บทความเกี่ยวกับ : หลังฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ใต้ตา
Radiesse
Skinvive
Filler 12900

หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามอะไรบ้าง ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว อยู่ได้นาน
หัตถการความงามที่ได้รับความนิยม และมีผู้คนสนใจทำครั้งแรกเป็นอันดับต้น ๆ คือ การฉีดฟิลเลอร์ตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้าและร่างกาย เพื่อเติมเต็มผิวให้อิ่มฟู เรียบเนียน เพิ่มความชุ่มชื้น ปรับตกแต่งให้เป็นรูปทรงตามต้องการ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เพื่อความปลอดภัยและเห็นผลน่าพึงพอใจ โดยเฉพาะหลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามอะไรบ้าง ที่ควรรู้เพราะส่งผลต่อผลลัพธ์และผลข้างเคียงโดยตรง ในบทความนี้จึงรวบรวมข้อควรรู้เกี่ยวกับ การดูแลตัวเองและข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ มาให้ทราบกัน

ฟิลเลอร์คืออะไร มีข้อดีอะไรบ้าง
ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารที่ใช้ในการฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มหรือเพิ่มปริมาตรในบริเวณที่ต้องการ เช่น ริ้วรอย ร่องลึก หรือบริเวณที่ต้องการยกกระชับ ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

ข้อดีของฟิลเลอร์
• หลังฉีดฟิลเลอร์เห็นผลลัพธ์ทันที สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด โดยไม่ต้องใช้เวลานาน
• หลังฉีดฟิลเลอร์ช่วยกระชับและเพิ่มปริมาตร ช่วยเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา และเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปากหรือแก้ม
• หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถปรับรูปหน้าได้ ใช้ปรับแต่งรูปหน้าตามความต้องการ เช่น ยกมุมปาก ปรับสันจมูก หรือกรอบหน้า
• หลังฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัยสูง ถ้าฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ฟิลเลอร์ที่ใช้ส่วนใหญ่จะถูกย่อยสลายไปตามธรรมชาติภายในระยะเวลา 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด

ฟิลเลอร์ช่วยอะไรบ้าง
การฉีด Filler มีประโยชน์ในหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของความงามและการฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ ฟิลเลอร์สามารถช่วยในเรื่องต่อไปนี้

• หลังฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอย ฟิลเลอร์สามารถช่วยลดร่องลึก เช่น ร่องแก้ม รอยย่นบนหน้าผาก หรือร่องใต้ตา ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น
• หลังฉีดฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มปริมาตรในจุดที่มีการยุบตัว ในบางบริเวณ เช่น แก้ม ริมฝีปาก หรือขมับ ฟิลเลอร์สามารถช่วยเพิ่มปริมาตรและทำให้บริเวณดังกล่าวดูอวบอิ่มมากขึ้น
• หลังฉีดฟิลเลอร์ช่วยปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์ช่วยในการปรับแต่งโครงหน้า เช่น การยกกระชับกรอบหน้า การเติมคางให้เรียวขึ้น การปรับสันจมูก หรือการยกมุมปากให้ดูยิ้มขึ้น
• หลังฉีดฟิลเลอร์ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและอิ่มน้ำ
• หลังฉีดฟิลเลอร์ช่วยลดความหย่อนคล้อย ฟิลเลอร์สามารถช่วยยกกระชับผิวในบริเวณที่เริ่มหย่อนคล้อย เช่น บริเวณแก้มและขอบหน้าล่าง
• หลังฉีดฟิลเลอร์ช่วยสร้างความสมดุลของใบหน้า สามารถใช้ฟิลเลอร์เพื่อปรับแต่งส่วนต่างๆ ของใบหน้าให้เกิดความสมดุล เช่น การปรับรูปคิ้ว จมูก หรือกรอบหน้า เพื่อให้เกิดความสมดุลกันมากขึ้น

การใช้ฟิลเลอร์จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับปรุงและฟื้นฟูผิวหรือรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ฉีดจุดไหนได้บ้าง
ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้ในหลายจุดบนใบหน้าและร่างกาย โดยขึ้นอยู่กับความต้องการในการแก้ปัญหาหรือปรับปรุงลักษณะของผิวหรือรูปหน้า จุดที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ ได้แก่

1.ใบหน้า
• ร่องแก้ม เติมเต็มร่องแก้มที่ลึก เพื่อให้หน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
• ใต้ตา ช่วยลดรอยคล้ำและร่องลึกใต้ตา ทำให้หน้าดูสดชื่นขึ้น
• ริมฝีปาก เพิ่มความอวบอิ่ม เติมเต็มและปรับรูปทรงให้สวยงามมากขึ้น
• จมูก ปรับแต่งสันจมูกให้ดูโด่งและเป็นทรงสวยขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
• คาง ปรับแต่งรูปคางให้เรียวและได้สัดส่วนที่สมดุลกับใบหน้า
• ขมับ เติมขมับที่ดูแบนหรือยุบตัวให้เต็มขึ้น ทำให้หน้าดูสมบูรณ์แบบขึ้น
• แก้ม เติมเต็มแก้มที่ยุบลงตามวัย ทำให้ใบหน้าดูมีวอลลุ่มและสดใส
• กรอบหน้า ช่วยยกกระชับกรอบหน้า และลดความหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูมีความคมชัดมากขึ้น
• ยกมุมปาก ฉีดเพื่อยกกระชับมุมปากที่ตกลง ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์

2.บริเวณอื่นๆ
• มือ ฉีดฟิลเลอร์ในมือเพื่อเติมเต็มความเต่งตึงและลดริ้วรอยที่เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจน
• คอและเนินอก ช่วยเติมเต็มและลดร่องลึกที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวบริเวณคอและเนินอก

การเลือกฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุดควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสม

ฉีดฟิลเลอร์จะเข้าที่ภายในกี่วัน
การฉีดฟิลเลอร์จะเริ่มเห็นผลทันทีหลังจากการฉีด แต่การที่ฟิลเลอร์จะเข้าที่และเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่นั้นมักใช้เวลาประมาณ 5-14 วัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ชนิดของฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด และการตอบสนองของร่างกายต่อฟิลเลอร์

รายละเอียดของช่วงเวลาหลังฉีดฟิลเลอร์
• ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ คุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของบริเวณที่ฉีดทันที แต่บางครั้งอาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติ
• 1-3 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ อาการบวมและรอยช้ำ (ถ้ามี) จะค่อย ๆ ลดลง
• 4-7 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่มากขึ้น และอาการบวมจะลดลงไปมาก คุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับผลลัพธ์ที่แท้จริง
• 7-14 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์จะเข้าที่เต็มที่ ผิวจะดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

หลังจาก 14 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์จะอยู่ตัวและเป็นผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุด ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดแรง ๆ ในบริเวณที่ฉีดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ และหากหลังฉีดฟิลเลอร์มีอาการผิดปกติควรปรึกษาแพทย์

ฉีดฟิลเลอร์เห็นผลอยู่ได้นานไหม
ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ได้นานแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และบริเวณที่ฉีด โดยทั่วไปแล้วฟิลเลอร์ที่ใช้สาร ไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid - HA) ซึ่งเป็นชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน หลังจากนั้นร่างกายจะค่อยๆ ย่อยสลายสารฟิลเลอร์ตามธรรมชาติ ทำให้ต้องฉีดซ้ำหากต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้หลังฉีดฟิลเลอร์

ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์
1.ชนิดของฟิลเลอร์
• ฟิลเลอร์บางชนิดที่มีความคงทนมากกว่า เช่น ฟิลเลอร์ที่มีโครงสร้างเข้มข้นหรือที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อใช้ในบริเวณที่ต้องการความคงทนสูง เช่น การปรับโครงสร้างใบหน้า อาจคงอยู่ได้นานกว่า 18 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์
• บางฟิลเลอร์ที่สลายได้เร็วอาจมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์

2.บริเวณที่ฉีด
• หลังฉีดฟิลเลอร์บริเวณที่มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบ่อย เช่น ริมฝีปากหรือร่องแก้ม ฟิลเลอร์จะสลายเร็วกว่า เพราะกล้ามเนื้อในบริเวณนี้ทำงานบ่อย
• บริเวณที่มีการเคลื่อนไหวน้อยหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น ขมับหรือจมูก ฟิลเลอร์อาจคงอยู่นานกว่า

3.การตอบสนองของร่างกายหลังฉีดฟิลเลอร์ ร่างกายของแต่ละคนมีการตอบสนองต่อฟิลเลอร์ต่างกัน บางคนอาจย่อยสลายฟิลเลอร์ได้เร็วกว่า ทำให้ผลลัพธ์สั้นลงหลังฉีดฟิลเลอร์

4.การดูแลหลังการฉีดหลังฉีดฟิลเลอร์ การหลีกเลี่ยงการนวดแรงๆ หรือการกระทบบริเวณที่ฉีดอาจช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้น รวมถึงการรักษาสุขภาพผิวด้วย วิธีที่เหมาะสมก็ช่วยให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์

หากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น หลังฉีดฟิลเลอร์มาหลายเดือนแล้ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพผิว

หลังฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์ ไม่อันตราย หากทำโดยแพทย์และใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม หลังฉีดฟิลเลอร์ยังมีความเสี่ยงบางประการ โดยเฉพาะหากทำในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือโดยบุคคลที่ไม่มีความชำนาญ ดังนั้นจึงมีข้อควรระวังที่ควรรู้

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์
• อาการบวม ช้ำ หรือแดงหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นผลข้างเคียงปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งอาการจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
• การติดเชื้อหลังฉีดฟิลเลอร์ หากทำในสถานที่ที่ไม่สะอาดหรือไม่ได้ใช้เทคนิคปลอดเชื้อ อาจมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานก็เพิ่มความเสี่ยงนี้
• การแพ้ฟิลเลอร์หลังฉีดฟิลเลอร์ ถึงแม้ฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูโรนิกแอซิดจะปลอดภัยและร่างกายสามารถย่อยสลายได้เอง แต่ในบางกรณีอาจเกิดปฏิกิริยาแพ้ได้
• ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ หากฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณมากเกินไปหรือฉีดผิดตำแหน่ง อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวออกจากจุดที่ต้องการได้ ทำให้รูปหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ
• อาการฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดหลังฉีดฟิลเลอร์ เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงและเกิดขึ้นได้ยาก แต่หากเกิดขึ้นจะทำให้เกิดเนื้อเยื่อตายหรือปัญหาด้านสายตา หากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันหลอดเลือดที่สำคัญ
• ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหลังฉีดฟิลเลอร์ ถ้าแพทย์ไม่ชำนาญหรือมีการวิเคราะห์โครงหน้าไม่ดีพอ ผลลัพธ์อาจออกมาไม่ตรงกับความคาดหวัง เช่น รูปหน้าไม่สมดุล ฟิลเลอร์ดูไม่ธรรมชาติ

หลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้ามอะไรบ้าง และวิธีแก้ไขอย่างไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์มักเป็นหัตถการที่ปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ สภาพผิวของแต่ละคน และความเชี่ยวชาญของแพทย์ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่

ผลข้างเคียงทั่วไป (ระยะสั้น) หลังฉีดฟิลเลอร์
1.บวมหลังฉีดฟิลเลอร์ อาการบวมเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในบริเวณริมฝีปากและใต้ตา ซึ่งอาจใช้เวลาหายไปประมาณ 1-2 วัน แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลา 1 สัปดาห์
2.รอยช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ อาจมีรอยช้ำเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด โดยรอยช้ำนี้จะหายไปเองภายใน 5-7 วัน
3.ผิวแดงหลังฉีดฟิลเลอร์ ผิวบริเวณที่ฉีดอาจเกิดรอยแดง แต่รอยแดงนี้มักจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมงถึง 1-2 วัน
4.รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายหลังฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการเจ็บหรือรู้สึกไม่สบายในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ แต่จะค่อยๆ บรรเทาลงภายในไม่กี่วัน
5.คันหรือผื่นแดงหลังฉีดฟิลเลอร์ เกิดจากการตอบสนองของผิวหนังต่อสารในฟิลเลอร์ ซึ่งมักเป็นผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยแต่ต้องระวังหลังฉีดฟิลเลอร์
1.ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือก่อตัวเป็นก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ อาจเกิดขึ้นหากฟิลเลอร์ไม่ได้ฉีดในตำแหน่งที่ถูกต้อง หรือหากมีการนวดบริเวณที่ฉีดแรงเกินไป ฟิลเลอร์อาจเคลื่อนตัวออกจากจุดที่ต้องการหรือก่อตัวเป็นก้อน
2.ผิวหนังไม่เรียบเนียนหลังฉีดฟิลเลอร์ บางครั้งฟิลเลอร์อาจทำให้ผิวหนังดูเป็นคลื่นหรือไม่เรียบเนียน โดยเฉพาะหากฉีดในปริมาณมากหรือตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง

ผลข้างเคียงที่ร้ายแรง (หายาก) หลังฉีดฟิลเลอร์
1.การติดเชื้อหลังฉีดฟิลเลอร์ หากขั้นตอนการฉีดไม่ถูกสุขลักษณะ หรือการดูแลหลังฉีดไม่ดีพอ อาจเกิดการติดเชื้อได้ การติดเชื้อมักจะมีอาการบวม แดง เจ็บ และอาจมีหนอง
2.ฟิลเลอร์อุดตันหลอดเลือดหลังฉีดฟิลเลอร์ หากฟิลเลอร์ฉีดไปอุดตันหลอดเลือด อาจทำให้เกิดเนื้อเยื่อตาย (เนื้อตาย) หรือส่งผลต่อการมองเห็น เช่น ทำให้ตาบอดในกรณีที่ฟิลเลอร์ไปอุดตันหลอดเลือดที่เชื่อมต่อกับดวงตา ซึ่งถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
3.ปฏิกิริยาภูมิแพ้หลังฉีดฟิลเลอร์ ในบางกรณีอาจเกิดอาการแพ้ต่อฟิลเลอร์ ทำให้เกิดการอักเสบ บวมแดงมาก หรือผิวหนังเกิดอาการคันและบวมที่รุนแรง
4.การตายของเนื้อเยื่อหลังฉีดฟิลเลอร์ เกิดจากฟิลเลอร์ไปกดทับหรืออุดตันหลอดเลือด ทำให้บริเวณนั้นขาดเลือดและเกิดเนื้อตาย เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงมากแต่พบได้ยาก

วิธีป้องกันผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์
• เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ การฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและเชี่ยวชาญจะลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงได้มาก
• ใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ควรตรวจสอบว่าฟิลเลอร์ที่ใช้ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น FDA
• การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดแรงๆ ในบริเวณที่ฉีด รวมถึงหลีกเลี่ยงการโดนความร้อนจัด เช่น การอบซาวน่า หรือการออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 1-2 วันหลังฉีด

หากมีอาการผิดปกติหรือผลข้างเคียงที่ไม่หายไปหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

หลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้ามอะไรบ้าง และวิธีแก้ไขอย่างไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรเตรียมตัวอย่างไร
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและหารือเกี่ยวกับความต้องการ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และตรวจสอบว่าไม่มีข้อห้ามในการฉีด
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรงดใช้ยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วิตามินอี, น้ำมันปลา หรือสมุนไพรบางชนิด ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเกิดรอยช้ำหรือบวม
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1-2 วันก่อนฉีด เพราะแอลกอฮอล์อาจทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดรอยช้ำหรือบวมหลังฉีด
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรงดการทำทรีตเมนต์ผิวที่รุนแรง ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิวที่อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง เช่น เลเซอร์ การขัดผิว หรือการทำทรีตเมนต์ที่มีความรุนแรง 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ควรงดสูบบุหรี่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพราะการสูบบุหรี่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อและทำให้กระบวนการฟื้นฟูช้าลง
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา หากเคยมีประวัติแพ้ยาหรือฟิลเลอร์ ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้าเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
• ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรเตรียมตัวเพื่อการพักฟื้นหลังฉีดฟิลเลอร์ หากเป็นการฉีดในบริเวณที่บอบบาง เช่น ใต้ตาหรือริมฝีปาก ควรเตรียมเวลาไว้สำหรับการพักฟื้น เนื่องจากอาจมีอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้ามอะไรบ้าง และวิธีแก้ไขอย่างไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดูแลตัวเองอย่างไร
• หลังฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีด หลีกเลี่ยงการนวด กด หรือขยับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
• หลังฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การออกกำลังกายที่หนักหรือทำให้เกิดการขยับใบหน้ามากๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือเพิ่มอาการบวม ควรพักการออกกำลังกายที่หนักเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์
• หลังฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนจัด หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดแรงๆ หรือความร้อนจัด เช่น ซาวน่า หรืออบไอน้ำ ประมาณ 48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
• หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดื่มน้ำมาก ๆ การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารไฮยาลูโรนิกแอซิดดูดซึมน้ำได้ดี ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนานขึ้น
• หลังฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์รุนแรง หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมรุนแรงหรือการแต่งหน้าหนักๆ ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์
• หลังฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันอาการบวมและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์
• หลังฉีดฟิลเลอร์ควรใช้ประคบเย็น หากมีอาการบวมมาก สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและอักเสบ แต่ไม่ควรกดแรงๆ ในบริเวณที่ฉีด
• หลังฉีดฟิลเลอร์ควรติดตามผลและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงของผิว และถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก มีหนอง หรือปวดรุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

หลังฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้ามอะไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อห้าม และข้อควรระวังหลายประการ เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ดี และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง หรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ข้อห้ามที่ควรปฏิบัติตามมีดังนี้

• หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามนวดหรือกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรนวดหรือกดในบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวและผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
• หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามสัมผัสหรือจับใบหน้าบ่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงการจับ สัมผัส หรือถูใบหน้า เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
• หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามออกกำลังกายหนัก ควรงดการออกกำลังกายที่หนักและการทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดการขยับใบหน้ามากๆ เช่น การเล่นกีฬาที่มีการกระทบกระเทือนร่างกาย หรือการโยคะที่ต้องคว่ำหน้าลง ประมาณ 24-48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์
• หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามโดนความร้อนจัด ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดแรงๆ การอบซาวน่า หรือการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อนจัด เช่น การอบไอน้ำ หรือการใช้เครื่องทำผมความร้อนในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพหรือเคลื่อนที่ได้
• หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ เพราะแอลกอฮอล์อาจทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มโอกาสเกิดอาการบวมและรอยช้ำ
• หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่อาจทำให้การฟื้นตัวช้าลงและเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่อผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น ทำให้ผลลัพธ์ไม่คงทนเท่าที่ควร
• หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารรุนแรง ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรง เช่น กรดวิตามินซี กรด AHA/BHA หรือสารที่มีฤทธิ์ระคายเคือง ประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวหนัง
• หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามนอนคว่ำหน้า การนอนคว่ำหน้าอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือบีบอัดไปยังบริเวณอื่นที่ไม่ต้องการ ควรพยายามนอนหงายในช่วง 1-2 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อควรปฏิบัติเพิ่มเติมหลังฉีดฟิลเลอร์
• หลังฉีดฟิลเลอร์หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
• หลังฉีดฟิลเลอร์ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม หากมีอาการบวมเล็กน้อย สามารถใช้การประคบเย็นเบา ๆ ที่บริเวณที่ฉีด เพื่อช่วยลดอาการบวม แต่ควรทำอย่างระมัดระวังและไม่กดแรงเกินไป

สรุปเกี่ยวกับหลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามอะไรบ้าง
สรุปว่า หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อห้ามหลายข้อที่ควรรู้ เช่น ห้ามกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ห้ามนอนคว่ำหน้า ห้ามอยู่ใกล้ความร้อน และอื่น ๆ ซึ่งการปฏิบัติตามข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ และคำแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์เหล่านี้ จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ที่ APEX สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายแพทย์ เพื่อให้แพทย์ทำการประเมินวิเคราะห์ปัญหา และเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสม โดยฟิลเลอร์ที่ APEX เลือกใช้นั้น เป็นของแท้ ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก อย.

Apex

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

ไขข้อสงสัยหลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามอะไรบ้าง ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีด Filler ที่ควรศึกษาก่อนตัดสินใจทำ เพื่อความปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ที่ดี

516
ฟิลเลอร์ใต้ตา
Radiesse
Skinvive
Filler 12900
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
รับโปรโมชั่นพิเศษ
รับโปรโมชั่นพิเศษ
ปรึกษาฟรี
ปรึกษาฟรี
โทรสอบถามโปรโมชั่น
โทรสอบถามโปรโมชั่น