ปลูกผมแบบ FUE หรือ FUT แบบไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน ?

ปลูกผมแบบ FUE

ผมร่วงผมบาง และศีรษะล้านเป็นปัญหาที่ผู้คนนับล้านทั่วโลกต่างพบเจอ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบในแง่ลบ ไม่ว่าต่อจิตใจหรือภาพลักษณ์ โชคดีที่ปัจจุบันมีเทคนิคในการช่วยฟื้นฟูเส้นผมอยู่มากมาย ซึ่งสามารถกู้คืนทั้งผมดกหนาและความมั่นใจกลับคืนมา แน่นอนว่าการปลูกผมถาวรคือวิธีที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะสามารถการันตีผลลัพธ์ และส่งผลดีในระยะยาว โดยเทคนิคปลูกผมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการปลูกผมแบบ FUT และ ปลูกผมแบบ FUE หลายคนคงเริ่มสงสัยหรือสับสนว่าทั้ง 2 อย่างนี้คืออะไร และแตกต่างกันอย่างไร ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกันค่ะ จากนั้นเราจะแนะนำให้คุณรู้จักกับการปลูกผมด้วยเทคนิค Robot Hair Transplant กันต่อ ซึ่งเป็นเทคนิคที่พัฒนาต่อยอดจาก FUE ให้ดีขึ้นอีกขั้น

การปลูกผมถาวรแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation) จะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่รวมถึงการผ่าตัดขนาดเล็กค่ะ ซึ่งแพทย์จะทำการตัดเอาชิ้นหนังศีรษะจากบริเวณเหนือกกหู หรือท้ายทอยซึ่งมีรากผมที่แข็งแรงจากผู้เข้ารับบริการ แล้วเย็บหนังศีรษะเข้าหากัน ต่อมาแพทย์จะนำชิ้นหนังศีรษะไปแยกกราฟต์ผม เพื่อนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการภายหลัง

ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUT คือสามารถนำรากผมออกจากบริเวณหลังศีรษะได้จำนวนมากภายในเวลาที่สั้น ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องใช้กราฟต์ผมจำนวนมาก และมีแนวโน้มต้องปลูกซ้ำหลายรอบ โดยทั่วไปจะใช้เวลาหลายชั่วโมง ทว่าวิธีนี้จะทิ้งรอยแผลเป็นยาวขนาด 15 – 30 ซม. ไว้ที่ด้านหลัง ซึ่งผู้เข้ารับการรักษาจะต้องไว้ผมเพื่อปกปิดค่ะ

ส่วนการ ปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) จะไม่มีการผ่าตัดใด ๆ ทว่ายังคงใช้ยาชาเฉพาะที่ และใช้เครื่องมือชนิดพิเศษ ลักษณะคล้ายเข็มฉีดยาปลายตัดในการเจาะเก็บกราฟต์ผมบริเวณท้ายทอยแทน โดยแผลเป็นจะมีขนาดเล็กมาก ลักษณะจุดสีขาวขนาดเล็กกว่า 1 มม. กระจายอยู่ด้านหลังศีรษะ จึงทำให้มองแทบไม่เห็นค่ะ

ในแง่ของระยะเวลาพักฟื้น การปลูกผมแบบ FUE จะใช้ระยะเวลาที่น้อยกว่ามาก เมื่อเทียบกับเทคนิคปลูกผมแบบ FUT ที่มีการผ่าตัดขนาดเล็กร่วมด้วย ซึ่งผู้เข้ารับการรักษาด้วยวิธี FUE จะสามารถกลับไปทำกิจกรรมทั่วไปได้ตามปกติภายใน 2 – 3 วันหลังปลูกผม ขณะที่การรักษาแบบ FUT อาจใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์

แน่นอนว่าการปลูกผมทั้งแบบ FUT และ FUE ท้ายที่สุดแล้วให้ผลลัพธ์เหมือนกัน เพียงแต่ขั้นตอนและเทคนิคจะแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะเส้นผมของผู้เข้ารับการรักษา และผลลัพธ์ที่ต้องการค่ะ โดยก่อนเข้ารับการรักษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยคุณประเมินและตัดสินใจเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของผู้เข้ารับบริการมากที่สุด โดยพิจารณาจากรูปแบบผมร่วง ความหนาแน่นของเส้นผม และสภาพหนังศีรษะ

ทั้งนี้หากคุณต้องการหรือมองหาเทคนิคปลูกผมที่การันตีผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้น การปลูกผมด้วย Robot Hair Transplant เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้ ซึ่ง Robot Hair Transplant คือเทคนิคที่พัฒนาต่อยอดมาจาก FUE โดยการนำแขนกลมาใช้ร่วมกับความเชี่ยวชาญของแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม จึงมีความแม่นยำสูง ผมที่ปลูกใหม่จะขึ้นหนาแน่นใกล้เคียงผมธรรมชาติ และแทบไม่เห็นร่องรอยของแผลเป็น

โดย APEX นำเทคโนโลยีแขนกลมาใช้เพื่อเจาะเก็บกราฟต์ผมบริเวณท้ายทอย แผลจากการกดเจาะจะมีขนาดเล็กมาก เพียง 0.5 – 0.8 มิลลิเมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับเทคนิคเก่า ๆ ที่ได้แผลกดเจาะขนาดใหญ่ หลังจากนั้นจึงย้ายกอผมพร้อมเซลล์โดยรอบไปพักไว้ในน้ำเลี้ยงเซลล์ เพื่อรอปลูกในบริเวณที่ต้องการต่อไป ที่สำคัญการปลูกผมด้วย Robot Hair Transplant นั้นไม่มีการผ่าตัด ผู้เข้ารับบริการจึงไม่ต้องพักฟื้นนาน หลังปลูกผมราว 24 – 48 ชั่วโมงก็สามารถสระผมตามปกติได้เลยค่ะ

ที่ APEX Hair Center เรามีบริการปลูกผมถาวรด้วย Robot Hair Transplant ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากเทคนิค FUE ให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการใช้แขนกลร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการปลูกผม เพื่อให้การเจาะเก็บกราฟต์ผมมีความแม่นยำทั้งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น จึงเป็นการช่วยลดระยะเวลาในการเก็บรากผมลงเมื่อเทียบกับเทคนิคอื่น ๆ อีกทั้งยังได้ผมปลูกใหม่ที่ดูแน่นและเป็นธรรมชาติ หากคุณอยากบอกลาปัญหาผมร่วง ผมบาง หน้าผากกว้าง หรือศีรษะล้าน ติดต่อขอรับคำปรึกษาหรือนัดหมายกับเราได้เลยค่ะ

 

สอบถามเพิ่มเติม และประเมินกราฟ โทร. 085-700-0053
Line : http://line.me/ti/p/%40apexhaircenter