บทความเกี่ยวกับ : ผ่าตัดดึงหน้า

ทำตาสองชั้น 25,000
เสริมหน้าอก Mentor 69,000

ผ่าตัดดึงหน้า แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย คืนความอ่อนเยาว์ในแบบที่คุณต้องการ
เมื่อความหย่อนคล้อย ‘เกินเยียวยา’ ทำไมต้อง ‘ผ่าตัดดึงหน้า’ ในวันที่ Ultherapy Thermage ก็เอาไม่อยู่ ? เจาะลึกทุกปัญหาผิวหย่อนคล้อย พร้อมไขข้อสงสัย ทำไมการผ่าตัดดึงหน้าถึงเป็นทางออกสุดท้าย เพราะ สัญญาณของวัยที่เริ่มสูงขึ้น มักปรากฏบนใบหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือร่องลึกที่เห็นชัดเจนขึ้น ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ใครหลายคนปรารถนาที่จะยับยั้งไว้ให้นานที่สุด

ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการศัลยกรรมดึงหน้าหรือการผ่าตัดดึงหน้า ว่ามีข้อดีอย่างไร ตอบโจทย์การยกกระชับให้หน้าอ่อนเยาว์ได้จริงไหม พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อควรระวังของการผ่าตัดดึงหน้าและหัตถการดึงหน้าที่น่าสนใจ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลย

ความนิยมของหัตถการดึงหน้า เพื่อความยกกระชับแลดูอ่อนเยาว์
การผ่าตัดดึงหน้า Facelift ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทรนด์ความงามชั่วคราว แต่เป็นการศัลยกรรมที่ได้รับการยอมรับและยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลสำคัญหลากหลาย เช่น

• ผ่าตัดดึงหน้าให้ผลลัพธ์ชัดเจน การดึงหน้าหรือผ่าตัดดึงหน้าสามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก และปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้ ทำให้รู้สึกมั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเองมากขึ้น

• ผ่าตัดดึงหน้ามีความก้าวหน้าของเทคนิค ในปัจจุบันมีเทคนิคการดึงหน้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดดึงหน้า การดึงหน้าแบบส่องกล้อง (Endoscopic Facelift) หรือการใช้ไหม (Thread Lift) ทำให้แผลเล็กลง พักฟื้นสั้นลง และผลข้างเคียงน้อยลง

• ผ่าตัดดึงหน้าตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย การผ่าตัดดึงหน้าสามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับเฉพาะส่วน หรือการปรับรูปหน้าโดยรวม

• ผ่าตัดดึงหน้าคงความอ่อนเยาว์ได้ ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงาม การผ่าตัดดึงหน้า หรือศัลยกรรมดึงหน้าที่ช่วยยกกระชับจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยคงความอ่อนเยาว์และชะลอความร่วงโรยของผิวหน้าได้

• ผ่าตัดดึงหน้าช่วยเพิ่มมั่นใจ การมีรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์และดูดีขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อความมั่นใจในตนเอง ซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตในด้านต่าง ๆ ทั้งการทำงาน ความสัมพันธ์ และการเข้าสังคม

ผิวหน้าหย่อนคล้อยเกิดจากอะไร ? กลไกแห่งความร่วงโรยที่ต้องรู้
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับการ ‘ผ่าตัดดึงหน้า’ สิ่งสำคัญคือการเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเกิดจากอายุมากขึ้น หรือเกิดจากผลกระทบด้วยปัจจัยภายนอก ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับผิวหน้าของเราจะมีอยู่หลากหลาย ดังนี้

• คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง
คอลลาเจนและอีลาสตินเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ทำให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย การลดลงของคอลลาเจนและอีลาสตินเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องพิจารณาการผ่าตัดดึงหน้า

• ไขมันใต้ผิวหนังฝ่อตัว
ไขมันใต้ผิวหนังมีส่วนช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบและอ่อนเยาว์ เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันใต้ผิวหนังจะค่อยๆ ฝ่อตัวลง ทำให้ใบหน้าดูตอบและมีร่องลึกมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป และอาจต้องพึ่งการผ่าตัดดึงหน้า

• โครงสร้างกระดูกเปลี่ยนแปลง
โครงสร้างกระดูกใบหน้าก็มีการเปลี่ยนแปลงตามวัยเช่นกัน กระดูกจะค่อยๆ บางลงและยุบตัวลง ทำให้ผิวหนังที่อยู่ด้านบนหย่อนคล้อยตามไปด้วย การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างกระดูก เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การผ่าตัดดึงหน้าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

• กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหย่อนคล้อย
กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่พยุงผิวหน้าก็มีการหย่อนคล้อยตามวัย ทำให้ผิวหนังที่อยู่ด้านบนหย่อนคล้อยตามไปด้วย เมื่อกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหย่อนคล้อย การผ่าตัดดึงหน้าจะช่วยยกกระชับให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

• ปัจจัยที่ส่งผลต่อความหย่อนคล้อยของผิว
ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบนใบหน้าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดจากหลายปัจจัย ทำให้ผิวสูญเสียความกระชับและความยืดหยุ่น ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเลือกวิธีการแก้ไข เช่น การผ่าตัดดึงหน้า หรือหัตถการยกกระชับแบบไหนก็ตาม สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจถึงสาเหตุ เพื่อให้สามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เช่น

• แสงแดด
แสงแดดทำร้ายผิวด้วยรังสี UV ตัวการทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน การเลี่ยงแดดจึงช่วยชะลอวัยได้ แต่หากผิวถูกทำลายไปแล้ว การผ่าตัดดึงหน้าก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยคืนความกระชับให้ผิวได้เช่นกัน

• การสูบบุหรี่
บุหรี่มีสารพิษซึ่งทำลายคอลลาเจนและขัดขวางการไหลเวียนโลหิต ส่งผลให้ผิวดูโทรมหรือแก่ก่อนวัยอันควร ดังนั้นผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ ทำให้ผิวหน้ามีริ้วรอยหรือหย่อนคล้อย อาจทำให้ต้องพิจารณาการผ่าตัดดึงหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาผิวอย่างตรงจุด

• ความเครียด
ความเครียดเรื้อรังไม่ได้ส่งผลเสียแค่สุขภาพกาย แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิว ทำให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ผิวจึงสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร สำหรับใครที่ผิวเริ่มมีความหย่อนคล้อยมากแล้ว ก็อาจเลือกการผ่าตัดดึงหน้าร่วมด้วยได้

• การพักผ่อนไม่เพียงพอ
การพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นการนอนหลับให้เพียงพอจึงสำคัญต่อผิวพรรณ แต่หากผิวเกิดความเสียหายจนใช้หัตถการอื่นไม่เห็นผล การผ่าตัดดึงหน้าก็อาจเป็นทางออกที่ตอบโจทย์มากกว่า

การผ่าตัดดึงหน้ากับหัตถการยกกระชับ การทำงาน ข้อดี และข้อจำกัดที่ควรรู้
นอกเหนือจากการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งเป็นวิธียกกระชับ และปรับรูปหน้าให้มีความอ่อนเยาว์จะได้รับความนิยมมากแล้ว ในปัจจุบันก็ยังมีวิธีการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัดอีกมากมาย โดยแต่ละวิธีก็มีหลักการทำงาน รวมถึงข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะคุ้มค่าไหม ต่างจากการผ่าตัดดึงหน้าอย่างไรบ้าง เช็กเลย

Ultherapy
เป็นการยกกระชับด้วยการใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ส่งพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดย Ulthera หรือ Ultherapy มีความแม่นยำในการส่งพลังงานไปยังชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้ยกกระชับผิวได้ลึกและมีประสิทธิภาพ แต่หากผิวหย่อนคล้อยมาก Ultherapy อาจไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และการผ่าตัดดึงหน้าอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ข้อดี
• ยกกระชับผิวได้ลึกถึงชั้น SMAS
• ไม่ต้องผ่าตัด
• ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย

ข้อควรระวัง
• มีราคาค่อนข้างสูง
• อาจรู้สึกเจ็บขณะทำ
• ให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร
• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ซึ่งอาจต้องพึ่งการผ่าตัดดึงหน้า

Thermage
เป็นหัตถการเพื่อหน้าอ่อนเยาว์ โดยใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency) ส่งพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Thermage ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกระชับผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น แต่หากผิวหย่อนคล้อยมาก Thermage อาจไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทำให้การผ่าตัดดึงหน้าอาจเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ และตรงจุดได้มากกว่า

ข้อดี
• กระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิว
• ไม่ต้องผ่าตัด
• ใช้เวลาพักฟื้นน้อย

ข้อควรระวัง
• อาจรู้สึกเจ็บขณะทำ
• ผลลัพธ์ไม่ถาวร
• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ซึ่งอาจต้องพึ่งการผ่าตัดดึงหน้า

HIFU
Hifu หรือ (High-Intensity Focused Ultrasound) ใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน HIFU มีหลักการทำงานคล้ายกับ Ultherapy แต่มีความแตกต่างกันในเรื่องของความถี่และความเข้มข้นของคลื่นเสียง แต่หากผิวหย่อนคล้อยมาก HIFU อาจไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และการ ผ่าตัดดึงหน้าอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ข้อดี
• กระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิว
• ไม่ต้องผ่าตัด
• ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับการผ่าตัดดึงหน้า

ข้อควรระวัง
• ผลลัพธ์ไม่ถาวร
• อาจรู้สึกเจ็บขณะทำ
• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ซึ่งอาจต้องพึ่งการผ่าตัดดึงหน้าแทน

Thread Lift (การร้อยไหม)
ใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกกระชับผิว การร้อยไหมช่วยยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น แต่หากผิวหย่อนคล้อยมาก การร้อยไหมอาจไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และการ "ผ่าตัดดึงหน้า" อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ข้อดี
• ยกกระชับผิวได้ทันที
• ไม่ต้องผ่าตัด
• ราคาค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับการผ่าตัดดึงหน้า

ข้อควรระวัง
• ผลลัพธ์ไม่ถาวร
• อาจมีอาการบวมช้ำ
• อาจเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ
• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก อาจต้องพึ่งการผ่าตัดดึงหน้าแทน

Filler (สารเติมเต็ม)
ฉีดสารเติมเต็ม (เช่น Hyaluronic Acid) เข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มปริมาตร ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกและปรับรูปหน้าให้ดูอิ่มเอิบขึ้น แต่หากผิวหย่อนคล้อยมาก ฟิลเลอร์อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และการผ่าตัดดึงหน้าอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ข้อดี
• เติมเต็มร่องลึกและปรับรูปหน้าได้
• ไม่ต้องผ่าตัด
• ราคาปานกลาง

ข้อควรระวัง
• ผลลัพธ์ไม่ถาวร
• อาจมีอาการบวมช้ำ
• อาจเกิดการแพ้
• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก อาจต้องพึ่งการผ่าตัดดึงหน้าแทน

Botox (โบท็อกซ์)
ฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อ เพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า โบท็อกซ์ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยรอบดวงตา แต่โบท็อกซ์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยได้ และการผ่าตัดดึงหน้าอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ข้อดี
• ลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า
• ไม่ต้องผ่าตัด
• ราคาค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับการผ่าตัดดึงหน้า

ข้อควรระวัง
• ผลลัพธ์ไม่ถาวร
• ต้องฉีดซ้ำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น
• อาจทำให้ใบหน้าดูแข็ง
• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ซึ่งการผ่าตัดดึงหน้าอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

จากวิธีการยกกระชับและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์เหล่านี้ เป็นวิธีการซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง และต้องการผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร ซึ่งใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก หรือต้องการหัตถการที่แก้ปัญหาได้ตรงจุด การผ่าตัดดึงหน้า อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ทำไมต้องผ่าตัดดึงหน้า ? ทางเลือกเพื่อผิวอ่อนเยาว์
เมื่อผิวหย่อนคล้อยถึงระดับหนึ่ง การใช้เครื่องมือยกกระชับต่าง ๆ อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอีกต่อไป ซึ่งเหตุผลที่ทำให้หัตถการทั่วไปไม่ตอบโจทย์กับการแก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยมากได้ ประกอบไปด้วยหลายสาเหตุ ดังนี้

• โครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยมากเกินไป
โครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยมากเกินไป ทำให้การกระตุ้นคอลลาเจนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถยกกระชับผิวให้กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ ผิวหนังที่หย่อนคล้อยมาก ๆ อาจต้องได้รับการผ่าตัดดึงหน้าเพื่อช่วยยกกระชับ ดังนั้นการผ่าตัดดึงหน้าจึงเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ได้มากกว่า

• คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง
เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง ร่างกายจะไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้มากพอ แม้จะได้รับการกระตุ้นจากเครื่องมือต่าง ๆ เพราะการกระตุ้นคอลลาเจนเพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพอย่างรุนแรงได้ ดังนั้นการผ่าตัดดึงหน้าจะช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ

• ปริมาณไขมันใต้ผิวหนังลดลงมาก
เมื่อปริมาณไขมันใต้ผิวหนังลดลงมาก จะทำให้ผิวหน้าดูตอบและหย่อนคล้อยลง ซึ่งการกระตุ้นคอลลาเจนเพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เต็มที่มากพอ การเติมเต็มไขมันใต้ผิวหนังด้วยการฉีดไขมันอาจช่วยได้ แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยมากได้ ดังนั้นการผ่าตัดดึงหน้าจะช่วยปรับรูปหน้าให้กลับมากระชับแลดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง

• กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหย่อนคล้อย
เมื่อกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่พยุงผิวหน้าหย่อนคล้อย การอาศัยหัตถการเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถยกกระชับผิวให้กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้มากพอ ดังนั้นการผ่าตัดดึงหน้าจะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อ และให้เนื้อเยื่อให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ให้ผิวหน้าดูกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้นได้

ข้อดีของการผ่าตัดดึงหน้า
การผ่าตัดดึงหน้า (Facelift) เป็นศัลยกรรมที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก่อนตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจถึงข้อดีและประโยชน์ที่ได้รับ เช่น

• ผ่าตัดดึงหน้า สามารถยกกระชับผิวหนัง เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อให้กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
• ผ่าตัดดึงหน้า สามารถแก้ไขปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยได้ในทุกชั้นผิว
• ผ่าตัดดึงหน้า สามารถทำให้ผิวหน้าดูกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้นได้
• ผ่าตัดดึงหน้า สามารถกำจัดผิวหนังส่วนเกินและไขมันส่วนเกินได้
• ผ่าตัดดึงหน้า สามารถปรับรูปหน้าให้กระชับและเรียวขึ้นได้
• ผ่าตัดดึงหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานเมื่อเทียบกับอีกหลายวิธี
• ผ่าตัดดึงหน้า สามารถแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้

ข้อควรระวังก่อนผ่าตัดดึงหน้า
การผ่าตัดดึงหน้า เป็นการศัลยกรรมที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ จึงมีข้อควรระวังที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ดังนี้

• ก่อนผ่าตัดดึงหน้า ควรเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ โดยตรวจสอบประวัติการทำงาน ใบอนุญาต และผลงานของศัลยแพทย์อย่างละเอียด
• ก่อนผ่าตัดดึงหน้า ควรแจ้งประวัติการรักษา โรคประจำตัว ยาที่รับประทาน และความคาดหวังในการผ่าตัด
• ก่อนผ่าตัดดึงหน้า ควรทำความเข้าใจขั้นตอนการผ่าตัด สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเทคนิคการผ่าตัด ระยะเวลาพักฟื้น และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
• ก่อนผ่าตัดดึงหน้า ควรตรวจสุขภาพ และตรวจเลือด เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย
• ก่อนผ่าตัดดึงหน้า ควรงดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), และอาหารเสริมบางชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
• ก่อนผ่าตัดดึงหน้า ควร งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
• ก่อนผ่าตัดดึงหน้า ควรเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม โดยพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
• ก่อนผ่าตัดดึงหน้า ควรเตรียมสิ่งของจำเป็น เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ถอดง่าย

ผ่าตัดดึงหน้ามีกี่แบบ ? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง ?
เทคนิคการผ่าตัดดึงหน้ามีหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีความเหมาะสมกับสภาพผิว และความต้องการที่แตกต่างกัน โดยในปัจจุบันเทคนิคที่ได้รับความนิยมก็จะมีอยู่หลากหลาย เช่น

• Traditional FaceLift (Full FaceLift)
Traditional FaceLift (Full FaceLift) เป็นวิธีการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากทั่วใบหน้า โดยวิธีนี้จะทำการผ่าตัดเปิดแผลยาวบริเวณไรผมและรอบใบหู เพื่อดึงผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังให้กระชับขึ้น การผ่าตัดดึงหน้าแบบ Traditional เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจน

• Mini FaceLift (Limited Incision FaceLift)
เป็นวิธีการผ่าตัดดึงหน้าซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่มากนัก โดยวิธีผ่าตัดดึงหน้านี้จะทำการผ่าตัดเปิดแผลเล็กบริเวณรอบใบหู เพื่อดึงผิวหนังให้กระชับขึ้น การผ่าตัดดึงหน้าแบบ Mini เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ

• SMAS FaceLift
เป็นเทคนิคผ่าตัดดึงหน้าที่เน้นการดึงผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ผิวหนัง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น การผ่าตัดดึงหน้าแบบ SMAS มีประสิทธิภาพ เพราะจะช่วยยกกระชับผิวได้ลึกถึงชั้น SMAS

• Deep Plane FaceLift
เป็นเทคนิคผ่าตัดดึงหน้าที่ซับซ้อนกว่าเทคนิคอื่น ๆ โดยจะทำการดึงชั้นเนื้อเยื่อที่ลึกกว่า SMAS เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างใบหน้าที่หย่อนคล้อย การผ่าตัดดึงหน้าแบบ Deep Plane จะช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยมาก ๆ และการผ่าตัดดึงหน้าแบบนี้ต้องอาศัยศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญสูง

• Mid-FaceLift (Cheek Lift)
การผ่าตัดดึงหน้าส่วนกลาง หรือ Mid-Facelift มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาแก้มที่หย่อนคล้อย ทำให้เกิดร่องแก้มที่ลึกและเห็นชัด ซึ่งเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของวัย ซึ่งการผ่าตัดดึงหน้า แบบ Mid-Face จะช่วยยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อย ให้กลับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

• Neck Lift
การผ่าตัดดึงคอ หรือ Neck Lift มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณลำคอ ซึ่งมักมาพร้อมกับปัญหาคอเหี่ยว มีริ้วรอย และมีเหนียงการผ่าตัดดึงหน้า ในส่วนของ Neck Lift จะช่วยยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ ทำให้ลำคอดูเรียว กระชับ และได้รูปทรงที่สวยงาม

ซึ่งวิธีที่จะช่วยให้การเลือกเทคนิคผ่าตัดดึงหน้า เหมาะสมและตอบโจทย์ที่สุดสำหรับตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อประเมินสภาพผิว และพูดคุยถึงความคาดหวัง เพื่อให้ได้รับการผ่าตัดที่ตรงจุดและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เป็นเรื่องปกติที่การทำหัตถการซึ่งต้องมีการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งอื่นหรือการผ่าตัดดึงหน้า มักมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้

• อาการบวม ช้ำ และเจ็บปวด อาการเหล่านี้เป็นเรื่องปกติหลังการผ่าตัดดึงหน้า และสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดและการประคบเย็น
• การติดเชื้อ การติดเชื้อเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อย แต่หากเกิดขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์
• แผลเป็น การผ่าตัดดึงหน้าอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ แต่แพทย์จะพยายามซ่อนรอยแผลเป็นไว้ในบริเวณที่มองเห็นได้ยาก ขึ้นอยู่กับแต่ละเคส
• ความผิดปกติของเส้นประสาท (ชา อ่อนแรง) ความผิดปกติของเส้นประสาทอาจเกิดขึ้นได้ แต่ส่วนใหญ่จะหายได้เอง หากผลข้างเคียงหลังผ่าตัดดึงหน้าไม่ได้รุนแรงมากนัก
• เลือดคั่ง (Hematoma) เลือดคั่งเป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อยนักหลังการผ่าตัดดึงหน้า แต่หากเกิดขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์
• ผิวหนังตาย (Skin Necrosis) ผิวหนังตายเป็นภาวะที่พบได้ยากหลังผ่าตัดดึงหน้า แต่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดดึงหน้าเพื่อหาแนวทางรักษา
• ความไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ การสื่อสารกับแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดดึงหน้าอย่างชัดเจน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความไม่พึงพอใจในผลลัพธ์หลังจากการผ่าตัดดึงหน้า

*ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถลดลงได้หากเลือกศัลยแพทย์ผ่าตัดดึงหน้าที่มีประสบการณ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ก้าวแรกสู่การตัดสินใจที่ถูกต้อง เลือกแพทย์ที่ใช่เพื่อผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์
เพื่อให้การผ่าตัดดึงหน้ามีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามความต้องการ การปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้า เนื่องจากแพทย์จะสามารถทำการประเมินสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้า ก่อนผ่าตัดดึงหน้าได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์ลักษณะเฉพาะของแต่ละคนได้อย่างหลากหลาย ทั้งยังช่วยให้ทุกคนเข้าใจถึงขั้นตอนการผ่าตัด ความเสี่ยง และผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการผ่าตัดดึงหน้าได้อีกด้วย

รีวิวประสบการณ์ตรงจากการผ่าตัดดึงหน้าที่ APEX
คุณเอ้ ชุติมา ดารานักแสดงชื่อดัง เป็นผู้มีประสบการณ์ตรง ซึ่งเคยมาใช้บริการผ่าตัดดึงหน้ากับทาง APEX ได้มีการบอกเล่าความประทับใจเอาไว้ ว่าหลังจากเข้ามาผ่าตัดดึงหน้า เพื่อยกกระชับ และปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ จะเห็นได้ชัดเลยว่าหน้าตึง กระชับ และรู้สึกต่างไปจากเดิมมาก ซึ่งนอกจากตัวคุณเอ้ที่สัมผัสได้ คนรอบตัวที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเองก็เริ่มเข้ามาทัก และสอบถามกันอยู่เสมอว่าไปทำอะไรมาทำไมเปลี่ยนไปเยอะจัง ซึ่งคุณเอ้เผยว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ และความประทับใจ ในการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง และเสริมความมั่นใจแม้ในวัยที่เพิ่มมากขึ้น

สรุปลือกทางออกที่ใช่ เพื่อความอ่อนเยาว์ที่ตอบโจทย์
สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ซึ่งอาจไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยการยกกระชับแบบไม่ต้องผ่าตัดวิธีอื่นได้ การผ่าตัดดึงหน้าอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากเป็นวิธีที่ช่วยยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ได้ ซึ่งก่อนตัดสินใจผ่าตัดดึงหน้า จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว ช่วยให้ทุกคนกลับมามีความมั่นใจได้อีกครั้ง

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการผ่าตัดดึงหน้า รวมถึงสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ที่ Apex Clinic ทุกสาขา

คืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าด้วยการผ่าตัดดึงหน้า ทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยแห่งวัย ให้กลับมายกกระชับ แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้นด้วยศัลยกรรมดึงหน้า

123
ทำตาสองชั้น 25,000
เสริมหน้าอก Mentor 69,000
ลงทะเบียน
ลงทะเบียน
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
รับโปรโมชั่นพิเศษ
รับโปรโมชั่นพิเศษ
ปรึกษาฟรี
ปรึกษาฟรี
โทรสอบถามโปรโมชั่น
โทรสอบถามโปรโมชั่น