เชื่อว่าถ้าเลือกได้ทุกคนต้องอยากมีดวงตาคู่สวยกันทุกคน เพราะว่าดวงตาสามารถสื่ออะไรได้หลายๆ อย่าง เมื่อคนเราเจอกันหรือพูดคุยกัน ก็มักจะมองตาคู่สนทานาอยู่เกือบตลอดเวลา ดังนั้นการมีดวงตาคู่สวย ไม่มี ริ้วรอยใต้ตา ก็จะเพิ่มความมั่นใจให้กับเราได้มากขึ้น
แต่เมื่ออายุมากขึ้นปัญหาผิวหน้ายิ่งตามมา โดยเฉพาะปัญหารอบดวงตาที่เป็นส่วนที่บอบบางที่สุด มากกว่าผิวส่วนอื่นของใบหน้า ถ้าไม่ดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหารอบดวงตาเร็วขึ้นหรือมาก่อนวัยได้ ยิ่งในปัจจุบันคนเราใช้สายตากันหนักมาก ไม่ว่าจะเป็นจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน หากเราเคืองตาก็อาจจะเผลอไปขยี้ตา ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยใต้ตาตามมาได้นั่นเอง
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา รอยเหี่ยวย่นหางตา หรือ ตีนกา สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก แต่จะแก้ให้หายไปนั้นค่อนข้างยากเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว เพราะว่าเรามี 3 ตัวช่วยลดปัญหาริ้วรอยใต้ตา หรือ ตีนกาให้จางลงได้มาฝากกัน ส่วนใครที่ริ้วรอยยังไม่ถามหา ก็ควรรู้ถึงปัจจัยที่ทำให้ริ้วรอยใต้ตาเกิดขึ้นไว้ด้วย จะได้หาวิธีป้องกันไว้ก่อน เพื่อดวงตาของเราจะได้สวยสดใสไปอีกนานแสนนาน
ปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตา
- อายุเพิ่มมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้นผิวย่อมสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น โดยเฉพาะบริเวณหางตาและใต้ตา ที่มักจะเป็นส่วนที่เกิดรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายมาก
- ผิวขาดความชุ่มชื้น
คนที่ผิวแห้งมักจะเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายกว่าคนที่ผิวมัน โดยเฉพาะผิวบริเวณรอบดวงตาที่มีความบอบบางและแห้งง่ายกว่าผิวส่วนอื่นของใบหน้า
- แสงแดด
แสงแดดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา เพราะรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด จะเป็นตัวทำลายอีลาสตินกับคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
พฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิด ริ้วรอยใต้ตา ได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า เช่น การยิ้ม หรี่ตา นอกจากนั้นการเช็ดล้างเครื่องสำอางบริเวณดวงตาไม่สะอาด หรือ เช็ดแรงเกินไป รวมไปถึงคนที่ชอบขยี้ตาบ่อยๆ และ คนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
วิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยใต้ตา
- ดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใต้ตาแล้ว ยังส่งผิวดีต่อร่างกายทุกส่วนอีกด้วย เมื่อผิวมีความยืดหยุ่นก็จะดูสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์
- หลีกเลี่ยงแสงแดด
อยากที่ทราบกันดีว่าแสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิวพรรณ โดยเฉพาะผิวบริเวณรอบด้วยตาที่เกิดริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้นควรเลี่ยงแสงแดดแรงๆ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้อาจจะใส่แว่นกันแดดเพื่อปกป้องดวงตาจากการโดนแสงแดดโดยตรง
- ไม่ขยี้ตา
ผิวบริเวณรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางมาก ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตาโดยตรง โดยเฉพาะการขยี้ตาแรงๆ เพราะเหตุนี้จึงทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตาได้ง่าย
- เช็ดเครื่องสำอาง
ไม่ควรเช็ดเครื่องสำอางแรงจนเกินไป โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาที่เป็นส่วนบอบาง ถ้าเครื่องสำอางนั้นเช็ดออกยาก เราอาจจะลองเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ไว้สำหรับเช็ดบริเวณรอบดวงตาโดยฉเพาะ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมัน ช่วยให้เช็ดออกง่ายก็จะช่วยถนอนผิวได้มากขึ้น
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง จะช่วยให้ผิวซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แถมยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกายอีกด้วย ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ไม่เกิดริ้วรอยได้ง่าย
- ผักผลไม้ก็สำคัญ
ผักผลไม้เป็นอีกตัวช่วยที่ดีทำให้ร่างกายได้รับวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาและเมื่อสายตาเราดีแล้ว ก็ไม่ควรเผลอขยี้ตาหรือหรี่ตาบ่อยๆ เพราะอาจทำให้เกิดปัญาริ้วรอยใต้ตาตามมา
3 ตัวช่วยลดริ้วรอยใต้ตา
- มาส์กใต้ตา ลดริ้วรอย
นอกจากแผ่นมากส์หน้าที่เราคุ้นตากันดีแล้ว ก็ยังมีแผ่นมาสก์ใต้ตาโดยเฉพาะอีกด้วย ซึ่งในแผ่นมาส์กจะอุดมไปด้วยส่วนผสมและสารบำรุงอย่างอัดแน่นตามแต่ละสูตร ซึ่งมีราคาถูกแพงแตกต่างกันไป มาส์กใต้ตาแบบนี้เราสามารถทำเองได้ด้วยนะ วันนี้เรามี 5 สูตรมาส์กใต้ตาลดริ้วรอยมาแนะนำกัน สามารถทำเองได้ง่ายๆ ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นของที่หาง่ายและหาได้ในครัวบ้านเรานั่นเอง
กับ 5 สูตรมาส์กใต้ตา ลดริ้วรอย มีดังนี้
สูตรที่1 : มะเขือเทศ + โยเกิร์ต
มะเขือเทศเป็นแหล่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอยและความหมองคล้ำ โดยโยเกิร์ตจะช่วยให้ผิวใต้ตาเนียนนุ่มและชุ่มชื้นมากขึ้น สูตรนี้ง่ายมากเพียงแค่นำมะเขือเทศมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วบดให้ละเอียดจากนั้นผสมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ อาจจะนำไปแช่เย็นก่อนก็ได้เพื่อความสดชื่น จากนั้นนำมามาส์กบริเวณรอบดวงตาแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สูตรที่2 : น้ำมันมะพร้าว
สูตรนี้ก็ง่ายมากเช่นกันเพียงแค่นำน้ำมันมะพร้าวมาทาบางๆ ให้ทั่วบริเวณรอบดวงตา โดยไม่ต้องล้างน้ำออกปล่อยให้น้ำมันมะพร้าวซึมเข้าสู่ผิวเลย ทำช่วงกลางคืน ตื่นมาตอนเช้าจะรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น และน้ำมันมะพร้าวยังสามารถช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ดีอีกด้วย
สูตรที่3 : น้ำผึ้ง + แตงกวา
น้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและมีสารต้านอนุมูลอิสระ แตงกวาช่วยให้ผิวสดชื่นสดใสขึ้น สูตรนี้เพียงแค่นำแตงกวามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วบดให้ละเอียด จากนั้นเติมน้ำผึ้งลงไป แล้วนำมามาส์กบริเวณรอบดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สูตรที่4 : ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น สามารถช่วยลดอาการบวมแดงหรือตาบวม และช่วยลดริ้วรอยได้ เพียงแค่ล้างว่านหางจระเข้ให้สะอาด ขูดเอาเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ออกมาหรือถ้าใครไม่สะดวกใช้เป็นเจลว่านหางจระเข้แทนก็ได้ จากนั้นนำสำลีไปชุบว่านหางจระเข้ให้พอชุ่ม แล้วนำมาวางไว้ที่เปลือกตา ทิ้งไว้ 10-15 นาที โดยไม่ต้องล้างออก
สูตรที่5 : ถุงชา
ชาจะช่วยลดอาการบวมของดวงตา และช่วยให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย เพียงแค่นำถุงชาที่ใช้เสร็จแล้ว ไปแช่เย็นประมาณ 10-20 นาที จากนั้นนำถุงชามาวางไว้บนเปลือกตาประมาณ 10-15 นาที จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก
2. อายครีม (eye cream)
อายครีม เป็นครีมสำหรับบำรุงผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ อีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับผู้มีปัญหารอบดวงตา เช่น ริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยหางตาหรือตีนกา ผิวใต้ตาคล้ำไม่สดใสให้กลับมาดูดีขึ้นได้ สำหรับคนที่อายุยังน้อยหรือยังไม่ค่อยมีปัญหารอบดวงตา ก็สามารถทาอายครีมป้องกันไว้ก่อนได้ และอายครีมมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเนื้อครีม เนื้อเจล เซรั่มหรือแบบน้ำที่เป็นลูกกลิ้ง จะช่วยให้เห็นผลได้ต้องใช้อย่างต่อเนื่องสักหน่อย อาจจะไม่ทันใจสำหรับคนที่ใจร้อน หรือ อยากได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วนัก
วิธีการทาอายครีมให้ได้ผล
- อายครีมควรลงเป็นผลิตภัณฑ์แรกหลังจากที่เราล้างหน้าเสร็จหรือทาพรีเซรั่ม เพราะถ้าทาหลังจากผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหนักอย่างครีม จะทำให้อายครีมไม่สามารถซึมเข้าผิวได้มากเท่าที่ควร
- ใช้ปริมาณอายครีมที่พอเหมาะ แต้มไปที่ใต้ตาประมาณ 3 จุด
- จากนั้นเกลี่ยอายครีมอย่างเบามือ ไม่ควรลงน้ำหนักมือมากเกินไป แนะนำให้เป็นนิ้วนางค่อยๆ เกลี่ยเนื้อครีมออกไปทางหางตา และไม่เกลี่ยแบบถูไปถูมา
3. โบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา
การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตาเหมาะกับคนที่อยากแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาแบบเร่งด่วน โดยช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเล็กๆ ใต้ตา รวมไปถึงริ้วรอยบริเวณหางตาหรือตีนกาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น จะเริ่มเห็นผลภายใน 2-3 วันหลังฉีดและผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไป ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยใต้ตา ฟังจากชื่อบางคนอาจจะกลัว แต่ถ้าเราฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ก็มั่นใจในความปลอดภัยได้
โบท็อกซ์ คือ?
โบท็อกซ์มาจากชื่อทางการค้าของบริษัท Allergan USA แต่เนื่องจากเป็นแบรนด์แรกและเป็นที่รู้จักทั่วโลกทำให้ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้เพื่อฉีดลดริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไรหรือมาจากประเทศไหนก็จะถูกเรียกว่าโบท็อกซ์เสมอ
โบท็อก (Botulinum Toxin) แบบ Type A เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium Botulinum เมื่อฉีดเข้าไปจะออกฤทธิ์ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อเล็กๆ ที่เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นคลายตัวลง รวมถึงลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณส่วนอื่น เช่น น่องและกราม เดิมทีวงการแพทย์ได้นำสารขนิดนี้มาใช้ในการรักษาโรค เช่น โรคตาเหล่ ตาเข และต่อมาได้พัฒนาใช้ในวงการแพทย์ความงาม ช่วยเรื่องลดริ้วรอยบนใบหน้าและลำคอ นอกจากนั้นยังช่วยปรับรูปหน้าให้หน้าเรียวเล็ก ปรับขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลงและสามารถลดเหงื่อได้อีกด้วย
โบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา ได้หรือไม่?
สำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตาอยากแก้ไขแบบรวดเร็วและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน การฉีดโบท็อกซ์เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์เอย่างมาก และเป็นวิธียอดนิยมเพราะว่าสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีภายใน 2-3 วัน พบว่าริ้วรอยลดลง อีกทั้งยังไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัดและไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นอีกด้วย
ซึ่งจากที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นว่าการฉีดโบท็อกซ์ เมื่อฉีดเข้าไปตรงจุดที่เป็นปัญหา ตัวยาจะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวลงเปรียบเสมือนริ้วรอยได้ถูกคลี่ออก ดังนั้นจึงแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาหรือริ้วรอยหางได้นั่นเอง
ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง?
เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นใต้ตา หางตา ปัญหาเหล่านี้จะทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ใบหน้าหรือดวงตาเหมือนคนไม่ได้พักผ่อน ดูโทรม ซี่งการฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตาจะช่วยให้ดวงตากลับมาสดใส ดูเด็กลงได้อีกครั้ง ส่งผลให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นกล้าที่จะยิ้มและหัวเราะได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องริ้วรอยใต้ตาอีกต่อไป
ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา อันตรายหรือไม่?
บริเวณรอบดวงตาเป็นส่วนบอบบางที่สุด หลายคนจึงกังวลว่าจะเป็นอันตราย เราต้องเลือกคลินิกที่ได้รับรองมาตรฐาน โบท็อกซ์ที่ใช้ฉีดต้องได้รับอย. เพราะโบท็อกซ์ของเท้จะสามารถสลายเองได้ 100% โดยไม่มีสารตกค้าง นอกจากนั้นแพทย์ที่ฉีดให้ต้องมีความเชี่ยวชาญ มีเทคนิคและประสบการณ์ จึงจะสามารถประเมินปริมาณโบท็อกซ์ที่ฉีดให้เราได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ฉีดมากเกินไปเพราะจะทำให้ตาดูตึงแข็ง ยิ้มแล้วไม่เป็นธรรมชาติ และยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียง
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตาต้องเตรียมตัวอย่างไร?
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกซ์ เช่น โบท็อกซ์แท้ดูอย่างไรและหาข้อมูลหลายๆ คลินิกก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์
- ก่อนฉีดโบท็อกซ์ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
- งดทานยาแก้ปวด ยาแอสไพริน เพื่อป้องการอาการฟอกช้ำหลังฉีดโบท็อกซ์และงดอาหารเสริม เช่น วิตามินอี สารสกัดจากโสม เพราะจะทำให้เลือดแข็งตัวช้า ควรงดก่อน 2 สัปดาห์ก่อนฉีด
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ และควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
- บริเวณดวงตาบางคนชอบแบบธรรมชาติให้เห็นรอยจางเล็กน้อย บางคนชอบแบบตึงมาก ดังนั้นควรตกลงกับแพทย์ให้ชัดเจนถึงความต้องการของตัวเองก่อนฉีดโบท็อกซ์
วิธีดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา
- หลังฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา ควรรีบขยับกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาทันที 1-2 ครั้ง เพื่อให้โบท็อกซ์กระจายตัว ออกฤทธิ์ได้ดี มีประสิทธิภาพการทำงานมากยิ่งขึ้นและช่วยให้โบท็อกซ์ถูกเซลล์ประสาทดูดรับสารเข้าไปมากขึ้น
- หลังฉีดโบท็อกซ์ ไม่ควรลูบคลำ บีบ กด หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะจะทำให้โบท็อกซ์กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ได้
- ไม่ควรนอนราบ หรือก้มศีรษะต่ำกว่าระดับหัวใจ หลังฉีดโบท็อกซ์ประมาณ 3-4 ชั่วโมงแรก
- ควรงดรับประทานเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หลังฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการเข้าอบไอน้ำ อบซาวน่า และยิงเลเซอร์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
คำถามที่พบบ่อย
Q : ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตาอยู่ได้นานไหม?
A : การฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตาจะเริ่มเห็นผลหลังฉีดประมาณ 2-3 วัน โดยสังเกตได้ว่าริ้วรอยเล็กๆ ใต้ตาจางลง ผิวเรียบตึงขึ้น ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน หลังจากนั้นสารจะค่อยๆ สลายไป คนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้อีกเรื่อยๆ เพื่อคงสภาพต่อเนื่องไว้
Q : ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตาราคาเท่าไหร่?
A : ขึ้นอยู่กับปัญหาริ้วรอยของคนไข้ว่ามีมากน้อยเพียงใด อีกทั้งยี่ห้อและปริมาณของโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปอีกด้วย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ในแต่ละเคส สามารถเข้ารับการปรึกษาก่อนได้ เพื่อทำการประเมินก่อนเข้าใช้บริการ
Q : ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตาที่ไหนดี?
A : สำหรับสถานที่หรือคลินิกที่เราจะเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตา ควรเลือกที่ได้รับมาตรฐาน มีความทันสมัย สถานที่สะอาด มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงกว้างและมีผู้เข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดย APEX ได้รับรางวัลการันตีมากมาย เช่น ‘Top Allergan Aesthetics Valued Customer in Total Portfolio 2020 (Facial Aesthetics & Body Contouring)’ รางวัลสำหรับคลินิคที่มีการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์สูงสุดในประเทศไทย
ซึ่ง Allergan เป็นผู้ผลิตพัฒนา นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับความงาม อย่างเช่น BOTOX, JUVÉDERM FILLER, COOLSCULPTING ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่า APEX ใช้โบท็อกซ์ หรือ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐานอย่างแน่นอน
สำหรับใครที่มีปัญหากังวลใจเกี่ยวกับริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา การฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาได้ดีอย่างมาก ถ้าใครมีคำถามหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม ที่ APEX ของเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำอยู่นะคะ
หากสนใจลดริ้วรอยด้วยโบท็อก ต้องการปรึกษา/สอบถาม/ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หรืออยากจองคิวรักษาสามารถติดต่อมาได้ที่ Line@: apexbeauty นะคะ เรื่องฉีดไว้ใจเอเพ็กซ์!