เหงื่อออกตามร่างกายเยอะ เป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญในการใช้ชีวิตมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ นอกจากจะทำให้เสื้อผ้าใต้วงแขนเปียกแล้ว ในบางคนยังมีกลิ่นตัวออกมาอีกด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้เราเสียบุคลิกภาพ ความมั่นใจ และรบกวนคนรอบข้าง สำหรับใครที่มีปัญหาเหงื่อเยอะ จนมีกลิ่นตัว วันนี้เรามี 3 เทคนิค ลดเหงื่อ ลดกลิ่น มาแนะนำจะมีวิธีอะไรบ้างเรามาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ
1.ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ
แม้ว่าจะไม่สามารถ ลดเหงื่อ ลดกลิ่น ได้แบบถาวร แต่ก็ช่วยให้ช่วงเวลาระหว่างวันของเรามีความมั่นใจได้มากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อในปัจจุบันมีออกมาให้เลือกใช้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติอย่าง สารส้ม หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสังเคราะห์ขึ้นมา โดยให้ดูที่มีส่วนผสมของ Aluminum Chlorohydrate จะเป็นตัวช่วยลดเหงื่อ ได้ดีมากเลยทีเดียว
2.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราก็สามารถช่วย ลดเหงื่อ ลดกลิ่น ได้แล้วค่ะ
- เริ่มจากทำร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอ อาบน้ำเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น บางคนอาจจะคิดว่าตอนเช้าไม่ต้องอาบก็ได้เพราะช่วงที่เรานอน เหงื่อไม่ออก ซึ่งจริง ๆ แล้ว ต่อมเหงื่อยังคงทำงานอยู่ตลอดเวลา เมื่อเราไม่ได้อาบน้ำตอนเช้าและไปทำกิจกรรมระหว่างวัน ยิ่งทำให้เหงื่อ รวมถึงแบคทีเรียสะสมมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เหงื่ออกมาขึ้น และเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
- เลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่อึดอัด ไม่รัดรูป เมื่อเจออากาศร้อนจะช่วยระบายอากาศได้ดี ลดการเกิดเหงื่อ รวมถึงการซักเสื้อผ้าให้สะอาดก็สำคัญเช่นกัน ไม่ควรตากในที่ร่มเพราะอาจจะทำให้เสื้อผ้าเกิดกลิ่นอับ เมื่อนำมาใส่จะทำให้กลิ่นติดตัวเรามาได้ ดังนั้นควรซักผ้าให้สะอาดเน้นบริเวณจุดอับ และตากในที่แดดจัด ๆ จะช่วยให้เสื้อผ้าของเราหอมขึ้น แบบไม่ต้องฉีดน้ำหอมเพิ่มเลยค่ะ
- เลี่ยงการทานอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อน เพราะจะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลให้เหงื่อออกได้ง่าย และนอกจากนั้นอาหารเผ็ดร้อนบางชนิดยังทำให้ร่างกายเกิดกลิ่นตัวแรงขึ้นได้อีกด้วย
- ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ นอกจากจะช่วยคลายความร้อนได้แล้ว ยังช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง เหงื่อจึงออกน้อยลง อีกทั้งการดื่มน้ำสะอาดเยอะ ๆ ยังช่วยกำจัดของเสียในร่างกายให้ขับออกมาได้ง่ายขึ้น ช่วยลดการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย
3.ฉีดโบท็อกลดเหงื่อ
โบท็อก Botox นอกจากจะฉีดเพื่อช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก และลดเลือนริ้วรอยได้แล้ว ยังสามารถนำมาฉีดเพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ช่วยให้เหงื่อออกน้อยลง ซึ่งได้การรองรับจาก FDA ในเรื่องการรักษาอาการเหงื่อออกมากเกิน (hyperhidrolysis) อีกด้วย โดยการฉีดโบท็อกลดเหงื่อ ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมฉีดบริเวณรักแร้ เพื่อแก้ปัญหาเหงื่อออกใต้รักแร้ เมื่อเหงื่อออกน้อยลง จะส่งผลให้กลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว น้อยลงตามไปด้วย
ฉีดโบท็อกรักแร้เหมาะกับใครบ้าง
- คนที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะเกินไป เสื้อผ้าใต้วงแขนเปียก จนทำให้หมดความมั่นใจ
- คนที่มีปัญหากลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว จนกลายเป็นปัญหาในชีวิตประจำวัน รบกวนคนรอบข้าง
- คนที่แพ้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ ระงับกลิ่นกายทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โรลออน หรือสเปรย์
- คนที่ไม่อยากใช้วิธีการผ่าตัดลดต่อมเหงื่อ เพราะเป็นวิธีที่ยุ่งยาก เสียเวลาในการพักฟื้น ซึ่งการฉีดโบท็อกเป็นวิธีที่สะดวก เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น
ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกรักแร้
การฉีดโบท็อกรักแร้ เพื่อลดเหงื่อ ส่วนใหญ่แล้วจะฉีดประมาณข้างละ 50-100 ยูนิต ขึ้นอยู่กับต่อมเหงื่อของแต่ละคน โดยโบท็อกเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะออกฤทธิ์ไปขัดขวางการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้ต่อมเหงื่อบริเวณรักแร้ทำงานได้น้อยลง ส่งผลให้ปริมาณเหงื่อใต้รักแร้ลดลงตามไปได้กว่า 83% เลยทีเดียว
ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงว่าเหงื่อบริเวณรักแร้ค่อย ๆ ลดลงได้หลังฉีดภายใน 1-3 วัน และจากหลังนั้น 1 เดือน รักแร้จะแห้งสนิท ไร้ปัญหาเหงื่อออกให้กวนใจ โดยผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกลดเหงื่อ สามารถอยู่ได้นาน 6-8 เดือน หลังจากนั้นโบท็อกจะค่อย ๆ สลายตัวไปได้เอง ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แม้ว่าผลลัพธ์จะไม่ได้อยู่อย่างถาวร แต่เราสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ โดยควรเว้นระยะห่างในการฉีดแต่ครั้งประมาณ 3-4 เดือน
เคล็ดลับหลังฉีดโบท็อกรักแร้
- หลังฉีด 6-8 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการจับ นวด กด บริเวณรักแร้ หรือที่ฉีดโบท็อกเข้าไป เพราะมีผลต่อการกระจายตัวของตัวยาโบท็อก อาจจะเคลื่อนไปยังส่วนที่ไม่ต้องการได้
- งดอาหารประเภทหมักดอง และเครื่องดื่มแฮลกอฮอล์ ประมาณ 2 อาทิตย์ หลังฉีด
- งดเลเซอร์ หรือทำทรีทเมนต์บริเวณรักแร้ ประมาณ 2 อาทิตย์ หลังฉีด
ปัญหาเหงื่อออกเยอะที่ดูเหมือนจะแก้ไขได้ยาก แต่จริง ๆ แล้วมีหลายวิธีที่สามารถลดเหงื่อให้น้อยลงได้ อย่าปล่อยให้กลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว รบกวนชีวิตประจำวันของคุณและคนรอบข้าง ลองทำตามทั้ง 3 เทคนิคที่เรานำมาแนะนำกันนี้ รับรองว่าช่วย ลดเหงื่อ ลดกลิ่น ให้หายไปได้อย่างแน่นอน