ปีใหม่ต้องปังกว่าเดิม! รวม 4 ตัวช่วย ปรับรูปหน้า เรียวเล็ก สวยทันรับ 2022!

ปรับรูปหน้า1 ปีผ่านไปไวมาก แต่สิ่งที่ผ่านไปไวกว่าคือความอ่อนเยาว์ของใบหน้าเราเองนี่แหละค่ะ! นอกจากผิวหน้าแล้วรูปหน้าก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันด้วย แต่สมัยนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปที่จะคงสภาพผิวหน้า และรูปหน้าให้ดูเรียวสวย อ่อนเยาว์ ดูเด็กอยู่ตลอดเวลา เพราะมีนวัตกรรมมากมายที่เป็นตัวช่วยแก้ปัญหาใบหน้าที่หลาย ๆ คนมี ให้กลับมาดูดีขึ้น แถมยังเห็นผลได้แบบทันใจอีกด้วย วันนี้เราเลยมี 4 ตัวช่วยมาแนะนำสำหรับคนที่อยาก ปรับรูปหน้า ฟื้นฟูสภาพผิว รับรองว่าทำแล้วสวยทันรับปี 2022 แน่นอนค่ะ

1.โบท็อก Botox

โบท็อกน่าจะเป็นตัวช่วยแรกในการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอยที่หลายคนนึกถึง เพราะเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ชัดเจนแบบที่ไม่ต้องรอนาน แถมยังไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา และมีความปลอดภัยสูง โดยแพทย์จะใช้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อบริเวณกรอบหน้า เพื่อลดขนาดกรามให้เล็กลง และฉีดไปยังบริเวณที่มีริ้วรอยเพื่อให้ใบหน้าเรียบตึงมากขึ้น ซึ่งสารนี้จะออกฤทธิ์ต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่มีความแข็งเกร็ง จนกลายเป็นรอยพับ รอยย่นค่อย ๆ คลายตัวลง นอกจากนั้นยังทำให้กล้ามเนื้อขยับหรือทำงานได้ลดลงชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อขยับได้น้อยลงจึงค่อย ๆ มีความนิ่มขึ้นและเล็กลงตามไปด้วย

โดยผลลัพธ์ของการปรับรูปหน้าด้วยการฉีดโบท็อกลดกราม จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 4-7 วันหลังฉีด ซึ่งกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ ยุบตัวลง จนสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพได้ภายใน 1 เดือน ส่วนการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยจะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 2-3 วัน ซึ่งผลลัพธ์ของทั้งโบท็อกลดกรามและลดริ้วรอยจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน ก่อนที่โบท็อกจะสลายตัวจนหมดไปได้เอง โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างงกาย แต่เราสามารถกลับมาฉีดซ้ำ เพื่อเป็นการคงผลลัพธ์รูปหน้าเรียวเล็ก ไร้ริ้วรอยได้ แต่ควรเว้นระยะเวลาในการฉีดประมาณ 3-4/ครั้ง ไม่ควรฉีดถี่ติดกันจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อก จนฉีดโบท็อกซ้ำกี่ครั้งก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ  

นอกจากนั้นคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ให้กรอบหน้ามีมิติ คมชัดมากขึ้น หรือคนที่ฉีดโบท็อกลดกรามมาแล้ว เมื่อกรามยุบตัวเล็กลงมาก ๆ อาจจะเกิดปัญหาผิวหนังบริเวณกรอบหน้าไม่กระชับ มีความความหย่อนคล้อยลงได้ ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยการฉีดโบท็อกลิฟหน้า โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะฉีดควบคู่กัน ทั้งฉีดโบท็อกลดกราม และ ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ รูปหน้าสวยเป๊ะมากขึ้น แต่ทั้งนี้แพทย์จะทำการประเมินรูปหน้าและปัญหาของคนไข้ก่อนเสมอ

Botoxข้อดีของการฉีดโบท็อก

  • เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าได้อย่างรวดเร็ว โบท็อกริ้วรอยภายใน 2-3 วัน โบท็อกลดกราม 4-7 วัน
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ถือเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก
  • โบท็อกมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ราคาไม่แพงเกินไป เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้รับ
  • การฉีดโบท็อก ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะสารโบท็อกสามารถสลายตัวได้เอง ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย
  • การฉีดโบท็อกลดริ้วรอย นอกจากช่วยลดริ้วรอยในปัจจุบันได้แล้ว ยังช่วยป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคตได้อีกด้วย  เพราะเมื่อโบท็อกออกฤทธิ์จะทำให้กล้ามเนื้อขยับได้น้อยลง ส่งผลให้ไม่เกิดรอยพับใหม่ขึ้นมา ดังนั้นริ้วรอยในอนาคตจึงลดน้อยตามไปด้วย

2. ฟิลเลอร์ Filler

การฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยแพทย์จะใช้สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ฉีดเข้าไปเติมเต็มในส่วนที่มีความบกพร่องต้องการแก้ไข เพื่อปรับรูปหน้าให้มีความสมบูรณ์ ได้สัดส่วน ดูละมุนมีมิติมากขึ้น

สำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก กรอบหน้าชัด การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยได้เช่นกัน โดยจะเป็นการฉีดปรับบริเวณกรอบหน้าช่วงล่างทั้งหมด ซึ่ง APEX มีเทคนิคพิเศษในการฉีดปรับรูปหน้าให้ออกมาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปตั้งแต่บริเวณกรอบหน้า หรือ Jawline ไล่ไปถึงบริเวณคาง เพื่อให้ได้ความละมุน รูปหน้าไม่แข็งทื่อ หน้าเรียวสวยมีมิติทุกมุมมอง โดยในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่ผลิตออกมาสำหรับการฉีดปรับรูปหน้าช่วงล่างโดยเฉพาะ อย่าง Juvederm Volux แบรนด์ฟิลเลอร์จากอเมริกา เพราะเนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง เคลื่อนได้ยาก ทำให้สามารถปรับขึ้นรูปได้ง่าย เหมาะสำหรับการสร้างกรอบหน้าให้คมชัด เรียวกระชับ

ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์หลังฉีดได้ทันทีว่าใบหน้ามีความสมดุลมากขึ้น บริเวณที่ยุบหรือเป็นร่องริ้วรอยถูกเติมเต็ม ปรับให้ได้สัดส่วน ใบหน้าจึงดูมีมิติ กรอบหน้าคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ โดยระยะเวลาของผลลัพธ์ในการฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานตั้งแต่ 18 – 24 เดือนเลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกฉีด และหลังจากนั้นฟิลเลอร์จะสลายตัวหมดไปได้เอง ทำให้ไม่มีสารตกค้างไว้ ถือเป็นสารมีความปลอดภัยต่อร่างกาย โดยการฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีการแก้ปัญหารูปหน้า และผิวหน้าได้อย่างรวดเร็ว และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน อีกทั้งยังไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน ๆ อีกด้วย

Fillerข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

  • เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วหลังฉีดเสร็จทันที และภายใน 12 สัปดาห์รูปหน้าจะดูเต็มสวยมากยิ่งขึ้น
  • ไม่ต้องพักฟื้น หรือผ่าตัดให้เจ็บตัว เพียงแค่ฉีดปรับแต่งเล็กน้อย รูปหน้าก็สวยขึ้นได้แล้ว
  • แก้ไขง่าย หากยังไม่พอใจในผลลัพธ์สามารถฉีดเพิ่มเติม หรือฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้เช่นกัน
  • ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานกว่า 1-2 ปี ทำให้ไม่ต้องกลับมาฉีดซ้ำบ่อย ๆ
  • ผลลัพธ์มีความละมุน ดูสวยเป็นธรรมชาติ รูปหน้ามีความสมดุลมากขึ้น

3. อัลเทอร่า Ulthera

สำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย แต่ไม่อยากผ่าตัดดึงหน้าให้เจ็บตัวแถมยังต้องพักฟื้นให้เสียเวลา การทำอัลเทอร่าถือว่าตอบโจทย์มากเลยทีเดียว เพราะเป็นนวัตกรรมยกกระชับผิว และลดริ้วรอยที่สามารถปล่อยพลังงานได้ลึกถึงระดับชั้น SMAS หรือระดับที่แพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งตัวเครื่องอัลเทอร่าจะส่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง (Focus Ultrasound) และจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อใต้ชั้นผิวเกิดการหดตัว และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวมีความยกกระชับ ใบหน้าดูเรียวขึ้น ผิวเรียบเนียน ริ้วรอยลงที่เคยมีจางลง ผิวดูสุขภาพดี หน้าเด็กลงได้อีกครั้ง

โดยผลลัพธ์ของการทำอัลเทอร่าหลังทำเสร็จทันทีจะเห็นได้ชัดเลยว่าใบหน้ายกขึ้นกว่า 10-15% และหลังจากนั้นจะค่อย ๆ เห็นผลขึ้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวจะถูกกระตุ้นการทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลลัพธ์การยกกระชับสามารถอยู่ได้นานกว่า 1 ปีเลยทีเดียว

Ultheraข้อดีของการทำอัลเทอร่า

  • ไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า ก็สามารถยกผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาตึงกระชับ กรอบหน้าเรียวชัดขึ้นได้อีกครั้ง
  • เห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ อีกทั้งผลลัพธ์ยังอยู่ได้นานกว่า 1 ปี ทำให้ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ
  • เป็นเครื่องมือยกกระชับที่มีความแม่นยำ เนื่องจากมีหน้าจอแสดงผล ทำให้แพทย์เห็นชั้นผิวของคนไข้ สามารถวางแผนการรักษา และยิงพลังงานได้อย่างตรงจุดของปัญหาที่สุด
  • นอกจากยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยได้แล้ว ยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อีกด้วย

4. เทอร์มาจ Thermage

สำหรับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้า เหนียง แก้มเยอะ มีปัญหาแก้มห้อย ทำให้ใบหน้าดูบวมใหญ่ กรอบหน้าไม่ชัด อยากปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กขึ้น การทำเทอร์มาจ Thermage ช่วยได้แน่นอน เนื่องจากเป็นนวัตกรรมยกกระชับผิว ที่สามารถช่วยยกใบหน้าให้มีความเฟิร์มมากขึ้น แถมยังช่วยสลายไขมันสะสม และกระตุ้นการทำงายของคอลลาเจนได้อีกด้วย จึงช่วยให้ใบหน้ากลับมาสวยได้รูป ผิวสุขภาพขึ้นได้จากภายใน

ซึ่งการทำงานของเทอร์มาจ จะเป็นการปล่อยพลังงานพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency หรือ RF) ไปยังชั้นผิวระดับ dermis และลึกลงไปถึงชั้นที่อยู่ของคอลลาเจน รวมทั้งไขมันได้โดยตรง โดยพลังงาน RF เมื่อแพทย์ยิงลงสู่ผิวจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เข้าไปสลายไขมันสะสมบริเวณต่าง ๆ ได้ อย่างเช่น กรอบหน้า คาง เหนียง แก้ม รวมไปถึงต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เทอร์มาจก็สามารถยกกระชับได้เช่นกัน นอกจากนั้นพลังงานนี้ยังเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ช่วยฟื้นฟูเส้นใยคอลลาเจนเดิมที่เสื่อมสภาพให้กลับมามีเกลียวที่แน่นตึงขึ้น ส่งผลให้ผิวกระชับ ดูเฟิร์มมากขึ้น กรอบหน้าชัด แก้ม เหนียงลดลง และเมื่อผิวได้รับการกระตุ้นคอลลาเจนจึงช่วยให้ ผิวยืดหยุ่น แข็งแรง ดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดีมากขึ้นอีกด้วย  

โดยผลลัพธ์ของการทำเทอร์มาจ หลังทำเสร็จจะเห็นได้ทันทีว่าใบหน้ามีความยกกระชับมากขึ้นกว่า 15-20% ผิวมีความเฟิร์ม แก้มไม่ห้อยเหมือนก่อนทำ สภาพผิวยังได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์ของการทำเทอร์มาจสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทำเทอร์มาจแค่เครื่องเดียวแต่แก้ปัญหาได้ถึง 3 ต่อ ตั้งแต่ยกกระชับใบหน้า ฟื้นฟูสภาพผิว และลดไขมันสะสม

Thermageข้อดีของการทำเทอร์มาจ

  • เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งที่ทำ และจะเห็นผลได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว
  • ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี ทำให้ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา อยากเห็นผลลัพธ์ยาวนาน
  • ปล่อยพลังงานได้ล้ำลึก ช่วยแก้ปัญหาได้ครอบคลุมทุกชั้นผิว ตั้งแต่ชั้นผิวหนังแท้ ชั้นคอลลาเจน อิลาสติน และชั้นไขมัน
  • มีหัวปล่อยพลังงาน total tip เฉพาะส่วน ทำให้ปลอดภัย และสามารถกระจายพลังงานได้อย่างเหมาะสม ทั่วถึง ซึ่งเทอร์มาจมีหัวปล่อยพลังงานด้วยกันถึง 3 ขนาด คือ สำหรับบริเวณดวงตา ใบหน้า และลำตัว

ปรับรูปหน้าทั้ง 4 ตัวช่วย สามารถ ปรับรูปหน้า ของเราให้เรียวเล็ก กรอบหน้าชัด ผิวดีขึ้นได้แบบรวดเร็วทันใจ ดังนั้นไม่ว่าจะปีไหน ๆ อายุเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ เราต้องใส่ใจดูแลรูปหน้าให้สวย และดูดีอยู่ตลอดเวลา สำหรับใครที่สนใจ แต่ยังไม่แน่ใจว่าปัญหาใบหน้าของเราควรทำเทคนิคไหนดี สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าโดยตรงได้ที่ APEX ทุกสาขาเลยนะคะ

สำหรับท่านใดที่สนใจ ปรับรูปหน้า สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) APEX ของเรามีทีมแพทย์ผูเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งมีเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน คอยให้บริการทุกท่านอยู่นะคะ