อยากหน้าเล็ก ทำอะไรดีกว่ากัน ระหว่าง ร้อยไหม VS โบท็อก
แม้ว่าใกล้จะเข้าปี 2022 แล้ว แต่นวัตกรรมความงามอย่างการร้อยไหม และโบท็อกยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเทคนิคที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก มีความ V-shape ได้แบบรวดเร็ว นอกจากนั้นยังช่วยแก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย จัดกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น แถมยังช่วยลดริ้วรอยได้อีกด้วย
ซึ่งหลายคนน่าจะมีความสงสัยว่า ร้อยไหม กับ โบท็อก ทำอะไรแล้วจะเห็นผลลัพธ์ดีกว่ากัน สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจอยากปรับรูปหน้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำวิธีไหนดี วันนี้เราเลยพามาหาคำตอบ ไขข้อสงสัยกันในบทความนี้แล้วค่ะ “อยากหน้าเล็ก ทำอะไรดีกว่ากัน ระหว่าง ร้อยไหม VS โบท็อก”
รู้จักการ ร้อยไหม และ โบท็อกซ์ ให้มากขึ้น
ร้อยไหม (Thread Lift) เป็นวิธีการปรับรูปหน้าด้วยเทคนิคยกกระชับผิว ที่ช่วยให้ใบหน้าเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย และช่วยให้กรอบหน้าคมชัดมากขึ้น นอกจากนั้นการร้อยไหมยังช่วยฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอยได้แบบไม่ต้องผ่าตัดอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันเส้นไหมที่ผ่านการรับรองจากอย. ให้สามารถใช้ในการรักษาได้ จะเป็นไหมในกลุ่ม ‘ไหมละลาย’ เท่านั้น เช่น ไหมอิตาลี ไหมคอลลาเจน ไหมโครงตาข่าย เพราะมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
โดยหลักการในการร้อยไหม คือ การใช้เส้นไหมมาร้อยเข้าไปยังบริเวณใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อให้เส้นไหมเข้าไปกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใหม่ เมื่อคอลลาเจนทำงานได้ดีขึ้น จะมีเส้นใยมาพันรอบแนวเส้นไหม ซึ่งทำให้เกิดการดึงรั้งผิวหน้า และยังทำให้การไหลเวียนของโลหิตมาหล่อเลี้ยงใต้ชั้นผิวที่ร้อยไหมเข้าไปได้มากขึ้น จึงส่งผลให้ผิวหน้าที่เคยหย่อนคล้อย ยกกระชับ และมีความเต่งตึงมากขึ้น เห็นกรอบหน้าชัด อีกทั้งผิวยังได้รับการฟื้นฟูจากการกระตุ้นใต้ชั้นผิว ส่งผลให้ผิวเรียบเนียน ริ้วรอยลดเลือนลง ซึ่งผลลัพธ์ของการร้อยไหมจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปีเลยทีเดียว จากนั้นเส้นไหมจะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้าง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ผลลัพธ์หลังร้อยไหม
- ช่วยพยุงผิวหน้า เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย แก้มห้อย ต้องการยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึงขึ้น
- ช่วยปรับรูปหน้าให้มีความเรียว ดู V-shape เห็นกรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น
- กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ผิวหน้าจึงได้รับการฟื้นฟู ให้กับมาเรียบเนียน ดูสุขภาพดีอีกครั้ง
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นหนึ่งในวิธีปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะขั้นตอนการในรักษาไม่ยุ่งยาก แถมยังเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว โดยการฉีดโบท็อกสามารถช่วยลดริ้วรอย ลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง อีกทั้งยังช่วยยกใบหน้าและลำคอให้กระชับขึ้นได้อีกด้วย
โดยแพทย์จะใช้สาร Botulinum Toxin Type A ฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อบริเวณกราม กรอบหน้า หรือในส่วนที่ต้องการแก้ปัญหา ซึ่งสารโบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งคลายตัวลง และขยับหรือทำงานได้น้อยลงชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อไม่ค่อยได้ขยับจึงเริ่มนิ่ม และมีขนาดเล็กลง ดังนั้นเมื่อกล้ามเนื้อที่ใหญ่ แข็ง เริ่มมีความเนิ่ม และเล็กลง จึงส่งผลให้รูปหน้าของเราเรียวเล็กลงได้เช่นกัน
นอกจากนั้นยังมีการฉีดโบท็อกลิฟหน้า ที่สามารถช่วยยกกระชับใบหน้า ให้กรอบหน้าคมชัด ดูมีมิติมากขึ้นได้ อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่ฉีดโบท็อกลดกรามแล้ว รูปหน้ายุบตัวเล็กลงมาก ๆ ทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่กระชับ ก็สามารถฉีดโบท็อกลิฟหน้าควบคู่กันไปได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเรียวสวยมากยิ่งขึ้น โดยผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ใน 4-7 วัน และอยู่ได้นาน 6-8 เดือน ก่อนที่สารโบท็อกจะสามารถสลายตัวไปเอง ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อก
- ลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลง ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก แก้ปัญหาหน้าบาน หน้าใหญ่
- ช่วยยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหากรอบหน้าหาย ให้กรอบหน้าคมชัด ดูมีมิติมากขึ้น
- สามารถฉีดโบท็อกเพื่อลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวหน้ามีความเรียบตึงได้มากขึ้น
ร้อยไหม VS โบท็อก ทำอะไรดีกว่ากัน?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้เลยว่าการทำงานของโบท็อก และ การร้อยไหม มีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ ซึ่งถ้าถามว่าทำอะไรดีกว่ากัน? ควรดูที่ปัญหาใบหน้าของเราเป็นหลัก ประกอบกับช่วงวัย รวมถึงความต้องการของเราเองด้วย เพราะแต่ละคนมีปัญหาที่แตกต่างกันไป ดังนั้นแพทย์จะทำการประเมิน วิเคราะห์ และวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล
โดยการร้อยไหม จะเด่นและเน้นเรื่องยกกระชับผิวหน้าที่มีความคล้อยลง ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่อายุมากขึ้น แล้วคอลลาเจนเริ่มเสื่อมสภาพ ผิวเปลี่ยนแปลงไป เกิดความหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัดเหมือนแต่ก่อน ต้องการยกกระชับ เก็บกรอบหน้าให้ผิวหน้ากลับมาเต่งตึง ใบหน้าเรียวเล็ก ได้รูปมากขึ้น และยังได้รับการฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวเรียบเนียนได้อีกด้วย
ส่วนการฉีดโบท็อกจะเน้นเรื่องหน้าเล็ก หน้าเรียว ซึ่งโบท็อกออกฤทธิ์ไปยังการทำงานของกล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่มีปัญหากรามใหญ่ หน้าบานมาจากกล้ามเนื้อเท่านั้น ต้องการปรับลดขนาดกล้ามเนื้อใบหน้าให้ได้รูป ดูเรียวเล็กลง หรือต้องการปรับให้กรอบหน้าคมชัด ดูมีมิติมากขึ้น
แต่ถ้าใครมีปัญหาทั้งผิวหน้าหย่อนคล้อย แก้มห้อย อีกทั้งยังมีกรามใหญ่ ก็สามารถทำทั้ง 2 วิธีได้เลยค่ะ โดยร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยขึ้น และฉีดโบท็อกลดกรามเพื่อให้กรามที่ใหญ่เล็กลง ใบหน้าก็จะเรียวขึ้น ได้ผลลัพธ์การปรับรูปหน้าเรียวเล็ก ที่สวยมีมิติได้มากที่สุดแบบที่ต้องการ
สำหรับใครที่สนใจการร้อยไหม หรือการฉีดโบท็อก แต่ยังไม่มั่นใจว่าปัญหาใบหน้าของเราควรทำอะไรดีกว่ากัน สามารถเข้ามาที่ APEX เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าช่วยประเมิน วางแผนการรักษาที่เหมาะสมให้ได้ทุกท่านเลยนะคะ รับรองว่าจะได้คำแนะนำและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจกลับไปอย่างแน่นอนค่ะ
