อาการ ตากระตุก! รักษาด้วย BOTOX

 

หลายๆคนอาจเคยได้ยินคำว่า ขวาร้าย ซ้ายดี เวลาที่ตาของเรากระตุก แต่คุณรู้ไหมว่า ตากระตุกนั้นไม่ใช่เรื่องตลก ขำๆ ซึ่งปัญหาตากระตุกนั้น สามารถบอกโรคหรือความผิดปกติของร่างกายได้ ลองสังเกตตัวเองและคนใกล้ตัวดูค่ะ ว่ามีอาการตากระตุกผิดปกติเกินไปหรือไม่

เปลือกตากระตุกเกิดจากอะไร 

อาการที่กล้ามเนื้อตากระตุกซ้ำ ๆ โดยปกติมักจะเกิดขึ้นกับเปลือกตาบน แต่ทั้งนี้อาการตากระตุกหรือเขม่นตา สามารถเกิดขึ้นได้กับเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง  อาการกระตุกเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากสิ่งเร้าภายในหรือภายนอกใด ๆ และเกิดขึ้นไม่นาน แต่ถ้าตากระตุกเป็นระยะเวลา 2-3 นาทีถึง 2-3 วันอาจเกิดจากการกล้ามเนื้อเมื่อยล้าหรือถูกกระตุ้นมากเกินไป  อาการตากระตุก หากกระตุกถี่เกินไปอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างจากร่างกาย ว่าเรากำลังเป็นโรคร้ายบางชนิด เช่น โรคอัมพาตใบหน้า, โรคกล้ามเนื้อบิดเกร็ง, โรคทูเร็ตต์  เป็นต้น

สาเหตุของอาการ

• สาเหตุหนึ่งเกิดจากกิจกรรมทางไฟฟ้าในสมอง ทำให้เซลล์ประสาทส่งสัญญาณไปยังกล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อตากระตุก 
• การกระตุกของกล้ามเนื้อ  
• อาการเหนื่อยล้า 
•  การอดนอน นอนหลับไม่เพียงพอ 
•  หรือการดูหน้าจอเป็นเวลานาน 
• ความเครียด 
• ตาแห้ง ตาแดง หรือ เยื่อบุตาอักเสบ
• แอลกอฮอล์ ยาสูบ หรือคาเฟอีน
• การอักเสบของเปลือกตา 
• สภาพแวดล้อมที่ทำให้ระคายเคือง เช่น แสงจ้า หรือ มลพิษทางอากาศ

 

อาการตากระตุกแบบไหนอันตราย

ตากระตุก (Eye Twitching) คือ เปลือกตาจะมีขยับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว สามารถเกิดได้ทั้งเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง อาจแสดงอาการถี่ๆ ทำให้รู้สึกรำคาญ โดยทั่วไปอาการจะไม่รุนแรง ไม่เจ็บ ไม่อันตราย เกิดขึ้นเพียงข้างใดข้างหนึ่ง 

แต่หากมีอาการตากระตุกรุนแรงมากๆ มากเกินจนทำให้เปลือกตาจะปิด หรือมีการลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ เช่น ปาก แก้ม อาจเป็นสัญญาณของโรคใบหน้ากระตุก อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือกล้ามเนื้อบิดเกร็งได้ แต่กรณีที่นำไปสู่โรคที่รุนแรงก็น้อยมากครับ ส่วนใหญ่จะเป็นอาการที่ไม่รุนแรงและไม่เป็นอันตราย

วิธีสังเกตอาการตากระตุกที่ควรพบแพทย์

1. ตากระตุกถี่ติดกันนาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป
2. การกระตุกกระจายวงกว้างไปส่วนอื่น เช่น แก้ม ปาก
3. บริเวณที่มีอาการรู้สึกอ่อนแรงหรือหดเกร็ง
4. เปลือกตาห้อย รบกวนการมองเห็น
5. ตามีการบวมแดง หรือมีสารคัดหลั่ง
6. เปลือกตาปิดสนิท

 

อาการที่ต้องไปพบแพทย์

อาการตากระตุกมักจะหายไปได้เองภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์ แต่หากพบว่ามีอาการต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์

• ตากระตุกติดต่อกันทุกวันเกิน 1 สัปดาห์
• มีอาการกระตุกของใบหน้าร่วมด้วย
• ตากระตุกพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง
• มีอาการตาแดงหรือมีขี้ตา
• ตาเกร็งหรือกระตุกแรงมากจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้

การรักษาอาการตากระตุก

• ทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อรักษาด้วยการ ฉีดโบท็อก โดยยฉีดสาร โบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) สามารถหยุดอาการตากระตุกได้ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 6-8 เดือน และเมื่อโบทอกซ์หมดฤทธิ์สามารถมาฉีดซ้ำอีกครั้งได้
• รักษาโดยให้ทานกลุ่มตัวยาคลายกล้ามเนื้อ
• นอกจากนั้นการศัลยกรรม เช่น การตัดกล้ามเนื้อ เป็นการตัดกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทตาของเปลือกตาออก เป็นวิธีที่อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคตากระตุกที่มีความรุนแรงได้

 

โบท็อก รักษาอาการตากระตุกได้อย่างไร

โบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) หรือ Botox  เป็นการบรรเทาอาการตากระตุก โดยแพทย์จะทำการฉีดโบทูลินั่ม ทอกซินไปใต้ชั้นผิวหนังบริเวณกล้ามเนื้อที่มีการเกร็ง หรือกระตุก เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้น อ่อนแรงลง ลดการกระตุกได้ โดยทั่วไปใช้เวลาในการฉีดไม่เกิน 30 นาที สามารถเห็นผลได้ใน 2-3 วันหลังฉีด และฤทธิ์ของโบท็อกจะอยู่ได้นานกว่า 6-8 เดือนเลยทีเดียว ก่อนที่สารโบท็อกจะสลายตัวหมดไปได้เอง โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งเราสามารถกลับมาฉีดโบท็อกซ้ำได้เรื่อย ๆ เพื่อเป็นการคงผลลัพธ์ให้อยู่ไปอย่างยาวนาน แต่ทั้งนี้ควรเว้นระยะเวลาในการฉีด ประมาณ 4 เดือน/ครั้ง ไม่ควรฉีดถี่มากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะดื้อโบท็อกได้

 

ฉีดโบท็อก รักษาอาการกระตุกเจ็บไหม?

ก่อนฉีดโบท็อก จะมีการประคบน้ำแข็ง จะช่วยลดความเจ็บตอนจิ้มเข็มได้ค่ะ แต่ก็ไม่ได้เจ็บมาก จะให้ควมรู้สึกเหมือนฉีดยาทั้วไปเลย ส่วนเรื่องจำนวนยูนิตที่ใช้ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

นอกจากรักษาตากระตุกได้แล้ว ฉีดโบท็อก ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?

โบท็อกสามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง แต่คนส่วนใหญ่ที่นิยมฉีดโบท็อก ก็คือใช้ลดริ้วรอย ลดกราม และปรับหน้าให้เรียวค่ะ

ช่วยลดริ้วรอย โบท็อกจะฉีดตรงบริเวณริ้วรอยบนใบหน้า เช่น เส้นที่หน้าผาก ตีนกา รอยขมวดคิ้ว ริ้วรอยบนใบหน้าจะค่อยๆ ลดลง และจะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วันค่ะ

ช่วยปรับรูปหน้า การฉีดโบท็อกเพื่อปรับรูปหน้าจะฉีดโบท็อกตรงแนวขากรรไกร กราม เพื่อปรับให้ใบหน้าเล็กและเรียวขึ้น จะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 เดือนค่ะ

ช่วยฟื้นฟูผิว การฉีดโบท็อกสามารถช่วยให้รูขุมขนเล็กลงได้ โดยหมอจะฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อและต่อมไขมัน เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปรูขุมขนจะหดเล็กลง ต่อมไขมันลดขนาด ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

ลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง ลดขนาดกรามให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น ยังสามารถฉีดโบท็อกบริเวณน่องได้ให้ขาดูเรียวยาวสวยขึ้นได้ และลดขนาดปีกจมูกให้เล็กลง เห็นสันแกนจมูกได้ชัดเจนขึ้น

ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวให้เรียบตึงขึ้น รอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว ผิวหนังบริเวณคอมือที่เหี่ยวย่น โบท็อกช่วยให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียนและดูเด็กขึ้นค่ะ

ใต้วงแขน รักแร้ ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง ช่วยระงับกลิ่นกายได้อีกด้วยค่ะ

 

โบท็อก ยี่ห้อไหนดี ?

ในปัจจุบันมีโบท็อกหลายยี่ห้อ ทั้งโบท็อกอเมริกา โบท็อกอังกฤษ โบท็อกเยอรมัน โบท็อกเกาหลี ซึ่งออริจินอลของโบท็อกคือ Botox Allergan มีความบริสุทธิ์สูงที่สุด ลดโอกาสการดื้อโบท็อก ฉีดแล้วอยู่ได้นาน แต่ที่ได้รับความนิยมในเมืองไทย คือ โบท็อกเกาหลี เช่น Nabota (U.S.FDA approved), Aestox ที่เน้นออกฤทธิ์ไว้ และราคาถูกกว่าโบท็อก Allergan 

 

การเลือกยี่ห้อโบท็อก คนไข้สามารถปรึกษาหมอเพื่อให้ประเมินปัญหาและเลือกยี่ห้อที่เหมาะกับแต่ละคน ทั้งในเรื่องของตัวยาและราคาครับ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

 

ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก

เพื่อให้การฉีดโบท็อกได้ผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นาน มีข้อแนะนำหลังฉีดโบท็อก ดังนี้

• หลังฉีดโบท็อกทันทีในแต่ละบริเวณ ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง เป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด
• งดนอนราบ 3 ชม. ไม่ก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น โบท็อกจะถูกดูดซึมน้อยลง
• กินแร่ธาตุ zinc 50 mg (มีอยู่ในเนื้อสัตว์ อาหารทะเล หอยนางรม ตับ ไข่แดง) ก่อนและหลังการฉีดโบท็อก ช่วยให้โบท็อกออกฤทธ์ไวขึ้น ออกฤทธิ์ดีขึ้น
• หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น เข้าซาวน่า, ออกกำลังกายหนัก ๆ , ตากแดด, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด อย่างน้อย 1 เดือน

 

หลังจาก 2 สัปดาห์สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ และรับประทานอาหารได้ตามปกติ ยกเว้นเรื่องความร้อนที่ควรพยายามหลีกเลี่ยง แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะไม่ได้ส่งผลอะไรสักเท่าไหร่ สามารถปรับได้ตามความสะดวกและเหมาะสม

 

ฉีดโบท็อกรักษาตากระตุกที่ไหนดี

การฉีด Botox  บริเวณรอบดวงตา เป็นส่วนที่มีความบอบบางมาก ทำให้หลายคนอาจจะเกิดความกลัว หรือรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกหางตาได้ ดังนั้นก่อนฉีดโบท็อก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณไหนก็ตามควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกที่เราจะเข้าใช้บริการให้ดีก่อน โดยสามารถพิจารณาได้จากสิ่งต่อไปนี้

• ความน่าเชื่อของคลินิก : ผ่านการรับรองอย่างถูกต้อง ภายในคลินิกมีมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย รวมทั้งชื่อเสียงของ และรางวัลที่คลินิกได้รับก็สามารถช่วยการันตีให้เรามั่นใจได้ถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ได้ว่ามีประสิทธิภาพ
• ความเชี่ยวชาญของแพทย์ : แม้ว่าโบท็อกจะดูเป็นวิธีที่ง่าย เพียงแค่ฉีดไปตามจุดต่าง ๆ แต่แพทย์ต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการฉีด สามารถวิเคราะห์ และประเมินปัญหาของคนไข้ได้อย่างแม่นยำ สามารถใช้ปริมาณโบท็อกได้เหมาะสม ฉีดได้ตรงจุดของปัญหา เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมามีความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าไม่แข็งตึง
• ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ : ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกต้องเป็นของแท้ที่สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงอุปกรณ์ หรือเครื่องมือที่แพทย์ใช้ต้องมีความสะอาด เพื่อความปลอดภัย ไม่อันตรายต่อร่างกาย

 

 

ตากระตุกแม้เป็นอาการที่ไม่อันตราย แต่ก็สามารถสร้างความรำคาญให้กับผู้ที่เป็นได้มากพอสมควร แนะนำให้พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดอาการตากระตุก และหากจะรักษาด้วยการฉีดโบท็อกควรศึกษาหาคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่เอเพ็กซ์ก่อนได้ค่ะ

 

รีวิวฉีดโบท็อกซ์ ที่ Apex Medical Center

🏆 ตอกย้ำความเป็น No.1 การันตีด้วยรางวัลฉีด Botox และ Filler สูงสุดในเอเชีย Allergen Aesthetics Prestigs Awards 2022 🏆

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สนใจนัดจองคิวหรือปรึกษาเพิ่มเติม ทักก่อนสวยก่อนใครได้ที่ ✨✨ 

📞 085-​0000855

🟣 Line OA : @apexlifting  (มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)

🟣 คลิก https://lin.ee/nxtKNtl

🟣 Facebook : Apex Profound Beauty

🟣 Inbox : https://www.facebook.com/ApexProfoundBeauty/

🟣 IG : apexbeauty

APEX ของเรามีพร้อมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการนะคะ