5 วิธี กระชับผิว เหี่ยวย้อย ของวัย 50+

ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวย่น ผิวเหี่ยวย้อย เป็นเรื่องธรรมชาติที่เราหลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉะพาะเมื่อเราอายุมากขึ้น หากเราดูแลตัวเองอย่างดีตั้งแต่แต่สาว ๆ หนุ่ม ๆ เมื่ออายุมากขึ้นปัญหาก็จะไม่ได้หนักมาก แต่หากว่าเราอายุมากขึ้นแล้ว หรืออยากกระชับผิวที่กำลังจะหย่อนคล้อยเหี่ยวย้อย วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันให้ริ้วรอยเกิดช้าลง และรักษาริ้วรอยที่เกิดขึ้นให้ผิวกลับมาตึง เรียบเนียน ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่หมอจะแนะนำในบทความนี้ รวมไปถึงอยากให้คนไข้เข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย เพื่อให้ป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ดีมากขึ้น

 

สาเหตุผิวเหี่ยวย้อย หย่อนคล้อย วัย 50+

  1. ขาดคอลลาเจน

เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจน (Collagen) ที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนกาว เชื่อมกับเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายให้ผิวตึงกระชับจะลดลง ผิวจึงค่อย ๆ เกิดหยาบกร้านริ้วรอย และเกิดความหย่อนคล้อยคล้อยจนเสียรูปในที่สุด โดยส่วนมากจะพบบ่อยที่บริเวณใต้ท้องแขน ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขาด้านในและด้านหลัง บริเวณหลังมือ และสะโพก 

  1. การเผาผลาญต่ำลง ไขมันสะสม

เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำงานได้มีประสิทธิภาพต่ำลง จึงทำให้ระบบการเผาผลาญอาหารเสียสมดุล ไขมันจึงสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ง่าย และอยู่นานมากยิ่งขึ้น ซึ่งไขมันนี้เองจะทำให้ผืวเกิดความหย่อนคล้อยได้

5 วิธี กระชับผิว เหี่ยวย้อย ของวัย 50+

  1. นวดผิว

Free photo beauty and spa

การนวดผิวจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น โดยเฉพาะการใช้น้ำมันน้ำมันอะโวคาโด น้ำมันละหุ่ง น้ำมันลาเวนเดอร์ น้ำมันเมล็ดอัลมอนด์ และน้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil) หรือโจโจ้บาออยล์ เนื่องจากมีวิตามินอีสูง ช่วยฟื้นฟูผิวให้กระชับ ปกป้องผิวไม่ให้หย่อนคล้อย แก้ปัญหาผิวลอกแตก และอาการคันของผิวแห้ง ๆ ได้อีกด้วย

 

  1. กินวิตามินซี

Free photo citrus background with assorted fresh citrus fruits

วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น นอกจากนี้ยังลดการผลิตเม็ดสีเมลานินช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย วิตามินซีสามารถพบได้ในผักผลไม้ต่าง ๆ  มากมาย เช่น ฝรั่ง ส้ม มะละกอสุก นอกจากนี้วิตามินซียังถูกนำสกัดมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุง หรือวิตามินซีในรูปแบบเม็ดเพื่อกินง่ายขึ้น และสามารถกำหนดปริมาณที่ต้องการต่อวันได้

 

  1. ดื่มน้ำมาก ๆ

Free photo woman holding a glass filled with water

การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะช่วยชดเชยน้ำที่เราสูญเสีย แถมยังทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดการแห้งและเหี่ยวย่น แถมน้ำยังช่วยผลิตคอลลาเจนให้กับผิวหนัง ผิวจึงมีความกระชับ ยืดหยุ่น นอกจากนี้ น้ำยังช่วยให้ระบบเผาผลาญและระบบขับถ่ายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงช่วยลดน้ำหนักลงได้ระดับหนึ่งอีกด้วย 

 

  1. ออกกำลังกายกระชับผิว

Free photo portrait of a fitness woman standing in a plank position

การออกกำลังกายจะไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดได้ดีขึ้น ทำให้สารอาหารเข้าไปเลี้ยงเซลล์ผิวได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ควรออกกำลังกายมากจนเกินไปเพราะจะทำให้ความเต่งตึงของผิวถูกดึงไปใช้ ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดอาการหย่อนคล้อยเหี่ยวย่น จึงควรออกกำลังกายให้พอเหมาะกับร่างกาย โดยทั่วไปร่างกายคนเราควรออกกำลังกายประมาณ 10-30 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือวันเว้นวัน

 

  1. ใช้ครีมยกกระชับผิว

Free photo vitamin cream drop on skin cell

หากต้องการยกกระชับผิวที่หย่อนยานให้กระชับมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลองเลือกครีมยกกระชับผิวที่มีส่วนผสมของ CARNITINE ที่ช่วยในการเผาผลาญไขมัน คาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นการขจัดไขมันในเซลล์ได้อย่างแม่นยำ

 

อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากึ้นเวลาในการฟื้นฟูก็จะนานกว่าหนุ่ม ๆ สาว ๆ วิธีที่แนะนำไปอาจจะไม่เพียงพอ วัย 50+ อย่างเราจึงควรใช้เทคโนโลยีเพิ่มด้วย

 

Thermage FLX Body ตัวช่วยกระชับผิว เหี่ยวย้อย ของวัย 50+

Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจน ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุขั้วเดียว (Monopolar RF) โดยปล่อยพลังงานความร้อนกระจายตัวลงไปสู่ชั้นใต้ผิวหนังที่ความลึกถึง 4.3 มิลลิเมตร ได้แก่ 

  • ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นผิวที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ในการช่วยปกป้องผิว
  • ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นผิวที่มีองค์ประกอบหลัก คอลลาเจน และ อิลาสติน เปรียบเสมือนเสาหลักที่คอยรักษาความยืนหยุ่นของผิว
  • ชั้นใต้ผิวหนัง หรือ ชั้นไขมัน (Subcutaneous) ประกอบด้วยเซลล์ไขมันเป็นหลัก ความหนาขึ้นกับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล

โดย Thermage FLX ที่สามารถยิงลงได้ลึกถึง 3 ชั้นผิว จึงช่วย “ฟื้นฟูผิว” ที่เสื่อมสภาพให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น และเกิดการ “กระตุ้นการสร้างคลอลาเจนและอิลาสตินใหม่” ขึ้นมา 

 

ผลลัพธ์หลังทำ

ผิวหนังกระชับ เรียบเนียบ มีความยืดหยุ่น แน่นเฟิร์ม ไม่ห้อยย้อย หลังทำทันที 20-30% และค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนมากขึ้น 2-6 เดือน โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือฉีดสารต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ โดยผลลัพธ์ในการทำเทอร์มาจครั้งเดียว อยู่ได้นาน ได้ถึง 1 ปี

 

Thermage FLX เจ็บไหม

มี Vibration ระบบสั่น ทำให้รู้สึกสบายขณะทำมากขึ้น และช่วยลดความเจ็บลง และในระหว่างที่ปล่อยพลังงานออกมาจะมีการปล่อยความเย็นออกมาด้วยเป็นระยะ ๆ ขณะที่ส่งความร้อนไปยังผิวชั้นลึก เพื่อลดโอกาส Burn 

 

หลังทำ Thermage FLX ดูแลอย่างไร ?

หลังทำอาจมีผิวแดง ชมพูระเรื่อหรืออาจมีอาการหน้าบวมเล็กน้อย สามารถหายได้เอง ประมาณ 1-2 ชั่วโมงครับ หลังจากนั้นสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น แต่ให้พยายามหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด ๆ หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ ทาครีมกันแดดทุกครั้ง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวกลับมาหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้อีก เช่น แสงแดด การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์

 

ความปลอดภัย

มีผลงานวิจัยทางการแพทย์รองรับเรื่องผลการรักษาและความปลอดภัย มากกว่า 50 ฉบับ ได้รับรางวัล                 Best new technology – (2017 Thermage® FLX system) The Aesthetic Guide และยังเป็นทรีตเมนต์การยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมสูงสุดมากกว่า 2 ล้านทรีตเมนต์ทั่วโลก  

 

 

APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ Thermage ทรีตเมนต์ที่มีผลงานวิจัยรองรับมากมาย ที่บ่งบอกว่าสามารถส่งพลังงานได้ว่าลึกและร้อนเพียงพอต่อการ ทำให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่หย่อนคล้อยหดตัว 

 

👉ปรึกษาลดน้ำหนักและส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
▪️𝐓𝐞𝐥 : 080-5000-123
▪️𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
▪️𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
▪️𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/