CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น เป็นอย่างไร เจ็บไหม ใครทำได้บ้าง

ไขมันส่วนเกิน น้ำหนักมาก ปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักที่สามารถส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเราได้โดยตรง ในปัจจุบันศาสตร์การลดน้ำหนักนั้นมีหลากหลายวิธี โดย CoolSculpting เป็นหนึ่งในวิธีลดน้ำหนักที่นิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะสามารถสลายไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับได้สัดส่วนที่กระชับมากขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ แล้ว CoolSculpting คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง เจ็บหรือไม่ Apex จะมาไขข้อข้องใจให้ฟังกันค่ะ 

CoolSculpting คืออะไร 

CoolSculpting คือเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น โดยการใช้ความเย็นในอุณหภูมิระดับ -11 ถึง -13 °C เพื่อให้เซลล์ไขมันค่อย ๆ สลายไป ที่ไขมันสลายไปได้นั้นก็เพราะเซลล์ไขมันของร่างกายคนเราไม่ชอบความเย็นจัดนั่นเอง ทำให้การทำ Coolsculpting หรือสลายไขมันด้วยความเย็นเป็นอีกหนึ่งวิธีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักกำจัดไขมัน โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจาะผิว เพื่อดูดเอาออกแต่อย่างไร สำหรับขั้นตอนการสลายไขมันแบบ CoolSculpting ก็ไม่ยุ่งยาก จะมีวิธีอย่างไร เรามาดูกัน  

ขั้นตอนการสลายไขมันแบบ CoolSculpting

1.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ Coolsculpting Specialist
2. ประเมินจุดเพื่อให้ได้สัดส่วนเว้า โค้งที่เหมาะสม
3. เริ่มวาง Applicator ประมาณ 35 นาที
4. นวดทันทีหลังทำ 

อ่านขั้นตอนอย่างละเอียดเพิ่มเติม : CoolSculpting สลายไขมันได้อย่างไร เหมือนดูดไขมันไหม    

การทำ CoolSculpting สามารถทำบริเวณใดได้บ้าง

การทำ CoolSculpting สามารถทำบริเวณใดได้บ้าง - Apexprofoundbeauty

สามารถทำได้บริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน สะโพก แก้ม ใต้คาง และใต้รักแร้ โดยผลลัพธ์ของ CoolSculpting สามารถลดไขมันได้ประมาณ 20-30% โดยจะเริ่มเห็นผลชัดเจนภายใน 2-4 สัปดาห์ และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล 

หัวเครื่องมือ CoolSculpting มีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร 

หัวเครื่องมือหลายรูปแบบเพื่อให้เข้ากับสรีระร่างกายแต่ละบริเวณ โดยสามารถแบ่งหัวเครื่องมือออกได้ดังนี้ 

  • Coolmini หัวเล็กสุด เป็นหัวที่มักจะใช้กับเหนียง คาง หรือไขมันเหนือเข่า
  • CoolAdvantage หัวขนาดกลาง เป็นขนาดที่นิยมใช้เพราะสามารถใช้ได้หลายจุด เช่น รอบเอว หน้าท้องส่วนบน และหน้าท้องส่วนล่าง ขาด้านใน ต้นแขนปีกหลัง เป็นต้น ซึ่งหัวแบบ CoolAdvantage ยังสามารถแบ่งเป็นหัวอีก 3 ขนาดด้วยกัน คือ
    • CoolAdvantage Petite ขนาดเล็กกว่าปกติเล็กน้อย
    • CoolAdvantage หัวขนาดกลางขนาดที่นิยม
    • CoolAdvantage Plus ขนาดใหญ่สุด 

สำหรับการมีหัวเครื่องมือ CoolSculpting หลายรูปแบบก็เพื่อช่วยให้การสลายไขมันด้วยความเย็นในแต่ละจุดของร่างกายสะดวกสบาย ครอบคลุม และช่วยให้แก้ปัญหาสัดส่วนได้อย่างตรงจุดนั่นเอง 

ทำ CoolSculpting เจ็บหรือไม่ 

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า CoolSculpting เป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น ซึ่งไม่มีการผ่าตัด ดูดไขมัน หรือต้องเจาะผิวหนังแต่อย่างใด ซึ่งในกระบวนการอาจความรู้สึกไม่สบายผิวบ้างในช่วงขั้นตอนแรก หลังจากนั้นจะเริ่มรู้สึกชาจนไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งข้อโดดเด่นของการสลายไขมันด้วยความเย็นนี้คือไม่ต้องพักฟื้น เหมือนการสลายไขมันในรูปแบบอื่น 

ต้องทำ CoolSculpting กี่ครั้งถึงจะเห็นผล

การทำ CoolSculpting สามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน 2 – 3 เดือนหลังจากทำ พร้อมกันนี้แนะนำให้ออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว 

เลือกทำ CoolSculpting ที่ไหนดี 

  • ประสบการณ์ของแพทย์หรือ Coolsculpting Specialist : แพทย์ที่มีประสบการณ์ในการทำ CoolSculpting ควรได้รับการฝึกอบรมจากบริษัทผู้ผลิตเครื่อง CoolSculpting โดยตรง เพื่อให้สามารถประเมินสภาพร่างกายของผู้รับการรักษาได้อย่างถูกต้อง และสามารถปรับระดับความเย็นให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  • ความน่าเชื่อถือของคลินิก : คลินิกควรมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง มีมาตรฐานความปลอดภัย สะอาด และมีการบริการที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ 
  • มาตรฐานความปลอดภัย : คลินิกควรใช้เครื่อง CoolSculpting ที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง

APEX เราให้บริการ ให้บริการ Coolsculpting มามากกว่า 11 ปี ที่ได้รับความไว้วางใจมากมายพร้อมรีวิวผลลัพธ์ที่พึงพอใจจากเคส ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด จากการรับบริการของเรา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
Line : @apexcallcenter

 

 

#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #coolsculpting #coolsculpting ดีไหม pantipa> #Coolsculpting ราคา #coolsculpting คืออะไร #coolsculpting ทํากี่ครั้ง #coolsculpting ที่ไหนดี pantip #coolsculpting ที่ apex ดีไหม #coolsculpting ที่ไหนดี #