A เหมือนกัน แต่นวัตกรรมในการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันอยู่ ซึ่งสามารถสังเกตง่าย ๆ เวลาเราหงายก้นขวดดู บางยี่ห้อเป็นผงแป้ง บางยี่ห้อเป็นคราบขาว ๆ และบางยี่ห้อแทบจะเหมือนขวดเปล่า เช่นโบท็อกของ Allergan เป็นโปรตีนบริสุทธิ์และเลือกใช้แต่โมเลกุลตัวใหญ่ซึ่งมีการศึกษาว่าจะทำให้โบท็อกที่ฉีดไปไม่ไหลไปกล้ามเนื้อมัดอื่น ทำให้แพทย์สามารถฉีดรักษาปัญหาบนใบหน้าของคนไข้ได้อย่างแม่นยำ และตรงจุดมากขึ้น

    ฉีดโบท็อก Botox ส่วนไหนได้บ้าง?

    โบท็อกสามารถฉีดได้ทั้งใบหน้าและลำตัว แต่ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะคุ้นเคยกับการฉีดโบท็อกบริเวณใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย บริเวณหน้าผาก หางตา หรือการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า เช่นการฉีดโบท็อกลดกราม แต่นอกจากนี้แล้วโบท็อก Botox ยังสามารถฉีดได้อีกหลายจุด เช่น

    โบท็อก

    • โบท็อกริ้วรอยหน้าผาก
    • โบท็อกริ้วรอยระหว่างคิ้ว
    • โบท็อกริ้วรอยหางตา
    • โบท็อกลดโหนกแก้ม
    • โบท็อกรัดแกนจมูก
    • โบท็อกลดปีกจมูก
    • โบท็อกลดกราม
    • โบท็อกลิฟหน้าเรียว
    • โบท็อกกระชับรูขุมขน
    • โบท็อกริ้วรอยบริเวณคอ
    • โบท็อกลดบ่า-ไหล่
    • บท็อกลดเหงื่อใต้วงแขน ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
    • โบท็อกลดกล้ามแขน
    • โบท็อกลดน่อง

    เคล็ดลับฉีดโบท็อก Botox ให้ได้ผลดีขึ้น

    โบท็อก Botox เป็นสารที่สามารถสลายตัวได้ เมื่อหมดฤทธิ์ปัญหาใบหน้าของเราก็จะกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นเพื่อผลลัพธ์ที่อยู่ได้อย่างยาวนาน เรามีเคล็ดลับที่ช่วยให้ Botox ที่ฉีดมาได้ผลดีมีประสิทธิภาพ และอยู่ได้นานขึ้น ดังนี้

    • งดสัมผัส : หลีกเลี่ยงการสัมผัสไม่ว่าจะเป็น กด จับ คลำ บริเวณที่เพิ่งฉีดโบท็อกมาประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพราะอาจจะทำให้โบท็อกที่ฉีดไปเคลื่อนที่ไปยังส่วนอื่น ๆ ได้
    • ขยับกล้ามเนื้อบ่อย ๆ : พยายามขยับกล้ามเนื้อในส่วนที่ฉีดบ่อย ๆ โดยเฉพาะคนที่ฉีดโบท็อกลดกราม หลังฉีดเสร็จควรกัดฟัน หรือ เคียวหมากฝรั่ง เพื่อเป็นตัวช่วยในการคลายกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังช่วยให้โบท็อกกระจายตัว และทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
    • เลี่ยงความร้อน : ช่วงสัปดาห์แรกหลังจากฉีดโบท็อก ควรงดเข้าซาวน่า หรือทำเลเซอร์ เนื่องจากความร้อนอาจจะทำให้กล้ามเนื้อหดขยายตัว และทำให้โบท็อกเคลื่อนตัวไปยังกล้ามเนื้อมัดอื่นได้
    • ประคบเย็น : หลังฉีดถ้าเกิดอาการบวมแดง สามารถประคบเย็น โดยใช้น้ำแข็งห่อผ้า หรือใช้เจลเย็นในการประคบได้ เพื่อเป็นการบรรเทาอาการ โดยอาการบวมแดงไม่เป็นอันตราย และสามารถหายได้เองภายใน 1-2 วัน
    • เว้นช่วงในการฉีด : ไม่ควรฉีดโบท็อกติดต่อกันบ่อยจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้ ดังนั้นถ้าจะฉีดโบท็อกครั้งต่อไป ควรเว้นระยะในการฉีดอย่างน้อย 3 เดือน

    โบท็อกรีวิวฉีด Botox คุณ คริส – กฤตย์ ส่งสัมพันธ์ (นักแสดง)

    APEX : ทำไมถึงอยากฉีด Botox ลดกราม

    คุณคริส : ตอนนี้กังวลเกี่ยวกับใบหน้า พอเวลาออกกล้อง รู้สึกว่าหน้าบวม หน้าใหญ่ แถมกรอบหน้าไม่ชัด พอต้องถ่ายงานตลอดก็จะไม่มีเวลาพักฟื้น การฉีด Botox ถือเป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว แถมเห็นผลลัพธ์ชัดเจนครับ

    APEX : ทำไมถึงเลือกฉีด Botox ลดกราม ที่ APEX

    คุณคริส : มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ นักแสดงแนะนำมาครับ คริสตัดสินใจฉีด Botox ลดกรามที่ APEX เพราะมั่นใจว่าที่นี้ใช้ Botox ที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ เป็นของจากอเมริกาอย่าง Allergan และก็มีคุณหมอที่เป็นถึงระดับอาจารย์แพทย์ ทำให้คริสมั่นใจเลยมาฉีด Botox ลดกรามที่ APEX ครับ

    APEX : ความรู้สึกหลังจากฉีด Botox ลดกราม กับ APEX

    คุณคริส : ไม่รู้สึกเจ็บเลย คุณหมอมือเบามาก ๆ กรามลดลงเยอะมากครับ ฉีดแป๊บเดียวไม่กี่นาทีก็เสร็จ แถมคุณหมอที่ APEX ยังมีเทคนิคพิเศษ ไม่ใช่แค่ฉีดใหกรามเล็กลงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้หน้าเรียว กรอบหน้าชัดขึ้นได้อีกด้วย ชอบมากครับ

    รีวิวฉีดโบท็อกคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก Botox

    Q: ฉีดโบท็อก Botox เจ็บไหม?

    A: หลายคนอยากฉีดโบท็อกแก้ปัญหาใบหน้า แต่กลัวเจ็บ หรือกลัวเข็ม ทำให้ไม่ได้ฉีดโบท็อกสักที แต่จริง ๆ แล้วการฉีดโบท็อกไม่ได้เจ็บ หรือน่ากลัวอย่างที่คิด เพราะเข็มที่ใช้ฉีดมีขนาดเล็ก อีกทั้งก่อนฉีดจะมีการทายาชา และประคบน้ำแข็งให้เสมอ ที่สำคัญที่สุดการฉีดโบท็อกเป็นเพียงแค่การฉีดบนชั้นผิวตื้น โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์จะมีเทคนิคในการฉีดที่พิเศษสามารถใช้ตัวยาในปริมาณน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมีประสิทธิภาพ เห็นผลได้ชัดเจน ดังนั้นจึงหายห่วงเรื่องความเจ็บไปได้เลย

    Q: ฉีดโบท็อก Botox อันตรายไหม?

    A: บางคนอาจจะยังไม่มั่นใจกับการฉีดโบท็อกซ์ เพราะเห็นจากข่าวว่ามีคนฉีดโบท็อกซ์มาแล้วเกิดข้อผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้าหรือปากเบี้ยวผิดรูป หน้าแข็งตึงเกินไป ยิ้มเกร็ง ยิ้มไม่สุดบ้าง จึงคิดว่าการฉีดโบท็อกเป็นวิธีปรับรูปหน้าที่อันตราย อย่างที่มีคำกล่าวไว้ว่า “โบท็อกซ์คือสารพิษ” ตามคนที่เล่าต่อ ๆ กันมา 

    แต่จริง ๆ แล้วถ้าเราได้รับในปริมาณที่พอดีก็จะไม่เป็นอันตราย หรือเป็นพิษต่อร่างกาย เพราะโบท็อกนั้นเป็นโปรตีนสกัดที่มีความบริสุทธิ์สูง และเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่มีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ซึ่งข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคนไข้เหล่านั้นเลือกฉีดโบท็อกไม่มีคุณภาพ หรือฉีดกับหมอกระเป๋า หรือแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้  

    ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ก่อนตัดสินใจเลือกฉีดโบท็อกซ์เราต้องศึกษาข้อมูลเป็นอย่างดี เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ในคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงตัวยาโบท็อกซ์ที่ใช้ต้องมีคุณภาพ สามารตรวจสอบได้ เพียงเท่านี้ก็มั่นใจได้แล้วว่าการฉีดโบท็อกไม่น่ากลัว และไม่เกิดอันตรายต่อร่างกายอย่างแน่นอน

    Q: ทำไมฉีดโบท็อก Botox แล้วหน้ายังไม่เล็กลง?

    A: ปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบาน หรือแม้แต่กรามเยอะ เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากไขมัน โครงสร้างกระดูกขากรรไกรใหญ่ และกล้ามเนื้อ ซึ่งการทำงานของโบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อที่มีความแน่นแข็ง หดเกร็ง ให้มีขนาดเล็กลงได้ อย่างที่ได้กล่าวไปในหลักการทำงานของโบท็อก 

    ดังสำหรับคนที่ฉีดโบท็อกมาแล้วหน้าไม่เล็กลงสักที ต้องดูว่าปัญหาหน้าใหญ่ หน้าบานของเราเกิดจากสาเหตุอะไร ถ้าไม่ได้เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณกรามแน่นหรือแข็ง การฉีดโบท็อกก็จะไม่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหานี้ นอกจากนั้นคุณภาพของโบท็อกที่ใช้ฉีด บวกกับความเชี่ยวชาญของแพทย์ก็มีส่วนสำคัญ ก่อนเลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกไหนควรตัดสินใจให้ดี เพราะถ้าโชคร้ายเจอโบท็อกปลอมนอกจากหน้าจะไม่เล็กลงแล้ว ยังอาจจะทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกอีกด้วย

    Q: ต้องกลับมาฉีดโบท็อก Botox ซ้ำหรือไม่?

    A: ต้องกลับมาฉีดซ้ำค่ะ แม้ว่าจะเป็นโบท็อกของแท้แต่ก็สามารถสลายตัว หรือหมดฤทธิ์ลงได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรฉีดซ้ำบ่อยจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หรือเกิดอาการดื้อโบท็อกได้ สำหรับใครที่อยากคงผลัพธ์เอาไว้ ควรเว้นระยะห่างประมาณ 3 เดือน ถึงค่อยมาฉีดซ้ำจะดีที่สุดค่ะ

    Q: ฉีดโบท็อก Botox ที่ไหนดี?

    A: ความนิยมของการฉีดโบท็อกมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้มองไปทางไหนก็มีคลินิกที่มีบริการฉีดโบท็อกเกิดขึ้นเยอะมาก สำหรับใครที่มีคำถามว่าแล้วเราควรเลือกคลินิกฉีดโบท็อกที่ไหนดี วันนี้เรามีคำแนะนำให้ช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาฝาก ดังนี้

    คลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ : เปิดและได้การรับรองอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธาณสุข ภายในคลินิกมีความสะอาด ปลอดภัย เครื่องมือต่าง ๆ ทันสมัย อีกทั้งมีรีวิวจากผู้ได้รับบริการจริง เพื่อช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น

    ผลิตภัณฑ์ที่ใช้มีคุณภาพ : โบท็อกที่นำมาฉีดให้คนไข้ต้องเป็นของแท้ 100% ตรวจสอบได้ และสามารถสลายได้ 100% เพื่อความปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

    มีแพทย์ผู้เชื่ยวชาญ : การฉีดโบท็อกแม้ว่าจะดูเป็นวิธีที่ง่าย แต่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างใบหน้าและประสบการณ์บวกกับเทคนิคดี ๆ ของแพทย์เป็นอย่างมาก เพื่อการฉีดโบท็อกที่แม่นยำ ตรงจุดปัญหาที่แต่ละคนมี และได้ผลลัพธ์ที่ออกมามีประสิทธิภาพสูงสุด  

    ทำไม APEX ถึงเป็นอันดับ 1 ด้านการฉีด!

    เนื่องจากทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์ด้านการฉีดปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย มาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีอาจารย์แพทย์ฝีมือระดับปะเทศเป็นผู้ที่คอยถ่ายทอดความรู้ และเทคนิคใหม่ ๆ ให้กับทีมแพทย์อีกด้วย เพราะเรามี AMI – APEX Medical Institute เป็นศูนย์กลางในการเทรนที่สอนโดยอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น คุณหมอนัน พญ. นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ อาจารย์แพทย์ด้านผิวหนัง เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดโดยเฉพาะ เพราะเป็นผู้บุกเบิกการใช้ Botox และ Filler เป็นกลุ่มแรกของประเทศไทย โดยคุณหมอมีประสบการณ์ด้านการฉีดมาแล้วกว่า 30 ปี จนได้รับสมญานามว่า Botox Queen ซึ่งคุณหมอคือผู้ก่อตั้ง APEX นั่นเอง นอกจากนั้นยังมีคุณหมอเอก นพ.เอกลักษณ์ ธรรมสุนทร ที่เป็นถึงระดับอาจารย์แพทย์สอนฉีดและปรับรูปหน้า ให้กับแพทย์จากทั้งไทยและต่างประเทศ เรียกได้ว่าทีมแพทย์ APEX ที่ได้รับการเทรนการสอนจาก AMI – APEX Medical Institute นั้นมีเทคนิคและฝีมือในการฉีดโบท็อก Botox ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยเทียบเท่าระดับอาจารย์แพทย์ แบบที่ถูกใจผู้เข้าใช้บริการทุกคนอย่างแน่นอน เพราะผลลัพธ์ที่ได้ออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ แถมยังปลอดภัยมากอีกด้วย

    รางวัล APEXนอกจากนั้นรางวัลต่าง ๆ ที่ APEX ได้รับมาแล้วมากมาย อย่างเช่นรางวัล ‘Top Allergan Aesthetics Valued Customer in Total Porfolio 2020 (Facial Aesthetics & Body Contouring)’ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับคลินิกที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจาก Allergan มากที่สุด ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่สามารถการันตีได้ว่า APEX รักษามาตรฐานและใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้แก่ผู้เข้าบริการทุกท่าน จนเราได้รับความไว้วางใจจากผู้เข้าใช้บริการเป็นอย่างดีมาโดยตลอด 

    สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ของเราได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) นะคะ หรือที่คลินิค APEX กว่า 30 สาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย เรื่องฉีดไว้ใจ APEX!