วิธีสร้างผิวกระจ่างใส ในแต่ละวัย รักษาจุดด่างดำ และฝ้า

อยากได้ผิวขาวใส ทำอะไรได้บ้าง?

ความนิยมผิวขาวใสในประเทศไทยยังคงเป็นเทรนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดังนั้นบรรดาเครื่องสำอางค์ และคอร์สความงามทั้งหลายจึงมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลาย รวมไปถึงโปรแกรมผิวขาวใสที่ออกมาแนะนำมากมายจนเลือกกันไม่ถูก เราลองมาดูกันว่ามีวิธีอะไรที่ทำให้ผิวกระจ่างใสได้บ้างและใครเหมาะกับวิธีแบบไหน

image

ผิวสาวๆ คอลลาเจนยังสมบูรณ์แค่ผลัดเซลล์ผิว ก็ขาวใส เปล่งประกายได้แล้ว

สำหรับผิวช่วงวัยรุ่น โครงสร้างของผิวยังไม่มีปัญหา การช่วยเอาเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออก เพื่อเผยผิวใหม่สดใสก็เพียงพอแล้วค่ะ ถ้าไม่มีรอยแดงจากสิวรือกระ ฝ้า ทำไมจึงต้องผลัดเซลล์ผิว ธรรมชาติของผิว? เพราะเมื่ออายุมากขึ้นผิวจะผลัดเซลล์ช้าลงทำให้ผิวดูไม่สดใส ดูหมองคล้ำ การได้ผลัดเซลล์ผิว ไม่ว่าจะเป็นกรดผลไม้ เกร็ดอัญมณีหรือผลัดเซลล์ด้วยอณูของน้ำ จะช่วยเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วและตกค้างอยู่ออกไป เผยให้เห็นผิวใหม่ที่สดใส คนทุกวัยควรผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำ ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งจำเป็นต้องช่วยผลัดเซลล์มากขึ้น เพราะร่างกายจะไม่ค่อยผลัดเซลล์ผิวเหมือนผิวเด็กๆ ควรทำเป็นประจำประมาณ 2 สัปดาห์ครั้ง

เลเซอร์แก้ปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิว ผิวหมองคล้ำและฝ้า

เลเซอร์ รอยสิว นิยมใช้รักษารอยดำ รอยแดงจากสิว หรือผิวหมองคล้ำจากแสงแดด จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ลงไปทำงานลึกขึ้นในชั้นผิวหนังแท้ที่มีเส้นเลือดและเซลล์สร้างเม็ดสีอยู่ เป็นเครื่องมือในกลุ่มเลเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Fraxel Laser หรือ Bright Laser เพื่อจัดการกับเซลล์เม็ดสีที่ผิดปกติ และกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นทดแทน

เลซอร์ที่ใช้ในการรักษารอยดำ รอยแดงและฝ้ามีหลากหลายชนิด การเลือกใช้เลเซอร์ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาด้วยว่าจุดด่างดำนั้นลึกหรือตื้นขนาดไหน การรักษาจุดด่างดำหรือฝ้าที่เกิดจากเส้นเลือด ก็ควรใช้เลเซอร์แบบ Long Pulse Yag, Pulsed Dye Laser, Dual Yellow Laser ถ้าเป็นรอยตื้นๆ ก็รักษาได้ด้วยเลเซอร์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น IPL, Medlite Q Switch Yag รวมถึงวิธีการผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ TCA, AHA การใช้ครีมที่มีตัวยาฟอกสี รวมถึงทรีทเม้นท์ในกลุ่มผลัดเซลล์ผิวอย่าง Fraxel ด้วย

สิ่งที่ต้องพึงระวัง การใช้เลเซอร์จะต้องทำด้วยความระมัดระวัง ถ้าทำได้ถูกต้อง ทั้งเทคนิคในการใช้เครื่องมือ การปล่อยพลังงาน และการเลือกชนิดของเครื่องมือให้เหมาะกับชนิดของรอยดำ รอยแดงหรือฝ้า ก็จะทำให้เม็ดสีที่ผิดปกติจางลงได้ แต่ถ้าทำผิดวิธีหรือทำมากๆ ทำบ่อยเกินไปก็จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีมากขึ้น ทำให้จุดด่างดำมีสีที่เข้มขึ้น รักษาได้ยากขึ้น การรักษาด้วยเลเซอร์จึงต้องมั่นใจว่าอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง

image

IPL ช่วยให้หน้าใสได้อย่างไร?

IPL หรือ Intense Pulsed Light เป็นพลังงานแสงความเข้มสูง ที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในคลินิกผิวหนังและความงาม ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวชั้นบนๆ รักษา ฝ้า กระ และรอยแดงที่เกิดจากแสงแดดทำลาย รวมถึงอายุที่มากขึ้นเซลล์ผิวหนังเริ่มเสื่อมสภาพ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ช่วงคลื่นของพลังงานที่ใช้จะอยู่ระหว่าง 500 to 1200 nm. โดยพลังงานจะไปจับกับเซลล์เม็ดสีที่เราไม่ชอบและทำลายโครงสร้างของเม็ดสี ประโยชน์หลักๆอง IPL จึงเป็นเรื่องการช่วยทำให้หน้าใส ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ ผิวดูกระจ่างใสมีออร่า แล้วก็ยังช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้กระฝ้าที่อยู่บนผิวหายไปได้ หน้าดูสดใสขึ้น ควรทำทุกๆ 2-3 สัปดาห์หรือ 1เดือน ในการรักษาฝ้าหรือกระบนๆ อาจจะต้องทำต่อเนื่องประมาณ 5 ครั้ง

จุดที่ต้องระวังก็คือ ไม่ควรทำติดต่อกันบ่อยครั้งเกินไป เพราะจะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น และมีผลทำให้เกิดฝ้า กระ มากขึ้นในระยะยาว รักษาได้ยากขึ้น นอกจากนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่ผิวคล้ำเพราะมีโอกาสเสี่ยงที่ผิวจะไหม้ได้สูงย่างที่เกริ่นไว้ในตอนแรกว่า IPL เป็นพลังงานแสงที่ส่งความร้อนไปจับกับเม็ดสี คนผิวคล้ำก็ต้องระวังเป็นพิเศษ หรือหลีกเลี่ยงไปใช้ทรีทเม้นท์ตัวอื่นจะดีกว่า

Deep Hya ทำให้ผิวกลับมากระจ่างใส เมื่ออายุมากขึ้น

อายุที่มากขึ้น ส่วนประกอบสำคัญของผิวก็เริ่มเสื่อมไปตามวัย ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจน อีลาสติน และสารอุ้มน้ำในผิวที่เรียกว่าไฮยาลูรอนิค แอซิค เมื่องโครงสร้างสำคัญของผิวเสื่อมสภาพ คอลลาเจนก็จะแข็งทื่อ สีซีดๆ ไฮยาลดจำนวนลง สิ่งที่สะท้อนออกมาที่ผิวด้านนอกก็คือผิวหมองคล้ำและริ้วรอยที่เพิ่มมากขึ้น ผิวขาดความยืดหยุ่นาดความเปล่งปลั่ง จะเห็นว่าผิวของคนที่มีอายุจะมีสีโทนเหลืองๆ ไม่เปล่งปลั่งอมชมพูเหมือนผิวเด็ก นั่นเป็นสัญญานของโครงสร้างผิวที่เสื่อมสภาพ ผิวลักษณะนี้แค่การผลัดเซลล์ผิวคงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องฟื้นฟูโครงสร้างทั้ง 3 ส่วนไปพร้อมกัน โดยสามารถเลือกทรีทเม้นท์ที่ฟื้นฟูคอลลเจนควบคู่ไปกับการเพิ่มสารไฮยาฯให้กับผิว เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีเครื่องมือใหม่ที่ทำงานด้วยการฟื้นฟูส่วนประกอบของผิวทั้ง 3 ส่วนไปพร้อมๆ กัน มีชื่อเรียกว่า Fractional RF Needle หรือ Deep Hya ทำงานโดยการส่งพลังงาน RF ผ่านเข็มนาโนที่ออกแบบพิเศษ ทำให้พลังงานลงสู่ผิวชั้นลึกที่ต้องการโดยตรง โดยไม่เกิดการสูญเสียพลังงานไประหว่างชั้นผิว และไม่ทำลายเซลล์ผิวส่วนอื่นๆ ทำให้เกิดการฟื้นฟูคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินได้เต็มที่ ตลอดจนพิ่มปริมาณสารอุ้มน้ำตามธรรมชาติหรือกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ที่ทำให้ผิวดูกระจ่างใสเหมือนผิวเด็ก จึงเป็นอีกทางเลือกในการสร้างความเปล่งปลั่งสดใสให้กับผิวที่มีอายุ

image

ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ เกิดจากอะไร?

ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ เกิดจากความผิดปกติของเซลล์สร้างเม็ดสีใต้ผิวหนังกำพร้า หรือในทางวิชาการเรียกว่า Epidermis ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานผลิตเซลล์ผิวสวย จะทำหน้าที่สร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนผิวหนังที่ตายแล้วอยู่ตลอดเวลา โดยเซลล์ผิวที่ตายแล้วจะอยู่ชั้นบนสุด เราเรียกกันว่า horny layer เป็นชั้นบางๆ (บางยิ่งกว่ากระดาษทิชชูเสียอีก) หลังจากมีอายุราว 14 วัน ก็จะผลัดตัวเองออกไป ซึ่งก็จะพอดีกับเซลล์ผิวใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทน ซึ่งจะกินเวลาราว 14 วันเช่นกัน ทำให้คนเรามีผิวใหม่ที่สวยใสอยู่เสมอ

มีหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุแห่งความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ รังสี Ultraviolet UV ในแสงแดด และการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนภายในร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นได้บางสภาวะ เช่น ระยะตั้งครรภ์ การรับประทานยาคุมกำเนิด ระยะใกล้หมดประจำเดือน การได้รับฮฮร์โมนช่น รับประทานยาคุมกำเนิด เป็นต้น ในรายที่เป็นฝ้าแดดหรือฝ้าหลังคลอด มักเกิดจากความผิดปกติของการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เซลล์สร้างเม็ดสีผลิตเม็ดสีออกมามากเกินไป เมื่อซ้อนทับกันหลายชั้นจึงเป็นสีเข้มหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งวิธีแก้ไขมีหลายวิธี การรักษาด้วยการยิงเลเซอร์หรือการยับยั้งเม็ดสี เป็นอีกวิธีหนึ่งแต่ต้องไม่ทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีอย่างถาวร เพราะเมื่อเราทำลายเซลล์เม็ดสีแล้ว ผลที่ตามมาคือการหยุดสร้างเม็ดสี ซึ่งทำให้เป็นด่างขาว คือผิวขาวเป็นจุดๆ แต่จะทำให้เซลล์ผิวชั้นนอกผลัดเซลล์ผิวได้เร็วและหลุดออกอย่างปลอดภัย ทางเลือกนี้ควรป้องกันด้วยการใช้ซันบล็อก กางร่มหรือสวมหมวกเมื่อต้องเผชิญกับแดดแรงพื่อป้องกันแดดหรือรังสี UVA UVB เป็นวิธีที่ป้องกันขั้นต้นนะคะ ก่อนที่จะเกิดฝ้า และต้องทนกับระยะเวลาที่จะทำให้ฝ้าจางลง

ฝ้ารักษาได้หรือไม่?

ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เป็นปัญหาหนักใจของหลายๆน และคนจำนวนไม่น้อยหมดเงินไปกับสารพัดวิธี แต่ก็ทำให้ดูดีได้ชั่วขณะ พอเวลาผ่านไปฝ้าก็กลับมาอีก และที่แย่ก็คือหลายคนเป็นมากกว่าเดิม ดังนั้นการศึกษาหาข้อมูลเพื่อการรักษาจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้รักษาได้ถูกวิธี ไม่ซ้ำเติมให้ฝ้าตื้นกลายเป็นฝ้าลึก

ฝ้า ก็เหมือนกับริ้วรอยและความชราอื่นๆ เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ แต่เป็นความเสื่อมหรือผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเซลล์ที่ผลิตเม็ดสี (Melanin) ที่ชื่อว่า เมลาโนไชต์ (melanocyte) เป็นเซลล์ที่เจริญมาจากเซลล์ระบบประสาท ซึ่งแทรกตัวอยู่ในชั้นหนังกำพร้าส่วนล่างสุด เมื่อเซลล์สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติ ก็ทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีหรือเมลานินมากกว่าปกติ เพื่อทำหน้าที่กรองรังสีที่จะมาทำอันตรายเซลล์ผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นจุดด่างดำหรือฝ้านั่นเอง ฝ้าจึงไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่รักษาให้ดีขึ้นได้ ทำให้เม็ดสีจางลงได้ แต่เมื่อไหร่ที่ถูกสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติอีก ฝ้าก็จะกลับมาอีก การรักษาก็จะต้องทำให้สีจางลงอีก ที่สำคัญการรักษานั้นๆ ต้องไม่ทำร้ายเซลล์ให้ผิดปกติมากขึ้น ไม่เช่นนั้นนอกจากจะไม่หายในระยะยาวแต่จะกลับมาเป็นมากกว่าเดิม และรักษาได้ยากขึ้นด้วย

Q&A

Q : ทานยารักษาฝ้าได้ผลจริงหรือ?

A : ตัวยาที่ชื่อว่า ทรานซามีน (transamine) สามารถใช้เพื่อการหยุดเลือด พบว่ามีการนำไปใช้ในการรักษาฝ้า แต่ก็มีผลข้างเคียงในการรักษา คนไข้บางรายอาจเกิดปัญหาเส้นเลือดอุดตันหรือมีปัญหากับไตได้ นอกจากนั้นฝ้าจะหายไปเมื่อทานยา แต่เมื่อหยุดทานก็จะกลับมาใหม่

Q : การทาครีมรักษาฝ้าเพียงอย่างเดียว สามารถรักษาฝ้าให้หายได้จริงหรือ?

A : รักษาได้จริง เมื่อฝ้าอยู่ในระดับผิวตื้นๆ แต่ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการเลือกครีม เพราะครีมที่มีตัวยาฟอกสีแรงก็จะช่วยให้ฝ้าหายเร็วหรือหายในทันที แต่เมื่อใช้ไปเรื่อยๆนระยะยาว จะไม่สามารถหยุดการสร้างเม็ดสี แต่ฝ้าจะกลับมาเข้มมากขึ้นและกลายเป็นฝ้าลึก ซึ่งจะทำให้รักษาได้ยากขึ้น

Q : ทำไมบางคนรักษาแล้วฝ้าหาย แต่ทำไมบางคนก็ไม่ดีขึ้น

A : ขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้าค่ะ ฝ้าที่อยู่ตื้นๆ รักษาง่ายที่สุด มีโอกาสหายได้มาก แต่ฝ้าที่อยู่ลึก รักษาให้หายได้ยากมาก ส่วนฝ้าที่เกิดจากเส้นเลือดก็สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้

Q : การรักษาฝ้าด้วยการฉีด เป็นอย่างไร?

A : การรักษาด้วยการฉีด ไม่ได้หยุดการสร้างเม็ดสี แต่เป็นการฉีดสารละลายเม็ดสี เป็นวิธีที่มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น ไม่ทำให้ฝ้าเข้มขึ้นหรือกลายเป็นฝ้าลึก และไม่ต้องคอยหลบแดดเหมือนวิธีการอื่นๆ ทั้งเลเซอร์และการผลัดเซลล์ผิว สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังจากฉีดในครั้งแรก สามารถรักษาได้ในทุกสภาพผิว

เหนือสิ่งอื่นใด เครื่องมือสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยไม่ว่าจะในวัยไหน สำหรับผิวกระจ่างใส ก็คือครีมกันแดด ถ้ารักผิวและต้องการให้ผิวกระจ่างใส ก็ต้องหมั่นทาครีมกันแดด และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแสงแดดจัดเป็นเวลานานๆ