ปัญหาผมร่วงส่งผลกระทบต่อคนทุกเชื้อชาติ และไม่แบ่งแยกเพศหรือกระทั่งช่วงวัย เมื่อภาวะนี้เกิดขึ้นกับใครแล้วละก็ ย่อมหนีไม่พ้นอาการเครียดเนื่องจากขาดความมั่นใจ ทั้งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในแง่อื่น ๆ ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงมองหาวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด เพื่อหลุดพ้นจากสภาวะนี้ โชคดีที่เทคโนโลยีในการช่วยเรียกคืนผมดกหนาถูกพัฒนาจนมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังเช่นการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค FUE และ FUT และการปลูกผมแบบ Robot Hair Transplant ซึ่งในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จัก เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าการปลูกผมแบบไหนดีที่สุดสำหรับตัวเองค่ะ
การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction)
วิธีนี้จะเป็นการปลูกผมโดยไม่มีขั้นตอนผ่าตัดใด ๆ ค่ะ แต่เป็นการใช้เครื่องมือชนิดพิเศษเจาะเก็บกราฟต์ผมบริเวณท้ายทอยจากผู้เข้ารับการรักษา เนื่องจากรากผมบริเวณนี้จะแข็งแรงและสุขภาพดีที่สุด ซึ่งเทคนิคนี้ก่อให้เกิดแผลขนาดเล็กมาก จากนั้นจึงนำกราฟต์ผมที่ผ่านการคัดแยกแล้วเรียบร้อยนำมาปลูกในบริเวณที่ต้องการค่ะ
ข้อดีของ FUE
- รอยแผลเป็นจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขนาดเล็กมากที่มองแทบไม่เห็น
- ใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวรวดเร็ว
- รู้สึกไม่สบายตัวน้อยลงในระหว่างขั้นตอน
- สามารถนำไปปลูกหนวดบนใบหน้าได้
ข้อเสียของ FUE
- ค่าใช้จ่ายแพงกว่าการปลูกผมแบบ FUT
- กราฟต์ผมที่สามารถเก็บได้ภายใน 1 ครั้ง มีจำนวนจำกัด
- ขั้นตอนการปลูกผมอาจใช้เวลานานกว่าแบบ FUT
การปลูกผมเทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation)
วิธีนี้จะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ และมีการผ่าตัดขนาดเล็กร่วมด้วยค่ะ โดยแพทย์จะผ่าตัดเอาชิ้นหนังศีรษะบริเวณด้านหลัง เพื่อเก็บกราฟต์ผมที่แข็งแรงสำหรับนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ จากนั้นค่อยทำการเย็บปิดหนังศีรษะเข้าหากัน จึงทำให้มีแผลเป็นลักษณะละม้ายเส้นด้าย ยาวตั้ง 15 – 30 ซม. ทิ้งไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน
ข้อดีของ FUT
- ราคาย่อมเยากว่าการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE
- สามารถเก็บกราฟต์ผมได้เป็นจำนวนมากภายใน 1 ครั้ง
- ระยะเวลาของขั้นตอนโดยรวมสั้นกว่าการปลูกผมแบบ FUE
ข้อเสียของ FUT
- ทิ้งรอยแผลเป็นลักษณะเป็นเส้นตรงยาว ขนาด 15 – 30 ซม. ไว้บริเวณท้ายทอยของผู้เข้ารับการรักษา
- ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเทคนิค FUE
- สร้างความรู้สึกไม่สบายตัวในระหว่างขั้นตอนการปลูกผมมากกว่า
- ไม่สามารถนำกราฟต์ผมมาใช้ปลูกหนวดบนใบหน้าได้
จะเห็นได้ว่าการปลูกผมแบบ FUE และ FUT ต่างมีเทคนิคและข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน การตัดสินใจขึ้นอยู่กับงบประมาณ และความต้องการของผู้เข้ารับการรักษา ร่วมกับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ ซึ่งที่ APEX Hair Center เรามีเทคโนโลยีการปลูกผมล่าสุดที่พัฒนาต่อยอดมาจากเทคนิค FUE โดยใช้แขนกลจากหุ่นยนต์ในการเจาะเก็บกราฟต์ผม ซึ่งสามารถตรวจจับและระบุรากผมที่แข็งแรงที่สุดจากผู้เข้ารับบริการ และใช้ในการปลูกถ่ายผมร่วมกับการควบคุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงทำให้มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้วยเทคนิค Robot Hair Transplant ผมที่ได้รับการปลูกใหม่จะมีความหนาแน่น ดูเป็นธรรมชาติ รอยแผลที่เกิดจากการเจาะเก็บกราฟต์ผมสมานตัวเร็ว เมื่อรักษาเสร็จก็สามารถกลับบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น ทั้งนี้ภายใน 1 สัปดาห์ คุณยังจะได้รับบริการ Laser Hair Growth จาก APEX เพื่อช่วยกระตุ้นให้รากผม และเส้นผมที่ปลูกใหม่แข็งแรงยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
ที่ APEX Hair Center เราให้บริการปลูกผมถาวรมายาวนานกว่า 25 ปี พร้อมเทคนิคปลูกผมด้วยแขนกล Robot Hair Transplant ซึ่งผนวกเข้ากับความสามารถของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม ทำให้ผมที่ปลูกใหม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า และดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น หากคุณอยากบอกลาปัญหาผมบาง หรือศีรษะล้าน ติดต่อขอรับคำปรึกษากับเราได้เลยค่ะ
