4 รูปหน้าไม่ควรฉีดโบท็อก

 

 

การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) คือหัตถการทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยการใช้สารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum toxin) ฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อเหล่านั้น ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยลดลง ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น

 

การฉีดโบท็อกซ์เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกซ์ก็ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ขึ้นอยู่กับรูปหน้าของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน บทความนี้จะกล่าวถึง 4 รูปหน้าแบบไหนที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์

รูปหน้าแบบไหนที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์?

 

 

 

คนที่รูปหน้าตอบ แก้มตอบ 

ไขมันบริเวณแก้มน้อย ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่ มีอายุมากขึ้น คนที่แก้มตอบมากๆ ยิ่งฉีดโบกรามไปจะทำให้แก้มยิ่งตอบมากขึ้น เนื่องจากโบท็อกซ์จะไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและหย่อนคล้อย ใบหน้าลักษณะนี้ควรแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์มากกว่า

 

 

 

คนที่มีโหนกแก้มเยอะ

โหนกแก้มสูง ส่งผลให้ใบหน้าดูแข็ง ดูดุดัน คนที่มีโหนกแก้มเยอะ การฉีดโบท็อกซ์อาจทำให้โหนกแก้มยิ่งสูงขึ้น โหนกแก้มเด่น และโหนกแก้มสูง หากฉีดโบในปริมาณที่มากเกินไปหรือฉีดผิดตำแหน่ง จะทำให้โหนกแก้มยิ่งดูเด่นค่ะ (คนโหนกแก้มเยอะ สามารถฉีดโบกรามได้ แต่ต้องฉีดในตำแหน่งที่เหมาะสม และใช้ปริมาณโบที่เหมาะสม ดังนั้นเทคนิคในการฉีดโบของแพทย์จึงสำคัญมาก สำหรับคนโหนกแก้มเยอะ)

 

คนที่มีแก้มเยอะ

คนที่มีแก้ม มีไขมันบริเวณแก้มเยอะๆ การฉีดโบกรามอาจทำให้หน้าเล็กลงแค่นิดหน่อย แต่รูปหน้าจะไม่ได้เรียวขึ้นชัดเจน เนื่องจากยังมีส่วนของแก้มที่เป็นไขมันอยู่ ควรทำการสลายไขมันบริเวณแก้มร่วมด้วย

 

 

คนที่มีกรามเล็ก

คนที่มีกล้ามเนื้อบริเวณกรามขนาดเล็ก การฉีดโบปรับหน้าเรียวจะเห็นผลไม่ชัดเจน (เนื่องจากโบออกฤทธิ์ที่กล้ามเนื้อ ในการปรับรูปหน้าให้เรียวได้รูปมากขึ้น หากกล้ามเนื้อมีขนาดเล็ก การฉีดโบกรามจึงจะไม่เห็นความแตกต่าง)

 

 

ควรฉีดโบท็อกซ์เมื่อไหร่?

การฉีดโบท็อกซ์ควรได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อให้แพทย์ประเมินรูปหน้าและปัญหาของใบหน้าได้อย่างถูกต้อง จากนั้นจึงเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

โดยทั่วไป การฉีดโบท็อกซ์มักใช้ในการรักษาปัญหาริ้วรอย เช่น ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยร่องแก้ม ริ้วรอยมุมปาก เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เพื่อปรับรูปหน้า เช่น ยกคิ้ว ยกหางตา ลดกราม เป็นต้น

 

 

ผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์

ผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์ที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • อาการปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว
  • ตาตก ปากเบี้ยว

อาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 2-3 สัปดาห์

 

 

ข้อควรระวังก่อนฉีดโบท็อกซ์

  • ห้ามฉีดโบท็อกซ์หากกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ห้ามฉีดโบท็อกซ์หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคทางระบบประสาท
  • ห้ามฉีดโบท็อกซ์หากมีประวัติแพ้สารโบทูลินัม ท็อกซิน

 

การฉีดโบท็อกซ์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดในการฉีดโบคือ โบที่ใช้ต้องเป็นของแท้ 100% ผ่าน อย. จัดส่งโดยบริษัทยา เพื่อการควบคุมคุณภาพที่ดีที่สุดของโบท็อก และแพทย์ผู้ฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญ การฉีดโบท็อกซ์ควรได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย เลือกใช้ปริมาณโบที่เหมาะสมและฉีดในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยที่ฉีดแล้วใบหน้าจะต้องดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง หรือว่าตึงจนเกินไปนะคะ

 

 

สนใจนัดจองคิวหรือปรึกษาเพิ่มเติม ทักก่อนสวยก่อนใครได้ที่ ✨✨ 

📞 085-​0000855

🟣 Line OA : @apexlifting  (มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)

🟣 คลิก https://lin.ee/nxtKNtl

🟣 Facebook : Apex Profound Beauty

🟣 Inbox : https://www.facebook.com/ApexProfoundBeauty/inbox

🟣 IG : apexbeauty

APEX ของเรามีพร้อมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการนะคะ

 

#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #Botox #โบท็อก #โบท็อกยี่ห้อไหนดี #โบท็อกริ้วรอย #โบท็อกคืออะไร #โบท็อก100ยูนิตราคา #โบท็อกใกล้ฉัน #โบท็อกราคาถูก #โบท็อกที่ไหนดี #โบท็อกหน้าเรียว #โบท็อกช่วยอะไร #ฉีดโบท็อก2023

 #Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #Botox #โบท็อก #โบท็อกยี่ห้อไหนดี #โบท็อกริ้วรอย #โบท็อกคืออะไร #โบท็อก100ยูนิตราคา #โบท็อกใกล้ฉัน #โบท็อกราคาถูก #โบท็อกที่ไหนดี #โบท็อกหน้าเรียว #โบท็อกช่วยอะไร #ฉีดโบท็อก2023